x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว-เยี่ยมชม เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 (The Tree Sukhumvit 64)

icon 3 ก.พ. 60 icon 23,641
รีวิว-เยี่ยมชม เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 (The Tree Sukhumvit 64)

รีวิว-เยี่ยมชม เดอะ ทรี สุขุมวิท 64 (The Tree Sukhumvit 64)
วันนี้ CheckRaka.com จะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมคอนโดมิเนียม "The Tree สุขุมวิท 64" คอนโดมิเนียม Low-Rise โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 149 ยูนิตเท่านั้น พร้อมสวน Boutique Courtyard ก่อนหน้านี้แบรนด์ The Tree มักจะอยู่รอบๆ ชานเมือง แต่ครั้งนี้พฤกษายก The Tree เข้ามาตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 300 เมตรเท่านั้น เดี๋ยวเราตามไปชมบรรยากาศของโครงการนี้กันค่ะ


ข้อมูลโครงการ
  • เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
  • ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 64 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
  • อาคารชุดพักอาศัย : คอนโด Low- rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 149 ยูนิต
  • ขนาดพื้นที่โครงการ : 1-1-43 ไร่
  • ลิฟต์โดยสาร : 2 ตัว
  • ห้องชุดพักอาศัย : แบบ 1 Bedroom ขนาด 27.6 ตร.ม. - 41.5 ตร.ม., 1 Bed Plus ขนาด 40.8 ตร.ม. - 41.8 ตร.ม., 2 Bedroom ขนาด 50.10 ตร.ม. - 54.50 ตร.ม. และ Duplex 2 Bedroom ขนาด 86.50 ตร.ม
  • ที่จอดรถ : 69 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน)
  • ราคาเริ่มต้น :แบบ 1 Bedroom ขนาด 27.6 ตร.ม. เริ่ม 2.95 ล้านบาท (ข้อมูลวันที่ 9 ธ.ค. 59)
  • สถานะโครงการ : คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2561
  • วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : ข้อมูลวันที่ 10 พ.ย. 59
เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชน และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2548 บริษัทฯ ก่อตั้งเริ่มแรกขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2536 มีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 2,323,682,000 ล้านบาท ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรล่าสุด (16 เมษายน 2558) โดย TRIS Rating อยู่ที่ "A" บริษัทฯ ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ (ทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว) และแนวสูง (คอนโดมิเนียม) ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงงานสร้างบ้านแบบ Precast (พรีคาสท์ - สร้างบ้านโดยใช้เทคโนโลยีชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป) เป็นของตัวเองแบบครบวงจร ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการภายใต้แบรนด์ "เดอะ ทรี (The Tree)" มีทั้งหมด 6 โครงการคือ เดอะ ทรี บางโพ สเตชั่น, เดอะ ทรี อินเตอร์เชนจ์, เดอะ ทรี พริวาต้า, เดอะ ทรี ริโอ บางอ้อ สเตชั่น, เดอะ ทรี เอลิแกนซ์ ติวานนท์ และล่าสุดกับโครงการ เดอะ ทรี สุขุมวิท 64
     
ทำเลที่ตั้ง
โครงการเดอะทรี สุขุมวิท 64 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 ระยะทางจากปากซอยไปยังโครงการไม่ลึกมาก ประมาณ 300 เมตรค่ะ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ประมาณ 300 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางด่วนบูรพาวิถี แวดล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ที่ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 64 มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ใกล้ๆ โครงการ ห่างประมาณ 70 เมตร 

แผนที่ตั้งโครงการเดอะทรี สุขุมวิท 64 (Google Map)

แผนที่โครงการและสถานที่สำคัญรอบๆ โครงการ

ทางเดินจาก BTS สถานีปุณณวิถี มาโครงการเดอะทรี สุขุมวิท 64 ประมาณ 300 เมตรค่ะ

โลตัส สาขาอ่อนนุช (ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กิโลเมตร)

บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้าสาขา อ่อนนุช (ห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร)

Gateway เอกมัย (ห่างจากโครงการประมาณ 4.8 กิโลเมตร)

เซ็นทรัลบางนา (ห่างจากโครงการประมาณ 5.1 กิโลเมตร)

