รีวิว-เยี่ยมชม โครงการ ยูนิโอ เอช ติวานนท์ (UNIO H Tiwanon)

วันนี้ CheckRaka พาทุกคนมาชมคอนโดมิเนียม ยูนิโอ เอช ติวานนท์ (Unio H Tiwanon) เป็นคอนโด High Rise ตัวแรกของแบรนด์ Unio ซึ่งยกระดับความพรีเมียมมากขึ้นแตกต่างจาก Unio ที่เคยผ่านๆ มาทั้งในด้านทำเล และเป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ Unio ที่ใกล้รถไฟฟ้า โดยตัวโครงการห่างจาก MRT สายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ประมาณ 100 เมตร การออกแบบดีไซน์ รวมไปถึงวัสดุที่เลือกใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบให้ จำนวนยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน ว่าแล้วก็ตามเราไปชมบรรยากาศของโครงการนี้กันเลยค่ะ

• เจ้าของโครงการ: บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ: ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
• อาคารชุดพักอาศัย: High-Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
• จำนวนห้อง: 378 ยูนิต
• ขนาดที่ดินทั้งโครงการ: 1-2-24.8 ไร่
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ขนส่ง 1 ตัว
• ห้องชุดพักอาศัย: Studio 24.3 - 25.7 ตร.ม., 1 Bedroom 28.3 - 33.5 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 42.8 - 43.8 ตร.ม.
• ที่จอดรถ: ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท (ณ วันที่ 29 พ.ค. 60)
• สถานะ: อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณไตรมาส 1 ของปี 2562
• วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ค. 60

บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2010 มีทุนจดทะเบียน 192,200,000 บาท (ชำระเต็มมูลค่า) มีนายจุฑา พรมชินวงศ์ เป็นกรรมการผู้จัดการคนปัจจุบัน เปิดขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "ยูนิโอ" (Unio) เป็นคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่ เน้นคนรุ่นใหม่วัยเริ่มต้นทำงาน โดยเฉพาะ กลุ่ม Gen C ในแบบคอนโดมิเนียม Low rise โดยโครงการที่ผ่านมาประกอบด้วย ยูนิโอ จรัญฯ 3, ยูนิโอ สุขุมวิท 72, ยูนิโอ พระราม 2 - ท่าข้าม, ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย และยูนิโอ เอช ติวานนท์

แผนที่ตั้งโครงการ (คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

แผนที่ตั้งและสถานที่ใกล้เคียงโครงการ Unio H Tivanon
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

การเดินทางเข้าออกโครงการ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ดังนี้

1. การเดินทางโดยรถยนต์

• การเดินทางเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 จากถนนงามวงศ์วาน

เส้นทางใน Google Map

เริ่มต้นจากถนนงามวงศ์วาน ชิดซ้ายไม่ขึ้นสะพานนะคะ

ผ่านธนาคารกรุงเทพ เลี้ยวซ้ายที่แยกแคราย

มุ่งหน้าไปตามถนนติวานนท์ ผ่าน MRT สายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข

มุ่งหน้าต่อไปตามถนนติวานนท์ ชิดซ้ายไม่ขึ้นสะพาน

เลี้ยวซ้ายที่แยกติวานนท์

จากแยกติวานนท์มาถึงสำนักงานขายโครงการ Unio H Tiwanon ประมาณ 100 ม. เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ

ถ้าจะไปยังที่ตั้งโครงการก็ขับเลยจากสำนักงานขายมา ผ่าน MRT สถานีแยกติวานนท์

จากสำนักงานขายมาถึงโครงการ ระยะห่างประมาณ 400 เมตร
หรือถ้าเลยจากรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์มาถึงโครงการประมาณ 100 เมตรค่ะ

• การเดินทางเข้าโครงการเส้นทางที่ 2 จากทางด่วนศรีรัช

• การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 1 ขึ้นทางด่วนศรีรัช

• การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 2 ข้ามไปฝั่งธนบุรีโดยใช้ถนนนครอินทร์ ข้าสะพานพระราม 5

