รีวิว-เยี่ยมชม คอนโดวิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา - ลาดพร้าว (Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao)
วันนี้ CheckRaka.com จะพาไปเยี่ยมชมโครงการ
วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว (Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao) คอนโดมิเนียมดีไซน์หรูในย่านใจกลางลาดพร้าวจากค่าย Magnolia Quality Development Corporation สำหรับโครงการวิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา - ลาดพร้าว เป็นคอนโดแบบ High-Rise สูง 27 ชั้น 1 อาคาร เดินทางสะดวกสบาย ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว และติดรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว (ทางออกที่ 1) เพียง 1 ก้าวเท่านั้น ปัจจุบันโครงการสร้างเกือบแล้วเสร็จและพร้อมให้ลูกบ้านเข้าอยู่เร็วๆ นี้แล้ว เดี๋ยวเราจะไปชมห้องจริงบรรยากาศจริงของโครงการนี้กันเลยค่ะ
VIDEO
เจ้าของโครงการ: บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ตั้งโครงการ: ถถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ อาคารชุดพักอาศัย: คอนโด High Rise สูง 27 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 497 ยูนิต ขนาดที่ดินทั้งโครงการ: 3-0-44 ไร่ ลิฟต์โดยสาร: ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 4 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว ห้องชุดพักอาศัย: Studio ขนาด 27 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 30 - 38 ตร.ม. 2 Bedrooms ขนาด 47 - 56 ตร.ม. Duplex ขนาด 76 - 77 ตร.ม. Duplex Penthouse ขนาด 81.35 - 82.39 ตร.ม. Penthouse ขนาด 105 - 141 ตร.ม. ที่จอดรถ : ที่จอดรถ 244 คัน ประมาณ 49% (หรือ 60% แบบรวมจอดซ้อนคัน) ราคาเริ่มต้น : 4 ล้านบาท (ข้อมูล ก.ย. 60) วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : ก.ย. 60 เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการ Mixed-use คุณภาพระดับ luxury ภายใต้แบรนด์ "วิสซ์ดอม (Whizdom)" และ "แมกโนเลียส์ (Magnolias)" ที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดในการก่อสร้างที่มีคุณภาพโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เลือกใช้วัสดุชั้นดี การออกแบบที่พิถีพิถันสอดรับลงตัวกับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ และสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการออกแบบที่ใส่ใจธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พร้อมกับนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ในการสร้างสรรค์โครงการ
ว่าด้วยเรื่องคอนโดติดรถไฟฟ้า ดูเหมือนสมัยนี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดากันแล้ว ใครๆ ก็ทำได้ไม่แปลกอะไร แต่โครงการนี้พิเศษแบบใส่ไข่ยางมะตูมสามลูกในก๋วยเตี๋ยวต้มยำแซ่บๆ เพราะใครที่ได้มาอยู่โครงการนี้จะรู้สึกเลยว่า เหมือนมีสถานี MRT ส่วนตัว เพราะอยู่หน้าโครงการ เรียกว่า 0 เมตรเลยก็ได้ เรื่องทำเลใกล้ห้าแยกลาดพร้าวยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นทำเลที่ใครๆ ก็อยากจับจองเป็นเจ้าของกันอยู่แล้ว
วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว (Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao) เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกว่าครบทุกอย่าง ทั้งรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ถือเป็นปัจจัยที่จำเป็นกับคนเมืองอย่างมาก ไปดูกันว่ารอบๆ โครงการมีสถานที่สำคัญอะไรบ้าง
