รีวิว-เยี่ยมชม โครงการซายน์ สุขุมวิท 50 (Sign Sukhumvit 50)
วันนี้ CheckRaka.com พามาเยี่ยมชมคอนโดมิเนียม Low-Rise ใจกลางเมืองในย่านอ่อนนุช
ซายน์ สุขุมวิท 50 (Sign Sukhumvit 50) เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย และทำเลที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักอาศัยอย่างแท้จริง เพียง 5 นาทีจาก BTS อ่อนนุช พร้อมรถรับ-ส่ง (ไป-กลับ BTS อ่อนนุช) และ โลตัส อ่อนนุช และเพียง 10 นาที ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ย่านเอกมัย และทองหล่อ เดินทางง่ายด้วยจุดขึ้น-ลง ทางด่วน 2 เส้นทาง ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยแสงอุทัยประมาณ 200 เมตร โดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม และการตกแต่งดีไซน์ภายในห้องที่ได้แบบครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน และบานเฟี้ยมลายฉลุสีขาวที่โดดเด่นสะดุดตา ตามไปชมความสวยงามของโครงการนี้กันค่ะ
VIDEO
เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ: ซอยสุขุมวิท 50 พระโขนง คลองเตย กรุงเทพฯ อาคารชุดพักอาศัยสูง : คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 105 ยูนิต พื้นที่โครงการทั้งหมด : 0-2-54.1 ไร่ ลิฟต์ : ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ห้องชุดพักอาศัย : 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom (ขนาด 26.14 - 49.81 ตร.ม.) ที่จอดรถ : 40% ราคาเฉลี่ย : 105,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูลวันที่ 2 พ.ค. 2560) วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : 2 พ.ค. 2560 แผนที่ตั้งโครงการ
แผนที่ตั้งโครงการและสถานที่สำคัญใกล้เคียง
(
คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ )
The EmQuartier ห่างจากโครงการประมาณ 5.1 กม.
โรงเรียนนานาชาติ Wells International School ห่างจากโครงการ 4.2 กม.
Lotus อ่อนนุช อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 800 ม.
การเดินทางไปยังโครงการ สามารถเดินทางได้หลายทางดังนี้
1. การเดินทางด้วยรถยนต์
เส้นทางการเดินทางเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 มุ่งหน้าตามถนนสุขุมวิท เส้นทางการเดินทางเข้าโครงการ เส้นทางที่ 2 จากถนนรางรถไฟเก่า
เส้นทางการเดินทางออกจากโครงการ เส้นทางที่ 1 ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
เส้นทางการเดินทางออกจากโครงการ เส้นทางที่ 2
2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
โครงการห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 800 เมตรค่ะ อยู่ในระยะที่เดินได้ไม่ไกลมาก ทางเท้าก็ไม่แคบจนเกินไป มีต้นไม้ให้ร่มเงาระหว่างทาง แต่ไม่ต้องห่วง ทางโครงการมีรถตู้คอยบริการรับส่งจากโครงการไป BTS อ่อนนุขค่ะ
3. การเดินทางด้วยวินมอเตอร์ไซค์
มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ปากทางถนนสุขุมวิท 50 นะคะ อยู่ข้างๆ โลตัสอ่อนนุชค่ะ
สภาพแวดล้อม รอบๆ โครงการ
หน้าโครงการเป็นบ้านพักอาศัยไม่เกิน 10 ชั้นค่ะ
ถนนทางเข้าโครงการ
ถนนทางเข้าโครงการ ปากซอยแสงอุทัย
ลองเลี้ยวซ้ายไปดูกันค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง
มีร้านอาหาร ไทคูณ
เดินเลยมาหน่อยก็มีร้านอาหารตลอดทั้ง 2 ฝั่งเลยนะคะ
จากปากซอยแสงอุทัย ทางเข้าโครงการค่ะ ลองเดินไป BTS ดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ทางเท้าค่อนข้างร่มรื่นนะคะ เพราะมีต้นไม้เล็กใหญ่ให้ร่มเงาค่ะ