2. การเดินทางโดยรถไฟฟ้า

เส้นทางรถไฟฟ้า

เส้นทางรถไฟฟ้าได้ขยายตัวมารอบนอกกรุงเทพฯ สายแรกที่เปิดให้บริการเมื่อมิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน มี 16 สถานีด้วยกันนะคะ ระยะทางอยู่ที่ 23 กิโลเมตร ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14-42 บาทค่ะ ซึ่งรางรถไฟฟ้าจะทอดยาวไปตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ผ่านที่ตั้งโครงการ Unio H Tiwanon) ถนนติวานนท์ แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ๆ สะพานพระนั่งเกล้า แล้วเลี้ยวขวาไปยังถนนกาญจนาภิเษก จุดสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีม่วงสิ้นสุดที่สถานีคลองบางไผ่ 

สำหรับปัญหาเรื่องจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่หายไปนั้นก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2560 แล้วนะคะ คราวนี้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกแล้วล่ะค่ะ

นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่ตัดผ่านมาเชื่อมที่สถานีบางซื่อด้วย อย่างสายสีแดงอ่อน สีแดงเข้ม ที่สามารถเดินทางไปได้ถึง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต หรืออีกฝั่งก็ไปได้ถึงมหาชัย หรือถ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ หรือเชื่อมต่อกับสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีก็สะดวก นับว่าเส้นทางในอนาคตการเดินทางจะสะดวกขึ้นมาก ช่วยให้ชีวิตคนเมืองเชื่อมต่อกันได้ง่ายดาย

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

ด้านหน้าสำนักงานขายของโครงการ Unio H ติวานนท์

ถนนด้านหน้าสำนักงานขาย

มุ่งหน้าไปทางแยกติวานนท์ สังเกตป้าย BigC ติวานนท์นะคะ ห่างจากโครงการประมาณ 850 เมตรเองค่ะ

มุมนี้มุ่งหน้าไปจะเป็นรถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุขค่ะ

คราวนี้เราเดินไปดูทางที่จะเดินไปยังโครงการ และรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์กันค่ะ

ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหาร

ผ่านร้านแฟมิลี่มาร์ท

ถึงสถานีแยกติวานนท์แล้วค่ะ

ขึ้นมาด้านบนสถานีแยกติวานนท์กันบ้าง

เดินต่อไปอีกประมาณ 100 เมตรก็ถึงหน้าโครงการ Unio H Tiwanon แล้วค่ะ

ยูนิโอ เอช ติวานนท์ ยังคงคอนเซปต์ ใกล้ คุ้ม ครบ ตามแบบฉบับของ Unio ซึ่งโครงการนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด "LIVE IN SYNC ต่อติดชีวิตในแบบคุณ" เน้นการจัดวางองค์ประกอบอาคารอย่างเรียบง่าย เพิ่มความใส่ใจกับเส้นสายที่เรียบง่าย เป็นระเบียบ ตัวอาคารออกแบบเป็นสไตล์ Modern เป็นอาคารพักอาศัยสูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 378 ยูนิต พื้นที่ชั้น 1-7 เป็นที่จอดรถ จอดได้ 40% หรือประมาณ 160 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ส่วนชั้น 8-36 จะเป็นห้องพักอาศัย

หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห้องฝั่งทิศนี้จะได้วิวเมือง ห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 20 ขึ้นไปจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวอาคารพักอาศัยมีระยะร่นจากถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ประมาณ 25 เมตร หรือจากหน้าโครงการถึงทางขึ้นรถไฟฟ้าประมาณ 100 เมตร เช่นกัน สามารถขึ้นได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ฝั่งทิศตะวันตกของโครงการปัจจุบันติดกับสำนักงานขายโครงการแอมเบอร์ ซึ่งในอนาคตคงต้องลุ้นกันอีกทีว่าจะถูกพัฒนาเป็นอะไรต่อไป

ฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับโครงการแอมเบอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งระหว่างโครงการกั้นด้วยพื้นที่เปล่ามีระยะห่างระหว่างอาคารอยู่ที่ประมาณ 50 เมตร

ด้านหลังอาคารจะเป็นฝั่งทิศเหนือ พื้นที่จะเป็นพื้นที่เฉียงๆ หน่อย ห้องฝั่งนี้บนชั้นสูงๆ สามารถมองเห็นวิวกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทิศนี้จะค่อนข้างได้ความเงียบสงบมากกว่าทิศอื่นๆ

