รีวิว - เยี่ยมชม เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) Ultimate Luxury Condo สุดหรู เริ่มต้น 9.59 ล้าน*

หลังจากที่คอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่อย่าง ลาวีค สุขุมวิท 57 (LAVIQ Sukhumvit 57) เป็นไปด้วยดี เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ (Real Asset) เดินหน้าต่อทันที ด้วยการเปิดตัว โครงการ เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) ครั้งนี้กลับมาเป็นคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่อีกครั้ง และคราวนี้สะดุดตาตั้งแต่ทั้งโครงการภายนอกไปยังภายใน สิ่งอำนวยความสะดวก และ Services ระดับ Luxury มีให้เยอะมาก วันนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมกันทุกจุดของโครงการ จะ Luxury แค่ไหนไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ

• เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (Real Asset)
• ที่ตั้งโครงการ : ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
• อาคารชุดพักอาศัย : สูง 40 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 203 ยูนิต
• ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 1-3-88.9 ไร่
• ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว
• ห้องชุด : มี 3 แบบหลักๆ ได้แก่ 
  - 1 bedroom : 33 - 52 ตร.ม.
  - 2 bedroom : 76 - 119 ตร.ม.
  - 3 bedroom : 131 - 158 ตร.ม.
  - Penthouse : 292 - 301 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น : 9.59 ล้านบาท* (ข้อมูล ณ 17 ก.ย. 61)
• วันที่เข้าเยี่ยมชม - รีวิวคอนโด : 17 ก.ย. 61

โครงการ เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) ตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ หรือถนนสุขุมวิท 55 ซึ่งทำเลทองหล่อ เป็นทำเลที่ฮอตฮิตติดชาร์จมาตลอดอยู่แล้ว ด้วยความที่มีชาวต่างชาตินิยมอาศัยอยู่ทำเลนี้เป็นจำนวนมาก ราคาที่ดินก็พุ่งขึ้นตลอด ความต้องการอยู่อาศัยก็สูงตามไปด้วย แต่ก็เหลือพื้นที่สำหรับพัฒนาเป็นคอนโดไม่มากแล้ว

"ถนนทองหล่อ" เป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่าง "ถนนสุขุมวิท" อีกฝั่งลากยาวไปเชื่อมต่อกับ "ถนนเพชรบุรีตัดใหม่" ระยะห่างจากโครงการไปถึงแยกเพชรบุรีตัดใหม่ประมาณ 700 เมตร และจากโครงการไปแยกทองหล่อประมาณ 1.7 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้ถือว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งโรงพยาบาลคามิลเลียน อันนี้ตั้งอยู่เยื้องๆ โครงการเลย  

• เส้นทางการเดินทางเข้าออกโครงการโดยใช้รถยนต์ มีดังนี้

1. การเดินทางเข้าโครงการ

การเดินทางด้วยรถยนต์บน "ถนนทองหล่อ" ถือว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากถนนสายนี้เป็นถนนใหญ่ 6 เลนเดินรถสวนกันได้สบาย การเดินทางมาโครงการจึงสามารถเข้าได้หลายเส้นทางมาก ยกตัวอย่าง 4 เส้นทางดังภาพ ที่ไม่ว่าจะมาจากอโศก หรือมาจากอ่อนนุช ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถ ส่วนถ้ามาจากประตูน้ำมีกลับรถ 1 ครั้ง ที่แยกเอกมัยเหนือ จุดกลับรถนี้อยู่ห่างจากซอยทองหล่อแค่ 200 เมตร ส่วนถ้ามาจากโซนพัฒนาการ ก็ยิงตรงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อได้เลย