Paradise Park (ห่างจากโครงการประมาณ 5.7 กิโลเมตร)
การเดินทาง
1. การเดินทางโดยรถยนต์ มีหลายเส้นทาง ดังนี้
  • ขาเข้าโครงการเส้นทางที่ 1 เดินทางโดยใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร 


เริ่มต้นจากขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครค่ะ เลี้ยวซ้ายขึ้นตามป้ายท่าเรือ - บางนา ดาวคะนอง









ถึงทางแยกนี้ที่จริงไปได้ทั้ง 2 ทางเลยนะคะ แต่วันนี้เราจะลองพาเข้าทางซอยสุขุมวิท 62 กันค่ะ




  • การเดินทางเข้าโครงการเส้นทางที่ 2 ลงจากทางพิเศษเฉลิมมหานคร เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62

  • การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 1 จากโครงการ ออกไปถนนศรีนครินทร์

  • การเดินทางออกจากโครงการเส้นทางที่ 2 ออกจากโครงการ ขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี

สภาพแวดล้อมใกล้เคียง

แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ

"เดอะทรี สุขุมวิท 64" ตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกว่าใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมเลยก็ว่าได้ค่ะ จากภาพจะเห็นว่า อยู่กึ่งกลางระหว่าง ถนนสุขุมวิท มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวทอดยาวพาดผ่าน อีกด้านก็เป็นทางด่วนเฉลิมมหานคร สำหรับชีวิตที่ต้องมีครอบครัว มีบุตรหลาน ก็คงไม่ลำบาก เพราะมีโรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนพิพัฒนาอยู่ปากซอยสุขุมวิท 64 เรียกว่า เดินมาโรงเรียนก็ยังได้ สภาพบรรยากาศรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารที่พักอาศัย และคอนโดมิเนียม ทางเดินเข้าซอยตอนกลางคืนก็จะมีไฟสว่างเกือบทั้งซอย เพราะคอนโดแต่ละแห่งก็เปิดไฟสว่าง เดอะทรี สุขุมวิท 64 จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่อยากจับจองคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า

เริ่มจาก BTS สถานีปุณณวิถี เลยแล้วกันนะคะ เดินไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

ที่จริงเราสามารถเดินไปยังโครงการได้ 2 ทางนะคะ คือทางออกที่ 4 ลงบันไดเลื่อนด้านขวามือ
และทางออกที่ 6 ตรงไปเพื่อตรงไปที่สะพานลอย ความแตกต่างก็คือ ถ้าทางออกที่ 4 ต้องข้ามถนนเข้าโครงการ แต่ทางออกที่ 6 ไม่ต้องข้ามถนนค่ะ เพราะข้ามสะพานลอยแล้วลงหน้า รร.นานาชาติ ฝั่งเดียวกับโครงการเลยค่ะ

ถ้าใช้ทางออกที่ 6 ก็ลงสะพานตรงนี้แล้วเดินเข้าไปในซอยประมาณ 300 เมตรก็ถึงโครงการแล้วค่ะ

ถ้าใช้ทางออกที่ 4 เราจะอยู่ตรงข้ามรร.นานาชาติค่ะ 
ถ้าใครไม่อยากเดินก็ข้ามถนนไปใช้บริการพี่วินหน้า รร.นานาชาติ ก็ได้นะคะ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูซอยสุขุมวิท 64 กันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

 Anglo Singapore International School (ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตร)

ฝั่งตรงข้าม รร.นานาชาติ มีคาเฟ่อยู่ค่ะ (ห่างจากโครงการประมาณ 290 เมตร)


ตรงข้าม รร.นานาชาติก็มีร้านอาหารเรียงยาวเลยค่ะ 

มีร้านขายขนม ขายของชำทั่วไป  

ทางเดินในซอยมีทางเท้าไม่แคบจนเกินไปค่ะ

ด้านขวามือจะเป็น รร.พิพัฒนา (ห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตร)

ถัดจาก รร.พิพัฒนา จะมี 7-11 มีพื้นที่สำหรับจอดรถด้วย

ติดกับ 7-11 ก็เป็นคอนโดมิเนียม Olive

มีร้านอาหารเล็กๆ ตั้งอยู่ ชื่อร้าน The 64 cafe 

แวะทานอาหารที่ร้านThe 64 cafe ร้านนี้ติดแอร์ อาหารอร่อยทีเดียว ราคาก็ไม่สูงมากค่ะ