จากปากซอยแสงอุทัยมาถึง Sales Gallery ของโครงการ ประมาณ 170 เมตร
ฝั่งตรงข้ามกับ Sales Gallery
ของโครงการ จะเป็นคอนโด The Link Sukhumvit 50 ปากทาง ถนนสุขุมวิท 50 ค่ะ
เลี้ยวขวามาก็ถึง BTS สถานีอ่อนนุชแล้วค่ะ
โลตัส อ่อนนุช ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตร
ด้านในก็มีร้านอาหารให้จับจ่ายใช้สอยได้สะดวกทีเดียวค่ะ
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
โครงการ "คอนโด ซายน์ สุขุมวิท 50" เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ลักษณะที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวลึกเข้าไปด้านหลัง รูปแบบตัวอาคารรูปทรงตัว I ทำให้ทุกห้องได้รับวิวอย่าเต็มที่ หมดปัญหาเรื่องการบังวิวกันเอง ด้านหน้าโครงการติดซอยแสงอุทัย
ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น เลือกใช้โทนสีขาวเทา โดดเด่นด้วย "Perforated อลูมิเนียมฉลุ" เป็นลายฉลุจากบานเฟี้ยมบริเวณระเบียง และอีกหลายๆ จุดภายในโครงการ ห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 มีห้องพักอาศัยรวมทั้งหมดเพียง 105 ยูนิต เฉลี่ยแล้วมีห้องพักอาศัยประมาณ 16 ยูนิต/ชั้น พื้นที่จอดรถทั้งหมดอยู่ใต้อาคารบริเวณชั้น 1 สามารถจดรถได้ทั้งหมด 40% โดย 1 ห้องสามารถจอดได้ 1 คันเท่านั้น จัดวางล็อบบี้สำหรับรับแขกไว้ที่ชั้น 2 พร้อม Co-working space, Library Corner และ Internet WiFi ส่วนสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนสจะอยู่ที่ชั้น 8 และมีสวนสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนอยู่บนชั้นดาดฟ้า มีลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้นมาให้ 2 ตัว ไม่มีลิฟต์บริการ อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ประมาณ 52 ห้องต่อลิฟต์ 1 ต้ว ถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดีไม่หนาแน่น
สำหรับห้องพักอาศัยบริเวณโซนด้านหน้าฝั่งทิศตะวันออกของโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ทั้งหมด
โมเดลโครงการมุมมองจากทิศเหนือ โมเดลโครงการมุมมองจากทิศตะวักตก โมเดลโครงการมุมมองจากทิศใต้ มุมมองของวิวโดยรอบโครงการแต่ละทิศเกือบทั้งหมดจะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยมีความสูงเพียง 2-3 ชั้น เท่านั้น มีพื้นที่เปล่าอยู่ทางทิศใต้ และฝั่งทิศตะวันตกอีกบางส่วน ดังนั้นหมดห่วงเรื่องการบังวิวจากเพื่อนบ้านไปได้เลย อีกทั้งยังตั้งอยู่ภายในซอย ดังนั้นจึงค่อนข้างที่จะมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ
ทางเข้าโครการด้านหน้าตกแต่งด้วย Perforated อลูมิเนียมฉลุสีขาวดูสวยงาม ข้างป้อม รปภ. จะเป็นที่ทิ้งขยะของโครงการ การเดินรถจากหน้าโครงการวิ่งตรงเข้าไปจอดใต้อาคารได้เลย
บนชั้น 2 จะแบ่งเป็นโซนพักอาศัย ซึ่งเข้าออกผ่านประตูระบบคีย์การ์ด และส่วนของล็อบบี้ โดยภายในล็อบบี้จัดพื้นที่บางส่วนเป็น CO-Working Space และมุมห้องสมุด Library Corner ให้ลูกบ้านมานั่งทำงาน หรือจะอ่านหนังสือตรงนี้ได้ ลูกค้าที่อยู่ชั้น 2
สนามหญ้าสีเขียวบนชั้น 3 ที่เห็นจะเป็นหลังคาของล็อบบี้ ไม่สามารถเดินออกมาได้ ทำไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น โดยห้องที่ติดกับตรงจุดนี้ก็เหมือนจะได้วิวสวนส่วนตัวไปด้วย
มีประตูหนีไฟอยู่ด้านข้างฝั่งทิศเหนือ และใกล้กับโครงการจะมีเสาหม้อแปลงอยู่ 1 ต้นแต่ว่าจะตั้งอยู่โซนด้านหน้าบริเวณล็อบบี้ จึงทำให้ตำแหน่งเสาจะไม่บังวิวห้องลูกค้าแม้แต่ห้องเดียว ถือว่าทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีทีเดียว
ห้องฟิตเนส จะตั้งอยู่บนชั้น 8 ผนังกระจกมองเห็นวิวด้านนอกฝั่งทิศเหนือ สำหรับพื้นของห้องฟิตเนสมีความพิเศษกว่าหลายๆ โครงการโดยจะปูด้วยกระเบื้องแผ่นยาง (Rubber Floor) ที่ออกแบบให้มีความหนาเป็นพิเศษกว่าพื้นปกติทั่วไป 2 เท่า เพื่อรองรับการกระแทกได้เป็นอย่างดีเวลาที่ลูกบ้านเข้ามาใช้บริการ และอาจจะปล่อยลูกตุ้มหรือบาร์เบลลงพื้นแรงๆ
มีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 8 สามารถเดินเชื่อมมาที่สระว่ายน้ำได้เลย ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ความลึก 1.2 เมตร และสระเด็ก ความลึก 60 ซม. พร้อมจากุชชี่ โดยห้องที่อยู่ชั้น 7 ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่วซึมเลย เพราะระหว่างเพดานห้องชั้น 7 กับสระว่ายน้ำจะไม่ติดกัน ทางโครงการออกแบบโดยเว้นเป็นช่องว่างระหว่างเพดานห้องชั้น 7 กับสระว่ายน้ำไว้ประมาณ 50 ซม. สำหรับซ่อมบำรุง ส่วนปั๊มน้ำก็ยกสูงจากพื้นขึ้นไปประมาณ 45 ซม. ป้องกันผลกระทบเรื่องการรั่วซึม
จากสระว่ายน้ำเดินขึ้นบันได้เชื่อมต่อมายังสวนบนชั้นดาดฟ้า มีพื้นชุดเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นรับลมมาให้ 2 ชุด ส่วนเพดานบนชั้น 8 ทางโครงการติดฉนวนกันความร้อนหนา 2 นิ้วมาให้ด้วย
สวน Roof top บนชั้นดาดฟ้าปูหญ้าทั้งหมดลูกบ้านสามารถขึ้นมาวิ่งจ๊อกกิ้งบนนี้ได้เลย และยังมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนกลางแจ้งมาให้ 2 จุดพร้อม โดยจุดหนึ่งออกแบบเป็นศาลาระแนงไม้สีขาวสำหรับบังแดดมาให้
บานเฟี้ยมลายฉลุสีขาวที่โดดเด่นสะดุดตาบริเวณระเบียง ด้านล่างของบานเฟี้ยมออกแบบให้ค่อนข้างทึบแสงเพื่อช่วยในการบังสายตาจากบุคคลภายนอกอาคารไม่ให้มองเห็นภายในห้องพักอาศัย ส่วนด้านบนออกแบบให้เป็นลายฉลุเพื่อช่วยระบายอากาศและความสวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยกันแดด ช่วยบังสายตา และยังป้องกันนกทำรัง
ตามมาดู Master Plan และ Floor Plan ของแต่ละชั้นกันค่ะว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
ชั้น 1 : เป็นพื้นที่จอดรถ ชั้น 2 : จะเป็นส่วนของ Lobby และห้องพักอาศัย ชั้น 3-7 : จะคล้ายกันห้องพักอาศัยจำนวน 16 ยูนิต ชั้น 8 : จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำ และมีห้องพักอาศัย 11 ยูนิต
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
เนื่องจากเป็นโครงการ Low-Rise สิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้จึงอาจจะไม่ได้หลากหลายเหมือนโครงการใหญ่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าจัดมาให้ลูกบ้านครบถ้วน การออกแบบก็ทำออกมาได้ดีน่าใช้งานดีทีเดียว และเพียงพอต่อปริมาณลูกบ้าน 105 ยูนิตแน่นอน โดยจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้า โดยสิ่งที่ทางโครงการจัดมาให้มีดังนี้
ล็อบบี้ พร้อมพื้นที่ CO-Working Space มุมห้องสมุด Library Corner สระว่าย Infinity Edge Pool ระบบเกลือ สระเด็ก และจากุซซี่ ห้องฟิตเนส สวนหย่อมบริเวณชั้น 1 และสวนบนดาดฟ้า บริการ Wifi Internet Access (เฉพาะชั้นล็อบบี้, ฟิตเนส, รูฟท็อปการ์เด้น) ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อคชั้น จะเปิดเฉพาะชั้น 2, และชั้น 8 เท่านั้น ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 40% (1 ห้องสามารถจอดได้ 1 คัน) กล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 32 ตัวทั่วโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบคีย์การ์ดเข้า-ออก อาคาร บริการรับ-ส่งรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช (Shuttle Bus Service) ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าโครงการ จากภาพจะมองเห็นภายในล็อบบี้ และพื้นที่ CO-Working Space บนชั้น 2
ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้องฟิตเนสบนชั้น 8 ที่มองเห็นวิวเมือง
ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่สวนนั่งเล่น
ภาพจำลองบรรยากาศภายในล็อบบี้บริเวณชั้น 2
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำบนชั้น 8
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay Out
ห้องมาตรฐานที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด (ยี่ห้อ RCD) ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และแบบลอยตัว ยี่ห้อ RCD พร้อมวอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์บ้างส่วนสามารถพับเก็บได้ เช่น โต๊ะทานอาหาร, โต๊ะข้างเตียง นอกจากนี้ภายในห้องยังมีระบบควบคุมการทำงานภายในบ้านอัจฉริยะ Smart Automation, ประตูห้องพักระบบ Digital Door Lock, ระบบ Sound System Controller
โดยทุกห้องของโครงการนี้จะไม่ทำหัวเตียงนอนหันไปทางทิศใต้กับทิศตะวันตกเลยค่ะ และยังออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของค่อนข้างมาก โดยแบบห้องหลักมีด้วยกัน 3 แบบ คือ
ห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.14 - 27.04 ตร.ม.(คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.60 - 37.34 ตร.ม.(คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 49.81 ตร.ม. ที่สำนักงานขายตกแต่งห้องตัวอย่างไว้ให้ลูกค้าได้เลือกดู 2 แบบด้วยกันตามไปดูกันค่ะ
1) แบบ 1 Bedroom (Tyep A2) พื้นที่ใช้สอยขนาด 26.49 ตร.ม.
Layout ห้องแบบ 1 Bedroom (Type A2) เดินเข้าห้องมาจะเจอกับโซนห้องครัว ถัดไปเป็นโซนห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับระเบียง และห้องนอนที่กั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบอิสระขนาดใหญ่เพื่อความเป็นส่วนตัว จัดวางห้องน้ำไว้ภายในห้องนอน
บริเวณหน้าห้องของทุกห้องจะติดกริ่งมาให้ ส่วนประตูที่ได้จะเป็นบานไม้สำเร็จรูป พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.
ธรณีบริเวณหน้าห้องวัสดุเป็นหินควอทซ์สังเคราะห์สีสว่าง
ได้ Digital Door Lock ของ Samsung ใช้ได้ 3 ระบบ ทั้งแบบระบบกดรหัส กุญแจ และคีย์การ์ด มือจับแบบก้านโยก
เดินเข้าห้องมาโซนแรกที่เจอจะเป็นโซนห้องครัวทางขวา และมุมทานอาหารทางซ้าย ผนังกั้นห้องเป็นอิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสี แต่จะติดวอลล์เปเปอร์มาให้ด้วย ได้สีตามห้องตัวอย่าง หรือเทียบเท่า ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร เพดาน Drop ฝ้าตามแบบห้องตัวอย่าง ได้ตู้รองเท้าชั้นวางของ Built-in
ห้อง Type นี้จะเป็นครัวแบบเปิด ได้ชุดครัวสำเร็จรูปของ RCD ขนาดประมาณ 60x23x34 นิ้ว พร้อมเครื่องดูดควัน Teka ระบบดูดอากาศออกนอกตัวอาคาร ประสิทธิภาพการดูดดีกว่า สามารถทำอาหารหนักได้มากกว่าการใช้เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน หน้า Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียมปูสูงขึ้นมาจนถึงส่วน Back Splash เลย พื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 68 ซม.