ห้างสรรพสินค้า สวนลุมไนท์บาซาร์ ประมาณ 10 เมตร BigC ลาดพร้าว ประมาณ 800 เมตร Union Mall ประมาณ 1.5 กิโลเมตร Central ลาดพร้าว ประมาณ 2 กิโลเมตร Major รัชโยธิน ประมาณ 3 กิโลเมตร The Street รัชดา ประมาณ 4 กิโลเมตร Central พระราม9 ประมาณ 5.5 กิโลเมตร ฟอร์จูนทาวน์ ประมาณ 5.6 กิโลเมตร โรงเรียน รร.ปัญจทรัพย์ ประมาณ 1 กิโลเมตร รร.หอวัง ประมาณ 2.3 กิโลเมตร ม.เกษตรศาสตร์ ประมาณ 4.7 กิโลเมตร ม.ศรีปทุม ประมาณ 6.5 กิโลเมตร โรงพยาบาล รพ. โกลเด้นเยียส์ ประมาณ 2.1 กิโลเมตร รพ. เปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 ประมาณ 3 กิโลเมตร รพ. สุทธิสาร ประมาณ 3 กิโลเมตร รพ. เปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ประมาณ 4 กิโลเมตร รพ. เปาโล เกษตร ประมาณ 4.2 กิโลเมตร รพ. เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ประมาณ 6.2 กิโลเมตร การเดินทางมายังโครงการ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ดังนี้
1. การเดินทางด้วยรถยนต์
การเดินทางเข้าโครงการเส้นทางที่ 1 จากถนนพหลโยธินผ่านหน้าแยกลาดพร้าว บนถนนวิภาวดีรังสิต เราจะมุ่งหน้าไปยังถนนลาดพร้าวกัน เห็นป้ายสะพายควาย ลาดพร้าว เบี่ยงซ้ายได้เลยค่ะ
สังเกตป้าย ขึ้นสะพานลอย รัชโยธิน-ลาดพร้าว
ชิดซ้ายตามป้ายลาดพร้าว - บางกะปินะคะ เราจะขึ้นสะพานอีกครั้ง
ลงจากสะพานจะเป็น Union Mall ค่ะ
มุ่งหน้าต่อไปยังแยกรัชดา - ลาดพร้าว ผ่าน Big C ด้วยนะคะ จุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตรเองค่ะ
ใกล้ถึงแยกรัชดา - ลาดพร้าว เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถนะคะ
จุดกลับรถใกล้กับโครงการประมาณ 20-30 เมตรเองค่ะ กลับรถมาจะเห็นสวนลุมไนท์บาซาร์
เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยค่ะ สังเกตว่าถัดไปอีกนิดเดียวจะเห็น MRT สถานีลาดพร้าว ทางออกที่ 1 นั่นเอง
การเดินทางเข้าโครงการเส้นทางที่ 2 จากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 1 ออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 2 ใช้ถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปยังแยกพระราม 9
2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสำหรับโครงการนี้ถือเป็นจุดเด่นที่พิเศษจริงๆ เพราะมีสถานี MRT ลาดพร้าวอยู่ด้านหน้าโครงการเลยทีเดียว ระยะทางเดินจากหน้าโครงการแค่ก้าวเดียวก็ถึง MRT แล้ว การเดินทางไปทำงานย่านธุรกิจต่างๆ จึงสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-แบริ่ง ที่กำลังมีการขยายเส้นทางไปยังสำโรงในไม่ช้า ทั้งในอนาคตยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และสายแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ อีกด้วย
ที่สำคัญในอนาคต MRT สถานีลาดพร้าว จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (สถานีรัชดา) ซึ่งประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า โครงการนี้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่จะมีระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน และระยะเวลาเดินรถ 30 ปี โดยเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงเรื่องจำนวนผู้โดยสาร ไม่ว่าเราจะอยู่เองหรือปล่อยเช่าโครงการนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ โครงการหนึ่ง