ถัดจากร้าน The 64 cafe  เป็นร้านกาแฟค่ะ

ถัดจากร้านกาแฟเป็น บริษัท HAFELE

ถัดมาก็จะเป็นคอนโดมิเนียม Sari ของแสนสิริ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโครงการ เดอะทรี สุขุมวิท 64 ค่ะ

และก็ถึงโครงการ เดอะทรี สุขุมวิท 64 ซึ่งตอนนี้โครงการกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

Sales Gallery ของโครงการเดอะทรี สุขุมวิท 64 อยู่ถัดจากคอนโดมิเนียม Sari เยื้องๆ กับโครงการ เดอะทรี สุขุมวิท 64 ค่ะ

ไหนๆ ก็มาแล้วเดี่ยวพาไปดูจนสุดซอยเลยค่ะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ตลอดทั้งซอยจะเป็นคอนโดมิเนียมค่ะ


สามแยกนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นคอนโด Elio Del Ray ค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นปั๊มน้ำมันใหญ่ของปตท.

ที่หน้าคอนโด Elio Del Ray มีพี่วินคอยให้บริการ

สุดซอยเป็นปั๊มปตท.ใหญ่ค่ะ เหมือน community mall เล็กๆ (ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร)











รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
โครงการ "The Tree สุขุมวิท 64" เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ภายนอกตัวอาคารเลือกใช้โทนสีน้ำตาล และสีเทา รูปแบบโครงาการให้มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ก็ยังคงมีความหรูหรา Luxury อยู่ในที ตัวตึกรูปทรงตัว C หน้าโครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือ มีสวนอยู่ตรงกลาง ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เฉพาะลูกบ้าน 149 ยูนิตที่จะได้เห็นสวนตรงนี้ เนื่องจากสวนตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของโครงการดังนั้นจะมีความเป็นส่วนตัว และค่อนข้างปลอดภัยจากบุคคลภายนอกโครงการ เวลาที่ให้น้องๆ หนูๆ มาวิ่งเล่นบริเวณภายในสวน ห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 บริเวณที่จอดรถอยู่บริเวณชั้น 1 และชั้นใต้ดิน จำนวน 69 คันแบบไม่รวมจอดซ้อนคัน

ด้านหน้าโครงการอยู่ทางทิศเหนือติดกับซอยสุขุมวิท 64
โซนด้านหน้านี้ห้องพักจะมีถึงแค่ชั้น 7 เท่านั้น ทางโครงการยอมเสียพื้นที่ของตัวชั้น 8 ไปโดยใช้พื้นที่ทำเป็น Double slap เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสระว่ายน้ำมีความแข็งแรง และไม่รั่วซึมลงมายังห้องที่อยู่ชั้น 7

ประตูเข้าออกโครงการมีด้วยกัน 2 แบบคือ ประตูระบบรีโมทคอนโทรลสำหรับรถยนต์ 
และประตูด้านข้างสำหรับเดินเข้าออกเป็นระบบ Key access card

พืันที่จอดรถของชั้น 1 บริเวณใต้อาคาร

บนชั้น Roof top เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบบน้ำล้น 
ให้ลูกค้าได้นั่งชิล มองออกมาจะได้วิวบรรยากาศด้านหน้าตัวอาคาร

 มีสวนหย่อม และพื้นที่นั่งเล่นอยู่ริมสระว่ายน้ำ จะเห็นว่าด้านข้างมีบันไดสำหรับเดินขึ้น-ลงไปยังชั้น 8
เพราะลิฟต์ของโครงการขึ้นมาสุดถึงแค่ชั้น 8 เท่านั้น

โครงการฝั่งทิศตะวันตกจะมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 มี Boutique Courtyard (สวนหย่อม)
อยู่ตรงกลางและมีสระน้ำพุ หรือสระน้ำตกด้วยบริเวณตรงกลาง
พื้นที่โดยรวมของสวนส่วนกลางนี้ประมาณ 230 ตารางเมตร ซึงต้องเดินเข้ามาจากทาง Lobby เท่านั้น