มีพื้นที่เก็บของมาให้ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยด้านบนเครื่องดูดควันเป็นตู้บานเปิดแบบกดกระเด้งสำหรับเก็บเครื่องปรุง หรือจะเก็บซอสสำหรับทำอาหารก็ได้ ช่องวางไมโครเวฟจะออกแบบให้อยู่ด้านล่าง เวลาใช้งานจริงจะค่อนข้างสะดวกกว่าวางไว้ด้านบน สำหรับลูกบ้านที่ตัวเล็กๆ หรือไม่สูงมากเวลายกอาหารเข้าออกจากไมโครเวฟอาจจะหกเลอะเทอะได้
มีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม และอุปกรณ์ทำอาหาร
ตู้ทุกบานเป็นเป็น Soft Close กรอบตู้เป็นอลูมิเนียมเพิ่มความสะดวกในการจับมากยิ่งขึ้น
Back Splash เป็นกระจกง่ายต่อการทำความสะอาด
ด้านบนติดไฟมาให้บริเวณเคาน์เตอร์ครัวด้วย ช่วยเพิ่มความสว่างเวลาที่ทำอาหารจะได้มองเห็นได้ง่ายขึ้น
ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka อ่างล้างจานสแตนเลสแบบ Under Sink และก๊อกน้ำก็ของ Teka เช่นกัน
หากไม่ได้ใช้งานในส่วนของโต๊ะอาหาร สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและทำให้ห้องดูโล่งขึ้น
ออกแบบให้สามารถพับเก็บชิดผนังได้เวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน ทำให้พื้นที่ตรงส่วนนี้กว้างขึ้น
ได้ตู้เก็บรองเท้าขนาด 14x25x35 นิ้ว ออกแบบให้ด้านล่างตู้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศภายในตู้ไม่ให้อับจนเกินไป
เหนือชั้นวางรองเท้าทางโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บของ พร้อมกับตู้เบรคเกอร์มาให้ด้วยเพื่อความสวยงาม
ได้ Sound System Controller สามารถฟังเพลง Brows internet ได้ function เป็นระบบ android โดยเสียงจะออกไปยังลำโพง 2 ตัวที่ติดอยู่บนเพดานบริเวณห้องนอน และห้องนั่งเล่น นอกจากนี้ยังได้ระบบ Smart Automation โดยใช้งานผ่าน App "IGH Complex" ใช้ได้ทั้งระบบ Android และ iOS ลูกบ้านสามารถสั่งปิด-เปิดไฟ โดยจะปิดทั้งห้อง หรือเลือกเฉพาะบางดวงก็ได้ ส่วนแอร์ ก็ใช้งานผ่าน App "D-Mobile" ของ Daikin จะปิดแอร์-เปิดแอร์ หรือปรับอุณหภูมิแอร์ก็ได้เช่นกัน โดยสามารถสั่งงานจากมือถือของลูกบ้านได้เลยสะดวกมากๆ ต่อไปนี้เวลาที่ลูกบ้านใกล้ถึงห้องแล้วก็สามารถสั่งเปิดแอร์ในห้องไว้ก่อนเลย เวลาที่เข้ามาถึงห้องจะได้เย็นสบายทันใจไม่ต้องรอ
ตำแหน่งลำโพงบริเวณห้องนอน และห้องนั่งเล่น
ถัดจากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
ได้โซฟาผ้าสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง
ได้โต๊ะกลางสีขาวขนาดไม่ใหญ่มาก วัสดุหน้า Top กระจกง่ายต่อการทำความสะอาด บางส่วนออกแบบให้เป็นที่เก็บของและสามารถเลื่อนแยกออกมาได้อีกด้วย
Built-in ชั้นวางทีวีสูงจรดฝ้าได้ตามแบบนี้
และด้านบนเป็นตู้เก็บของบานเปิดด้ามจับเป็นอะลูมิเนียมเหมือนกันกับเคาน์เตอร์ครัว
ด้านล่างเจาะเป็นช่อง (วงกลม) สำหรับสอดสายไว้ให้ เผื่อลูกบ้านอยากติดกล่องทีวีดิจิตอลสายจะได้เป็นระเบียบไม่เกะกะ
ระยะดูทีวีประมาณ 160 ซม. ในห้องนั่งเล่นได้แอร์ Daikin ขนาด 8,500 BTU 1 เครื่อง ติดอยู่เหนือชั้นวางทีวี
ประตูที่ระเบียงเป็นกระจกเทมเปอร์สีชากรอบอะลูมิเนียมพาวเดอร์โค้ดสีทรายซาฮาร่า แบบบานเลื่อน
สามารถกรองแสงได้ถึง 50% ธรณีประตูระเบียงสูง 12 ซม.
