รีวิว-เยี่ยมชม เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange)
ปัจจุบันเส้นทางรถไฟฟ้านั้นมีการต่อขยายออกมารอบนอกเรื่อยๆ จนทำให้ความเจริญนั้นไม่กระจุกอยู่แค่ในตัวเมืองอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับบรรดาคอนโดที่ตอนนี้ ก็หันมาขยับขยายขอบเขตออกมาข้างนอกด้วยเช่นกัน และคอนโดที่เราจะพาไปเยี่ยมชมกันในวันนี้ เป็นโครงการที่โดดเด่นในเรื่องของทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าเพียงก้าวเดียว คือโครงการ
เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (The Metropolis Samrong Interchange) นั่นเองค่ะ โดยเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานี สำโรง ที่จะสามารถทดสอบการใช้งานครั้งแรกได้ประมาณปลายปี พ.ศ. 2559 ค่ะ นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของทำเลที่สุดสะดวกแล้ว ยังมีอะไรให้เราได้เซอร์ไพรส์อีกแน่นอนค่ะ ตามไปดูรายละเอียดโครงการกันต่อได้เลยค่ะ
VIDEO
เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ ถนนสุขุมวิท ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270 อาคารชุดพักอาศัย : 3 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคาร A จำนวน 1,056 ยูนิต สูง 39 ชั้น, อาคาร B จำนวน 552 ยูนิต สูง 30 ชั้น, อาคาร C จำนวน 144 ยูนิต สูง 7 ชั้น, และอาคาร D สำหรับจอดรถ 5 ชั้น ขนาดที่ดินทั้งโครงการ 8 ไร่ 148 ตร.ว. ห้องชุดพักอาศัย : มี 3 รูปแบบ คือ ได้แก่ Studio (28 ตร.ม.), 1 Bed (35 - 45 ตร.ม.), 2 Bed (52 - 53 ตร.ม.) ที่จอดรถประมาณ 40% (อาคาร D) ราคาเริ่มต้น ประมาณ 1.9 ล้านบาท สําหรับห้องแบบสตูดิโอ (ข้อมูล ณ 58) โครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด 10 พ.ย. 58 เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ
บริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด จัดตั้งโดยกลุ่ม ว่องไววิทย์ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพ ทางวิศวกรรมมานานกว่า 60 ปี มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบ้านที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาในการเลือกซื้อบ้าน โดยบริษัทได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2536 ด้วยทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน) และดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของ คุณเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ โครงการ Eastwood Park ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 8 อาคาร 224 ห้อง ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 36 ปัจจุบัน มียอดผู้พักอาศัยแล้วทั้งหมด และยังมีโครงการบ้านจัดสรร วิลล่านครินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวในสังคม คุณภาพ ที่มีทั้งแบบ 3 ชั้น และ 2 ชั้น บริษัทมีความภูมิใจที่จะกล่าวว่าเป็นโครงการที่มีคุณภาพ โครงสร้าง แข็งแรง การบริหารจัดการหลังการขายดี มีความสงบและเป็นส่วนตัว พื้นที่บริเวณรอบโครงการร่มรื่น สวยงาม และไม่เคยมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแม้แต่ครั้งเดียว
เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ที่ ถนนสุขุมวิท ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270 อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 80 กับถนนเทพารักษ์ โครงการอยู่ติดถนนสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในอนาคตด้านหน้าโครงการจะมีสถานีรถไฟฟ้าสำโรง ที่สามารถเชื่อมต่อกับ MRT สายสีเหลืองได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณภายในปี พ.ศ 2560 นี้