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ ทั้งเรื่องห้างสรรพสินค้า หรือการเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะมี MRT อยู่ด้านหน้าโครงการนั้นก็มีครบอยู่แล้ว นอกเหนือจากนั้น ชีวิตความเป็นอยู่ที่เราไม่ได้ต้องการไปไหนไกลๆ ก็มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ใกล้ๆ ในระยะที่เดินได้ให้จับจ่าย ไปดูกันเลยค่ะว่าในระยะที่เดินจากโครงการไปทางสวนลุมไนท์บาซาร์และเดินไปทางห้าแยกลาดพร้าวจะมีอะไรบ้าง
สวนลุมไนท์บาซ่าร์
มาถึงหน้าโครงการ จุดนี้จะเห็นชัดเลยว่า MRT สถานีลาดพร้าว ทางออกที่ 1 ตั้งอยู่หน้าโครงการเลยทีเดียว
คงต้องบอกว่าเป็นข่าวดีของคนที่อยู่ในย่านรัชดา-ลาดพร้าว เนื่องจากจะมี "Gourmet Market"
ซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยมระดับเวิล์ดคลาส มาเปิดที่บริเวณอาคารจอดแล้วจร ตรงข้าม MRT สถานีลาดพร้าว
หรืออยู่ตรงข้ามโครงการนี่เอง ที่ให้เราสามารถช็อปปิ้งก่อนเดินเข้าคอนโดได้สบายๆ
ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 19 กันยายน 2560 นี้
ขอบคุณภาพจาก
www.siamturakij.com/news คราวนี้เดินทางไปทางห้าแยกลาดพร้าวกันบ้างค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดพร้าว 26 มีร้านอาหารน่าทานมากๆ ร้านนึง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะ
ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยลาดพร้าว 26 นี้ ชื่อร้าน "OHAYO 26" ค่ะ อร่อย ราคาไม่แรง มีที่จอดรถ
เห็นแล้วหิวเลย จานนี้ก็เด็ดเหมือนกัน
มุ่งหน้าต่อไปทางห้าแยกลาดพร้าว ก็มีร้านอาหารอยู่ติดถนนค่อนข้างถี่นะคะ
มาถึงตรงนี้ จะเห็นบิ๊กซีอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ เดินมาไม่ไกลเลย
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
โครงการ "Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao" เป็นโครงการคอนโด High-Rise ความสูง 27 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ห้องพักอาศัยรวมทั้งหมด 497 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3-0-44 ไร่ ลักษณะที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวอาคารพักอาศัยรูปทรงตัว L ขนานกับถนนลาดพร้าว ออกแบบโครงการโดยเลือกใช้โทนสีน้ำตาลส้ม เน้นการออกแบบลายเส้น และแสงสี โดยเฉพาะถ้ามองตอนกลางคืนจะเห็นได้อย่างชัดเจน ในส่วนของตัวอาคารประกอบด้วย ห้องพักอาศัยที่จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 - 27 ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกจะอยู่ที่ชั้น 1, 5 และ 28 โดยที่ชั้น 5 จะมีพื้นที่สวนสีเขียว E-Library และห้อง Laundry จะได้วิวฝั่งถนนลาดพร้าวฝั่งด้านหน้าโครงการ และมี Sky Facilities อยู่ที่ชั้นดาดฟ้า จะมีสระว่ายน้ำ ห้อง Sky Lounge และห้อง Fitness ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองทั้งหมด มีลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 4 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 125 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นไปหน่อย
ภาพรวมบรรยากาศตัวอาคารในยามค่ำคืน
และนี่คือ VDO ที่เรียกว่า "Research & Development" ที่ทางโครงการทำมาเพื่อบอกถึงแนวคิด และคุณสมบัติความพิเศษที่โดดเด่นของโครงการให้ลูกค้าเข้าใจตัวโครงการได้ง่ายขึ้น โดยสามารถสรุปได้ประมาณนี้
VIDEO
ในส่วนของภาพรวมแต่ละทิศของโครงการถือว่าค่อนข้างเป็นวิวแบบเปิดโล่ง และไม่มีอาคารสูงบดบังในระยะประชิด โดยแต่ละทิศจะได้วิวประมาณนี้
วิวฝั่งทิศเหนือ : ฝั่งด้านหน้าโครงการหันหน้าเข้าหาถนนลาดพร้าว ได้วิวเมือง และตึกช้าง
วิวฝั่งทิศใต้ : ด้านหลังโครงการเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ได้วิวฝั่งพระราม 9 ใกล้กับโครงการเป็นบ้านพักอาศัย อาจมีตึกสูงของโรงแรมของสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดา แต่ก็ไม่มีผลในการบังวิวมากนัก
