รีวิวเยี่ยมชมโครงการ มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ (Maestro 01 Sathorn-Yenakat)
รอบนี้ CheckRaka.com ยังคงพาไปชมคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่อีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์ "มาเอสโตร" ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจสีลม-สาทร กับคอนโดที่มีชื่อว่า
มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ (Maestro 01 Sathorn-Yenakat) จากบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นคอนโด Low-rise ทำเลใจกลางเมือง เพียง 5 นาที จากย่านธุรกิจสีลม สาทร ไม่ไกลจาก MRT ลุมพินี และ BTS ศาลาแดง ตกแต่งด้วยสถาปัยกรรมยุโรปหรูสไตล์คลาสสิก เงียบสงบและเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตพักอาศัยน้อยเพียง 88 ยูนิตเท่านั้น พร้อมที่จอดรถกว่า 79% นอกจากนี้ยังเป็น Pet friendly เอาใจคนรักสัตว์สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต เดี๋ยวเราไปชมห้องจริงบรรยากาศจริงของโครงการนี้กันเลยค่ะ
- เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- ที่ตั้งโครงการ : สาทรซอย 1 ถนนเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
- อาคารชุดพักอาศัย : 8 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 88 ยูนิต
- ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 0-3-98 ไร่
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
- ห้องชุด : มี 4 แบบ ได้แก่
- 1 ห้องนอน 33.56 - 50.36 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 67.76 - 70.82 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 112.66 ตร.ม.
- 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 135.04 - 182.18 ตร.ม.
- ที่จอดรถ : ประมาณ 79%
- ราคาเริ่มต้น : 5.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 18 พ.ค. 61)
- วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : 18 พ.ค. 61
"ทำเลสีลม" ในอดีตเป็นย่านที่เจริญที่สุดจุดหนึ่งของเมืองไทย ทั้งยังเคยเป็นย่านพักอาศัยของบุคคลสังคมในระดับสูงสมัยก่อนของกรุงเทพ ที่นี่มีสถานทูตตั้งอยู่มากมาย ข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ ปี 61 ก็บอกว่า "โซนสีลม-สาทร" เป็นโซนยอดนิยมของคนทำงาน มีพื้นที่สำนักงานสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง คือประมาณ 2.1 ล้านตารางเมตร คิดเป็น 24% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมด นั่นเท่ากับว่า "สาทร" เป็นย่านสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ แน่นอนว่าเมื่อพื้นที่สำนักงานเยอะขนาดนี้ ความต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้ก็สูงขึ้นด้วย แต่พื้นที่อยู่อาศัยก็เริ่มมีจำกัดซะแล้ว เลยทำให้อัตราการเช่าสูงตามไปด้วย จนบางคนก็พูดกันว่าทำเลสาทรนี้เป็นแหล่ง "เสือนอนกิน" เลยล่ะค่ะ
โครงการที่เรามารีวิวตอนนี้ก็ตั้งอยู่ในทำเล "สาทร" ค่ะ พ่วงต่อด้วยคำว่า "เย็นอากาศ" ซึ่งเป็นทำเลเล็กๆ ที่อยู่ในดงเสือนอนกินนี่เอง คำว่าเย็นอากาศอาจจะยังไม่คุ้นหูของใครหลายๆ คน แต่ซอยนี้เค้าก็มีดีของเค้า เหมือนเป็นทำเลที่สงบซ่อนอยู่ใจกลางเมืองนั่นเอง
"ถนนเย็นอากาศ" สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ถนนพระราม 4, ถนนพระราม 3, ถนนเชื้อเพลิง, ถนนนางลิ้นจี่, ถนนสาทร, ถนนนราธิวาสฯ และ ถนนจันทน์ ทำเลนี้นอกจากจะหาของกินง่ายแล้ว ยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทำเลคุณภาพเค้ามีกัน อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพระราม 3 และ Top's Supermarket ส่วนโรงเรียนก็มี โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์, โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และที่สำคัญโรงพยาบาล ก็มีโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาล เซนต์หลุยส์ และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช นอกจากนี้ยังมีโรงแรมอีกเพียบ ทั้งโรงแรมบันยัน ทรี, โรงแรมสุโขทัย, โรงแรม ดับเบิ้ลยู, โรงแรมดุสิตธานี, โรงแรม โซ โซฟิเทล แบงค็อก ฯลฯ
การเดินทางโดยรถยนต์
เส้นทางที่ 1 จากถนนพระราม 3 เข้าถนนนางลิ้นจี่ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเย็นอากาศ