ภาพแผนที่โครงการ เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ (
คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ )
ภาพแผนที่โครงการแจกแจงให้เห็นระยะใกล้-ไกลของโครงการกับสถานที่ หรือ Landmark รอบๆ โครงการที่น่าสนใจตำแหน่ง GPS โดยประมาณของโครงการ =
13.646145, 100.595447 การเดินทางเข้า-ออกโครงการ
1. เดินทางด้วยรถยนต์
การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถมาได้หลายเส้นทาง โดยมีเส้นทางหลักดังต่อไปนี้ค่ะ
ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 - จากถนนบางนา-ตราด
เริ่มต้นกันที่ทางลงจากทางพิเศษบูรพาวิถีเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด
ตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนบางนา-ตราดเลยค่ะ
จากนั้นให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวต่อเข้าถนนสุขุมวิท
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทเลยค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับบีทีเอสบางนา
สถานีต่อไปเป็นแบริ่ง มีแปะป้ายเข้าเขตก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีเขียวแล้วค่ะ
เริ่มเข้าเขตตำบลสำโรงเหนือแล้ว มีแปะป้ายเตือนระมัดระวังการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเป็นระยะๆ
ผ่านอิมพีเรียลสำโรง และ บิ๊กซี ทางขวามือ
ขับขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรงไปก่อน
พอลงสะพานมาก็เจอโครงการแล้วค่ะอยู่ด้านขวามือ แต่ยังไปไม่ได้ ไปหาที่กลับรถกันก่อน
ให้กลับรถตรงแยกปู่เจ้าสมิงพราย
ทีนี้ ตรงมาเรื่อยๆ ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ อยู่ติดบีทีเอสสำโรงพอดีเด๊ะ
1.2) ขาเข้าจากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้)
2.1) ขาออกไปยังถนนบางนา-ตราด
2.2) ขาออกไปยังถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้)
2. เดินทางด้วยรถไฟฟ้า
อย่างที่ได้เกริ่นไปเมื่อตอนต้นนะคะว่าโครงการนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ใกล้รถไฟฟ้ามากๆ เพราะฉะนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือเป็นวิธีที่สะดวกทีเดียวค่ะ สำหรับสถานีที่ใกล้ที่สุดของโครงการคือสถานีสำโรง เรียกได้ว่าติดโครงการเลยทีเดียว อีกทั้งสถานีสำโรงนั้น เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองด้วยเช่นกัน สามารถเดินทางต่อไปยังศรีนครินทร์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว คาดว่าจะเปิดทดลองใช้ได้ตอนปลายปี พ.ศ. 2559 ค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองของสถานีสำโรง
ภาพรวมของย่านสำโรงนี้ จะเป็นลักษณะตึกแถวที่เป็นร้านค้าเสียส่วนใหญ่ และมีตลาดรองรับอยู่หลายแห่ง อาทิ ตลาดเอี่ยมเจริญ ที่อยู่ใกล้กับโครงการเพียง 450 เมตร สามารถจับจ่ายใช้สอยของทำครัวได้อย่างสะดวกทีเดียวค่ะ ห่างออกไปอีกหน่อยก็มีตลาดธรรมโรจน์พินิจ, ตลาดสุประกิจ และมีตึกแถวร้านค้าเรียงรายเป็นแนวยาว มีย่านการค้าอย่างสำโรงเซ็นเตอร์เพียง 350 เมตร และถ้าหากอยากเดินห้างแอร์เย็นๆ บ้างก็มี Big C และอิมพีเรียล สำโรง ห่างจากโครงการเพียง 450 เมตรอีกด้วยค่ะ
แผนที่สถานที่โดยรอบโครงการ (
คลิกเพื่อดูภาพขยาย )
ทางเข้า Sales Office โครงการค่ะ ที่จอดรถจะอยู่ด้านหลัง