วิวฝั่งทิศตะวันออก : ได้วิวเมืองฝั่งแยกรัชดา-ลาดพร้าว
วิวฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้
มาดูในส่วนของ Master Plan และ Floor Plan ของโครงการกันต่อค่ะ
ภาพ Master Plan บริเวณชั้น 1 ของโครงการ แสดงเส้นทางการเดินรถภายในโครงการ
การเดินรถภายในโครงการเป็นการเดินรถแบบทางเดียว (One-way) หน้าโครงการจะมีทางเข้า-ออกทางเดียว คือฝั่งถนนลาดพร้าว จากประตูทางเข้าโครงการขับตรงเข้ามาบังคับเลี้ยวซ้ายผ่านจุด Drop off ตรงบริเวณด้านหน้า Grand Lobby จากนั้นให้ขับวนตามทางไปด้านหลังอาคารเพื่อไปยังทางขึ้นที่จอดรถ ส่วนเวลาจะออกก็ให้ขับวิ่งวนตามทางมาทางขวาเรื่อยๆ เพื่อกลับมายังด้านหน้าโครงการ โดยถนนถายในโครงการแคบสุดอยู่ที่ 6 เมตร จัดวางพื้นที่จอดรถยนต์ไว้ที่บริเวณชั้น 1 - 4 สามารถจอดรถได้ประมาณ 244 คัน หรือ 60% แบบรวมจอดซ้อนคัน มีพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor อยู่ที่ชั้น 1 มีทั้งพื้นที่จอดรถในร่มบริเวณใต้อาคาร และที่จอดรถกลางแจ้ง
ชั้น 1 : ประกอบด้วย Lobby, Shop ในอนาคตจะเปิดเป็น 7-Eleven อยู่ติดกับส่วนของ Lobby, ห้องนิติบุคคล, ลิฟต์โดยสาร ลิฟต์บริการ และที่จอดรถส่วนชั้น 2-4 : เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด
ชั้น 5 : มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง สวนหย่อม และห้องสมุด ห้อง Laundry และห้องพักอาศัยอีก 22 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 22 ยูนิต, ห้อง 1 Bedroom 15 ยูนิต และห้องแบบ 2 Bedrooms อีก 3 ยูนิต
ชั้น 6 : เป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มี 22 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 4 ยูนิต, ห้อง 1 Bedroom 14 ยูนิต
และห้องแบบ 2 Bedrooms อีก 4 ยูนิต
ชั้น 7 : เป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มี 24 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 4 ยูนิต, ห้อง 1 Bedroom 14 ยูนิต
และห้องแบบ 2 Bedrooms อีก 4 ยูนิต และห้อง Duplex เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ยูนิต
ชั้น 8 : จะคล้ายกันกับชั้น 7
ชั้น 25 : เป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มี 24 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 4 ยูนิต,
ห้อง 1 Bedroom 14 ยูนิต และห้องแบบ 2 Bedrooms อีก 6 ยูนิต
ชั้น 26-27 : จะคล้ายกันคือเป็นห้องขนาดใหญ่จำนวน 9 ยูนิต
แบ่งเป็นแบบ Penthouse 6 ยูนิต และแบบ Duplex Penthouse 3 ยูนิต
ชั้น 28 หรือ Roof top : เป็นชั้นของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness
, Sky Lounge และสวนหย่อมสีเขียวรอบๆ สระว่ายน้ำ
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ลูกบ้านถึงจะไม่หลากหลายมากนัก แต่ก็ถือว่าคุณภาพดี มีขนาดใหญ่ ดูหรูหราและน่าใช้งาน และยังจัดพื้นที่สวนสีเขียวภายในโครงการมาให้ค่อนข้างเยอะมากกว่า 40% โดยจะสอดแทรกอยู่ทุกชั้นของส่วนกลาง ทั้งบริเวณชั้น 1 ชั้น 5 และชั้น Rooftop ตามไปดูกันค่ะว่าแต่ละชั้นมีอะไรกันบ้าง
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ชั้น 1-4
Grand lobby แบบ Double Volume ความสูง 7 เมตร Drop-off area สวนสีเขียวส่วนกลาง Shop ร้านค้า ซึ่งในอนาคตคือ 7 Eleven เปิดบริการในโครงการ พื้นที่จอดรถ 244 คัน หรือ 60% แบบรวมจอดซ้อนคัน ป้ายชื่อโครงการบริเวณประตูทางเข้าออกโครงการ
ก่อนเข้าไปในโครงการจะมีไม้กระดกกั้นอยู่ พร้อมกล้อง CCTV
