รีวิว-เยี่ยมชม Ideo Sathorn-Tha Phra (ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ)

วันนี้ Checkraka.com พามาชมคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในย่านฝั่งธนบุรี จากค่าย อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ กันค่ะ โครงการนี้มีชื่อว่า ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ (Ideo Sathorn Tha Phra) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร ประมาณ 320 เมตร และห่างจากสาทรเพียงแค่ 3 สถานีเท่านั้น เดี๋ยวไปชมหน้าตาของโครงการจริงที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วของโครงการนี้กันค่ะ

• เจ้าของ และผู้พัฒนาโครงการ:  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ: ถนนราชพฤกษ์ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.
• อาคารชุดพักอาศัย: สูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ประกอบด้วย ห้องชุดพักอาศัย จำนวน 1,339 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต
• ขนาดที่ดินทั้งโครงการ: 5-3-19 ไร่
• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์ดับเพลิง (Fireman Lift) อีก 2 ตัว
• ห้องชุดพักอาศัย: มี 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
• ขนาดตั้งแต่ 21.00 - 45.00 ตร.ม.
• ที่จอดรถประมาณ 34% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท สําหรับห้องแบบ สตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม. (ข้อมูล ณ 19 ก.พ. 58)
• สร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่
• วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด ข้อมูล ณ 19 ก.พ. 58

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชนประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,636,630,000 บาท เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่มีสโลแกนสำคัญในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยคือ "Live / Work / Play" (Let's live, work and play more) ปัจจุบันบริษัทฯ พัฒนาทั้งคอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรรในกรุงเทพ และปริมณฑล โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมนั้นมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมตรกับแบรนด์ "ไอดีโอ" และไม่เกิน 600 เมตรกับแบรนด์ "เอลลิโอ" โดยคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัทฯ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในปี 2550 คือโครงการ "ไอดีโอ ลาดพร้าว 17" จวบจนปัจจุบัน บริษัทฯ พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วทั้งหมดเกือบ 40 โครงการ โดยในปี 2558 นี้ ทางบริษัทอนันดาฯ ก็เตรียมเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 31,500 ล้านบาท และมีการขยาย segment เพิ่มกับแบรนด์ใหม่ๆ เช่น UNIO CONDO, ASHTON RESIDENCE 41 และทาวน์โฮม ARDEN

จากจุดที่ตั้งของโครงการถือว่าอยู่ไม่ไกลจากแหล่งความเจริญในย่านสาทร เพียงแค่ข้ามสะพานตากสิน ก็ถึงสาทรแล้วคิดแล้วเป็นระยะทางก็ประมาณ 4 กม. ในกรณีที่รถไม่ติดใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น ส่วนการเดินทางรอบๆ โครงการสามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนราชพฤกษ์ เชื่อมต่อถนนกรุงธนบุรี ข้ามไปถนนสาทร หรือถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อถนนเทอดไท ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนพระราม 3 หรือไปออกถนนเจริญกรุง และถนนเจริญนครก็ยังได้ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากห้างเดอะมอลล์ท่าพระ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี และแหล่งรวมของอร่อยชื่อดังอย่างตลาดพลูอีกด้วย

ภาพแผนที่โครงการ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ

ภาพแผนที่โครงการแจกแจงให้เห็นระยะใกล้-ไกลของโครงการกับสถานที่ หรือ Landmark รอบๆ โครงการที่น่าสนใจตำแหน่ง GPS โดยประมาณของโครงการ = 13.720057, 100.486026

ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ ห่างจากโครงการเพียง 650 ม.

โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.

โรงพยาบาลพญาไท 3 ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กม.

มหาวิทยาลัยสยาม ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม.

แหล่งรวมอาหารร้านอร่อยย่านตลาดพลู ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม.

1. เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถมาได้หลายเส้นทาง โดยมีเส้นทางหลักดังต่อไปนี้ค่ะ

เส้นทางเข้าที่ 1 - ขาเข้าโครงการจากถนนสาทรใต้ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร)

เดี๋ยวเรามาดูการเดินทางจากถนนสาทรใต้มาถึงตัวโครงการ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ กันค่ะ

ตรงมาจากถนนสาทรใต้ให้ยึดป้ายสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (สะพานสาทร)

จากนั้นตรงข้ามสะพานมาได้เลยค่ะ

พอลงสะพานมาแล้วจะเข้าสู่ถนนกรุงธนบุรี ให้ตรงไปเรื่อยๆ ค่ะ

พอตรงมาเรื่อยๆ จะผ่าน BTS สถานีกรุงธนบุรี

หลังจากผ่าน BTS สถานีกรุงธนบุรี พอตรงมาอีกนิดก็จะผ่าน BTS วงเวียนใหญ่
ให้ชิดซ้ายเพื่อไปตรงแยกตากสิน (ไม่ข้ามสะพาน)