2. การเดินทางออกจากโครงการ

การเดินทางออกจากโครงการก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เพราะซอยทองหล่อสามารถลัดเลาะออกไปยังซอยเอกมัยได้หลายจุด รวมถึงมีซอยลัดออกไปโซนสุขุมวิทตอนต้นได้หลายซอยเช่นเดียวกัน เส้นทางหลักๆ ที่ใช้ออกจากโครงการคือ ถ้าออกไปอโศกก็มุ่งหน้าเข้าถนนสุขุมวิทแล้วยิงยาวได้เลย แต่อย่างที่รู้กันคือ การจราจรในช่วงเช้าและช่วงเย็นหลังเลิกงานค่อนข้างจะหนาแน่น ส่วนถ้าจะไปโซนอ่อนนุช ก็ให้เข้าถนนสุขุมวิทโดยไม่ต้องกลับรถ หรือจะลัดเข้าซอยเอกมัย 12 ไปโผล่ที่ถนนเอกมัยได้เช่นกัน ถ้าออกไปโซนประตูน้ำ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ได้เลย หรือถ้าจะไปโซนพัฒนาการก็ลัดเข้าซอยแจ่มจันทร์ เข้าถนนเอกมัยแล้วเลี้ยวขวาออกไปถนนพัฒนาการได้เลย

• การเดินทางโดยรถไฟฟ้า

จริงๆ แล้วการเดินทางโดยรถไฟฟ้าคงไม่จำเป็นสำหรับคนอยู่โครงการนี้เท่าไหร่นัก อย่างแรกคือ ลูกบ้านทุกท่านน่าจะสัญจรโดยรถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้ว หรือทางโครงการก็มี Luxury Car Service มาให้ด้วย แต่จะว่าไปถ้าทำเลใกล้ๆ สถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 2 กิโลเมตร ก็อุ่นใจเหมือนกัน เผื่อวันไหนมีเรื่องด่วน หรือรถติดก็สามารถมาใช้บริการ "BTS ทองหล่อ" ได้ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กิโลเมตร 

BTS ทองหล่อ (ห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กิโลเมตร)

"ซอยทองหล่อ หรือ ซอยสุขุมวิท 55" ความยาวของซอยนี้ จากถนนสุขุมวิท ไปบรรจบที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่อยู่ที่ 2.4 กิโลเมตร ถือเป็นซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ข้ามเรื่องของราคาที่ดินไปเลย เพราะรู้กันดีว่าพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ความอุดมสมบูรณ์ที่ว่าคือ วัดจากสิ่งนี้ค่ะ 1. แหล่งชอปปิ้ง 2. โรงพยาบาล 3. โรงเรียน 4. รถไฟฟ้า 5. อาคารสำนักงานใหญ่ๆ ซึ่งทองหล่อมีทุกอย่างที่ว่ามา และที่ขึ้นชื่อก็คือ "ร้านอาหาร" มีเยอะและหลากหลายมาก ทั้งอาหารไทย อาหารต่างชาติ ร้านกาแฟ หรือ Community Mall ก็อยู่ในระยะที่เดินได้ รวมถึงทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกมากๆ ก็มี BTS ทองหล่อ (1.7 กิโลเมตร) ดังนั้นการใช้ชีวิตใน เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย

บรรยากาศในซอยทองหล่อ มีตึกสูงกระจายตัวอยู่ แต่ยังถือว่าไม่แออัดเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงไม่เกิน 10 ชั้น
มีอาคารพาณิชย์ ร้านอาหาร และอาคารสำนักงานกระจายตัวอยู่อย่างหลากหลาย

ติดกับโครงการ ภาพนี้มุ่งหน้าไปที่ถนนสุขุมวิท มีร้านขนมปัง สถานเสริมความงาม และร้านอื่นๆ ตั้งอยู่ค่ะ

เดินมาไม่เกิน 100 เมตร มีร้านอาหารญี่ปุ่น Seiniku - ten

เดินมาอีกหน่อยฝั่งตรงข้ามกับโครงการคือ โรงพยาบาลคามิลเลียน

ถ้ามุ่งหน้าไปทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ก็จะเจอคาเฟ่น่ารักๆ อย่าง Cup Coffee
ตั้งอยู่ใกล้ๆ โครงการไม่เกิน 200 เมตร

 ฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็มีร้านอาหารเยอะมากเช่นกันค่ะ

เรียกว่าเดินไปทางไหนก็เจอร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า เรียงรายตลอดทั้ง 2 ฝั่ง

เดินผ่านสถานีตำรวจทองหล่อด้วยค่ะ รู้สึกปลอดภัยไปอีก อยู่ใกล้โครงการแค่ 300 เมตร

ร้านอาหารเยอะมากจริงๆ มีทั้งข้าวแกง ข้าวมันไก่ และอาหารตามสั่ง ทานง่ายไม่ต้องคิดเยอะ