เครื่องซักผ้าตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของระเบียง ต่อท่อน้ำดี น้ำทิ้งมาให้พร้อมใช้งาน เหนือเครื่องซักผ้าเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ติดกริลปิดบังสายตาให้เรียบร้อย ได้ราวตากผ้าด้วยสามารถพับเก็บได้ แต่ชั้นไม้ด้านบนไม่ได้ให้นะคะ ระเบียงกระจกใสTempered Glass
ที่ระเบียงได้บานเฟี้ยมลายฉลุสีขาวแบบ 3 ตอน สามารถเลื่อนปิด-เปิดได้ 2 ตอน ส่วนตอนในสุดเป็นแบบบานฟิก วัสดุเป็นอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา กันสนิม ด้านล่างจะออกแบบให้ค่อนข้างทึบแสงมีลายฉลุเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการบังสายตาจากบุคคลภายในไม่ให้เห็นภายในห้องพักอาศัย ส่วนด้านบนออกแบบให้เป็นลายฉลุเต็มบานเพื่อช่วยระบายอากาศและเพิ่มความสวยงาม สามารถ Lock ได้
ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนด้วยประตูบานสไลด์อิสระแบบ 3 บาน สามารถเปิดได้กว้างมาก
วัสดุประตูเป็นกระจกเทมเปอร์สีชาเหมือนกันกับประตูที่ระเบียงเลย
สามารถเลื่อนเปิดประตูเพื่อเชื่อมต่อห้องนอนเข้ากับห้องนั่งเล่นทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
ในห้องนอนได้แอร์ขนาด 11,900 BTU อีก 1 เครื่อง จะดูทีวีจากเตียงนอนเลยก็ยังได้ เพราะประตูเปิดได้กว้างมากๆ ภายในห้องนอนได้หน้าต่างกระจกแบบบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบานติดตาย เพื่อความปลอดภัยเปิดจากข้างนอกไม่ได้
ได้เตียง 5 ฟุต ไม่รวมฟูก ใต้เตียงบริเวณปลายเตียงจะออกแบบให้เป็นช่องสำหรับเก็บของได้
ใต้เตียงฝั่งด้านข้างออกแบบเป็นลิ้นชักเก็บของได้เช่นกัน
ระยะทางเดินจากปลายเตียงถึงโซฟาประมาณ 40 ซม. และจากเตียงถึงหน้าต่างประมาณ 100 ซม. ทางโครงการออกแบบให้หัวเตียงนอนเป็น Low-Wall เซาะเป็นช่องเล็กๆ กว้างประมาณ 3 ซม. ยาวตลอดแนวหัวเตียง สามารถวางหนังสือ หรือวางกรอบรูปเล็กๆ ไว้ที่หัวเตียงนอนได้
ได้โต๊ะทำงาน และเก้าอี้ 1 ตัว ตั้งอยู่บริเวณข้างเตียง ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานโดยโต๊ะสามารถพับเก็บชิดผนังได้เวลาที่ไม่ใช้งาน มีชั้นเล็กๆ สำหรับวางโทรศัพท์มือถือไว้เผื่อชาร์จแบตในตอนกลางคืน
ได้ตู้เสื้อผ้าแบบ 3 บาน สูงถึงเพดานตั้งอยู่ด้านข้างเตียง หน้าบานของตู้ออกแบบให้เป็นกระจกสามารถมองเห็นภายในตู้
ภายในตู้ยังมีไฟ บานซ้ายมีลิ้นชักด้านล่าง 4 ชั้น ราวสำหรับแขวนกางเกง และชั้นเก็บของด้านบน ส่วนบานทางขวาสามารถแขวนเดรสยาวๆ ได้เลย ด้านบนเป็นชั้นวางของเหมือนกัน ระยะห่างจากตู้เสื้อถึงเตียงประมาณ 55 ซม. เปิดประตูตู้เสื้อผ้าได้ไม่ชนเตียง