จากนั้นจะถึงแยกตากสิน ให้ตรงไปค่ะ

พอผ่านแยกตากสินมาแล้ว ให้ตรงไปเรื่อยๆ

พอถึง BTS สถานีโพธิ์นิมิตร ให้ชิดซ้ายวิ่งทางคู่ขนาน

ตรงมาอีกนิดนึงก็ถึงโครงการแล้วค่ะ อยู่ทางซ้ายมือ

เส้นทางเข้าที่ 2 - ขาเข้าโครงการจากถนนราชพฤกษ์

เส้นทางออกที่ 1 - ขาออกโครงการไปถนนสาทร (เข้าเมือง)

เส้นทางออกที่ 2 - ขาออกโครงการไปพระราม 3 - คลองเตย

2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และรถด่วนพิเศษถือว่าสะดวกค่ะ มีทางเลือกในการเดินทางอยู่หลายเส้นทางด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

• รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม - สถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ BTS สถานีโพธิ์นิมิตร (ห่างจากโครงการประมาณ 320 เมตร)
• รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย - เป็นโครงการในอนาคต ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ ปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งพอเปิดใช้งานก็จะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางได้อีกมาก โดยจะมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีบางหว้า (ห่างจาก BTS สถานีโพธิ์นิมิตร 3 สถานี)
• รถด่วนพิเศษ BRT - สถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ BRT สถานีราชพฤกษ์ (ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร)

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS

ตัวอย่างการเดินทางจากรถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร มาโครงการ

แผนที่บริเวณ BTS สถานีโพธิ์นิมิตร (คลิกเพื่อดูรูปใหญ่)

ตัวอย่างการเดินทางจากรถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร มาโครงการ

พอลงรถไฟฟ้ามาให้ใช้ทางออกที่ 2 ค่ะ

จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายไปตรงทางลง

ถึงทางลงแล้วค่ะ เดินลงไปได้เลย

พอลงมาแล้วก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

เดินมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงเรียนมณีวิทยา

ขนาดของฟุตบาทค่อนข้างกว้าง เดินได้สะดวก

เดินมาเรื่อยๆ จะผ่าน The Room สาทร-ตากสิน

เดินต่อมาอีกหน่อยจะมีอาคารพาณิชย์อยู่ก่อนถึงโครงการ

ถึงโครงการแล้วค่ะ อยู่ทางซ้ายมือ

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (โครงการในอนาคต คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ ปี 2560 เป็นต้นไป)

ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค สร้างเสร็จ (คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงปี 2560 ขึ้นไป) ก็จะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น โดยสถานีที่คาดว่าจะใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือ สถานีบางหว้า ตั้งอยู่ตามแนวถนนเพชรเกษม

เส้นทางเดินรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

การเดินทางด้วยรถด่วนพิเศษ BRT

การเดินทางด้วยรถด่วนพิเศษ BRT ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองได้ การเดินทางออกจากโครงการเลี้ยวซ้าย เดินตรงขึ้นไปอีกนิดประมาณ 400 เมตร ก็จะเจอสถานีราชพฤกษ์ ซึ่งจะตั้งอยู่ก่อนถึงแยกถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนรัชดาภิเษก

เส้นทางเดินรถของรถด่วนพิเศษ BRT
(ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.bangkokbrt.com)

แผนที่สภาพแวดล้อม และโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณรอบโครงการ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการค่ะ

บรรยากาศด้านข้างโครงการหากมองจากฝั่งตรงข้าม ด้านซ้ายจะอยู่ใกล้กับอาคารพาณิชย์ และ The Room สาทร-ตากสิน

บรรยากาศด้านข้างโครงการหากมองจากฝั่งตรงข้าม ด้านขวาจะอยู่ใกล้กับ The Parkland ตากสิน-ท่าพระ

บรรยากาศด้านขวามือโครงการ

บรรยากาศหากเดินออกจากโครงการไปทางขวามือค่ะ

เดินออกมาก็จะเจอกับอาคารพาณิชย์

พอเดินมาอีกหน่อยก็จะเป็น The Room สาทร-ตากสิน

ตรงมาก็จะมีสะพานลอยคนข้าม สามารถข้ามไปขึ้นรถที่ฝั่งตรงข้ามได้สะดวก

ตรงนี้ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ เรียกไปขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย

เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะผ่านโรงเรียนมณีวิทยา

ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร ค่ะ

บรรยากาศด้านซ้ายมือโครงการ

ถ้าเดินออกมาทางซ้ายมือนิดนึงก็จะผ่านร้าน CUBE ซึ่งจะเปิดขายเฉพาะช่วงเย็น-กลางคืน

เดินต่อมาเรื่อยๆ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว อยู่ติดกับ 7-Eleven

ด้านหน้า 7-Eleven มีร้านอาหารตามสั่งด้วยนะคะ

ถัดมาก็จะผ่านร้านอาหาร All In ที่เปิดขายเฉพาช่วงเย็น-กลางคืน เหมือนกัน

เดินต่อมาเรื่อยๆ ก็จะผ่าน Parkland ตากสิน-ท่าพระ มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงนี้ด้วย

และติดกันจะเป็นโครงการ The Parkland Grand ค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับทางเข้าโครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

ตรงมาอีกนิดก็จะถึงสถานี BRT ราชพฤกษ์ ค่ะ

ถ้าจะข้ามไปขึ้น BRT ก็สะดวกมีทางม้าลาย และไฟเขียวไฟแดงอยู่ตรงนี้ด้วย

พอเดินต่อไปก็จะถึงแยกถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนรัชดาภิเษก
ตรงนี้ก็จะมีทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีตลาดพลูอยู่ด้วยค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเดินไปถึง The Mall ท่าพระ ค่ะ

โมเดลโครงการมุมมองจากทิศเหนือ ติดถนนราชพฤกษ์

โมเดลโครงการมุมมองจากทิศตะวันออก ติดบ้านสูง 1-2 ชัั้น และคอนโด The Room สาทร-ตากสิน

โมเดลโครงการมุมมองจากทางฝั่งทิศใต้ ติดบ้าน และอาคารพาณิชย์สูง 2-4 ชั้น

โมเดลโครงการมุมมองจากทางฝั่งทิศตะวันตก ติดคอนโด The Parkland ตากสิน-ท่าพระ

โมเดลโครงการมุมมองจากชั้นดาดฟ้าของโครงการ

Master Plan ของชั้น G ซึ่งชั้นนี้จะมีในส่วนของ Lobby, ลานจดรถ, ร้านค้า, ห้องจดหมาย, ห้องประชุม และห้องนิติบุคคล

Master Plan ชั้น 2 ฝั่งซ้ายของอาคารจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยจำนวน 14 ยูนิต มีลิฟต์ให้ 2 ตัว
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถบางส่วน โดยฝั่งขวานี้มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และ ลิฟต์ดับเพลิงอีก 1 ตัว

Master Plan ตั้งแต่ชั้น 3 - ชั้น 6 จะเหมือนกันค่ะ คือฝั่งซ้ายของอาคารจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยจำนวน 14 ยูนิต
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถเต็มทั้งชั้นค่ะ

Master Plan ชั้น 7 เป็นส่วนของ Facility ของโครงการประกอบ ส่วนของ Social Club, สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้อง Steam, ห้องซักรีด, สวน และส่วนของห้องพักอาศัยอีกจำนวน 39 ยูนิต

Master Plan ตั้งแต่ชั้น 8-28 จะเหมือนกันค่ะ คือจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยจำนวน 53 ยูนิต/ชั้น

Master Plan ชั้น 29-31 ก็เป็นส่วนของห้องพักอาศัยเหมือนกันค่ะ แต่จำนวนห้องจะมีแค่ 39 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น

Master Plan ดาดฟ้าชั้นบนสุดของโครงการจะเป็นส่วนของสวนสีเขียวค่ะ

เราเก็บภาพบรรยากาศวิวจากชั้นดาดฟ้าของโครงการมาด้วยค่ะ ไปดูกันว่าวิวของแต่ละทิศเป็นอย่างไรกันบ้างเริ่มจาก

หมายเลข 1 วิวฝั่งทิศเหนือ ด้านหน้าติดถนนราชพฤกษ์ วิวเปิดโล่งไม่มีอาคารสูงบดบัง

หมายเลข 2 วิวฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือนี้ มีคอนโด The Room ความสูง 23 ชั้น
อาจบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็ยังมองเห็นวิวเมืองอยู่อีกพอสมควรค่ะ

หมายเลข 3 วิวฝั่งทิศเหนือ เป็นวิวที่เห็นวัดโพธิ์นิมิตรอยู่บ้าง

หมายเลข 4 วิวฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ จากทิศนี้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย
แต่คงต้องอยู่ชั้นสูงๆ หน่อยนะคะ

หมายเลข 5 วิวฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้านนี้ก็ไม่มีอาคารสูงบดบังเช่นกันค่ะ