จากจุดนี้จะมองเห็นทางขึ้นลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน

Boutique Lobby & Multipurpose แบบ Double Volume ความสูงประมาณ 5 เมตร มองออกมาเป็นวิวสวน พร้อมมี Wi-Fi
รั้วตรงจุดนี้จะปรับต้นไม้ให้สูงขึ้น มีความสูงประมาณ 6 เมตร เวลามองมาจะได้รู้สึกสดชื่นจากความเขียวของต้นไม้

ห้อง Fitness ตั้งอยู่บริเวณชั้น 8 มองลงมาเห็นสวนด้านล่าง มีเครื่องเล่นให้ประมาณ 6 เครื่อง ตัวหน้าจอเป็นแบบ touch screen สามารถดูหนัง หรือเล่นอินเทอร์เน็ตได้

ตัวอาคารฝั่งทางด้านทิศใต้
โดยระยะห่างจากตัวตึกมายังกำแพงโดยรอบโครงการอย่างต่ำประมาณ 3 เมตร พร้อมต้นไม้ล้อมรอบ

ตัวอาคารฝั่งทิศตะวันออก ห้องฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bed Plus และแบบ Duplex (Double Volume) มีแบบ 2 ห้องนอนบ้างเล็กน้อย ด้านบนชั้นดาดฟ้าจะมีช่อง Sky light ซึ่งเป็นช่องสำหรับให้แสงธรรมชาติส่องไปยังทางเดิน Corridor ตั้งแต่ชั้น 8 จนถึงชั้น 1 เพื่อให้ได้แสงที่นวลสวยกว่าแสงประดิษฐ์ และยังช่วยประหยัดพลังงานในการใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้หลังคาบนชั้นดาดฟ้าโครงการมีตัวฉนวนกันความร้อน STAY COOL ให้ความหนา 3 นิ้ว พร้อมตัวกันชื้นให้ด้วย
ลักษณะที่ดินของโครงการเป็นพื้นที่ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางแนวอาคารยาวลึกเข้าไปด้านใน โดยมุมมองวิวโดยรอบโครงการแต่ละทิศของตัวโครงการจะใกล้กับอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันค่ะ
  • ตัวอาคารฝั่งทิศเหนือ : เป็นด้านหน้าโครงการติดกับซอยสุขุมวิท 64 ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Siri Condo และอาคารสำนักงานสูง 3 ชั้น มีระยะห่างอยู่ที่ประมาณ 20 เมตร
  • ตัวอาคารฝั่งทิศใต้ :  เป็นด้านหลังของโครงการติดกับอาคารของ Hafele ที่มีความสูงถึง 5 ชั้น และอยู่ในระยะประชิด คงต้องเลือกชั้นสูงหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงวิวฝั่งนี้
  • ตัวอาคารฝั่งทิศตะวันออก : โซนด้านหน้าจะเป็นวิวที่จอดรถของ Hafele แต่ช่วงหลังจะติดกับ Hafele เป็นอาคารสูง 3 ชั้น ซึ่งห้องที่อยู่ชั้นล่างๆ อาจจะโดนบังวิวแบบเลี่ยงไม่ได้
  • ตัวอาคารฝั่งทิศตะวันตก : ห้องฝั่งที่บริเวณกลางๆ จะใกล้กลับอาคารสูง 4 ชั้น ส่วนโซนอื่นๆ มองไปเห็นเป็นคอนโด The Link Vano 64 แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด

Master Plan ชั้น 1 : ประกอบด้วย ประตูสำหรับเดินเข้าออก และประตูสำหรับรถยนต์ ที่ติดกับซอยสุขุมวิท 64
ภายในโครงการเดินรถแบบ 2 ทางสวนกันได้ จอดรถได้ทั้งลานจอดรถใต้อาคาร และโดยรอบบริเวณชั้น 1 รวม 69 คัน
มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์เฉลี่ยอยู่ที่ 74.5 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถัดไปเป็น Lobby & Multi purpose
มีบางส่วนจัดเป็นโซนห้องสมุด และห้องจดหมายรวมอยู่ภายในด้วย
มองออกไปเป็นสวนหย่อม Boutique Courtyard อยู่ตรงกลาง พร้อมสระน้ำพุ

Floor Plan ชั้น 2 : เป็นส่วนพักอาศัย มียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 21 ยูนิต มีทั้งห้องแบบ 1 Bedroom, 1 Bed Plus และแบบ 2 Bedroom โดยชั้นนี้จะเสียพื้นที่จาก Double Space ของ Lobby