เจอร้านอาหารอีกแล้ว อยู่ซอยนี้ไม่มีอดแน่นอน

Community Mall ที่แรกอยู่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ 72 Courtyard มีที่จอดรถด้านหลังด้วยค่ะ

Community Mall ที่ใกล้กับโครงการอีกที่คือ "The Commons bkk" ซึ่งมีหลายโซน ทั้งโซน Market
โซน Village จะขายสินค้าที่ใช้ชีวิตประจำวัน โซน Play Yard เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของหลากหลายวัย
และโซน Top Yard ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้า ที่นี่ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร
ที่มา : https://www.facebook.com/thecommonsbkk

Community Mall ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันเลยค่ะ อีกที่นึงคือ "J Avenue" ข้างในมีร้านอาหารเยอะมาก
ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร

"โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep" ตั้งอยู่ใกล้กับ BTS สถานีทองหล่อ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร
สำหรับการใช้ชีวิตอาจจะมีการขยายเป็นครอบครัว เมื่ออยู่โครงการนี้ เรื่องโรงเรียนของลูกๆ ก็สะดวกทีเดียวค่ะ

โครงการ เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) เป็น Ultimate Luxury Condominium ความสูง 40 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 203 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 88.9 ตร.ว. รูปทรงของอาคารมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะใช้กระจกทรงโค้งตกแต่งรอบๆ ตัวอาคาร เป้าหมายคือ เรียลแอสเสทฯ ต้องการสร้าง Iconic Landmark ใหม่บนทำเลทองหล่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "A Reflection of you" "สุนทรียะที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ และเชื่อมั่นว่ารูปแบบโครงการที่กล้านำเสนอ Product ที่แตกต่าง สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์

ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือ "สิ่งอำนวยความสะดวก" ที่มีความหลากหลาย และเน้นความเป็นส่วนตัวแบบที่สุด ด้วยการให้ Private Lifts มา 6 ตัว และ Service Lifts อีก 1 ตัว ให้ลูกบ้านขึ้นลิฟต์แล้วถึงห้องของตัวเองได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่าน Corridors นอกจากนี้ยังเพิ่มความ Private ด้วยการมี Lobby ถึง 3 ที่ คือ Welcome Lobby, Private lobby บนชั้น 1 และ Main Lobby บนชั้น 2 ซึ่งจะเป็นการกรองคนเข้าออกเพื่อความปลอดภัย และส่วนตัวแบบสุดๆ และที่สำคัญ โครงการนี้ให้ที่จอดรถมาทั้ง 2 แบบ Automatic Parking และ Conventional Parking รวม 220 คัน ซึ่งมีเกิน 100% ทีนี้ลูกบ้านก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถอีกต่อไป

ตำแหน่งของ Private Lifts กระจายตัวอยู่ 6 จุด และ Service Lifts ตั้งอยู่ตรงกลางของโครงการ บริเวณชั้น Ground มีพื้นที่สำหรับจอดรถแบบ Conventional Parking หรือ ขับรถไปจอดได้ด้วยตัวเอง

บริเวณชั้น 1 ด้านทิศใต้ของโครงการมี Step Garden สวนสีเขียวทางเข้าโครงการตกแต่งแบบไล่ Step เป็นชั้นๆ ติดกันกับ Welcome Lobby ที่แขกของลูกบ้านสามารถเข้ามานั่งรอได้ที่นี่ ก่อนที่จะเข้าสู่ Private lobby ส่วนด้านหลังโครงการมี Hideaway Pavilion สวนสวยๆ พร้อมลานจัดปาร์ตี้เล็กๆ สำหรับลูกบ้าน

ชั้น 3 - 9 เป็นลานจอดรถแบบ Automatic Parking 
ชั้น 10 เป็นพื้นที่สำหรับเดินระบบ รวมถึงมีสวนสีเขียวเล็กๆ ที่ลูกบ้านไปนั่งพักผ่อนได้
ชั้น 11 - 40 เป็นพื้นที่ห้องพักอาศัย

สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ การออกแบบฉีกแนวการใช้ชีวิตแบบเดิม ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าตัวโครงการเน้นความ Private และ Luxury ทุกพื้นที่ และเรียกพื้นที่ส่วนนี้ว่า "Exclusive Facilities" โดยภาพรวมมีดังนี้

ชั้น 1

• Step Garden
• Hideaway Pavilion
• Welcome Lobby
• Private Lobby

ชั้น 2

• Main Lobby
• Greenery Space
• Private Theater 
  
• Golf Simulator
• Kids Club
• Meeting Room

ชั้น 10 Serene Garden

ชั้น 30

• Reflection Pool
• Upside Down Jacuzzi
• Aquatic Treadmill
• Private Onsen
• Sauna & Steam

ชั้น 31

• Panoramic Gym
• Bike Simulator 
• Skyline Garden 
• Sky Social Club 
• Multipurpose Room

Roof Top AESTIQ Peak 

Services 

• Automatic & Conventional Parking
• Concierge Service
• Valet Parking & Doorman Service
• Private Lifts
• Luxury Car Service
• Shuttle Service
• EV Charging Station

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ มุมนี้เห็น Welcome Lobby และ Step Garden

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Hideaway Pavilion ด้านหลังโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณชั้น 1 เป็นโถงทางเดิน
และเป็นจุดจอดรถแบบ Automatic Parking จอดได้ตั้งแต่ชั้น 3 - 9 จำนวน 220 คัน

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณชั้น 2 Greenery Space Private จุดนั่งพักผ่อนที่สามารถมองไปเห็น 
Hideaway Pavilion ตรงชั้น 1ได้ด้วย  

ภาพจำลองบรรยากาศ Reflection Pool บนชั้น 30 สระว่ายน้ำยาว 30 เมตร ลึก 1.10 เมตร
ซึ่งมี Upside Down Jacuzzi อยู่ติดกับสระว่ายน้ำด้วย

บรรยากาศจำลอง Private Onsen บนชั้น 30 มาพร้อม Sauna & Steam 

บรรยากาศจำลอง Panoramic Gym บนชั้น 31 สถานที่ออกกำลังกายบนวิวสูงสุดหรู

ห้องพักอาศัยของโครงการนี้ออกแบบมาให้มีทั้งแบบที่เป็นรูปทรงเป็นเหลี่ยมทั่วไป และที่พิเศษก็คือ แบบที่เป็นทรงโค้งมน แบ่ง Lay out อย่างหลากหลาย ซึ่งเราสามารถเลือกให้ตรงความชอบ หรือตรงตามไลฟ์สไตล์ของเราได้ รูปแบบของห้องมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้

• แบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33 - 52 ตร.ม. จำนวน 127 ยูนิต
• แบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 76 - 119 ตร.ม. จำนวน 56 ยูนิต
• แบบ 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 131 - 158 ตร.ม. จำนวน 18 ยูนิต
• Penthouse พื้นที่ใช้สอย 292 - 301 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 1 Bedroom Type A2 พื้นที่ใช้สอย 34.94 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 1 Bedroom Type A1A พื้นที่ใช้สอย 33.62 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 1 Bedroom Type A3 พื้นที่ใช้สอย 44.38 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 1 Bedroom Type A4 พื้นที่ใช้สอย 49.65 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 1 Bedroom Type A5 พื้นที่ใช้สอย 52.28 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 2 Bedroom Type B4 พื้นที่ใช้สอย 94.78 ตร.ม.

แบบแปลนของห้องโครงการ แบบ 2 Bedroom Type C2B พื้นที่ใช้สอย 149.66 - 152.89 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom Type B6 ขนาด 119 ตร.ม.