เส้นทางที่ 2 จากถนนพระราม 4 ใช้ทางลัดเข้าซอยศรีอักษร หรือจะเข้าทางซอยสุวรรณสวัสดิ์ หรือเข้าซอยงามดูพลีก็ได้ค่ะ
การเดินทางออกจากโครงการ
เส้นทางที่ 1 ออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วน "ทางพิเศษเฉลิมมหานคร" โดยใช้ทางลัดเข้าซอยศรีอักษร
เส้นทางที่ 2 ออกไปถนนพหลโยธิน โดยใช้ถนนวิทยุ
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า
ถ้ามาอยู่ย่านนี้จริงๆ คิดว่าคนในเย็นอากาศคงไม่ค่อยใช้รถไฟฟ้าสัญจรเป็นทางหลัก แต่มีรถไฟฟ้าไว้ไม่ไกลมาก ก็อุ่นใจในชั่วโมงเร่งด่วน ระยะห่างจากโครงการมายังสถานีรถไฟฟ้าอยู่ที่ 1-3 กิโลเมตร ซึ่งที่ตั้งของโครงการก็ไปได้หลายสถานีมาก ทั้ง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี สถานีคลองเตย หรือ สถานีสีลม หรือถ้าจะไป BTS สายสีเขียวเข้มก็มีสถานีศาลาแดงและสถานีช่องนนทรีอยู่ไม่ไกล
MRT สถานีลุมพินี (ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร) MRT สถานีคลองเตย
(ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร) มาถึงเรื่องสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการกันบ้าง เรื่องปากเรื่องท้องก็สำคัญไม่น้อย ทำเลที่ดีก็ควรมีแหล่งช้อปปิ้ง หาของกินง่าย มีร้านกาแฟ และร้านอาหารหลายสไตล์ ใช่ค่ะ เย็นอากาศมีทั้งหมดที่ว่ามาเลย ทั้งอาหารไทย อิตาเลียน เยอรมัน ญี่ปุ่น อีสาน ร้านอาหารใน และซอยเย็นอากาศส่วนใหญ่ มีโครงสร้างบ้านเดิมมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และตกแต่งสไตล์โมเดิร์น สองข้างทางค่อนข้างร่มรื่นมาก แถมยังมีโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนอนุบาล และโรงเรียนสอนว่ายน้ำอยู่ในซอยอีกด้วย เรื่องการขยายครอบครัว มีลูก ก็ไม่ต้องเดินทางไกลๆ อีกต่อไป มาเดินไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มตั้งแต่โครงการไปจนถึงถนนนางลิ้นจี่กันเลย
ตอนนี้เราอยู่กันที่หน้าโครงการค่ะ ทางข้างหน้านี้จะไปยัง ซอยศรีบำเพ็ญ
นี่คือเซเว่นหน้าโครงการนี่เอง สะดวกเบอร์แรงไปอีก
ในซอยเย็นอากาศนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ฝั่งทางที่จะไปทะลุที่ ถนนนางลิ้นจี่ค่ะ
เพื่อให้มองเห็นภาพชัดยิ่งขึ้นเดินไปพร้อมกันเลย
เดินจากโครงการประมาณ 100 เมตร ก็มีร้านอาหารให้แวะชิมซะแล้วค่ะ
ร้าน
"Infusion eatery and bar" เป็นร้านอาหารชิคๆ หลากหลายสไตล์
ดูจากภาพในเว็ปไซต์ของทางร้านแล้วเนี่ยที่นี่เป็นอาหารที่มีระดับ อาหารน่าทานมากๆ
ที่นั่งก็มีทั้ง indoor และ outdoor บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ
เดินจากโครงการมาแค่ 140 เมตร ก็ถึงร้านอาหารแล้วค่ะ ร้านนี้ชื่อ
"Mama Dolores"อาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ผสมผสานอาหารหลากหลายสัญชาติ ตั้งแต่สเปนจนถึงตะวันออกกลาง
ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส ไซปรัส กรีซ ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์จองร้านที่จะนำเสนอในวันนี้คือ
พิซซ่าเตาถ่าน นั่นเอง
ซึ่งเมนูเครื่องเคียงอื่นๆ อย่างผักขมอบชีสหรือซีซ่าสลัด ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน
ที่นี่เค้ายกเตาถ่านมาตั้งไว้กลางร้านเลยทีเดียว เผยให้เห็นถึงกรรมวิธีในการทำพิซซ่า ตั้งแต่เริ่มทำแป้งไปจนถึงตอนยกออกจากเตาถ่าน นอกจากเราจะได้เพลินเพลินกับการทำพิซซ่าแล้ว ยังได้กลิ่นหอมในระหว่างที่รอทานอีกด้วย
เดินต่อกันเลยดีกว่า
ผ่านมาทางนี้ก็มีโรงแรม INK ด้านหน้าของโรงแรมถูกทำให้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนน่ารักๆ
เดินถัดมาหน่อยก็ถึงต้นซอยเย็นอากาศ 1 ด้านหน้านี้มี Cafe ที่เป็นแหล่งรวมของคนรักจักรยานชิคๆ
เดินถัดมาก็ได้เจอกับ รร.อนุบาลบ้านสานฝัน และตรงข้ามกับโรงเรียนก็คือร้านอาหารชื่อดังอย่าง "AKART" นั่นเอง
AKART Bistro & Bar เป็นร้านอาหารสไตล์ไทย อิตาเลียน บรรยากาศเหมือนได้ไปทานอาหารบนบ้านไม้สองชั้น
การตกแต่งที่เป็นไปอย่างธรรมดาแต่ก็ไม่ธรรมดา
เมนูอาหารของที่นี่ดีทั้งคาวหวาน อย่างเมนู "สปาเก็ตตี้ซอสบีทรูทกับขนมปังทรัฟเฟิล" ที่มีสีของเส้นเป็นสีม่วง
ผ่านการตกแต่งจานมาแล้วอย่างสวยงามยิ่งหน้าทานเข้าไปใหญ่
ส่วนเมนูของหวานก็น่ารักเย้ายวนใจ อย่างเจ้าบิงซูที่โรยหน้าด้วยทับทิมกรอบ ราดนมเพิ่มความหวานมันเข้าไปนะ
บอกเลยว่า เอามาอีกถ้วยยยยยยยยยย!!
