10 Design & Living Ideas ของบ้านและคอนโดแสนสิริยุคใหม่ ... ที่ตอบโจทย์โดนๆ ให้ผู้บริโภค
ทุกวันนี้โครงการบ้านคอนโดเยอะแยะไปหมด Developer บางเจ้า สามารถเดาได้เลยว่าในโครงการจะดีไซน์แบบไหน มีอะไรบ้าง แต่จะมี Developer อยู่ไม่กี่เจ้าที่ผู้บริหารพยายามคิดใส่อะไรใหม่ๆ ทั้งในแง่ความสวยงาม (Form) และการใช้งาน (Function) ไม่ใช่แค่ประเภทปั๊ม Layout ห้องหรืออาคารโครงการเดิมๆ มาใส่โครงการใหม่ เปลี่ยนหลักๆ ก็แค่ทำเล หนึ่งในนั้นก็คือ แสนสิริ ซึ่งปัจจุบันแสนสิริพัฒนาโครงการมากว่า 200 โครงการ โดยออกแบบทั้งภายนอก ภายใน รวมถึงออกแบบการใช้ชีวิต (Design & Living) ด้วยไอเดียเด็ดๆ ดังต่อไปนี้
1. ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ กับการแต่งตั้ง "Chief Creative Officer"
ไม่นานมานี้มีการแต่งตั้ง Chief Creative Officer ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ ตำแหน่งใหม่ที่แสนสิริไม่เคยมีมาก่อน โดยได้นักออกแบบสัญชาติไทยไฟแรงอย่าง "คุณอู้ พหลโยธิน" นั่งตำแหน่งนี้ ซึ่งดีกรีของเค้าไม่ธรรมดาเอาซะเลย เพราะมีความรู้หลากหลายด้านมาก โดยเฉพาะด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ ที่จบปริญญาตรีจาก London แถมยังเป็นนักสะสมความรู้ด้วยการเรียนเพิ่มทั้งด้านโปรดักส์ดีไซน์ที่คิงสตัน ด้านการออกแบบอุตสาหกรรมที่ฝรั่งเศส รวมถึงด้านอาหารที่อิตาลี และยังไม่นับรวมประสบการณ์ทำงานด้านการออกแบบผลงานระดับโลก เท่าที่สืบมา บทบาทของคุณอู๋ต่อจากนี้ น่าจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้แสนสิริแข็งแกร่งขึ้น สร้างสรรค์คอนเทนต์ ออกแบบฟังก์ชัน ในทุกๆ โครงการทั้งแนวดิ่งและแนวราบ หลังจากนี้เราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากแสนสิริแน่นอน โดยประเดิมโครงการแรกคือ คอนโด XT 3 ทำเล
นอกจากนี้ ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี และวิเคราะห์ข้อมูลของแสนสิริ กล่าวในงานเปิดตัว The Line อโศก-รัชดา ว่า "แสนสิริยังมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดในการพัฒนาการบริหารจัดการอาคารแบบสมาร์ทคอนโดให้เหนือขึ้นไปจากแผนพัฒนา 3 ระดับดังกล่าว โดยยกให้โครงการ ดิ เอดจ์ (The Edge) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นอาคารอัจฉริยะที่สุดในโลก ให้เป็นต้นแบบในการพัฒนาโมเดลสมาร์ทคอนโดในอนาคตของแสนสิริ ภายในปี 2563 ซึ่งโครงการดังกล่าวโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เข้ามาเชื่อมโยงการจัดการอาคารเข้ากับผู้ใช้งาน หรือผู้อาศัยที่มีความต้องการ และพฤติกรรมที่แตกต่างกันได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมิติ โดยโครงการนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่โดดเด่นด้านการจัดการพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก"
2. ใส่ใจความต้องการผู้บริโภค "Personalized Layout" เลือก Layout ห้องได้ ไม่ Fixed ตายตัว
เท่าที่ติดตามข่าววงการบ้านคอนโดที่ผ่านมา จะเห็นการพัฒนาโครงการต่างๆ ส่วนมากออกมาในรูปแบบคล้ายๆ กัน อาจจะต่างบ้าง แต่ไม่ต่างกันมาก แนวคิดหลักน่าจะไม่ไกลจากคำว่า "โมเดิร์น" "ลักชัวรี่" หรือ "มินิมอล" ทั้งในด้านการออกแบบตัวอาคารภายนอก และการออกแบบ Layout ในห้อง ซึ่งมักจะมีให้เลือกอยู่ไม่กี่แบบ แต่เมื่อมุมมองด้านการออกแบบที่พยายามจะแตกแขนงออกไป เพื่อสร้างความแตกต่างและยิงให้ทะลุใจลูกค้ามากที่สุด แสนสิริจึงออกแบบ Layout ของห้องให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย (Customize) สร้างทางเลือกที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่สุด ซึ่งมีให้เห็นในโครงการ XT 3 ทำเล ได้แก่ XT พญาไท, XT เอกมัย และ XT ห้วยขวาง
Layout ห้องของโครงการ XT พญาไท
Layout ห้องของโครงการ XT เอกมัย Layout ห้องของโครงการ XT ห้วยขวาง 3. ใช้ทำไมส่วนกลางแค่ที่เดียว แสนสิริจัดให้ "Co-Sharing Facilities" ใช้ได้ถึง 3 โครงการ!!