มีประตูทางเข้าด้านข้าง สำหรับผู้ที่โดยสารรถสาธารณะมา เข้าทางนี้ได้เลย
ถ้าเอารถยนต์ส่วนตัวมา มาจอดด้านหลัง Sales Office ได้ค่ะ พื้นที่ก่อสร้างโครงการอยู่ด้านหลังรั้วนี่เองค่ะ
มีทางเข้าจากที่จอดรถ ไปยัง Sales Office อีกประตูหนึ่ง
บรรยากาศภายใน Sales Office
มาดูบรรยากาศรอบๆ กันบ้าง ถนนสุขุมวิท ด้านหน้าโครงการ
ด้านขวาของโครงการ บริเวณด้านล่างมีการก่อสร้างอยู่บ้าง
ตรงไปอีกหน่อยจะเป็นแยกถนนเทพารักษ์
ตรงไปอีกหน่อยจะมีสะพานลอยข้ามถนน
เลยมาอีก มีตลาดสดปู่เจ้าฯ อีกที่หนึ่ง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร ตลาดเยอะแยะทีเดียว
มีร้านหมูกระทะด้วยค่ะ ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตร
แถวๆ สุขุมวิท 115 มีบิ๊กซี จัมโบ้ อีกที่หนึ่งค่ะ ห่างจากโครงการประมาณ 850 เมตร
ลองไปดูฝั่งซ้ายกันบ้าง
ตรงไปเรื่อยๆ จะมีทางแยกเข้าเลนซ้ายเข้าใต้สะพาน ซึ่งจะมีที่กลับรถ
บริเวณนี้มีการก่อสร้างอยู่ เดินทางด้วยความระมัดระวังกันนิดนึงค่ะ
สะพานข้ามคลองสำโรง
ข้ามคลองมาจะเจอกับตลาดเอี่ยมเจริญ ห่างจากโครงการ 450 เมตร
ภายในตลาดตอนบ่ายก็ยังคึกคักน่าดูค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นอิมพีเรียล สำโรง และ บิ๊กซี สำโรง
มีระบบขนส่งทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ และรถสองแถวอยู่หน้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรงด้วยค่ะ
สำโรงเซ็นเตอร์อยู่ข้างๆ บริเวณนี้ก็ยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่เรื่อยๆ ค่ะ
ตลาดสุประกิจ ตลาดเก่าแก่แห่งหนึ่งของย่านสำโรง ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร
ตลาดธรรมโรจน์พินิจ ตลาดขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
โครงการนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่เศษ มีทั้งหมด 4 อาคาร แบ่งเป็นอาคารที่พักอาศัย 3 อาคาร และอาคารจอดรถแยกต่างหากอีก 1 อาคาร โดยแต่ละอาคารมีจำนวนชั้น และยูนิตพักอาศัยแตกต่างกัน
อาคาร A ความสูง 39 ชั้น รูปทรงตัว L จำนวนห้องชุดพักอาศัย 1,056 ยูนิต อาคาร B ความสูง 30 ชั้น รูปทรงตัว I จำนวนห้องชุดพักอาศัย ประมาณ 552 ยูนิต อาคาร C ความสูง 7 ชั้น รูปทรงตัว I จำนวนห้องชุดพักอาศัย 144 ยูนิต อาคาร D ความสูง 5 ชั้น เป็นอาคารจอดรถ ด้านหน้าโครงการอยู่ฝั่งอาคาร B หรือทิศตะวันออก ติดกับถนนสุขุมวิท ห้องพักอาศัยของอาคาร A และ B ส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าทางทิศเหนือ และทิศใต้ โดยจะเริ่มต้นอยู่ที่ชั้น 7 ส่วนห้องพักอาศัยของอาคาร C จะหันเข้าหาทิศตะวันออก และตะวันตก เริ่มต้นอยู่ที่ชั้น 2
ด้านหน้าฝั่งทิศตะวันออกติดถนนใหญ่สุขุมวิท และรถไฟฟ้า (ในอนาคต)
ฝั่งทิศใต้เป็นที่ตั้งของอาคาร C และอาคาร D
โมเดลอาคารของฝั่งทิศตะวันตก
โมเดลอาคารฝั่งทิศเหนือ
มาดูในส่วนของ Floor Plan ของโครงการกันค่ะ ว่าแต่ละชั้นมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
Master Plan ตำแหน่งที่ตั้งของทั้ง 4 อาคาร ซึ่งปัจจุบันโครงการเปิดขายเฉพาะ อาคาร A และอาคาร C
อาคาร A และ B ชั้น 6 : เป็นชั้นสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของทางโครงการ โดยทั้ง 2 อาคารออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อกันได้ค่ะ โดยลูกบ้านของตึก A และ B จำเป็นต้องเปลี่ยนลิฟต์ที่ชั้นนี้เพื่อขึ้นไปยังส่วนพักอาศัยด้วยเช่นกันค่ะ
อาคาร A ชั้น 7-39 : จะเหมือนกัน คือเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัย 32 ยูนิต/ชั้น