ด้านหน้าโครงการทั้ง 2 ฝั่งจะติดกับอาคารพาณิชย์เก่าสูง 3 ชั้น เส้นทางการเดินรถภายในโครงการ เดินรถแบบ One way จากประตูทางเข้าขับเข้ามาวนไปทางซ้าย วนรอบอาคารเพื่อไปยังทางขึ้นอาคารจอดรถ แล้วก็วนรถออกด้านหลังป้อม รปภ. ด้านหน้าทางเข้าหน้ากว้างประมาณ 15 เมตร มีทางเดิน Walkway เพื่อความปลอดภัยในการเดินมาขึ้นรถบริเวณด้านหน้าโครงการ รั้วโครงการสูงประมาณ 2.50 เมตร

 จากถนนขับเข้าโครงการมาจะมีไม้กระดกกั้น มีจุด Drop off อยู่ด้านหน้าบริเวณทางเข้า Lobby 

ที่ชั้น 1 จะมีที่จอดรถระบบไฟฟ้า 2 คัน สำหรับให้ลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถมาชาร์จพลังงานแบตเตอร์รี่ได้ที่จุดนี้ (อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับนิติบุคคล) ซึ่งอยู่ติดกับส่วนของ Lobby ซึ่งจุดนี้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ขึ้นอยู่กับนิติบุคคล

ชั้น 1 บริเวณด้านหลังจัดเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นลานกิจกรรมกลางแจ้ง และเป็นลานโยคะ และยังมีพื้นที่จอดรถใต้อาคารได้อีกประมาณ 10 คัน

จากลานกิจกรรมกลางแจ้งวิ่งวนมาจะเจอกับทางขึ้นลงที่จอดรถ หรือหากขับตรงมาจะผ่านป้อม รปภ. เพื่อกลับไปยังประตูทางเข้าหน้าโครงการ

ขึ้นมาที่ชั้น 8 สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือแบบน้ำล้น ขนาด 6.5 x 18. ม. ลึก 1.2 ม. ซึ่งจะแบ่งเป็นช่องเล็กๆ อีก ด้านริมสุดจะจัดเป็นเตียง Daybed ถัดมาเป็นบ่อออนเซ็นระบบน้ำอุ่นกั้นด้วยปูนและกระจก ระหว่างออนเซ็นกับสระว่ายน้ำ และถัดมาเป็นสระเด็ก ขนาด 2.7 x 4.8 ลึก 0.4 ม. และชั้นนี้ยังมีซาวน่าแยกชายหญิงมาให้อีกด้วย

ด้านหน้าสระว่ายน้ำจัดเป็นสวนหย่อมซึ่งเป็นจุดชมวิวมีมุมม้านั่งสำหรับให้ลูกบ้านมานั่งเล่นได้บริเวณนี้ เพราะชั้นนี้จะสูงเลยระดับของรถไฟฟ้าขึ้นมาแล้วดังนั้นสามารถขึ้นมาเทควิวเมืองได้

ขึ้นมาที่ชั้น 9 จะเป็นห้องฟิตเนสแบบ Double Volume เนื้อที่ประมาณ 60 ตร.ม. กินพื้นที่ชั้น 10 บางส่วน มีอุปกรณ์มาให้ประมาณ 7 เครื่อง ความสูงผนังเป็นกระจกใสสูง 5 เมตร  สามารถเทควิวสระว่ายน้ำ และวิวรถไฟฟ้าได้

ชั้น 36 จะจัดเป็นสวน เป็นเลานจ์ สำหรับให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ มีบันไดวนสำหรับเดินขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งชั้นดาดฟ้าจะมีลานกิจกรรมต่างๆ อาทิ Jogging Track เป็นวงกลมความยามประมาณ 50 เมตร และ พื้นที่สำหรับยืดกล้ามเนื้อ ลานออกกำลังกาย ระเบียงสำหรับชมวิว พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน สวนและสนามหญ้า ซึ่งบนชั้นนี้สามารถเทควิวได้ 180 องศา โดยถ้าเริ่มวิ่งจากบันไดบนแล้วไปต่อที่ Jogging Track จะรวมระยะทางได้ประมาณ 250 เมตร เรียกว่าได้เหงื่อกันเลยทีเดียว