แนวคิด Co-Sharing Facilities ที่แสนสิรินำเข้ามาใช้ครั้งแรกในคอนโด Series XT และน่าจะเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยด้วย ฟังดูแล้วเราอาจจะรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย เพราะไม่เคยมีแบบนี้มาก่อน ไม่ใช่การคิดขึ้นมาแล้วทำเลย แต่แสนสิริเค้าศึกษาข้อมูลของลูกค้ากลุ่ม "มิลเลนเนียล" (คนที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1980 - 2000) มาแล้วว่า คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและมีกำลังซื้อมากที่สุด ไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในโซเชียลมีเดีย รักอิสระ ใช้ชีวิตอย่างยืดหยุ่น ซึ่งแสนสิริทำวิจัยร่วมกับ TCDC ได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า "มากกว่า 80% ให้ความสำคัญกับการตามหาประสบการณ์ใหม่ๆ และใช้ชีวิตผ่านเทรนด์ Sharing Economy มากกว่าการครอบครองทรัพย์สินเสียอีก"
4. Co-Working Space ธรรมดาไปล่ะ แสนสิริขอนำเสนอ "CO-KITCHEN Space"
สำหรับคนที่มี Passion ในด้านการทำอาหาร ครัวในห้องส่วนตัวอาจจะปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของเราได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่มันน่าจะดีมากๆ ถ้าในคอนโดของเรามีพื้นที่ส่วนกลางให้สร้างสรรค์เมนูอาหาร หรืออาจจะชวนเพื่อนๆ ที่มีความสนใจเหมือนกันมาแลกเปลี่ยนกันได้ ซึ่งแสนสิริใส่
CO-LIVING SPACE พร้อม
CO-KITCHEN ครัวส่วนกลางไว้ที่โครงการ
เดอะไลน์ สุขุมวิท 101 และ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ แล้ว Co-Cooking Space ก็ไม่ธรรมดานะ คัดสรรชุดครัวคุณภาพสูงผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ พร้อมตู้เย็นที่ช่วยประหยัดพลังงาน และถังขยะ
Smart Food Recycler ที่แปลงเศษอาหารให้เป็นสารอินทรีย์ และเหมาะกับการนำไปผสมกับดินเพื่อปลูกต้นไม้ไปอีก
5. "Education Playground" ไม่ใช่แค่มี แต่ต้องให้เด็กได้ "ความรู้" จริงด้วย
แทนที่จะเป็นสวน เป็นสนามเด็กเล่น ที่สร้างให้มีเฉยๆ หรือสร้างให้จบๆ ไป แต่แสนสิริเลือกที่จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ของเด็กๆ โดยการออกแบบ
Education Playground ด้วยการจับมือคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็กจากโรงพยาบาลสมิติเวช ออกแบบพื้นที่ให้เด็กได้เล่นได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมกับพัฒนาของช่วงวัยด้วย โดยออกแบบและใส่ไว้ในบ้านโครงการต่างๆ นำร่องไปก่อน 9 โครงการ ได้แก่
เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า - กาญจนาภิเษก,
ฮาบิเทีย บอนด์ ราชพฤกษ์,
บุราสิริ ราชพฤกษ์ - 345, คณาสิริ ลำลูกกา คลอง 2,
เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา,
เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ ประชาชื่น,
บุราสิริ ปัญญา อินทรา เฟส 2, บุราสิริ วงแหวน - อ่อนนุช เฟส 2 และ บุราสิริ บางนา สุวรรณภูมิ