โดยตำแหน่งห้องใหญ่ จะอยู่บริเวณด้านมุมของตัวอาคาร
อาคาร C ชั้น 2-7 : จะเหมือนกัน คือเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัย 24 ยูนิต/ชั้น
โดยห้องแบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ด้านมุมฝั่งทิศตะวันออกของตัวอาคาร
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการจัดมาให้ลูกบ้านพอสมควร โดยสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของโครงการจะอยู่บริเวณชั้น 6 ของอาคาร A และ อาคาร B และบริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคาร C และอาคาร D ซึ่งทุกอาคารสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้หมด แต่ต้องเข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด โดยสิ่งที่อำนวยความสะดวกที่ทางโครงการให้มาประกอบด้วย
Lobby บริเวณชั้น 6 ของอาคาร A และ อาคาร B ที่จอดรถ ชั้น 1-6 อาคาร A, B และอาคาร D 5 ชั้น (ประมาณ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) สระว่ายน้ำระบบเกลือ 3 สระ ตึก A มี 2 สระ (สระผู้ใหญ่ ขนาด 28 x 12 เมตร ลึกประมาณ 120 เซนติเมตร และสระเด็ก) ตึก B มี 1 สระ (สระผู้ใหญ่ ขนาด 30 x 12 เมตร ลึกประมาณ 120 เซนติเมตร) ห้องฟิตเนส ห้องอเนกประสงค์ (Multi-purpose) ไดรฟ์กอล์ฟ แบตมินตัน 2 สนาม Laundry Area พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ สวนสีเขียวบริเวณชั้นดาดฟ้าของทุกอาคาร กล้อง CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ Key Card Access Control แยกทุกตึก ประตูทางเข้าออกด้านหน้าโครงการติดถนนสุขุมวิท ถนนภายในโครงการกว้าง 6 เมตร เป็นการเดินรถแบบทางเดียว
ยกเว้นกรณีมาส่งที่จุด Drop off จะสามารถวนรถออกด้านหน้าโครงการได้เลย
ขับตรงเข้ามาจะผ่านกับจุด Drop off อยู่ทางขวามือ, ป้อม รปภ. และทางเข้าลานจอดรถบริเวณใต้อาคาร A
ชั้น 1-3 บริเวณโซนด้านหน้าของอาคาร B จะเป็น Shop ร้านค้า
ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่บนชั้น 6 ของอาคาร B และอาคาร A ค่ะ
บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร C ทางโครงการจัดเป็นสวนพักผ่อน ขนาดใหญ่แบบเต็มพื้นที่มาให้
บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร D จัดเป็นสวนพักผ่อน และมีสนามเบดมินตันมาให้ด้วยอีก 2 สนาม
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ ของอาคาร A จะอยู่ที่ชั้น 6 ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ทั้งสระผู้ใหญ่ สระเด็ก
ห้องฟิตเนส และ Hall พื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนใกล้สระว่ายน้ำ
ลานจอรถของอาคาร A และ B จะเชื่อมต่อกัน โดยจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-5
ส่วน Lobby ส่วนกลางของโครงการจะอยู่บนชั้น 6 บริเวณโซนด้านหน้าของอาคาร B
ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ริมสระว่ายน้ำ
ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby สไตล์โมเดิร์น บนชั้น 6 ของอาคาร B
ภาพจำลองบรรยากาศ Infinity Edge Pool บนชั้น 6 ของอาคาร B
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็ก บริเวณอาคาร A
ภาพจำลองบรรยากาศ Hall พื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนใกล้สระว่ายน้ำ บริเวณอาคาร A
ภาพจำลองบรรยากาศห้องออกกำลังกาย
ภาพจำลองบรรยากาศร้านอาหารบนชั้น 6
ภาพห้องตัวอย่างและ Layout