ต้องบอกว่าโครงการนี้เค้าจัดพื้นที่สีเขียวมาให้ลูกบ้านเยอะมาก ตั้งแต่ชั้น 8 ชั้น 36 และชั้นดาดฟ้า เพิ่มพื้นที่สำหรับให้ลูกบ้านได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่

ไปดู Master Plan และ Floor Plan ของแต่ละชั้นกันต่อค่ะ

ชั้นล่าง : ประกอบด้วยโถงต้อนรับ, สวนหย่อมส่วนกลาง,ห้องซักรีด, ห้องประชุม, ห้องจดหมาย และที่จอดรถ

ชั้น 2 - ชั้น 7 : เป็นพื้นที่จอดรถ ความสูงประมาณ 2.30 เมตร

ชั้น 8 :  ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย และส่วนกลาง ระหว่างโซนพักอาศัยกับส่วนกลางจะมีระบบรักษาความปลอดภัย เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด เข้าได้เฉพาะลูกบ้านที่พักอาศัยชั้นนี้เท่านั้น ชั้นนี้มีห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 7 ยูนิต แบ่งเป็นห้องขนาด 28.30 ตร.ม. ห้องขนาด 33.50 ตร.ม. และห้องขนาด 42.80 ตร.ม. ส่วนกลางของชั้นนี้ก็มีสระว่ายน้ำ ออนเซ็น และพื้นที่สวนพักผ่อน

ชั้น 9 : เป็นชั้นของห้องฟิตเนส และห้องพักอาศัยอีก 7 ยูนิต แบ่งเป็นห้องขนาด 28.30 ตร.ม. ห้องขนาด 33.50 ตร.ม. และห้องขนาด 42.80 ตร.ม. 

ชั้น 9, 10 : เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จะมีห้องพักอาศัย 7 ยูนิตต่อชั้น แบ่งเป็นห้องขนาด 28.30 ตร.ม. ห้องขนาด 33.50 ตร.ม. และห้องขนาด 42.80 ตร.ม.

ชั้น 11-35 : จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดมียูนิตพักอาศัยอยู่ที่ 14 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไป ห้องมุมจะห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตร.ม. มี 4 ห้องต่อชั้น ห้องโซนด้านหน้าจะหันหน้าเข้ารถไฟฟ้า ขนาด 32.30 ตร.ม. ถ้าเป็นด้านหลังทิศเหนือวิวกระทรวงฯ จะเป็นห้องขนาด 28.30 ตร.ม. 3 ห้อง ส่วนห้อง Studio ขนาด 24.3 ตร.ม. จะมีแค่ 2 ยูนิตต่อชั้น และขนาด 25.7 ตร.ม. อีก 2 ยูนิตต่อชั้นเช่นกัน

ชั้น 36 : มีห้องชุดพักอาศัย 7 ยูนิต แบ่งเป็นห้องขนาด 28.30 ตร.ม. ห้องขนาด 33.50 ตร.ม. และห้องขนาด 42.80 ตร.ม., มีสวนส่วนกลางแบบไล่ระดับ และมีเดินขึ้นบันไดวนไปที่ชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้า : เป็นสวนส่วนกลาง อาทิ Jogging Track ความยาว 50 เมตร, พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน และสนามหญ้า

• ล็อบบี้ แบบ Double Volume สูง 3.5 เมตร 
• ตู้จดหมาย
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ขนาด 6.5 x 18. ม. ลึก 1.2 ม.
• สระว่ายน้ำเด็ก ขนาด 2.7 x 4.8 ลึก 0.4 ม. 
• สระออนเซ็นน้ำอุ่น ขนาด 2.7 x 4.8 ลึก 0.75 ม. ก่อเป็นกระจกกั้นระหว่างน้ำอุ่นกับน้ำเย็นเป็นแบบน้ำล้น
• พื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำ หันหน้าเข้าหาถนนใหญ่
• ระเบียงสวน
• ห้องฟิตเนส ความสูง 5 เมตร พร้อมเครื่องออกกำลังกาย
• ซาวน่าแยกชาย-หญิง
• สวนพักผ่อนลอยฟ้า
• ลานออกกำลังกาย
• Jogging Track ชั้นดาดฟ้า
• ห้องซักรีด (ไม่รวมอุปกรณ์)
• รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายบริเวณที่โครงการกำหนด
• ระบบ Access Card Control
• กล้องวงจรปิด CCTV
• ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 126 : 1 แบบล็อคชั้น
• ลิฟต์บริการ 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ภาพจำลองบรรยากาศล็อบบี้ ซึ่งมีพื้นที่ขนาด 200 ตร.ม. แบบ Double Volume ความสูง 3.5 เมตร