ทางโครงการเปิดตัวสำนักงานขาย และเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง 1 รูปแบบ คือ ห้อง Type B6 2 Bedroom ขนาด 119 ตร.ม. ห้องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นภาพรวมบรรยากาศห้องโครงการได้ดีทีเดียว การจัดวางพื้นที่ต่างๆ ของห้องนี้ลงตัวมาก ให้พื้นที่ Living Room ใหญ่กว่าห้องอื่นๆ และเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารได้เลย ความพิเศษของห้องนี้คือ ห้อง Living Room ที่ล้อมด้วยกระจกทรงโค้งสูง 3 เมตร แบบเต็มบาน ช่วยเปิดมุมมองให้เราชมวิวได้กว้างขึ้นกว่าห้องสี่เหลี่ยมทั่วๆ ไป

ส่วนแรกที่เราพามาดูคือ หน้าห้องเลยค่ะ จุดนี้คือ ออกจาก Private Lifts เราจะเข้าสู่ห้องของเราได้เลย

ตรงนี้คือ Foyer หรือทางเดินเข้าห้อง ทางโครงการให้ชั้นเก็บของขนาดใหญ่มาด้วย 
เราสามารถเก็บของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ได้เต็มที่

เข้ามาในห้องจุดนี้คือ Living Room ความสูงของห้องนี้ 3 เมตร
ได้กระจกทรงโค้งสูงจากพื้นจรดฝ้า ไล่ตั้งแต่พื้นที่รับประทานอาหารจนถึงผนังห้อง Master Room

จุดนี้คือหน้าห้อง Master Bedroom มีโต๊ะทำงานวางไว้ 1 ตัว พร้อมเก้าอี้ 
ประตูทางเข้าห้องนอนเป็นทรงสูง แบบบานสวิง

เข้ามาในห้อง Master Bedroom ห้องนี้สูง 3 เมตร และได้กระจกแบบเต็มบานสูง 3 เมตร เหมือน Living Room
พื้นของห้องเป็น Engineering wood สีช็อคโกแลตโอ๊ค
ผนังของห้องตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ห้องจริงได้ผนังฉาบเรียบสีขาวค่ะ

ในห้อง Master Bathroom ให้พื้นที่กว้างมาก จุดนี้วางโต๊ะทำงานมาให้ 1 ตัว
และด้านซ้ายมือเป็นทางเดินไปยัง Walk - in Closet

ห้อง Master Bathroom ได้ห้องแต่งตัวแบบ Walk - in Closet พื้นที่เก็บของเยอะมาก
และเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลย

Master Bathroom พื้นที่กว้างกว่า Second Bathroom 
พื้นของห้องน้ำเป็นลายหินอ่อน มีการใช้ Composite Marble เพื่อกันการรั่วซึม
มาพร้อมอ่างล้างหน้าหินเทียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ซึมน้ำต่ำมาก มีโอกาสขึ้นราค่อนข้างต่ำ

อีกมุมของ Master Bathroom สีขาวลายหินอ่อนของ Marble Porcelain ดูหรูหรา และสะอาดตามากๆ
ห้องนี้ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย
โถสุขภัณฑ์ที่ทางโครงการให้มาเป็นของ INAX นำเข้าจากญี่ปุ่น
ซึ่งแบรนด์นี้เน้นการออกแบบมาเพื่อสรีระของชาวเอเชียโดยเฉพาะ (ห้อง master ได้ฝาชำระแบบอัตโนมัติ)

Master Bathroom ของห้องที่มีขนาด 100 ตร.ม.ขึ้นไป จะได้อ่างอาบน้ำตามภาพเลยค่ะ
เป็นของแบรนด์ Bathroom design

ออกมาที่ Living Room กันอีกครั้ง คราวนี้เราจะไปดู Pantry ของห้องนี้กันค่ะ

Pantry ของห้องนี้เรียกว่ากว้างใหญ่มาก เป็นครัวแบบเปิด ความสูงคือ 2.7 เมตร ได้แอร์แบบฝังด้านบนฝ้า

มีพื้นที่เตรียมอาหารกว้าง และมี 2 ฝั่ง หน้า Top ของเคาน์เตอร์ครัว เป็น Top หิน Quartz  สีดำ
พื้นเป็น Marble Porcelain ลายหินอ่อนสีเทาลายขาว 

เคาน์เตอร์ครัวของห้องนี้ได้เป็นรูปทรงตัว L มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว, เครื่องดูดควัน, อ่างล้างจาน และ ไมโครเวฟ
ของแบรนด์ gorenje นำเข้าจากสโลเวเนีย ได้มาตรฐานยุโรป