ผ่านมาอีกหน่อยก็เจอร้านตัดผมร้านนี้ ดูดีแท้
ถัดจากร้านตัดผม พื้นที่ด้านในก็มีคาเฟ่พร้อมกับคลินิกทำฟันด้วยนะคะ
มุ่งหน้าต่อไปจนใกล้ถึงซอยเย็นอากาศ 2
จุดนี้มีโรงเรียนนานาชาติ Graden ตั้งอยู่ด้วยนะคะ แบบนี้ยิ่งดีเลย ถ้าอยู่คอนโดใกล้ๆ ลูกก็ไปโรงเรียนได้สะดวกไปอีก
มุ่งหน้าจ้า
ด้านซ้ายมือก็มีโรงเรียนสอนว่ายน้ำตั้งอยู่ด้วย
พอเดินมาเรื่อยๆ ก็พบว่าในซอยเย็นอากาศนี้ เต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย คนเก่าแก่ที่อยู่มานาน
มีต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงาด้วย แต่ที่นี่ไม่มีไหล่ทาง จึงไม่เหมาะที่จะเดินเท่าไหร่ค่ะ คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้รถยนต์กันซะมากกว่า
เดินเข้ามาอีกก็มีร้านอาหารอีสานซะด้วย วันไหนอยากเผ็ดอยากแซ่บก็แวะมาได้
ริมทางก็มีต้นไม้เขียวๆ เป็นระยะๆ
บ้านแต่ละหลังก็จะตกแต่งต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วมีต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงาร่มรื่นมากๆ เลย
บ้านในซอยเย็นอากาศส่วนใหญ่มีการดูแลความสะอาดค่อนข้างดีเลยนะคะ มองเพลินมาก
นี่คือ แยกซอยเย็นอากาศ 3 ค่ะ
ตรงเข้ามาอีกก็มี Thada Private Residence ตั้งอยู่
ชอบบรรยากาศของบ้านแบบนี้มากเลย เรียบง่าย สะอาด ร่มรื่น
มองประตูบ้านของเขาเพลินมาก สิ่งหนึ่งที่บ้านเก่าในย่านนี้มีเหมือนกันคือ ประตูหน้าบ้านและต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา
ทางตรงนี้ใกล้จะถึงแยกไปถนนนางลิ้นจี่แล้วค่ะ
ด้านซ้ายมือก็มีโรงพยาบาลสัตว์อยู่ด้วย
จุดนี้ใกล้ถึงแยกนางลิ้นจี่แล้วค่ะ ด้านซ้ายมืองของเรากำลังก่อสร้าง Top's market อยู่
บางส่วนสร้างเสร็จแล้ว มีทางเดินเข้า
อยู่ที่ซอยนางลิ้นจี่ 1 หรือขับรถเข้าไปได้ตรงซอยนางลิ้นจี่ 3 ค่ะ บรรยากาศบนถนนนางลิ้นจี่ช่วงเที่ยงๆ ค่ะ การจราจรก็ยังไม่หนาแน่นเท่าไหร่
เดินเข้า Top's market ให้เดินเลียบตามถนนนางลิ้นจี่มาไม่เกิน 100 เมตรค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าได้เลย
ด้านใน Market Place ก็มีร้านอาหาร มีซูเปอร์ และร้านอื่นๆ ไว้คอยให้บริการเยอะเลยค่ะ
เห็นมั้ยล่ะคะว่า ซอยเล็กๆ อย่าง
"เย็นอากาศ" ก็มีอะไรเยอะแยะไปหมดเลย
หรือเรียกสั้นๆ ว่า
"ครบ" ก็จบนะคะ
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร รูปทรงตัว C ตั้งอยู่บนแปลงที่ดินขนาด 0-3-98 ไร่ มียูนิตพักอาศัยไม่มากเพียง 88 ยูนิตเท่านั้น ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 - 8 โดยที่ชั้น 1 มีจำนวนยูนิตน้อยสุดอยู่ที่ 5 ยูนิต และมีจำนวนยูนิตมากสุดอยู่ที่ 13 ยูนิต/ชั้น รูปแบบโครงการตกแต่งด้วยเส้นสายสถาปัตยกรรมยุโรปหรูสไตล์คลาสสิกสังเกตจากตัวอาคารจะเป็นสีน้ำเงินนาวี (Navy Blue) โทนสีโดยรวมจะดูแปลกตากว่าโครงการที่ผ่านๆ มาของมาเอสโตร โดยโครงการนี้จะใช้โทนสีประมาณสีน้ำเงินนาวี-ขาว-เทา และวัสดุสี Copper อีกบางส่วน แต่ก็ยังคงคอนเซปต์ในสไตล์ "Classic Inspired Modern Twist" ที่มีความคลาสสิกผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์น
สำหรับที่จอดรถอยู่ที่ชั้นใต้ดินและชั้น 1 รวมที่จอดรถทั้งโครงการประมาณ 79% ไม่ฟิกซ์ตำแหน่ง มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อคชั้น อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยูที่ 44 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีมาก
บรรยากาศภายในโครงการเงียบสงบ ออกแบบมาเน้นหน้าต่างบานสูงช่วยเรื่องการรับแสงและระบายลมจากธรรมชาติเข้ามาภายในตึก เพิ่มความสบายและยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน มีบันไดหนีไฟมาให้ 2 จุด
พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้นดาดฟ้า เป็นการกระจายจำนวนลูกบ้านกรณีที่มาใช้งานเวลาเดียวกันจะได้ไม่รวมตัวกันอยู่ที่จุดเดียว ส่วนบนชั้นดาดฟ้าจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วนมีทั้งแบบ Indoor และแบบ Outdoor โดยแบบ Indoor จะมีในส่วนของ Club room และห้องฟิตเนส ส่วนด้านนอกก็จะมีลานบาร์บีคิว ลานโยคะ สนามเด็กเล่น และศาลาสำหรับนั่งเล่น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Pet Zone โดยโครงการของมาเอสโตรทุกโครงการจะเป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ก็จะมีเงื่อนไขในการเลี้ยงอยู่เหมือนกันประมาณนี้
กฎระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุด
1. การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯ และลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูลโดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี (ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์)
2. ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว) และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุดรวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง)
3. สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัมเมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้
- 1 ตัว / พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม. และไม่เกิน 50 ตร.ม.
- 2 ตัว / พื้นที่ 100 ตารางเมตร
- 3 ตัว / พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นต้นไป
(จำนวนสูงสุดของสัตว์เลี้ยงจะมีได้ไม่เกิน 3 ตัวต่อ 1 ห้องชุดเท่านั้น)
4. สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
กฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ
โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแต่ละทิศจะใกล้กับ
ทิศตะวันออก : เป็นฝั่งด้านหน้าโครงการ ติดกับถนนเย็นอากาศ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ความสูง 4 ชั้น มีระยะห่างจากตัวอาคารของมาเอสโตรประมาณ 12 เมตร
ทิศใต้ : ติดกับถนนส่วนบุคคล และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยความสูง 2 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับบ้านพักอาศัยความสูงประมาณ 2 ชั้น
ทิศเหนือ : ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ซึ่งอยู่ในระยะประชิดกับตัวอาคาร แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยของลูกบ้านที่อยู่ห้องทางฝั่งนี้ เนื่องจากเป็นผนังทึบไม่มีหน้าต่าง ซึ่งช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ดี
มาดูในส่วนของ Master Plan ของโครงการกันค่ะ ดูสิว่าแต่ละชั้นเค้ามีอะไรบ้าง
Master Plan ชั้น G : มีจุด Drop off, ป้อม รปภ., ที่จอดรถ, ล็อบบี้, ห้องจดหมาย, ห้องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร, ที่จอดจักรยาน
และห้องพักอาศัยอีกจำนวน 5 ยูนิต เป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
Floor Plan ชั้น 2 : มีสระว่ายน้ำ ห้องสตีม ห้องซาวน่า และห้องพักอาศัย 12 ยูนิต เป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
Floor Plan ชั้น 3-4 : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดมี 13 ยูนิต/ชั้น เป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
Floor Plan ชั้น 5-6 : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดมี 13 ยูนิต/ชั้น เป็นแบบ 1 ห้องนอน , 2 ห้องนอน
และ 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์
Floor Plan ชั้น 7-8 : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดมี 11 ยูนิต/ชั้น เป็นแบบ 1 ห้องนอน , 2 ห้องนอน,
2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และ 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์
Floor Plan Rooftop : จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด ซึ่งจัดมาแบบเต็มพื้นที่
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าโครงการนี้ก็ยังคงจัดมาให้หลากหลายเช่นเคย แต่ขนาดอาจจะไม่ใหญ่มากนักเนื่องจากพื้นที่ของโครงการที่ค่อนข้างจำกัด แต่โดยรวมก็ยังถือว่าให้มามากกว่าโครงการ Low-rise ทั่วไปที่มักจะมีเพียงแค่สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสเท่านั้น โดยสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่จะชั้น G, ชั้น 2 และบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร โดยสิ่งที่ทางโครงการให้มาประกอบด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกชั้น G และชั้นใต้ดิน
- ล็อบบี้
- กล่องจดหมายส่วนตัว
- แร็คจอดจักรยาน
- ห้องซักผ้า
- อินเทอร์เน็ตไร้สาย 24 ชั่วโมง
- จุดจอดรับส่ง
- ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
- กุญแจระบบคีย์การ์ด
- บริการรถรับส่ง (Shuttle service)
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้น 2
- สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ
- ห้องสตีม และห้องซาวน่า
- ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
เดี๋ยวเราไปดูภาพบรรยากาศของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชั้นใต้ดิน, G และชั้น 2 กันค่ะ
หน้าโครงการมีป้าย MAESTRO 01 สีน้ำเงิน Navy Blue มองเห็นชัดเจน
ขับรถเข้าจะมาเจอกับป้อมยามทางด้านซ้ายมือ มีไม้กระดกกั้น เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด และมีกล้องวงจรปิด
ขับเลยไม้กระดกเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor อยู่ทางซ้าย
พื้นที่สำหรับจอดจักรยาน
ที่จอดรถของลูกบ้านจะอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน
พื้นที่จอดรถบริเวณชั้นใต้ดินติดไฟส่องสว่างมาให้ และมีลิฟต์สำหรับขึ้นไปยังล็อบบี้ และส่วนพักอาศัยได้
มีรถ Shuttle service บริการรับ-ส่งลูกบ้าน
ผนังสีเทาเพิ่มลูกเล่นให้ดูไม่เรียบจนเกินไป
ล็อบบี้ของโครงการเป็นแบบ Double Volume
พื้นบางส่วนปูด้วยกระเบื้องที่มีลวดลายดูสวยงามโทนสีขาว-เทา-ดำ
พื้นที่สำหรับตู้จดหมายของลูกบ้านออกก็เป็นโทนสีขาวมีเลขห้องระบุพร้อมกุญแจล็อค
มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้คอยบริการลูกบ้าน 2 เครื่อง ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน
โซนพักอาศัยเข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ด
ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวแบบล็อคชั้น ไปได้เฉพาะชั้นพักอาศัยของตัวเอง และชั้นที่เป็นส่วนกลางเท่านั้น
หน้าประตูลิฟต์สกรีนโลโก้มาเอสโตร
ลิฟต์โดยสารขนาดใหญ่ตกแต่งโทนสีขาว เพดานสูงเทียบเท่าโครงการ High-rise ติดกระจกรอบด้านให้ความรู้สึกกว้าง
แผงปุ่มกดภายในตัวลิฟต์
จากโถงลิฟต์ชั้น 2 ก่อนเข้าส่วนพักก็ต้องใช้ระบบคีย์การ์ดเช่นกัน
ตรงข้ามกับลิฟต์เป็นประตูเดินไปยังส่วนของสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำบนชั้น 2 ที่โอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัย
สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 4.5 x 12.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็พอว่ายน้ำได้อยู่
ข้อดีของระบบน้ำเกลือคือ ไม่ทำร้ายผิวและเส้นผม บริเวณริมสระมีเตียง Sundeck ลายหวายสีน้ำตาลมาให้ 3 ตัว
ห้องน้ำส่วนกลางบริเวณชั้น 2 แยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำมีตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของมาให้ด้วยประมาณ 12 ช่อง
ผนังห้องน้ำเป็นกรุด้วยกระเบื้องเล่นลวดลายโทนสีขาวเทา พื้นห้องน้ำและเคาน์เตอร์อ่างล้างมือลายหินอ่อน
ในห้องน้ำชายจะมีห้องซาวน่า ส่วนในห้องน้ำหญิงจะมีห้องสตีม
สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้า
- ห้องสันทนาการ
- ห้องฟิตเนส
- ลานโยคะ
- สนามเด็กเล่น
- ลานบาร์บีคิว
- Tranquil Pavilion
ตามไปดูสิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้ากันต่อเลยค่ะ
ขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า ออกจากลิฟต์มาจะแบ่งเป็นโซนซ้ายขวา
โซนซ้ายจะมีห้องฟิตเนส ลานบาร์บีคิว และห้อง Club room
ส่วนโซนซ้ายจะเป็น ลานโยคะ และพื้นที่ Pet zone
ส่วนฝั่งตรงข้ามลิฟต์เป็นห้องฟิตเนส
ภายในห้องฟิตเนสขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก จัดเครื่องเล่นมาให้ 6 เครื่อง
ตกแต่งด้วยกระจกรอบด้าน ช่วงแดดร่มถ้าเปิดม่านออกจะสามารถเทควิวบนชั้นดาดฟ้าได้
มีดัมเบลสำหรับเล่นเวทมาให้อีกกว่า 10 อัน
ลานโยคะกลางแจ้งใกล้กับห้องฟิตเนส
ติดกับลานโยคะเป็นสนามเด็กเล่น พื้นปูด้วยยางกันกระแทก เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ
มุม Pet Zone ปูด้วยหญ้าเทียม พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถปลดสายจูงและให้สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นบริเวณนี้ได้
มุมนี้พื้นปูด้วยกระเบื้อง ติดตั้งก๊อกน้ำมาให้สามารถล้างตัวน้องหมาได้
Pavilion สำหรับนั่งเล่นอีกหนึ่งจุดบนชั้นดาดฟ้า
ห้อง Club room ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก สามารถเทควิวพระอาทิตย์ตกดินฝั่งนี้ได้สบาย
จัดชุดโซฟาขนาดใหญ่โทนสีเข้มมาให้ 2 ชุด และโทนสีอ่อนอีก 2 ชุด
พร้อมโต๊ะพูลอีก 1 โต๊ะ
ลานบาร์บีคิวปาร์ตี้ ก็มีเตาบาร์บีคิว อ่างล้างจาน พร้อมจัดพื้นที่สำหรับนั่งปาร์ตี้มาให้ 2 มุมด้วยกัน