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำระบบเกลือ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้องฟิตเนส

ภาพจำลองบรรยากาศภายพื้นที่อ่านหนังสือ

ภาพจำลองบรรยากาศสวนบนชั้น 36 และชั้นดาดฟ้า

ห้องของโครงการขายแบบ Fully Fitted ของแถมมาตฐานที่ทางโครงการให้มามีเพียงชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ (ไม่ได้โต๊ะทานอาหาร ตู้เสื้อผ้า เตียง ชั้นวางทีวี ม่าน วอลล์เปเปอร์) ซึ่ง Layout ห้องของโครงการนี้เป็นรูปแบบดีไซน์ใหม่แตกต่างจากโครงการที่ผ่านๆ มาของ Unio โดยออกแบบให้ห้องมีความสูงถึง 2.65 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นไม่อึดอัด มีทั้งหมด 3 Type แบ่งเป็น

1. แบบ Studio มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 2 ขนาด 24.3 ตร.ม. และ 25.7 ตร.ม.
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)
2. แบบ 1 Bedroom มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 3 ขนาด 28.3 ตร.ม., 32.3 ตร.ม. และ 33.5 ตร.ม.
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)
3. แบบ 1 Bedroom Plus มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 42.8 - 43.8 ตร.ม. จะมีทั้งหมด 8 ยูนิต ซึ้งทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้นส่วนกลาง (ชั้น 8, 9, 10, 36) ชั้นละ 2 ยูนิต
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)

1) ห้องตัวอย่างแบบ Studio พื้นที่ใช้สอยขนาด 24.30 ตร.ม.

ทุกห้องได้ Digital Door lock ระบบ Card กับ Password ของ Samsung มือจับแบบก้านโยก และกุญแจของ HAFELE พร้อมช่องมองตาแมวเป็น HDF เคลือบเมลามีนกันน้ำ

ประตูสำเร็จรูปไฟเบอร์ซีเมนต์ มีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าประตูไม้อัด ห้องจริงจะได้ประตูขนาดประมาณ 0.9x2 เมตร ที่เห็นในห้องตัวอย่างจะกว้างกว่าห้องจริง ความสูงจากพื้นถึงเพดานห้องครัว กับห้องน้ำสูง 2.4 เมตร ส่วนห้องนอน และห้องนั่งเล่นสูง 2.65 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงทำให้ห้องดูโปร่ง ไฟติดเพดานเป็น LED ประหยัดพลังงาน แสงวอร์มไวท์ดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมตามแบบห้องตัวอย่าง

พื้นห้องยกสูงจากโถงทางเดินประมาณ 3 ซม. พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.
ได้ขอบบัวที่ผนังด้วย ผนังห้องเป็นพรีคาสต์ฉาบเรียบทาสี

เข้ามาในห้องโซนแรกที่เจอคือห้องครัว ซึ่งเป็นแบบครัวเปิด

มีช่องเก็บของทั้งด้านบนและล่าง ตู้เบรคเกอร์อยู่ด้านบนฝั่งขวามือ ส่วนช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่าง
บานเปิดเป็น Soft Close ทั้งหมด ยกเว้นลิ้นชักที่เป็นแบบธรรมดา

 ชุดเคาน์เตอร์ครัวหน้า Top เป็นหินแกรนิตแท้สีดำ แข็งแรง และทนความร้อนได้ดี 
อ่างล้างจานสแตนเลสแบบหลุมเดียว และเตาไฟฟ้า 2 หัวของ HAFELE
มีจับออกแบบมาได้สวยงามน่าใช้งานทำให้จับถนัดมือมาขึ้น

ได้เครื่องดูดควันระบบระบายออกด้านนอกทางระเบียง
ผนังกรุกระเบื้องให้ตามนี้ ติดไฟราวแสงวอร์มไวท์ตามแบบนี้ ช่วยให้ความสว่างเวลาทำอาหาร