แบบห้องของโครงการมีทั้งหมด 3 แบบห้องนอนคือ Studio, 1 Bedroom, และ 2 Bedroom โดยแต่ละแบบห้องก็จะมีแยก Type อีกทีหนึ่งค่ะ ปัจจุบันโครงการกำลังเปิดขายตึก A โดยขายแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และแบบลอยตัว ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่งห้อง แต่สำหรับตึก C ที่กำลังจะเปิดขายเร็วๆ นี้นั้น จะได้เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น, ทีวี, และเครื่องทำน้ำร้อนเพิ่มเติมมาด้วยค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างที่เราได้ไปเยี่ยมชม เป็นแบบห้องที่เปิดขายในตึก A ไปดูแปลนห้องและดูภาพตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ
ห้องแบบ Studio (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง Type A1 28 ตร.ม. , Type A2 28 ตร.ม. , Type A3 25 ตร.ม. ) ห้องแบบ 1 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง Type B1 35 ตร.ม. , Type E1 45 ตร.ม. ) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง Type D1 53 ตร.ม. , Type C1 52 ตร.ม. ) ประตูทางเข้าห้อง มีช่องตาแมวให้
บานจับประตูเป็นแบบก้านยาว ล็อคประตูเป็น Smart Door Lock ยี่ห้อ Kwikset ใช้งานได้ทั้งแบบกุญแจ
หรือเชื่อมต่อระบบ Bluetooth กับโทรศัพท์มือถือ iPhone ตั้งแต่ iPhone 5 ขึ้นไปได้
เข้ามาด้านใน เปรียบเทียบกับแปลนห้องจะเจอกับส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในเป็นห้องนอน
ด้านซ้ายมือของภาพ กั้นห้องสำหรับบริเวณห้องครัว และห้องน้ำ
ด้านใน บานจับประตูเป็นแบบเดียวกัน และระบบ Smart Door Lock
บริเวณห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่งได้ ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้เลยค่ะ
ทั้งโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีด้านขวามือ
เป็นได้ทั้งชั้นวางของ และตู้เก็บของไปในตัวค่ะ
ภายในห้องนั่งเล่น จะมีชุดโต๊ะเก้าอี้เข้ามุมสำหรับรับประทานอาหาร 2 ท่าน
ความสูงจากพื้นถึงฝ้าปกติจะอยู่ที่ 2.55 เมตร ส่วนที่ดรอปฝ้าจะสูง 2.65 เมตร
แต่เพดานจะเป็นปูนฉาบเรียบธรรมดา ไม่ได้ตกแต่งไม้แบบในภาพค่ะ
โคมไฟเป็น Down Light และพื้นเป็นกระเบื้องขัดเงา 60 x 60 ซม.
แอร์ ทางโครงการก็แถมให้ ใช้ของ Daikin ค่ะ
มาดูด้านในกันบ้างค่ะ สำหรับ 1 ห้องนอน จะมีประตูบานเลื่อนกั้นให้ ถ้าเปิดทิ้งไว้ก็จะเห็นทุกห้องแบบนี้
พอปิดประตูก็จะเป็นสัดส่วนมากขึ้น
ด้านในห้องนอน พื้นเป็นไม้ Engineering Floor
แถมเตียงขนาด 5 ฟุต และโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ข้าง
ปลายเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ด้วยค่ะ
ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเลื่อน เปิดรับลมได้แต่ออกไปไม่ได้นะ
มองจากห้องนอนไปด้านนอก จะเห็นว่ามีห้องน้ำอยู่ด้านหลังบริเวณฉากกั้นวางทีวี
มีประตูกั้นห้องครัวให้ เป็นบานเลื่อนกระจกใส ทำให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นไม่เข้าไปรบกวนภายในห้องนั่งเล่น
ภายในห้องครัวเป็นแนวยาว มีระเบียงอยู่ด้านข้าง ทำให้ห้องไม่อับ สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวและตู้ลอยได้เต็มพื้นที่
ท็อปครัวเป็นผิว High Pressure Laminate ได้อ่างล้างจานหลุมเดียวมีที่พักจานด้านข้างของ Mex
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ
ด้านบนเป็นตู้ลอย มีพื้นที่เหลือด้านบน
ส่วนนี้ใช้วางตู้เย็นได้ค่ะ
ห้องน้ำอยู่ติดกับห้องครัว
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard
ใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้เก็บของได้ด้วยค่ะ