ยกตัวอย่าง EDUCATIONAL PLAYGROUND ในโครงการ บุราสิริ วงแหวน - อ่อนนุช เฟส 2 ใช้ชื่อว่า "ปีนป่าย กระจายแสง" เป็นสนามเด็กเล่นที่ออกแบบจากแนวความคิด DIAMOND การเจียระไนทำให้เกิดเหลี่ยมมุมที่สะท้อนแสงสีต่างๆ ตีความเป็นเกมส์ DIAMOND HUNTER โดยมีวิธีการเล่นรูปแบบต่างๆ แทรกไปตามแต่ละเส้นสายของแสงสี เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย และความสัมพันธ์ของอวัยวะต่างๆ ผ่านการเล่น อีกทั้งยังกระตุ้นจินตนาการผ่านการสร้างเรื่องราวที่ส่งเสริมประสบการณ์ การเรียนรู้ การสำรวจ และการค้นพบสิ่งแปลกใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นด้านอารมณ์ และสังคมผ่านการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและกันในขณะเล่น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://thinkofliving.com/2018/08/16/sansiri-educational-playground/ "เขย่ง ก้าว กระโดด" ในโครงการ เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า - กาญจนาภิเษก ออกแบบจากแนวความคิด "SANCTUARY ZEN" โดยเน้นความเรียบง่าย สีสันจากธรรมชาติ ไม้ หิน กรวด มาใช้ในการออกแบบพื้น และเลือกชุดเครื่องเล่นเน้นความเรียบง่าย เสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย และทักษะการตัดสินใจแก้ปัญหาผ่านการเล่นเกมส์ ที่เน้นการบริหารฝึกก้าว ปีนป่าย การเขย่ง การกระโดด การทรงตัว การกะระยะทาง พร้อมทั้งพัฒนากล้ามเนื้อสำคัญของขาส่วนบน เพื่อความสามารถในการจับ การใช้กำลังแขนผ่านการปีนป่าย ซึ่งแสนสิริคิดและสร้างสรรค์ออกมาให้เป็นมากกว่าสนามเด็กเล่นทั่วๆ ไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://thinkofliving.com/2018/08/16/sansiri-educational-playground/
6. อาคารคอนกรีตเริ่ม Out แสนสิริขอเริ่มใหม่กับอาคารแบบ "Green" เน้นต้นไม้รอบตึก
ตอนนี้เริ่มเป็น Trend การดีไซน์ที่น่าสนใจว่าทำต้นไม้ให้มีทุกชั้นแบบต่อเนื่องกัน แสนสิริออกแบบ Pattern ของตัวอาคารให้เป็นโครงร่างของต้นไม้ โดยใช้แนวคิด "Magical Tree" กับโครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ซึ่งรวมๆ แล้วโครงการนี้มีพื้นที่สวนสีเขียวถึง 8 ไร่
7. แสนสิรินำ Robot มาใช้จริง กับ "น้องแสนดี" หุ่นยนต์ส่งของในคอนโด
เป็นการแสดง Vision AI ใหม่ๆ อีกหน่อยไม่น่าจะเป็นเรื่องใหม่ เพราะต่อไปโรงพยาบาลก็จะมีหุ่นยนต์เหมือนกัน แสนสิรินำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร โดยใช้หุ่นยนต์ที่ชื่อ "น้องแสนดี" หรือ Sandee Delivery Bot บริการรับส่งพัสดุถึงหน้าประตูห้อง เพียงแค่สั่งการด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่งเริ่มใช้ในโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร เป็นโครงการแรก
8. แสนสิริใส่ใจคัดสรร "หินอ่อน" หายากสร้างความ Unique และสร้างมูลค่าเพิ่มให้คอนโด
ออกจะดูฟุ่มเฟือยไปนิด แต่ถือได้ว่าเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่เป็น Trademark อย่างหนึ่งของแสนสิริ คือการใช้ผนังหรือพื้นลายหินอ่อนสีสันสวยงามแปลกตา อย่างที่ เดอะเบส สะพานใหม่ ใช้หิน Terrazzo ให้สีสันและแพทเทิร์นไม่ซ้ำใคร ทั้งยังแข็งแรงทนทานและพื้นผิวเรียบ ไม่มีร่องยาแนว