มุมนี้จะเป็นโต๊ะไม้ 2 ชุด พร้อมร่มสนามสำหรับกันแดดกันฝน
และอีกมุมเป็นโซฟายาวสีขาว
กรณีจะใช้พื้นที่ลานบาร์บีคิวแนะนำให้แจ้งทางนิติบุคคลล่วงหน้าก่อน อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ติดตั้งกล้อง CCTV ระบบไฟฉุกเฉิน และป้ายบอกทางหนีไฟไว้ให้ครบ
ไฟที่โถงทางเดินเป็นระบบเซ็นเซอร์ช่วยประหยัดไฟมีช่องแสงที่ปลายโถงทางแต่ละฝั่ง
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay out
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ตกแต่งห้องมาให้ในสไตล์ "Medeline Style" โทนสีสว่าง ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวของ Modernform พร้อมแอร์ ยี่ห้อเทรน (TRANE) ขนาดของ BTU จะขึ้นอยู่กับ Type ของห้อง สิ่งที่ทางโครงการไม่ได้ให้มามีเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ ทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น) ผ้าม่าน ฟูกที่นอน และของตกแต่งเท่านั้น
พิเศษด้วยฟังก์ชั่นระเบียงอเนกประสงค์ ที่สามารถขยายห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง หรือจะใช้เป็นระเบียงสำหรับนั่งเล่นรับลมตากอากาศก็ได้เช่นกัน
- แบบ 1 ห้องนอน - เนื้อที่ 33.56 - 50.36 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลห้อง) - แบบ 2 ห้องนอน - เนื้อที่ 67.76 - 70.82 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) - แบบ 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ - เนื้อที่ ขนาด 112.66 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) - แบบ 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ - เนื้อที่ ขนาด 135.04 - 182.18 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างด้วยกัน 2 Type คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 34.12 ตร.ม. และห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 68.90 ตร.ม. ซึ่งห้องตัวอย่างทั้งหมดตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารพักอาศัย เดี๋ยวเราไปดูกันที่ละห้องเลยค่ะ เริ่มจากห้องแรก
1) ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.12 ตร.ม.
ประตูสีน้ำเงิน Navy Blue มือจับแบบก้านโยกดีไซน์มาในโทนสี Copper ดูคลาสสิก
พื้นยกสูงจากโถงทางเดินประมาณ 3 ซม.
พื้นปูด้วยกระเบื้องลายไม้ทนความชื้นได้ดีกว่าลามิเนต ทำความสะอาดง่าย
เข้ามาจะเป็นส่วนของห้องครัวแบบครัวเปิด ซึ่งครัวเปิดลักษณะนี้เหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นไม่แรงมาก
ความสูงจากพื้นถึงฝ้าห้องครัว ห้องครัวสูง 2.35 เมตร ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นสูง 2.45 เมตร
และห้องน้ำสูง
2.20 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสี ทางซ้ายมือได้ชุดครัว Built-in เคาน์เตอร์รูปทรงตัว L หน้าบานปิดผิวด้วย Hi-Gloss
ที่ผนัง Backsplash กรุด้วยกระเบื้องทรงสามเหลี่ยมสีขาว-ดำดูโมเดิร์น เครื่องซักผ้าและช่องวางไมโครเวฟอยู่ใต้เคาน์เตอร์
เครื่องดูดควันของ Electrolux ระบบดูดออกด้านนอกช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นได้ดี
มีช่องเก็บของด้านบน บานพับตู้แบบ Soft Close ทั้งหมด ยกเว้นที่อยู่
เหนือเครื่องดูดควันเป็นบานกดกระเด้ง
ตัว Top ครัวเป็นหินควอตซ์ โทนสีน้ำตาลทนความชื้น ความร้อน และแรงกระแทกได้ดี
ด้านล่างติดตั้งถังขยะมาให้พร้อมฝาปิด ลิ้นชักแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับวางช้อนส้อมมาให้เรียบร้อย
เวลาเปิดตู้บานกลางแนะนำให้เปิดตู้เบาๆ ระวังจะชนกับเครื่องซักผ้า
ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Electrolux
อ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดียวแบบฝังขนาดไม่ใหญ่มากของ Hafele
ก๊อกน้ำหมุนได้ซ้าย-ขวา ของ Hafele เช่นกัน
ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ด้านบนเป็นตู้เก็บเบรกเกอร์ปิดด้วยบานกดกระเด้ง
ข้างตู้เย็นเป็นตู้เก็บรองเท้า บานพับ Soft Close มือจับแบบเม็ดมะยมสี Copper
ได้โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง เชื่อมติดกับเคาน์เตอร์ครัว พร้อมเก้าอี้ 2 ตัวโทนสีขาวแต่งลวดลายด้วยสี Navy Blue
ถัดไปเป็นโซนห้องนั่งเล่น
ที่ห้องนั่งเล่นได้ชั้นวางทีวี โซฟา และโต๊ะกลางตามแบบนี้
มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 150 ซม.