กั้นส่วนเปียกด้วยประตูบานเลื่อนกระจกฝ้า
มีฝักบัวให้ 2 แบบตามภาพเลยค่ะ
ประตูทางเข้าด้านหน้ามีช่องตาแมวเช่นกันค่ะ
Smart Door Lock ลองเอานิ้วไปแตะ จะมีไฟกะพริบๆ
ด้านในมีลักษณะแบบนี้ ใช้งานเหมือนกันหมดค่ะ
เข้ามาด้านใน เปรียบเทียบกับแปลนห้อง ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะอาหารได้ถึง 4 ที่นั่ง
ห้องทางขวามือติดกับประตูเป็นห้องน้ำ ถัดไปเป็น Master Bedroom ตรงกลางห้องด้านในเป็นห้องนั่งเล่นติดระเบียง
ส่วนด้านซ้ายมือนั้น เป็นห้องนอน 2 และห้องครัว กั้นห้องให้อย่างเป็นสัดส่วนค่ะ
บริเวณโต๊ะรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับห้องครัวพอดี โดยผนังห้องครัวนั้น
ทางโครงการตกแต่งด้วยกระจกให้ตามแบบด้วยเช่นกัน
มาดูทางด้านขวาของห้อง ติดกับประตูจะมีตู้เก็บของให้
เอาไว้วางรองเท้า และสัมภาระทั่วไปก่อนเข้าห้องได้ค่ะ ด้านข้างเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก
สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard
บานกระจกใหญ่เต็มพื้นที่
กั้นส่วนเปียกด้วยประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าเช่นกัน
พื้นที่สำหรับอาบน้ำ ทำเป็นธรณียกสูงกั้นไว้ให้ค่ะ
ฝักบัวมี 2 แบบเหมือนกันค่ะ
ออกมาด้านนอก บรรยากาศของห้องดูโปร่ง
ห้องนั่งเล่นมีโซฟา และชั้นวางทีวีให้
โซฟาขนาดประมาณ 3-4 ที่นั่ง
ชั้นวางของ Built-in เป็นตู้เก็บของได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ด้านบนดรอปฝ้าให้ตามภาพเลย
ระเบียงที่ติดกับห้องนั่งเล่น สามารถเดินออกไปพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วย
ประตูเป็นบานเลื่อน ระเบียงกั้นด้วยโครงเหล็ก
มุมมองจากระเบียงเข้าไปในห้อง
เข้ามาดูที่ Master Bedroom กันต่อเลยค่ะ เดินเข้ามาจะเจอกับตู้เสื้อผ้าก่อน
ห้องนอนใหญ่ดูกว้างขวางทีเดียวค่ะ มีเตียงขนาด 5 ฟุตให้ และวางของข้างเตียงได้อีกเยอะแยะเลย
ด้านในเป็นระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเมื่อสักครู่
สำหรับห้องนอนจะไม่มีดรอปฝ้าให้นะคะ จะเป็นฝ้าเรียบเท่ากันทั้งหมด
มุมมองจากภายในห้อง ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงติดเพดานเลยทีเดียว
ด้านในมีทั้งราวแขวน ชั้นวาง และลิ้นชัก
ออกมาที่ด้านนอกกันต่อ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก ห้องครัว ตรงกลางมีตู้เก็บของ Built-in
บรรยากาศภายในห้องนอนเล็ก
แต่ก็ไม่เล็กสักเท่าไหร่ โครงการให้เตียง 3 ฟุตมา แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างว่างอีกเยอะแยะเลย
ด้านนึงติดกับหน้าต่าง ใช้เปิดรับลมชมบรรยากาศเพลินๆ
ด้านบนทำซอกสำหรับติดตั้งผ้าม่านให้
อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in
ขนาดเล็กกว่าของ Master Bedroom นิดนึง
ด้านนอกตู้เก็บของ Built-in อยู่ระหว่างห้องนอนเล็กกับห้องครัว
ห้องครัวของแบบห้องนี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส จึงจัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L
ได้ทั้งเซ็ตแบบเดียวกับห้องแรกเลยค่ะ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้นะ (ยกเว้นตึก C จะได้ตู้เย็นด้วย)
เก็บของและอุปกรณ์ทำครัวได้เยอะแยะ มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า
บานกระจกทำให้มองเห็นห้องด้านนอก ให้ความรู้สึกห้องดูโล่ง โปร่ง กว้างขวางขึ้นทีเดียวค่ะ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (19 พ.ย. 58)
ตัวอย่างค่าใช้จ่าย ตึก A