หมายเลข 6 วิวฝั่งทิศเหนือ อีกด้านหนึ่งของอาคารเป็นวิวเปิดโล่ง ไม่มีอาคารบดบังเช่นกัน

หมายเลข 7 วิวฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกันเป็นโครงการ The Parkland ตากสิน-ท่าพระ
ความสูง 29 ชั้น เรียกได้ว่าบังวิวพอสมควรเลยค่ะ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก Ideo จัดมาให้ลูกบ้านแบบเต็มที่เสมอ และโครงการนี้ก็เช่นกัน โดยสิ่งอำนวยความสะดวกจะอยู่บริเวณชั้น G ซึ่งกระจายอยู่บริเวณรอบๆ โครงการ และบริเวณชั้น 7 ของอาคารฝั่งขวา โดยสิ่งที่ทางโครงการให้มาประกอบด้วย

1. Lobby แยกส่วนของแต่ละฝั่ง แบ่งเป็น Lobby A (อยู่ฝั่งขวาของอาคาร) และ Lobby B (อยู่ฝั่งซ้ายของอาคาร)
2. ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์
3. สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 25 เมตร (Half Olympic) พร้อมสระเด็ก
4. ส่วนของ Social Club ประกอบด้วย โต๊ะพูล, โต๊ะหมากรุก และ Living Area
5. ร้านค้า และมินิมาร์ท บริเวณใต้อาคาร (ปัจจุบันมี True Coffee และ Max Value Tanjai)
6. ที่จอดรถบริเวณชั้นที่ 2-6 และบริเวณชั้น G รวมแล้วประมาณ 34% (แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน)
7. สวนสีเขียวที่กระจายอยู่รอบโครงการ และชั้น 7 ของอาคาร
8. ห้อง Steam และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
9. ห้องสมุด
10. ห้องซักรีด
11. ห้องจดหมาย
12. ห้องประชุม
13. ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์ดับเพลิง 2 ตัว
14. กล้อง CCTV
15. ระบบ Key Card Access Control
16. พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

เดี๋ยวเราไปดูภาพบรรยากาศและตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Ideo สาทร-ท่าพระ กันค่ะ

เริ่มจากบริเวณหน้าโครงการจะมีน้ำพุตั้งอยู่ทางหน้าตึกฝั่งซ้ายของโครงการค่ะ 
มองไปด้านหลังจะเป็นส่วนของ Maxvalu Tanjai  และ Sales Gallery ซึ่งในอนาคตตรงนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นร้านค้าเช่นกัน

ร้าน Maxvalu Tanjai ตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการนะคะ คงต้องรออีกซักพักค่ะ

ร้านกาแฟ True Coffee จะอยู่บริเวณใต้อาคารฝั่งขวา ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วค่ะ

จากโครงการเดินตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนของป้อม รปภ. ที่อยู่ทางซ้าย ตรงจุดนี้จะมีกล้อง CCTV,
เครื่องสแกน Key Card พร้อมไม้กระดกกั้นอยู่ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก 

ต่ำแหน่งเครื่องสแกน Key Card และกล้อง CCTV ฝั่งขาออก

จากป้อม รปภ. ตรงเข้าไปจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถซึ่งจอดได้ทั้ง 2 ฝั่ง
เลยไปอีกหน่อยจะเป็นจุด Drop Off โดยอยู่ตรงกลางระหว่าง Lobby A และ Lobby B

บรรยากาศด้านหน้า Lobby A ซึ่งอยู่ทางอาคารฝั่งขวาของโครงการ

ด้านหน้า Lobby A มีที่จอดรถสำหรับคนพิการด้วยนะคะ

บรรยากาศภายใน Lobby A พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ พื้นปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ เพดานแบบเล่นระดับ พร้อมชุดโซฟาสำหรับรับแขก ด้านขวานี้จะเป็นส่วนของห้องประชุม ห้องนิติบุคคล และส่วนของห้องน้ำสำหรับแขก

ส่วนด้านซ้ายจะมีชุดรับแขกสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ 2 ชุด และกระจกใสที่สูงจากพื้นถึงฝ้า

เคาน์เตอร์ต้อนรับลูกค้าเป็นหินอ่อน ส่วนประตูกระจกที่เห็นเข้าไปทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนของห้องจดหมาย
และทางขวาจะเป็นลิฟต์สำหรับขึ้นไปส่วนพักอาศัย

พื้นที่สีฟ้าเป็นส่วนของจุด Drop off ค่ะ เดี๋ยวเราข้ามไปดูฝั่ง Lobby B กันค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าของ Lobby B เป็นประตูกระจกแบบบานคู่ค่ะ