ระเบียงอเนกประสงค์งแบบ Double Lock 2 ชั้น
ถ้าปิดประตูตรงจุดนี้ก็จะได้เป็นห้องอเนกประสงค์เล็กๆ เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง
ประตูตรงจุดนี้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสงแบบบานเลื่อน 2 ตอนเปิดจากตรงกลางไปด้านข้างกรอบอลูมิเนียมสีขาว
หรือจะขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้กว้างมาขึ้นได้โดยการเปิดประตูกระจกออก
พื้นบริเวณระเบียงปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้เหมือนภายในห้องนั่งเล่น
ได้โซฟายาวสีดำตามแบบนี้ ด้านข้างเป็นห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์กั้นไว้เป็นสัดส่วน
ราวระเบียงสูง 110 ซม. วัสดุโทนสี Copper และเพิ่มลูกเล่นให้ดูคลาสสิก
ไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ ห้องนอนกั้นด้วยประตูทึบได้มือจับก้านโยกสี Copper
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.
ในห้องนอนได้ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะทำงาน โต๊ะหัวเตียง และเตียงขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูกที่นอน
หัวเตียง Built-in มาให้ตามแบบนี้
ผนังปลายเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสามารถติดตั้งที่วีแบบแขวนผนังได้
ในห้องนอนได้แอร์อีก 1 เครื่อง
พื้นที่ปลายเตียงถึงผนังเหลือระยะเดิน 40 ซม.
ได้โซฟาเดย์เบดโทนสีเข้ม 1 ตัววางชิดริมหน้าต่าง
หน้าต่างบานสูงได้แบบบานเปิดและบานฟิกซ์กรอบสีขาว
ได้ตัวล็อคหน้าต่างสีขาวตามแบบนี้
พื้นที่ข้างเตียงเหลือระยะเดินประมาณ 40 ซม.
ตู้เสื้อผ้า Built-in บานเปิด 3 ตอน ปิดผิว Hi-Gloss
พื้นที่ข้างเตียงถึงตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ 140 ซม.
ภายในตู้เสื้อผ้ามีที่สำหรับเก็บของด้านบาน ที่แขวนเสื้อผ้า และลิ้นชักอีก 3 ชั้น
ประตูห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน ในห้องน้ำได้ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง
ห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 3 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาเข้ม
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Lavenz มีพื้นที่วางของที่ขอบอ่างนิดหน่อย ก๊อกน้ำของ Hafele
ทางโครงการเดินระบบน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้ สามารถซื้อเครื่องทำน้ำร้อนมาติดตั้งได้ที่บริเวณใต้อ่างล้างหน้า
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบประหยัดน้ำ สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่อยู่ทางขวา
กระจกเงาบานใหญ่กรอบสแตนเลส ผนังห้องน้ำลายหินอ่อนโทนสีขาวบางส่วนเจาะเป็นช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์
ประตูบานสวิงผลักเข้าด้านใน ตัวจับรูปตัว U สามารถแขวนผ้าขนหนูได้
ยกธรณีสูงประมาณ 5 ซม.
ได้ชุดฝักบัวของ Kohler ทรงกลม ก๊อกหัวผสมแยกระบบน้ำร้อนกับน้ำเย็น
ได้พัดลมดูดอากาศของ Panasonic
สวิตช์ไฟของ siemens
และปลั๊กไฟของ siemens
2) ภาพห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 68.90 ตร.ม.
ห้อง Type นี้เป็นแบบหน้ากว้าง เข้ามาเจอกับห้องครัวที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
ฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอนเล็ก
ได้เคาน์เตอร์ครัว Built-in รูปตัว U ได้พื้นที่เก็บของและพื้นที่เตรียมอาหารเยอะขึ้นกว่าห้องที่แล้ว
บานพับ Soft Close ทั้งหมด
วางเครื่องซักผ้า และช่องเก็บไมโครเวฟไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัว ด้านล่างเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิดทั้งหมด
พื้นปูด้วยกระเบื้องลายไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนไม้แต่แข็งแรงทนน้ำได้ดีเหมือนกระเบื้อง
ห้องนี้จะเน้นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณกลางห้อง เป็นพื้นที่สำหรับให้สมาชิกภายในครอบครัวมารวมตัวกัน
ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง ระยะดูทีวีประมาณ 180 ซม.