มีป้อม รปภ. คอยช่วยดูแลความปลอดภัย
ผ่านไม้กระดกเข้ามาจะเป็นถนนภายในโครงการมีลูกศรบอกทางให้เลี้ยวซ้าย
โดยตกแต่งพื้นที่ด้านหน้าบางส่วนเป็นส่วนหย่อม และน้ำพุเพิ่มความรู้สึกสดชื่นด้วยเสียงน้ำ และร่มเงาต้นไม้
เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นจุด Drop off อยู่บริเวณด้านหน้า Grand Lobby
จากจุด Drop off ให้ขับวนขวาไปตามทางเรื่อยๆ
ที่ชั้นนี้จะมีที่จอดรถทั้งในร่มบริเวณใต้อาคาร และที่จอดรถกลางแจ้ง
รั้วโครงการฝั่งนี้จะมีความสูงประมาณ 5 เมตร ซึ่งสูงเป็นพิเศษเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน
ที่จอดรถในร่มบริเวณด้านหลังอาคาร
ทางขึ้น-ลงที่จอดรถ สามารถวิ่งสวนกันได้
จากทางลงที่จอดรถขับวนมาทางขวามาทางทิศเหนือ ทางโครงการปลูกเป็นพื้นที่สีเขียวยาวตลอดแนวกำแพง ฝั่งนี้ก็ยังมีที่จอดรถใต้อาคารด้วยเช่นกัน
ขับตามทางต่อมาอีกนิดเดียวก็จะวนกลับมาที่ด้านหน้าประตูทางเข้า-ออกหลักโครงการ บรรยากาศบนพื้นที่จอดรถ บนเพดานติดตั้งกล้อง CCTV มาให้
ด้านหลังช่องจอดมีหมอนคอนกรีตสำหรับหยุดรถ
ประตูทางเข้าจากชั้นจอดรถมายังส่วนของโถงลิฟต์เข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ด
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ค่อนข้างสว่าง ทางโครงการติดไฟ LED บนเพดานมาให้ 4 ดวง
เดี๋ยวเราลงไปดูในส่วนของ Grand Lobby กันต่อค่ะ
ประตูทางเข้า Grand Lobby เป็นประตูบานเลื่อนระบบอัตโนมัติ 2 ชั้น โถง Lobby ออกแบบสไตล์ Modern Luxury
เพดานแบบ Double Volume มีความสูงเป็นพิเศษถึง 7 เมตร ดูหรูหราอลังการ
ทางโครงการวางชุดโซฟายาวไว้คอยต้อนรับแขก ภายใน Lobby มาในโทนสีเทาเข้มๆ
ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ทำให้ดูโปร่งสบาย เพดานตกแต่งด้วยระแนงโคมไฟสีขาว
อีกโซนของ Lobby เลือกใช้ระแนงโปร่งสีดำประดับไฟกั้นแบ่งโซนเพิ่มความเป็นสัดส่วน
ต้องขอบอกว่า Lobby ของโครงการนี้ทำออกมาได้สวยงามเหมือนนั่งอยู่ใน Lobby โรงแรมเลยทีเดียว
บรรยากากาศบริเวณ Lobby ในตอนกลางคืน
พื้นที่ Grand Lobby เชื่อมต่อกับส่วนของโถงลิฟต์ และห้องนิติบุคคล
บริเวณโถง Lift Lobby ออกแบบโดยใช้เส้นสายและแสงสีดูล้ำสมัย มีห้องจดหมายอยู่ 2 ฝั่ง
ห้องจดหมายออกแบบมาในโทนสีขาว
ตกแต่งด้วยกระจกเงาบานใหญ่ทำให้ดูห้องดูกว้างมากขึ้น ตู้จดหมายมีกุญแจสำหรับล็อคให้ด้วย
ลิฟต์โครงการของ Schindler แบบล็อคชั้น สามารเปิดได้เฉพาะชั้นที่ลูกบ้านถือครองอยู่และชั้นส่วนกลางเท่านั้น
มีตัวอักษรเบรลล์บนปุ่มกด
สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้น 5
Library เพดานสูงแบบ Double Volume Laundry room สวนหย่อม จากภาพทางซ้ายมือทางโครงการจัดพื้นที่บางส่วนเป็นสวนหย่อมให้ลูกบ้านขึ้นมานั่งเล่นได้
และทางขวาเป็นส่วนของห้องสมุด ห้อง Laundry และส่วนพักอาศัย
ห้องสมุดหรือห้องอ่านหนังสือก็ยังคงได้เพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่
สามารถมองเห็นวิวเมืองได้เต็มๆ ตา
และยังได้วิวสวนหย่อมด้านข้างอีกด้วย
ห้องสมุดจะเป็นแบบ e-Library ทางโครงการมีแอปพลิเคชั่นให้ลูกบ้านดาวน์โหลดมานั่งอ่านหนังสือได้
จัดชุดโซฟามาให้ลูกบ้านนั่งเล่นหลายชุด และยังมี Wi-Fi ให้บริการฟรีอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้น Rooftop
Sky infinity edged Swimming pool พร้อม Jacuzzi และสระเด็ก สวน Sky Garden ริมสระว่ายน้ำ Fully equipment Fitness เพดานสูงแบบ Double Volume Sky Lounge เพดานสูงแบบ Double Volume Sky Terrace ขึ้นมาอยู่ที่โถงลิฟต์บนชั้น Rooftop กันแล้วค่ะ