ติดกับตู้เสื้อผ้าจะ Built-in เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง สวิตช์ไฟตรงจุดนี้จะเป็นจุดเดียวของห้องที่เป็นระบบ manual เป็นไฟ LED แสงไฟไม่หลอกตาเวลาแต่งหน้า ภายในห้องน้ำเพดานสูงประมาณ 2.4 เมตร ธรณีประตูห้องน้ำ เป็นหินควอทซ์ พื้นห้องน้ำ Drop ลง 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
อ่างล้างหน้า และก๊อกน้ำของ Mogen เหนืออ่างล้างหน้าก่อเป็น Low Wall ทำได้วางของได้มากขึ้น
มีตู้เก็บของด้านล่าง พร้อมตู้ทำน้ำร้อน ได้กระจกเงาบานใหญ่ โครงการให้ชั้นวางของ Standard อยู่แล้ว
ในโซนเปียกได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์แบบเปิดเข้าด้านในของ Oversea ที่ผนังก่อเป็น Low-Wall หินเทียม สำหรับวางสบู่ แชมพูอาบน้ำ Rain Shower เป็นของ American Standard และพัดลมระบายอาศของ Panasonic
ด้านหลังประตูติดตัวกันกระแทกมาให้ ส่วนธรณีกั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งในห้องน้ำเป็นกระเบื้องป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก ข้อดีคือมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าลามิเนตหมดปัญหาเรื่องการบวมน้ำติดขอบอลูมิเนียมมาให้เช่นกัน
ฝักบัวอาบน้ำ ก๊อกน้ำ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ และสายฉีดชำระ เป็นของ American Standard
ปลั๊ก และสวิตช์ไฟฟ้าของ Siemens ได้ตามแบบนี้ บางจุดออกแบบมาให้เป็นแบบ Touch screen (สีขาวบนสุด)
2) ห้องแบบ 1 Bedroom Plus (Type E1) ขนาด 34.95 ตร.ม.
Layout ห้องแบบ 1 Bedroom Plus (Type E1) เดินเข้าห้องมาจะเจอกับโซนห้องครัว (ครัวปิด) ถัดไปเป็นโซนทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และระเบียง ห้องนอนกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบอิสระขนาดใหญ่เหมือนห้องที่แล้ว ส่วนห้องน้ำของ Type E1 จะย้ายมาอยู่ติดกับโซนทานอาหาร ไม่ได้อยู่ในห้องนอนเหมือนห้องที่แล้ว
มีกริ่งที่หน้าห้องให้เหมือนกัน
เดินเข้ามาจะเจอกับโซนของห้องครัว จัดวางตู้และเคาน์เตอร์ครัวเป็นแนวยาวลึกเข้าด้านในไว้ทางฝั่งซ้ายทั้งหมด
สีเดียวกันทั้งโครงการเหมือน Type A2
ตู้รองเท้าอยู่ชิดกับประตูทางเข้า
ด้านบนก็จะเป็นตู้เก็บของ หรือตู้ครอบเบรคเกอร์
เคาน์เตอร์ครัวได้เหมือนกันกับห้องที่แล้ว
ห้องครัวแบบครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 บาน สามารถเปิดได้กว้างทำให้เดินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ชุดโต๊ะทานข้าว และเก้าอี้ของจริงจะได้ตามแบบห้องที่แล้ว
ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับโซนทานอาหาร ได้ชั้นวางทีวีแบบ Built-in เหมือนห้องที่แล้ว พร้อมแอร์ ขนาด 17,700 BTU
ผนังกระจกที่เห็นทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียไม่ได้ให้นะคะ
โซฟา และโต๊ะกลางที่ได้จริงจะเหมือนห้องที่แล้ว