หรือนั่งจะดูทีวีจากโต๊ะทานข้าวก็ยังได้
ได้โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และเก้าอีก 2 ตัว
พร้อมเก้าอี้ตัวยาวสีขาวติดผนังดีไซน์ให้ใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถเปิดออกและเก็บของด้านในได้
ห้องนี้ได้ระเบียงแบบ 2 ชั้นขนาดใหญ่ สามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียงกับห้องนั่งเล่นได้ทำให้กว้างมากขึ้น
ที่ระเบียงติดไฟมาให้ 2 ดวง
ประตูบานเลื่อน 4 ตอนเปิดออกได้กว้าง
ได้โซฟาสีดำขนาด 2 ที่นั่ง
เข้าไปดูในห้องนอนใหญ่กันต่อ ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานทึบสี Navy Blue มือจับก้านโยกสี Copper
เข้ามาจะเจอตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ตรงกลางห้องกั้นระหว่างโซนเตียงนอน กับห้องน้ำ
ด้านซ้ายของห้องวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะที่หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง
เตียงถึงตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ประมาณ 50 ซม.
ด้านข้างได้โซฟาเดย์เบด จากเตียงถึงโซฟาเดย์เบดเหลือพื้นที่ประมาณ 45 ซม.
หน้าต่างแบบบานสูงสามารถเปิดได้ 2 จุด
จะเห็นว่าผนังปลายเตียงบางส่วนยื่นออกมาเนื่องจากเป็นส่วนของห้องคอมเพรสเซอร์แอร์
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ 110 ซม. สามารถหาทีวีมาแขวนผนังได้ติดตั้งปลั๊กไฟมาให้พร้อม
ในห้องนอนได้แอร์อีก 1 เครื่อง
ด้านขวาของห้องเป็นโซนแต่งตัวคล้าย Walk in closet ได้ตู้ Built-in รูปทรงตัว L แบบบานเปิด 6 บาน
มุมนี้เหลือพื้นที่ประมาณ 80 ซม. สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง
สาวๆ ที่รักการแต่งตัวน่าจะชอบโซนนี้ เรียกว่าออกจากห้องน้ำปุ๊บก็แต่งหน้า และแต่งตัวตรงนี้ได้เลย
ได้พื้นที่อาบน้ำใหญ่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ฝั่งขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า และฝั่งซ้ายเป็นโซนอาบน้ำ
ย้ายไปดูอีกฝั่งของห้องกันบ้าง
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าบานสูงจรดผ้า ถัดมาเป็นห้องน้ำ และห้องนอนเล็ก
ห้องน้ำจุดนี้ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่ 2 ได้ฟังก์ชันการใช้งานครบ แต่มีขนาดเล็กลงกว่า
ถึงจะเป็นห้องนอนที่สองแต่ขนาดห้องที่ได้ค่อนข้างใหญ่สามารถวางเตียงแบบ 5 ฟุตได้แบบสบายๆ
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 55 ซม. พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตหนา 8 มม.
ผนังปลายเตียงเสียพื้นที่บางส่วนเนื่องจากเป็นห้องคอมเพรสเซอร์แอร์
ติดตั้งปลั๊กไฟรองรับการดูทีวีในห้องนอน
ฝั่งริมกระจกได้โซฟาเดย์เบด
ได้หน้าต่างบานใหญ่กรอบอลูมิเนียมสีขาวแสดงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่
เหลือพื้นที่จากเตียงถึงตู้เสื้อผ้าประมาณ 120 ซม.
ด้านข้างวางเป็นโต๊ะทำงานได้
ได้ตู้เสื้อผ้าบานเปิด 3 ตอน พร้อมตู้เก็บของแบบลิ้นชัก 3 ชั้น
ห้องนี้ได้แอร์อีก 1 เครื่อง
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (18 พ.ค. 61)
- ห้องแบบ 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.3 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- ค่าส่วนกลาง: 65 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- เงินกองทุนแรกเข้า: 650 บาท/ตร.ม. (เก็บครั้งเดียว) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์: ผู้ซื้อและผู้ขายแบ่งชำระค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง
- ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า: ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าเงินประกันมิเตอร์น้ำ: ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
สถานะปัจจุบันของโครงการ (18 พ.ค. 61)
โครงการ มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 70% และเริ่มมีลูกบ้านทยอยเข้ามาอยู่บ้างแล้ว ส่วนห้องที่เหลือยังคงมีให้เลือกทั้งวิวสระว่ายน้ำและซิตี้วิวค่ะ
ติดต่อโครงการ โทร. 02-116-1111 หรืออ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่
www.mde.co.th