ออกประตูเลี้ยวซ้ายไปจะเป็น Sky Fitness และ Sky Lounge แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำ Sky infinity edged Swimming pool ระบบเกลือขนาด 7 x 31 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร
ขนาดค่อนข้างกว้างสามารถว่ายได้จริง
มีทั้งส่วนที่เป็นสระกลางแจ้ง และสระในร่ม สำหรับคนที่อยากว่ายน้ำแต่อาจจะไม่อยากโดนแดดจัดๆ เวลาที่มองขึ้นไปด้านบนจะเห็นเป็นเงาสะท้อนของน้ำ ยิ่งตอนกลางคืนถ้าเปิดไฟบริเวณสระว่ายน้ำแล้วจะทำให้บริเวณนี้ดูสวยยิ่งขึ้น
มีสระเด็กความลึกประมาณ 60 ซม. และ Jacuzzi ให้นอนแช่ตัวพร้อมระบบเจ็ทพ่นน้ำช่วยนวดตัว
สระว่ายน้ำจะได้วิวเปิดโล่งฝั่งทิศเหนือ สามารถมองเห็นวิวเมืองโดยเฉพาะตึกช้างได้อย่างชัดเจน
ตอนกลางคืนวิวจุดนี้คงจะสวยงามน่าดู
Upper deck ด้านบนเหนือสระว่ายน้ำ สามารถขึ้นไปยืนชมวิวได้
ภาพบรรยากาศสระว่ายน้ำในตอนกลางคืน
ไปดูห้อง Fitness และห้อง Sky Lounge กันต่อค่ะ
ส่วนบันไดที่เห็นทางขวาเป็นทางขึ้นไปยังที่จอดเฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินด้านบน
ห้อง Fitness ก็ยังคงออกแบบเพดานห้องสูงแบบ Double Volume เช่นกัน
ได้อุปกรณ์ออกกำลังกาย และเครื่องออกกำลังกายกว่า 10 เครื่อง ผนังฝั่งขวาตกแต่งด้วยกระจกเงาบานใหญ่
ยิ่งทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น
วางแอร์ตัวใหญ่แบบตั้งพื้นมาให้ด้วย 2 ตัวเพื่อให้ความเย็น
และในห้องนี้ก็ตกแต่งด้วยกระจกใสบานใหญ่ทำให้เทควิวได้อย่างชัดเจน
ทางเดินไปห้อง Sky Lounge ตกแต่งด้วยไฟ LED
ห้อง Sky Lounge ก็เพดานสูงเช่นกัน ตกแต่งด้วยกระจกรอบด้านดูสบายตา
ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาทำกิจกรรม นั่งเล่น อ่านหนังสือ
ห้อง Sky Lounge ก็เพดานสูงมากจริงๆ ห้องนี้จะได้วิวฝั่งทิศเหนือ และยังเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย
บรรยากาศภายในห้อง Sky Lounge ในยามค่ำคืน
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
Digital Door Lock ระบบ Key Card Access กล้อง CCTV ระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. 24 ชม. ฟรี Wi-Fi บริเวณส่วนกลาง ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน บริเวณโถงทางเดิน ระบบป้องกันอัคคีภัย ภาพห้องตัวอย่างและ Lay out
ห้องพักของโครงการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้จริง ขายแบบ Fully Fitted คือได้เป็นห้องเปล่าที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน โดยส่วนที่ได้จะจะมี Built-in สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ชุดเคาน์เตอร์ครัว (เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, อ่างล้างจาน) Built-in ตู้เสื้อผ้า และแอร์ Daikin
ตัวอย่าง Unit Plan ของโครงการ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา - ลาดพร้าว
ห้องแบบ 1 Bedroom - เนื้อที่ 30.00 - 38.00 ตร.ม. (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) ห้องแบบ 2 ห้องนอน Bedrooms - เนื้อที่ 47.00 - 56.00 ตร.ม. (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) ห้องแบบ Penthouse - เนื้อที่ 105.00 - 141.00 ตร.ม. (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างบนอาคารจริงกันค่ะ
โถงลิฟต์ค่อนข้างกว้างหันไปทางวิวทิศเหนือ ทางโครงการมีการเปิดกระจกบานกระทุ้งเพื่อให้ลมไหลผ่านเข้าออกได้ดี
โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร มีไฟ LED ส่องสว่างตลอดทางเดิน
ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.90 ตร.ม.