 พื้นที่ทั้งด้านบน และด้านล่างเก็บของได้เยอะมาก 
ได้ผนังกันน้ำมันกระเด็น และหน้าบานตู้เก็บของด้านบนเป็น Dark Gold Tinted Mirror
หน้าบานตู้เก็บของด้านล่างเป็น Laminate

ส่วนด้านนี้ ยังมีพื้นที่เตรียมอาหาร และตู้เก็บของด้านบนและล่างเพิ่มมาให้ด้วย 
ซึ่งมีประตูสำหรับเดินออกไป Corridors ทางด้านขวา
ส่วนด้านซ้ายคือ ตู้เย็นแบบ Built - in มาให้ด้วย

ตู้เย็นแบบนี้ใส่ของได้จุใจมากๆ เลยล่ะค่ะ

มาดูอีก 1 ห้องนอนกันดีกว่า พื้นที่ 119 ตร.ม. เดินเพลินๆ ก็ทำเอาเหนื่อยเหมือนกันนะคะเนี่ย
ภาพที่เราเห็นเป็นทางที่จะเดินเข้าไปในห้อง Second Bedroom ค่ะ จะเห็นว่าห้องนี้เชื่อมต่อกับหน้าห้อง
มี Second Bathroom อยู่ด้านนอก ซึ่งแขกสามารถใช้ห้องน้ำห้องนี้ได้
เดินไปด้านในสุดเป็นห้องซักรีด และระเบียง

เข้ามาในห้อง Second Bedroom ห้องนี้ความสูงอยู่ที่ 3 เมตรเช่นกัน พื้นที่เล็กลงมาหน่อย
ได้ผนังฉาบเรียบสีขาว และมีกระจกทรงสูงจากพื้นจรดฝ้า แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่ของผนังปูนเพิ่มขึ้น ได้พื้นที่กระจกน้อยลง
ช่องเก็บของด้านซ้ายสุดไม่ได้ให้มาด้วยนะคะ ของจริงจุดนี้จะเป็นกระจกทรงสูงอีก 1 บาน
เพิ่มแสงสว่างให้กับห้องได้มากทีเดียวค่ะ

ในห้องนี้ไม่ได้ตู้เสื้อผ้านะคะ ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

มาที่ Second Bathroom กันบ้าง ในห้องนี้ได้สุขภัณฑ์ตามที่เห็นเลยนะคะ
อ่างล้างหน้า กระจกด้านบน ตู้เก็บของด้านล่าง วัสดุได้เหมือนห้อง Master Bathroom
ต่างกันแค่รุ่นของโถสุขภัณฑ์ที่ในห้องนี้ จะได้เป็นฝาปิดแบบธรรมดาค่ะ

ในห้องนี้ได้ Hand Shower ขนาดพอเหมาะกับมือพอดี

ออกมาที่ห้องซักรีดหรือ Laundry Room ซึ่งทางโครงการ Built - in ตู้เก็บของสูงจากพื้นจรดฝ้า 
มีพื้นที่สำหรับเก็บเครื่องซักผ้าพร้อมต่อท่อและปลั๊กเรียบร้อย มีบานปิดให้กั้นกับพื้นที่ระเบียงพอดี

ระเบียงของห้องนี้มีขนาดพอเหมาะ มีช่องสำหรับเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ค่อนข้างใหญ่ และเป็นระเบียบ
พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างมาก เพราะจริงๆ แล้วไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มไฮเอนด์ คงไม่ค่อยได้ใช้พื้นที่ตรงนี้เท่าไหร่นัก
ทางโครงการจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอน และห้องนั่งเล่นมากกว่า

ราคาเริ่มต้น ห้อง Type A2 1 bedroom ขนาด 34.94 ตร.ม. เริ่มต้น 9.59 ล้านบาท* (29x,xxx บาท/ตร.ม.)

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

• เงินกองทุน 1,000 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
• ค่าบำรุงส่วนกลาง 130 บาท/ตร.ม.

เอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor) เปิดให้ชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของโครงการ โดยขายในรูปแบบ Fully Fitted จะเริ่มก่อสร้างในปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2564 เปิดให้ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สำนักงานขาย โทร. 1232 หรือ www.realasset.co.th

ดูรายละเอียดของโครงการเอสทีค ทองหล่อ (AESTIQ Thonglor)