ที่ผนังบริเวณเคาน์เตอร์ครัวทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟแบบกันน้ำของ Panasonic มาให้ด้วย

ติดเคาน์เตอร์ครัวสามารถวางโต๊ะทานข้าวได้แบบ 2 ที่นั่ง

ฝั่งตรงข้ามครัวทางโครงการตั้งเป็นชั้นวางรองเท้ามาให้ดู ซึ่งหากไม่เลื่อนเก้าอี้ออกมาก็ยังเหลือระยะเดินอยู่พอสมควร
และถัดจากห้องครัวจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น

 พื้นที่โซนห้องนั่งเล่นขนาดไม่ใหญ่มาก จึงเหมาะกับการวางชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดเล็กๆ แค่เพียงนั่งเล่นเท่านั้น
ถ้าวางเป็นโซฟาจะทำให้ห้องดูอึดอัดไปหน่อย

ที่ผนังใต้ทีวีติดตั้งจุดโทรศัพท์ จุดสัญญาณทีวี เคเบิล มาให้เรียบร้อย

 ประตูกระจกลามิเนตหนา 4 มม. คุณภาพดีกว่ากระจกสีเขียวตัดแสง ความสูง 2.40 เมตร
ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นเปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย

ติดตัวล็อคตรงกลางแบบก้นหอยมาให้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน

ความกว้างของระเบียงจะไม่เท่ากันในแต่ละห้อง กว้างประมาณ 1 เมตร แต่ความยาวมีตั้งแต่ 1.6-2.4 เมตร
ห้องนี้ระเบียงขนาดประมาณ 1 x 1.9 เมตร ราวระเบียงเหล็กซี่สูง 1.2 เมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน มีความปลอดภัยมากขึ้น
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนออกแบบให้มีความลาดเอียงเพื่อช่วยเรื่องการไหลของน้ำให้ระบายลงท่อน้ำทิ้งได้ดียิ่งขึ้น

เครื่องซักผ้าวางไว้ทางฝั่งขวาของระเบียง มีก๊อกน้ำสแตนเลสมาให้ 1 อัน ผนังได้ปลั๊กกันน้ำ
คอมเพรสเซอร์แอร์แขนไว้เหนือเครื่องซักผ้า หากริลมาติดเพิ่มเพื่อช่วยเป่าลมร้อนออกไปด้านนอกระเบียงก็จะดี
บนเพดานได้ไฟ LED 1 ดวง

เข้าไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ

ภายในห้องนอนที่ส่งมอบให้ลูกค้าได้เพียงเครื่องปรับอากาศ 1 ตัว ติดตั้งไว้ที่ผนังบริเวณปลายเตียง
ส่วนที่เห็นในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น ในห้องนอนสามารถนั่งดูทีวีจากเตียงนอนเลยก็ยังได้

กระจกในห้องนอนก็เป็นลามิเนตได้แบบบานกระทุ้ง และบานติดตาย ความสูง 2.40 เมตร

ที่กระจกบานกระทุ้งเสริมขอบยางซิลิโคนช่วยป้องกันน้ำรั่วซึมเข้ามาภายในห้องพัก

ภายในห้องวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู เหลือพื้นที่ข้างเตียงถึงหน้าต่างแค่พอยืนได้

ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าอยู่ฝั่งเดียวกับห้องน้ำ

ระยะห่างจากเตียงถึงตู้เสื้อผ้าเปิดได้ไม่ชน

ธรณีห้องน้ำเป็นหินแกรนิตสีดำยกสูงขึ้นประมาณ 2 ซม. กระเบื้องปูพื้นได้สีตามนี้

ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่โซนแห้งโซนเปียกไว้ชัดเจน
กระจกเงาทรงสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากดีไซน์ตามนี้

อ่างล้างหน้าของ American standard ด้านล่างไม่มีช่องเก็บของ

โถสุขภัณฑ์ของ American standard เช่นกัน

หน้าตาสายฉีกชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ก็เป็นของ American standard

พื้นที่โซนอาบน้ำลดระดับลง 3 ซม. ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยเทมเปอร์ยี่ห้อ VRH แบบเปิดเข้า
ราวจับอะลูมิเนียมสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ ที่ผนังด้านหลังประตูติดตัวกันกระแทก บนเพดานติดพัดลมดูดอากาศ

สุขภัณฑ์ภายในโซนอาบเป็นของ American standard เช่นกัน ได้เหมือนในห้องตัวอย่างทั้งหมดเลยค่ะ

ปลั๊กและสวิตช์ไฟเป็นของ Panasonic ทั้งหมดหรือเทียบเท่า

2) ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 28.30 ตร.ม.