Floor Plan ชั้น 3, ชั้น 5 และชั้น 7 : จะคล้ายกันคือ เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด มียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 23 ยูนิต แบ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom, 1 Bed Plus และแบ 2 Bedroom แต่ชั้นนี้จะมีห้องแบบ Duplex เพิ่มขึ้นมาด้วยอยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการ

Floor Plan ชั้น 4, และชั้น 6 : จะคล้ายกันคือ เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด มียูนิตพักอาศัยลดลงมาอยู่ที่ 22 ยูนิตต่อชั้น เพราะเสียพื้นที่บางส่วนซึ่งเชื่อมต่อกับห้อง Duplex ที่เป็นแบบ Double Volume ชั้นล่าง

Floor Plan ชั้น 8 : ห้องพักอาศัยลดลงไปเหลือ 15 ยูนิต และมีห้อง Fitness เพิ่มขึ้นมาแทน ข้างๆ ห้อง Fitness ทำเป็นบันไดสำหรับเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า และโซนด้านหน้าบริเวณใต้สระว่ายน้ำ ทางโครงการทำเป็น Double slap
เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกบ้านว่าสระว่ายน้ำมีความแข็งแรง และไม่รั่วซึม

Floor Plan ชั้นดาดฟ้า : จะมีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ, Roof Garden
และพื้นที่นั่งเล่นบริเวณริมสระว่ายน้ำ แต่ไม่มีสระเด็กให้นะคะ
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ถึงแม้จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise แต่ว่าทางโครงการก็จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ลูกบ้านแบบเต็มที่ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ จะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ชั้น 8 และบนชั้นดาดฟ้า อาทิ
  • Lobby & Multipurpose แบบ Double Volume ความสูง 5 เมตร
  • มี Wifi ที่บริเวณ Lobby
  • ตู้จดหมาย
  • Boutique Courtyard สวนส่วนกลาง
  • สวนพักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้อง Fitness บนชั้น 8 เครื่องเล่นมีให้ประมาณ 6 เครื่อง
  • ลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว
  • เข้า-ออกระบบ Key Card Access
  • ประตูทางเข้าโครงการระบบรีโมทคอนโทรล
  • กล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง
  • พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
  • พื้นที่จอดรถอยู่ที่บริเวณชั้น 1 และชั้นใต้ดิน รวมทั้งโครงการประมาณ 69 คัน แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby & Multipurpose

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby บริเวณโซน Mailbox

ภาพจำลองบรรยากาศห้องฟิตเนสบนชั้น 8

ภาพจำลองบรรยากาศสวน Boutique Courtyard

ภาพจำลองบรรยากาศสวน The Boutique Courtyard อีกโซนที่อยู่ริมสระน้ำ

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำระบบเกลือ และสวนพักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay Out
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ให้แอร์ DAIKIN ขนาด 18,000 BTU ที่ห้องนั่งเล่น และขนาด 9,000 BTU ที่ห้องนอน, ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in, ฉากกั้นอาบน้ำ, เคาน์เตอร์ครัว Built-in พร้อมเครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้า ครัวของโครงการทั้ง 100% เป็นครัวแบบปิด จะมีกระจกบานเลื่อนปิดให้หมด และก็หัวเตียง 100% ไม่หันไปทางทิศตะวันตก หลอดไฟทุกดวงไม่ว่าจะเป็นในห้อง หรือตามทางเดินจะเป็นหลอดไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงาน ความสูงของแต่ละห้องจะไม่เท่ากัน โดยห้องนั่งเล่น และห้องนอนความสูงอยู่ที่ 2.55 เมตร ห้องครัวอยู่ที่ 2.4 เมตร และห้องน้ำสูง 2.3 เมตร มี Digital Door Lock ของ Samsung ให้ทุกห้อง โดยประเภทห้องแบ่งออกเป็น
  1. ห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27.60 - 41.50ม.
  2. ห้องแบบ 1 Bed Plus พื้นที่ใช้สอย 40.80 - 41.80 ตร.ม.
  3. ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 51.10 - 54.50 ตร.ม.
  4. ห้องแบบ Double Volume (Duplex) พื้นที่ใช้สอย 86.50 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Type 1B ขนาด 31.60 ตร.ม.