ซึ่งการคัดเลือกหินอ่อนมาใช้ในแต่ละโครงการ ผู้บริหารลงมาเลือกด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะในประเทศ หรือต่างประเทศก็ไปแสวงหาหินอ่อนที่มีสีสันสวยงาม ลวดลายใหม่ๆ ที่สร้างความหรูหรา และความแตกต่างได้เป็นอย่างดี
9. แสนสิริใส่ใจผู้สูงอายุ กับพื้นที่ "ELDERLY CARE" ในบ้าน
ช่วงนี้เทรนบ้านสำหรับผู้สูงอายุกำลังมา แสนสิริก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่
Elderly Care หรือพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ โดยการออกแบบให้ขยายพื้นที่พิเศษ และลดสเต็ปเชื่อมต่อ รองรับสำหรับการใช้รถเข็น ตั้งแต่ประตูทางเข้าห้องนอน พื้นที่ในห้องนอน จนถึงพื้นที่ในห้องน้ำ ทั้งยังเลือกใช้ประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อนให้ง่าย หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้พื้นแบบ
ABSORPTION FLOOR ที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าพื้นทั่วไป โดยจะเห็นความใส่ใจนี้ได้ที่โครงการบ้านของแสนสิริ เช่น
บ้านบุราสิริ รังสิต,
บ้านบุราสิริ วัชรพล,
บ้านปลายหาด พัทยา,
บ้านเศรษฐสิริ วงแหวน - ลำลูกกา และล่าสุดที่
บ้านแสนสิริ พัฒนาการ 10. Concept ประหยัดไฟฟ้าแสนสิรินำมาใช้จริงโดยใช้พลังแสงอาทิตย์ และ Blockchain
แสนสิริ ร่วมมือกับ บีซีพีจี นำร่องแลกเปลี่ยนไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Blockchain ด้วยการวางระบบพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แบบ เพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer) ในที่พักอาศัย ประเดิมในโครงการแรกเลยคือ T77 จัดให้มีระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ภายในโครงการ และการเชื่อมโยงกับสายส่งของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเป็นการหมุนเวียนการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
นับเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคบ้านเรา ที่ Developer แต่ละเจ้าพยายามสร้างสรรค์บ้าน และคอนโดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา ทั้งยังพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้อยู่อาศัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ "แสนสิริ" ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และเป็นผู้นำเทคโนโลยีล้ำสมัย มาประยุกต์ใช้กับโครงการต่างๆ อยู่เสมอ ใครที่กำลังมองหาบ้าน หรือคอนโดทั้งสำหรับอยู่อาศัย หรือสำหรับนักลงทุน เงินก้อนใหญ่ที่จะจับจ่ายแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ก็ควรเลือกบ้านหรือคอนโดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีประโยชน์และใช้ได้จริง ที่สำคัญต้องเลือก Developer ที่เชื่อถือได้ด้วยนะคะ
ช่วงนี้แสนสิริเค้ามีโปรโมชั่นด้วยนะ "ดิลพิเศษรับวันฮัลโลวีน" - รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2 ล้านบาท*!!! พร้อมดอกเบี้ย 0.88% นาน 2 ปี*
- ฟรี! บัตรกำนัลเฟอร์นิเจอร์ 3 แสนบาท*
- ฟรี! ค่าโอน ค่าส่วนกลาง** และอื่นๆ อีกมากมาย