ด้านหลังเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานสไลด์อิสระสีชาแบบ 3 ตอนเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ถ้าเลื่อนประตูออกจะทำให้ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเชื่อมต่อกันดูห้องกว้างมากขึ้น
ห้องนี้ติดตั้งระบบ Smart Automation และ Sound System Controller ไว้ที่ผนังทางซ้ายก่อนเข้าห้องนอน
เครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ทางซ้าย ทางขวาเป็นราวแขวนผ้า foldable
ได้ฉากกั้นบานเฟี้ยมลายฉลุแบบ 3 ตอนสีขาว ช่วยบังสายตาจากภายนอกอาคารเวลาตากผ้าที่ระเบียงเหมือนกัน
ก่อนจะเข้าไปดูห้องนอนเราพาไปดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้เหมือนกันกับห้องที่แล้วทุกอย่าง
แต่จะมีความพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่ห้อง Type E จะได้อ่างอาบน้ำสีขาวมาให้ด้วย กระจกข้างอ่างอาบน้ำได้เป็นสีแบบนี้เลย จะหันหน้าออกไปด้านหน้าโครงการ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะโป๊นะคะ เพราะจะมีกระจก หรือบานเฟี้ยมช่วยบังสายตาด้านนอกให้อยู่
ภายในอ่างออกแบบมาเป็นเหมือนเก้าอี้เล็กๆ ไว้สำหรับให้นั่งแช่ภายในอ่างได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องนอนเกรงให้เมื่อย
ในห้องนอนได้เตียงขนาด 5 ฟุต ใต้เตียงเป็นพื้นที่เก็บของเหมือนเดิม พร้อมโต๊ะหัวเตียง 2 มุม
ตรงหัวเตียงได้กระจกแบบเข้ามุม ห้องนี้จะมีเสาโครงการยื่นออกมาตามแบบนี้
ได้โต๊ะทำงานตัวยาววางชิดกระจกด้านข้างพร้อมเก้าอี้ 1 ตัว ในห้องนอนยังได้แอร์ขนาด 8,500 BTU อีก 1 ตัวด้วย
ถึงแม้จะปิดประตูห้องนอนแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด เพราะด้วยความที่เป็นกระจกทำให้ห้องยังคงดูโปร่ง
และยังมองเห็นพื้นที่ภายนอกห้องนอนได้อีกด้วย
ได้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขึ้น แบบ 4 บาน บานซ้ายสุดเป็นกระจกเงาบานใหญ่สูงจรดฝ้า แต่ห้องนี้จะไม่ได้โต๊ะเครื่องแป้ง
ภายในตู้เสื้อผ้าได้ชั้นเก็บของด้านบน และลิ้นชักด้านล่างตามแบบนี้เลย มีไฟในตู้ให้เหมือนเดิม
ส่วนข้างตู้เสื้อผ้าฝั่งทางขวาก็ได้หน้าต่างแบบเข้ามุมด้วยเช่นกัน
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (2 พ.ค. 60)
ราคาเริ่มต้นก่อนวัน Pre-Sale
1 Bedroom 2.55 ล้านบาท 1 Bedroom Plus (Type E) 3.7 ล้านบาท 2 Bedroom 4.8 ล้านบาท สถานะปัจจุบันของโครงการ (2 พ.ค. 60)
โครงการ
ซายน์ สุขุมวิท 50 เปิด
Pre-Sale วันที่ 5-6 สิงหาคม นี้นะคะ
ท่านใดที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่
www.signcondo.com กำหนดการก่อสร้างเดือน พฤศจิกายน 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน สิงหาคม 2562
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 081-553-5555 หรือ
www.signcondo.com ดูรายละเอียดโครงการ
ซายน์ สุขุมวิท 50