จากประตูห้องมองเข้ามาทางขวาจะเป็นส่วนของห้องครัว เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และทางซ้ายจะเป็นห้องนอนกับห้องน้ำ

ห้องนี้ได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ขึ้น มีพื้นที่เก็บของเพิ่มมากขึ้น

ได้โต๊ะรับประทานอาหารทรงสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารก็ได้
สามารถเลื่อนเก็บได้เวลาไม่ใช้งาน แต่ไม่ได้เก้าอี้นะคะ

ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นที่ตั้งของตู้วางรองเท้า และห้องน้ำแบบ Double Access ที่เข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอน และจากห้องครัว เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องเวลาที่เพื่อนมาจะได้ไม่ต้องเดินผ่านไปในส่วนของห้องนอน
โดยประตูฝั่งห้องครัวเป็นประตูไม้สังเคราะห์แบบบานสไลด์ ส่วนฝั่งห้องนอนเป็นประตูบานสวิงเปิดเข้าด้านในมือจับก้านโยก

ถัดจากโต๊ะทานอาหารเข้ามาจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ระยะดูทีวีพอดีๆ ไม่ใกล้จนเกินไป

ได้เครื่องปรับอากาศ 1 ตัวที่ห้องนั่งเล่น ห้องจริงจะไม่มีเสาแบบนี้นะคะ จะเป็นผนังเรียบสามารถวางโซฟาได้ขนาด 2 ที่นั่ง

ระเบียงกว้างขึ้นจากห้องที่แล้ว กว้างประมาณ 1.1 x 2.4 เมตร คอมเพรสเซอร์แอร์ และเครื่องซักผ้าตั้งอยู่ทางขวา

เข้าไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ ประตูห้องนอนเป็นแบบบานสวิงเปิดเข้าด้านในมือจับก้านโยก

ในห้องนอนได้แอร์อีก 1 ตัว ติดตั้งบริเวณผนังฝั่งปลายเตียง
ข้างเตียงสามารถวางเป็นโต๊ะทำงาน หรือจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
สำหรับคนที่ชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำให้ติดเป็นทีวีแขวนผนังเพื่อจะได้เหลือพื้นที่ในการเดินบริเวณปลายเตียง

ได้หน้าต่างทรงสูง มีบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน

ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ

ภายในตู้เสื้อผ้าหน้าตาแบบนี้ค่ะ ตามไปดูห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเหมือนกันกับห้องที่แล้ว

ได้ฉากกั้นอาบน้ำ พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย

ที่ผนังของห้องนี้เจาะเป็นช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

ราคาเริ่มต้น

• ห้อง Studio ราคา 1.59  - 2.11 ล้านบาท จอง 10,000 บาท
• ห้อง 1 Bedroom ราคา 2.02 - 4.02 ล้านบาท จอง 10,000 บาท
• ห้อง 1 Bedroom Plus ราคา 3.62 - 3.86 ล้านบาท จอง 20,000 บาท

ค่าใช้จ่ายส่วนกลางอัตรา 58 บาท/ตารางเมตร/เดือน โดยเรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี
เงินกองทุนอาคารชุดอัตรา 500 บาท/ตารางเมตร ชำระครั้งเดียว
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน (ชำระคนละครึ่ง)
ค่าจดจำนอง 1% (กรณีลูกค้าใช้สินเชื่อกับทางธนาคาร)

ตัวโครงการ ยูนิโอ เอช ติวานนท์ ผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว โดยเปิด Pre-Sales อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 20-21 พ.ค.60 ที่ผ่านมา ปัจจุบันเปิดขายเฉพาะชั้น 11-20 มียอดขายรวมทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 40% สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้ทุกวันที่สำนักงานขายโครงการ เวลา 9.00 น. - 18.00 น. 

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-147-4697-98

ดูรายละเอียดโครงการ ยูนิโอ เอช ติวานนท์ (Unio H Tiwanon)