แบบห้อง ขนาด ราคาเริ่มต้น (ล้านบาท) เงินจอง (บาท) เงินทำสัญญา (บาท) Studio 28 - 31 ตร.ม. 1.9xx 5,000 25,000 1 Bedroom 35, 45 ตร.ม. 2.8xx 5,000 30,000 2 Bedroom 52, 53 ตร.ม. Sold Out 5,000 45,000
โอนกรรมสิทธิ์ 90% ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน เก็บล่วงหน้า 12 เดือน กองทุนบริหาร 500 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
หมายเหตุ : ราคาที่เสนอตามใบเสนอราคานี้ เป็นราคาพร้อมโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษ หากผู้ซื้อโอนสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขาย ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ผู้จะซื้อจะไม่ได้รับโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษนี้
การเดินทางเข้าออกโครงการ - ในการเดินทางเข้าโครงการนั้นถือว่าสะดวก ไปได้หลากหลายเส้นทาง และยังเดินทางได้สะดวกอีกด้วยค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทที่เชื่อมต่อกับถนนอีกหลากหลายสาย อาทิ ถนนบางนา-ตราด, ถนนเทพารักษ์, ถนนปู่เจ้าสมิงพราย, ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ใกล้กับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 3 นาที และใกล้กับทางด่วนขั้นที่ 1 เพียง 5 นาที แต่สำหรับจุดขายของโครงการอยู่ตรงที่ตั้งติดกับรถไฟฟ้า การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอาจจะสะดวกที่สุดค่ะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ สถานีสำโรง เป็นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายของสายสีเขียว ต่อจากมาจากสถานีแบริ่งนี่เองค่ะ ทั้งนี้ทางการได้ประกาศออกมาแล้วว่า จะสามารถทดสอบการใช้งานรถไฟฟ้าสายนี้ได้ในปลายปี 2559 ซึ่งจะใช้งานได้ก่อนโครงการจะสร้างเสร็จเสียอีก เท่ากับว่าถ้าโครงการสร้างเสร็จแล้วรถไฟฟ้าก็พร้อมใช้งานด้วยเช่นกันค่ะ และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ โครงการยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีทิพวัลที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีสำโรงอีกด้วย โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะสามารถใช้งานได้ประมาณปี พ.ศ. 2563 ค่ะ ทำเลรอบโครงการ - ทำเลรอบโครงการนั้นรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแบบครบครันทีเดียวค่ะ ด้านขวามือของโครงการจะไปเชื่อมต่อกับถนนเทพารักษ์และถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณรอบๆ นี้ จะมีตึกแถวเปิดเป็นร้านค้าบริการอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งร้านขายยา ร้านหมูกะทะ และตลาดรองรับอีกมากมาย ส่วนด้านขวาของโครงการนั้น ก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยตลาดไม่แพ้กัน ทั้งตลาดเอี่ยมเจริญ, ตลาดธรรมโรจพินิจ, สำโรงเซ็นเตอร์, ตลาดสุประกิจ เรียกว่าซื้อหาของกินได้อย่างสุขสบายทีเดียว หรือถ้าหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากตลาดมาเดินห้างบิ๊กซี ก็มีเช่นกันค่ะ พร้อมทั้งอิมพีเรียล สำโรง โดยบริเวณนั้นจะมีอู่รถตู้, รถสองแถว, วินมอเตอร์ไซค์คอยบริการอยู่เยอะแยะทีเดียว อาคารและตัวโครงการโดยรวม - โครงการมีทั้งหมด 4 อาคารด้วยกัน บนเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 8 ไร่ ซึ่งเป็นคอนโดแบบ High-rise ผสมกับ Low-rise แบ่งเป็นอาคารที่พักอาศัย 3 อาคาร และอาคารจอดรถแยกต่างหากอีก 1 อาคาร โดยรวมแล้วสามารถจอดรถได้ประมาณ 40% ไม่รวมซ้อนคัน ฐานรากของอาคาร A และอาคาร B นั้นจะเชื่อมต่อกันในส่วนของชั้น 