เข้ามาในห้องจะเจอกันห้องนั่งเล่นตั้งโซฟาอยู่ทางขวามือเชื่อมต่อกับห้องครัวแบบปิด มีโต๊ะทานอาหารตั้งอยู่ภายในครัว
ติดกันเป็นระเบียง ภายในห้องนอนวางเตียงแบบ 6 ฟุต พื้นที่โดยรอบเตียงพอวางเตียง โต๊ะ ตู้ได้ เหลือพื้นที่สำหรับเดินอีกนิดหน่อย ห้องน้ำใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอน ในห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำกั้นแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ห้องนี้จะได้แอร์ทั้งหมด 2 เครื่องติดไว้ภายในห้องนั่งเล่น และห้องนอน

ที่ประตูเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Samsung

พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนตัวจบประตูเป็นลามิเนตสีเดียวกันกับพื้น

ภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 4 ห้องหลักๆ คือห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำ

เข้ามาปุ๊บจะเจอกับห้องนั่งเล่นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร

ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง

ฝั่งตรงข้ามเป็นทีวีแบบติดผนัง ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับเดินกว้างมาขึ้นไปอีก ระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตร

ได้แอร์ DAIKIN ขนาด 18,000 BTU ติดอยู่เหนือประตูห้องนอน

ทางเข้าห้องน้ำกั้นธรณีประตูสูงประมาณ 7 ซม. พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ภายในห้องน้ำได้สเปคตามแบบนี้เลย ได้ไฟ LED 2 ดวงทรงกลม พัดลมดูดอากาศ และกระจกเงาขนาดตามนี้

ทางด้านซ้ายของกระจกเซาะร่องมาทำเป็นชั้นสำหรับเก็บของหรือวางของใช้ภายในห้องน้ำได้อีกเยอะพอสมควร

สุขภัณฑ์คุณภาพค่อนข้างดีของ Kohler ทั้งหมด มีสายฉีดชำระอยู่ทางขวา
ใต้กระจกเงาก่อเป็น Low Wall สำหรับวางของใช้ในห้องน้ำได้

ชั้นเก็บของใต้อ้างล้างหน้าเป็นของ Starmark พร้อมกันชื้น

แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานสวิง ผลักเข้าด้านใน

ธรณีฉากกั้นอาบน้ำสูงประมาณ 9 ซม.

กระเบื้องที่ผนังได้ทั้งที่เป็นลายเรียบๆ และลวดลายสวยงามตามแบบนี้

ได้ฝักบัวอาบน้ำของ Kohler พร้อมที่วางสบู่ถึง 2 จุด

ย้ายเข้ามาดูห้องนอนกันต่อเลยค่ะ 

 ในห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุต ด้านข้างเหลือที่สำหรับตั้งโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ

ด้านซ้ายของเตียงเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า

ทางโครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดฝ้า หน้าบานข้างหนึ่งเป็นกระจกแบบเต็มบาน อีกข้างเป็น Hi-Gloss ด้านบนเป็นช่องเก็บของแบบไม่มีหน้าบานปิดอาจเก็บฝุ่นบ้างคงต้องทำความสะอาดบ่อยหน่อย

ระยะห่างจากเตียงถึงตู้เสื้อผ้าประมาณ 32 ซม.

และระยะห่างจากเตียงถึงหน้าต่างประมาณ 45 ซม.

หน้าต่างทรงสูงแบบบานเลื่อน 2 ตอน ไม่ได้ม่าน

บริเวณปลายเตียงทางโครงการตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องนอนดูกว้างมากขึ้น
ส่วนตำแหน่งแอร์ของห้องนอนนี้จะอยู่ที่ผนังฝั่งปลายเตียง

ปลั๊กไฟ และสวิตช์ไฟ ของ Panasonic

ห้องครัวแบบปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอนกั้นมาให้

เปิดประตูออกมาประมาณนี้

รางประตูสูงจากพื้นนิดหน่อยเวลาเดินระวังสะดุดด้วยนะคะ ส่วนพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ให้เคาน์เตอร์ครัว Built-in แบบเต็มชุดของ Starmark ตู้ด้านล่างหน้าบานเป็น Hi-Gloss
ทำความสะอาดได้ง่ายเวลาทำอาหาร ตู้ด้านบนเป็นลามิเนตลายไม้ ทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close