ประตูเป็น HDF ลายไม้ มือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Door Lock ของ Yale ใช้ได้ 3 ระบบทั้ง กุญแจ คีย์การ์ดและรหัสพาสเวิร์ด พร้อมช่องมองตาแมว ผนังด้านข้างประตูของทุกห้องทางโครงการติดช่องระบายอากาศมาให้
ช่องระบายอากาศสามารถเปิด-ปิดได้ พร้อมติดกริลป้องกันแมลงมาให้เรียบร้อย เป็นช่องสำหรับให้ลมที่เข้าทางหน้าต่างผ่านออกทางประตูไปสู่โถงทางเดินได้ ช่วยให้การถ่ายเทอากาศภายในห้องดียิ่งขึ้น
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ทางขวาของห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องนอน ห้องน้ำ และชั้นวางทีวี ทางซ้ายเป็นห้องครัว ความสูงของห้อง 2.8 เมตร พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
ในห้องนั่งเล่นได้แอร์ Daikin 1 ตัวติดตั้งเหนือประตูห้องน้ำ
ด้านหลังประตูติดตัวกันกระแทกมาให้ ห้องนี้วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ มีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้แบบสบายๆ
ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างประมาณ 2.4 เมตร
ห้องครัวแบบครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบอลูมิเนียม
พื้นห้องครัวปูด้วยลามิเนต 12 มม.
พื้นที่ภายในห้องครัวค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งไว้ภายในครัวได้
ระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับโต๊ะทานอาหารประมาณ 90 ซม.
โต๊ะทานอาหารวางชิดผนัง
ได้ชุดครัวตามแบบนี้เลยค่ะ หน้า Top เคาน์เตอร์เป็นแผ่นหินควอตซ์แข็งแรงทนทาน ด้านข้างมีพื้นที่เตรียมอาหาร
ได้อ่างล้างจานแบบฝัง เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้าเซรามิกของ Mex ผนังครัวกรุกระเบื้องทำความสะอาดง่าย
พื้นที่วางตู้เย็นขนาดประมาณ 70 x 70 ซม.
มีช่องเก็บของทั้งข้างบนและข้างล่าง หน้าบานเป็นเมลามีน บานพับตู้แบบ Soft Close
ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม 2 ตอน เป็นระเบียงใช้งานต่อท่อน้ำทิ้งมาให้ ราวระเบียงกันตกสูงประมาณ 1.25 ม.
ได้ไฟติดผนัง 1 ดวง ที่ระเบียงมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 ม. ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้เหนือฝ้า
มีช่องสำหรับเปิดซ่อมบำรุง
ไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ
สามารถวางเตียงได้ขนาด 5 ฟุต เหลือระยะเดินปลายเตียงประมาณ 40 ซม. หน้าต่างเป็นบานติดตาย และมีหน้าต่าง
บานกระทุ้งให้ 2 จุด ห้องนี้ก็จะได้วิวเปิดโล่งฝั่งทิศใต้ มองเห็นสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดา
ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะขนาดกะทัดรัดได้ 1 ตัว
ทางโครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built-in บานเปิด สูงจรดฝ้า ลึกประมาณ 70 ซม. สามารถวางกระเป๋าเดินทางได้สบายๆ
ภายในตู้มีไฟอัตโนมัติหน้าบานของตู้เสื้อผ้าปิดผิวด้วยเมลามีน ในห้องนอนได้แอร์ Daikin 1 เครื่อง ขนาด 12,000 BTU
ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ให้
ได้อ่างล้างหน้า ก๊อกผสมแบบก้านโยกปรับอุณหภูมิน้ำร้อนน้ำเย็นได้ ที่ผนังติดปลั๊กพร้อมฝาครอบกันน้ำ
สำหรับสาวๆ ที่ชอบไดร์ผมในห้องน้ำ
โถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำของ Cotto ในห้องน้ำ มีสายฉีดชำระอยู่ทางขวา และที่ใส่กระดาษทิชชู่ทางซ้ายมือ
พื้นที่อาบน้ำติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์มาให้ บานประตูแบบผลักเข้าข้างใน
ยกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก
ชุดฝักบัวสายอ่อนทรงกลมของ Cotto ผนังเซาะร่องเป็นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
บนเพดานได้ไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศของ Panasonic
โครงการเตรียมระบบ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้เหนือบริเวณฝ้าเพดาน
ปลั๊ก-สวิตช์ของ Panasonic
ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม.
ประตูได้ Digital Door Lock และช่องมองตาแมว ที่ผนังมีช่องระบายอากาศเช่นกัน
เข้ามาเจอกับห้องครัวแบบเปิด พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ความหนา 8 มม. ความสูงของห้อง 2.8 เมตร
ได้เคาน์เตอร์ครัวรูปทรงตัว L พร้อมช่องเก็บของทั้งข้างบนและข้างล่าง มีพื้นที่เตรียมอาหารเยอะขึ้นกว่าห้องที่แล้ว
พื้นที่วางตู้เย็นอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับโต๊ะทานอาหาร
วางโต๊ะทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะติดกับพื้นที่ของระเบียง ได้แอร์ 1 ตัว
ยกธรณีรวมกับกรอบอลูมิเนียมสูงประมาณ 10 ซม.