1-6 โดยชั้น 1-5 นั้นเป็นที่จอดรถเชื่อมกันทั้งสองอาคาร สามารถใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันได้จากทั้ง 2 ตึก พอขึ้นมาชั้น 6 ที่เป็น Facility ซึ่งจะใช้ร่วมกันทั้งหมดโครงการ และชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัย ซึ่งตรงนี้จะมี Key Card แยกเพื่อเข้าไปใช้งานลิฟต์สำหรับขึ้นไปที่พักอาศัยตึกของตัวเองต่างหากด้วยค่ะ รูปแบบห้องและวัสดุ - รูปแบบห้องนอนของโครงการมีทั้งหมด 3 แบบคือ Studio, 1 Bedroom, และ 2 Bedroom ปัจจุบันโครงการเปิดขายตึก A ที่มีทั้งหมด 1,056 ยูนิต โดยห้อง 2 Bedrooom นั้นได้ Sold Out ไปเรียบร้อยแล้ว โครงการวางแผนจะเปิดขายตึก C ในวันที่ 21-22 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีแต่ห้องแบบ 1 และ 2 Bedroom เท่านั้นค่ะ ส่วนตึก B นั้นต้องรอติดตามจากทางโครงการอีกครั้งหนึ่งค่ะ สำหรับวัสดุที่ใช้ภายในห้องนั้นได้มาตรฐานและบางอย่างก็สูงกว่ามาตรฐานด้วยค่ะ ประตูเข้าออกห้อง เป็นแบบ Digital Smart Door Lock ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือของเราด้วยระบบ Bluetooth สามารถเข้าออกห้องได้ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณแล้วสแกนผ่านได้เลย และยังใช้พร้อมกับกุญแจได้เหมือนเดิมค่ะ พื้นภายในห้องเป็นกระเบื้องขัดเงาขนาด 60x60 ซม. ส่วนพื้นบริเวณห้องนอนจะเป็น Engineering Floor ความสูงจากพื้นถึงฝ้าปกติอยู่ที่ 2.55 เมตร ถ้าเป็นส่วนดรอปฝ้าจะสูง 2.65 เมตร เครื่องสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard โครงการขายห้องแบบ Fully Furnish ได้เฟอร์นิเจอร์แบบครบครัน ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่สำหรับตึก C ที่กำลังจะเปิดขายเร็วๆ นี้นั้น มีแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ด้วยค่ะ อาทิ ทีวี, ตู้เย็น, เครื่องทำน้ำร้อน เป็นต้น ราคา - ราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ประมาณ 1.9x ล้านบาท สำหรับห้อง Studio ขนาด 28 ตารางเมตร เป็นราคาของตึก A ที่กำลังเปิดขายอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าดูว่าเป็นทำเลที่ติดกับรถไฟฟ้าเพียงก้าวเดียวแล้ว ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างถูกเลยทีเดียวค่ะ ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของการใช้วัสดุภายในห้องก็ยังถือว่าสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป อาทิ พื้นห้องนอนเป็น Engineering Floor และ Smart Door Lock ที่ยังไม่ค่อยเห็นโครงการอื่นๆ ใช้ นอกจากนี้ ความคุ้มค่าอีกอย่างหนึ่งก็คือในเรื่องของสาธารณูปโภคที่ครบพร้อมในทุกๆ ด้าน ถือว่าเป็นโครงการที่คุ้มกับค่าใช้จ่ายจริงๆ ค่ะ สถานะปัจจุบันของโครงการ (19 พ.ย. 58)
โครงการเปิด Pre-sale ครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2558 โดยเปิดขายในส่วนของตึก A ซึ่งจะเหลือขายห้อง Studio ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9x ล้านบาท และห้องขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.8x ล้านบาท โดยห้องขนาด 2 ห้องนอนนั้น Sold Out ไปเรียบร้อยแล้ว หากใครต้องการห้องขนาด 2 ห้องนอน ยังสามารถซื้อได้ที่ตึก B และตึก C ค่ะ ซึ่งทางโครงการเปิด Pre-sale ตึกใหม่ไปเมื่อวันที่ 21-22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา (ตึก C) หากใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-024-8000 และ 084-721-9000 หรือ
www.metroprop.co.th