ตู้ด้านล่าง เป็นลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน ส้อม และอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Franke
เคาน์เตอร์ Top เป็นหินเทียมข้อดีคือมีความแข็งแรง และสวยงามเพราะเป็นหินชิ้นเดียวและไม่มีรอยต่อ

อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวทรงสี่เหลี่ยมแบบไม่มีที่พักจานเป็นของ Franke
ผนังกรุด้วยกระเบื้องสีขาวให้ความรู้สึกสะอาดตา และง่ายต่อการทำความสะอาด

เครื่องดูดควันของ Franke เป็นระบบดูดออกด้านนอกทางตรงระเบียง ข้อดีคือกลิ่นอาหารจะไม่วนกลับเข้ามาภายในห้อง

เปิดตู้ออกมาด้านบนเป็นประมาณนี้ เก็บของได้พอสมควร
ส่วนตู้เย็นจะอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับระเบียง 
มีปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด

ภายในห้องครัว สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่งได้

ประตูระเบียงบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียม
สีน้ำตาลอมเทา

ที่ประตูระเบียงยกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 9 ซม.

เครื่องซักผ้า และคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ทางขวา มีระแนงช่วยบังสายตาจากภายนอก
 ราวกันตกสูงประมาณ 1 เมตร

ได้ไฟเพดาน 1 ดวง ทรงสีเหลี่ยมสีดำ

มุมมองจากระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปในห้องครัว
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed Plus ขนาด 40.80 ตร.ม.

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องรับแขก เชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหารขนาด 5 ที่นั่ง
ถัดไปเป็นห้อง Multipurpose หรือห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง
ติดกันกับห้องอเนกประสงค์จะเป็นห้องนอนซึ่งได้ทุกอย่างเหมือนกันกับห้องที่แล้วต่างกันที่ตำแหน่งการจัดวาง
และห้องนี้จะได้หน้าต่างแบบเข้ามุมแบบ Bay Window ทำให้แสงสว่างจากธรรมชาติส่องเข้าถึงภายในห้องได้มากขึ้น
 และยังทำให้องศาในการมองเห็นวิวภายนอกกว้างมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
พื้นที่ห้องครัวขนาดกว้างขึ้น ได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L อยู่ติดกับส่วนของห้องน้ำ
ห้องนี้จะได้แอร์ทั้งหมด 3 เครื่องติดไว้บริเวณห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอน

ความสูงจากพื้นถึงเพดานจะเท่ากันกับห้องที่แล้ว โดยห้องนั่งเล่น และห้องนอนความสูงอยู่ที่ 2.55 เมตร
ส่วนห้องอเนกประสงค์ และห้องครัวอยู่ที่ 2.4 เมตร ห้องน้ำสูง 2.3 เมตร

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับชั้นวางทีวีอยู่ทางขวา มีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร ตำแหน่งแอร์อยู่เหนือชั้นวางทีวี

ทางฝั่งซ้ายวางโซฟา 2 ที่นั่ง เหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้แบบสบายๆ

ถัดมาเป็นโต๊ะทานข้าวขนาด 5 ที่นั่งวางได้พอดีๆ เลื่อนเก้าอี้ออกมาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าแคบจนเกินไป

ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กรอบสีขาว

ในห้องนี้ทางโครงการติดแอร์ขนาด 9,000 BTU มาให้ 1 เครื่อง ซึ่งตกแต่งเป็นเป็นห้องนั่งเล่นให้ดูเป็นตัวอย่าง
ติดกระจกที่ผนังเพื่อให้ห้องดูกว้างมากขึ้น วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งพอดีกับห้อง หรือจะแต่งเป็นห้องอ่านหนังสือ
หรือห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ อาจจะเลือกใช้เตียงขนาด 3 ฟุต มาวางแทน หรือสำหรับสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะ
จะออกแบบทำเป็นห้องแต่งตัวไว้เก็บเสื้อผ้าหรือทำเป็น Walk In Closet ไปเลยก็ยังได้

มุมมองจากระเบียงมองย้อนกลับไปยังห้องอเนกประสงค์

ระเบียงจะอยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์ มีคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ทางซ้ายมือมีระแนงบังเพื่อความสวยงามเช่นเคย

ย้ายเข้าไปดูห้องนอนกันต่อเลยค่ะ

ภายในห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุต เหลือพื้นที่ทางเดินปลายเตียงประมาณ 65 ซม.