ประตูมือจับก้านโยกแบบเปิดเข้าด้านใน
ผนังห้องของจริงจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสี ข้างเตียง Built-in เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง (เป็นของตกแต่ง) ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดฝ้า
ได้แอร์ 1 เครื่องติดตั้งเหนือประตูห้องน้ำ
แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้
ได้อ่างล้างหน้าแบบฝังมีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ ก๊อกผสมก้านโยกปรับน้ำร้อนน้ำเย็นได้
ปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ เหมือนกับห้องที่แล้ว
ภาพห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.61 ตร.ม.
พื้นห้องยกสูงขึ้นมาจากโถงทางเดินประมาณ 4 ซม.
เปิดเข้ามาจะเจอกับห้องครัวที่เชื่อมต่อกับนั่งเล่น แบ่งห้องนอนใหญ่ กับห้องนอนเล็กแยกไว้ฝั่งซ้ายและขวา
โดยทุกห้องสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งหมด
ห้องนี้จัดห้องนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร และระเบียงที่เป็นประตูกระจกบานเลื่อน
ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะขึ้นช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี
ทางโครงการจัดโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่างตั้งอยู่บริเวณกลางห้อง
มุมห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ขนาด 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวี 2.2 เมตร พื้นที่โซนห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะได้แอร์แบบฝังฝ้า
ที่ระเบียงซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบนเช่นเคย เพื่อจะได้ใช้งานพื้นที่บริเวณระเบียงได้อย่างเต็มที่
ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดขนาดใหญ่ขึ้น พื้นที่เก็บของก็เยอะขึ้นด้วย อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นฉุนมากนัก
เครื่องดูดควัน ดูดความร้อนและกลิ่นสู่ภายนอกอาคารโดยตรง
ย้ายเข้าไปดูในห้อง Master bedroom กันต่อค่ะ ประตูแบบเปิดเข้าด้านใน มือจับแบบก้านโยก
ทางเข้าห้องนอนจบด้วยลามิเนตลายไม้
สามารถวางเตียงแบบ 5-6 ฟุตได้ ได้หน้าต่างบานกระทุ้ง และบานติดตายเช่นเคย แต่เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องมุมทำให้ได้หน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณหัวเตียงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 บาน ถ้าเปิดกระจกออกไปทั้งหมดก็จะทำให้ลมผ่านได้ดี
ปลายเตียงยังเหลือพื้นที่เดินปลายเตียงประมาณ 50 ซม.
สำหรับคนที่ชอบดูทีวีในห้องนอน จะหาทีวีมาแขวนไว้ที่ผนังด้วยก็ได้
มีห้องน้ำในตัวแบบ Sexy Bath สามารถติดม่าน หรือมู่ลี่เพื่อความมิดชิดและเพิ่มความเป็นส่วนตัว
หน้าห้องน้ำ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้สูงจรดฝ้า ใกล้ๆ กันหาโต๊ะเครื่องแป้งมาตั้งตรงจุดนี้ไว้สำหรับแต่งตัวก็ถือเป็นไอเดียที่ดีส่วนประตูห้องน้ำเป็นแบบบานเลื่อน มือจับอลูมิเนียม หน้าบานทึบแสง
แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเหมือนเดิม
ประตูห้องนอนเล็กได้มือจับก้านโยกเช่นกัน
ภายในห้องนอนเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ยังคงได้หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง
ปลายเตียงเหลือระยะเดิน 55 ซม.
ระยะเดินจากเตียงถึงหน้าต่างประมาณ 50 ซม.
ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ทางซ้ายของเตียง และแอร์ 1 เครื่องติดอยู่เหนือประตูห้อง
ห้องน้ำนี้ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเล็ก ได้สุขภัณฑ์ของ Cotto มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เหมือนกัน
ภายในแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 3 ส่วนเหมือนเดิม คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (ก.ย. 60)
ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยรวมทั้งโครงการประมาณ 153,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 60 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ เงินกองทุนแรกเข้า : 600 บาท/ตร.ม. (เก็บครั้งเดียว) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
สถานะปัจจุบันของโครงการ (ก.ย. 60)
โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนประมาณเดือนกันยายน ปี 2560 นี้ ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 85% โดยห้องที่ยังเปิดขายปัจจุบันยังมีให้เลือกเกือบทุกแบบยกเว้นห้องแบบ Duplex และ Duplex Penthouse ที่ Sold Out หมดแล้ว