ในห้องนอนได้แอร์ขนาด 9,000 BTU อีก 1 เครื่อง
ใครที่ชอบดูหนังในห้องนอนจะติดทีวีไว้ที่ผนังแบบนี้ก็ดีนะ เพราะจะทำให้ไม่เสียพื้นที่ทางเดินบริเวณปลายเตียง

ได้หน้าต่างบานเลื่อนแบบ 2 ตอนเช่นเดิม แต่พิเศษตรงที่จะได้หน้าต่างเข้ามุมแบบ Bay Window
ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องเพิ่มมากขึ้น

มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องนอนจะสังเกตว่าทางโครงการ Built-in เป็นชั้นวางของมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in เหมือนกันกับห้องที่แล้ว

ครัวย้ายมาอยู่ด้านใน ไม่ได้เชื่อมกับระเบียงเหมือนห้องที่แล้ว โดยห้องครัวมีขนาดใหญ่มากขึ้น
กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน และอยู่ติดกับห้องน้ำ

ข้อดีของประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนคือสามารถเปิดได้กว้างมาก เดินเข้าออกสะดวก

ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบเต็มชุดรูปทรงตัว L ขนาดใหญ่ขึ้น และจะย้ายเครื่องซักผ้ามาไว้ในห้องครัว ต่อท่อมาให้เรียบร้อย

ได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานเหมือนกับห้องที่แล้ว แต่ได้พื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่มมากขึ้น

ระหว่างห้องตัวและห้องน้ำมีธรณีกั้นสูงประมาณ 7 ซม.

ในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์เหมือนกับห้องที่แล้ว ด้านข้างโถสุขภัณฑ์เจาะเป็นช่องสำหรับวางอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำ

กระจกเและอ่างล้างมือก็เหมือนกับห้องที่แล้ว

ห้องนี้ได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเลื่อนเปิดจากตรงกลาง และพื้นที่อาบน้ำที่กว้างมากขึ้น

ชุดฝักบัวและที่วางสบู่เหมือนห้องที่แล้วค่ะ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (9 ธ.ค. 59)
  • แบบ 1 Bedroom ขนาด 27.60 - 41.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.95 - 4.17 ล้านบาท
  • แบบ 1 Bed Plus ขนาด 40.80 - 41.80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.19 - 4.66 ล้านบาท
  • แบบ 2 Bedroom ขนาด 50.10 - 54.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.02 - 5.90 ล้านบาท
  • แบบ Double Volume ขนาด 86.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.37 - 7.54 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของโครงการ
  • ค่าส่วนกลางอัตรา 55 บาท/ตร.ม./เดือน (โดย 3 ปีแรก 35 บาท/ตร.ม.) ชำระล่วงหน้า 1 ปี
  • เงินกองทุนส่วนกลาง 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์) 
โปรโมชั่น
  • จองพร้อมทำสัญญา เริ่มต้น 20,000 บาท ได้ทั้งจอง และทำสัญญา
  • โปรโมชั่นแบ่งชำระเงินจองเงินทำสัญญา 0% 10 เดือน เฉพาะบัตรเครดิตธนาคาร SCB, KBANK, BAY เท่านั้น
  • โปรโมชั่น Free Down Payment จะนวน 3 เดือน
สถานะปัจจุบันของโครงการ (9 ธ.ค. 59)
โครงการ The Tree สุขุมวิท 64 เปิดรอบ Pre-Booking ไปเมื่อวันที่ 19-20 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมียอดจองไปแล้วกว่า 30% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกบ้านเข้าอยู่ได้ประมาณเดือนมีนาคม ปี 2561 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1739 หรือ www.pruksa.com
ดูรายละเอียดโครงการ The Tree สุขุมวิท 64
แท็กที่เกี่ยวข้อง พฤกษา คอนโดใหม่ คอนโดใกล้ bts เดอะ ทรี สุขุมวิท 64
Condo Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Condo Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)