ภายใน Lobby B จะมีขนาดเล็กกว่าส่วนของ Lobby A นะคะ พื้นปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ เพดานแบบ Drop ฝ้า
ด้านซ้ายจะมีกระจกใส สูงจากพื้นถึงฝ้า มีชุดโซฟารับแขก สำหรับ 4 ที่นั่ง 1 ชุด และสำหรับ 2 ที่นั่งอีก 1 ชุด

เคาน์เตอร์เป็นหินอ่อนเหมือนกันแต่ขนาดเล็กกว่า ติดกันเป็นประตูทางเข้าลิฟต์
ซึ่งตึกนี้มีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว และลิฟต์ดับเพลิง 1 ตัว ส่วนประตูขวาสุดที่เห็นเป็นประตูทางหนีไฟค่ะ

ออกมาดูด้านนอกของอาคารฝั่งซ้ายกันค่ะ ส่วนนี้จะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถ
และส่วนหย่อมขนาดเล็กที่ลาดยางสำหรับเป็นทางเดิน และปลูกต้นไม้สำหรับให้ร่มเงาไว้ด้วย

เดินตรงเข้ามาดูด้านข้างอาคาร ก็ยังคงเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้อีกหลายคันเลยทีเดียว

ด้านซ้ายสุดของอาคารฝั่งซ้ายนี้ทางโครงการทำเป็นศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนมาให้ด้วยค่ะ

บรรยากาศของศาลาพักผ่อน สไตล์ Modern

ย้ายมาดูในส่วนของพื้นที่จอดรถกันค่ะ ที่จอดรถหลักๆ ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 2-6 ของอาคารฝั่งขวา
โดยทางขึ้นลานจอดรถจะอยู่ด้านข้างอาคาร ฝั่งที่ติดกับโครงการ The Parkland ตากสิน-ท่าพระ

ขึ้นมาด้านบนค่ะ ถ้าจอดรถที่ชั้นนี้ จะต้องเดินขึ้นบันไดต่อไปยังลิฟต์อีกทีค่ะ

แต่ละชั้นจะแยกทางขึ้น-ลงออกจากกัน โดยมีความกว้างพอสมควรเลยค่ะ ขับได้แบบสบายๆ

ทางเข้าลิฟต์อยู่เชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถเลยค่ะ

ในส่วนของลิฟต์ ฝั่งขวาที่เห็นเป็นลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
และฝั่งซ้ายเป็นส่วนของประตูหนีไฟ ซึ่งด้านนี้จะมีลิฟต์ดับเพลิงด้วยอีก 1 ตัว

ย้ายขึ้นมาชั้น 7 กันค่ะ ชั้นนี้มีทั้งส่วนของห้องพักอาศัย และส่วน Facility ของทางโครงการค่ะ

ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ที่เชื่อมต่อมาจาก Lobby และลานจอดรถจากหน้าลิฟต์ ทางซ้ายจะเป็นส่วนของสวนสีเขียว
และทางขวาเป็นส่วนของห้องซักรีด และสระว่ายน้ำ หากมองตรงมาเป็นเจอกับส่วนของ Social Club

บรรยากาศสวนสีเขียว มุมมองจากประตูทางออก ซึ่งฝั่งทิศตะวันตกจะอยู่ติดกับคอนโด The Parkland ตากสิน-ท่าพระ

ส่วนทางทิศเหนือวิวแบบเปิดโล่ง ไม่มีอาคารอะไรมาบดบังสามารถชมวิวเมืองได้สบาย

ห้องซักรีด อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

บรรยากาศสระว่ายน้ำระบบเกลือของโครงการ สามารถชมวิวเมืองได้ทั้งฝั่งทิศเหนือ และฝั่งทิศตะวันออก

แยกสระว่ายน้ำเด็กมาให้ด้วย

สวนเล่นระดับพร้อมชุดโซฟา อยู่ติดกับสระเด็ก

บริเวณริมสระว่ายน้ำมีเตียงอาบแดดมาให้อีก 7 ตัว

ฝั่งทิศเหนือของสระว่ายน้ำมีศาลาสำหรับนั่งชิลล์ในยามแดดร่มลมตกมาให้ด้วย

ที่อาบน้ำสำหรับล้างตัวก่อนลงสระ

ย้ายเข้ามาดูในส่วนของ Social Club กันค่ะ 

เดินเข้ามาด้านในฝั่งขวาติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น มีโซฟาจัดมาให้ทั้งหมด 4 ตัว

บรรยากาศภายในห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งห้องนี้อยู่ติดกับส่วนของสระว่ายน้ำ

ฝั่งตรงข้ามกับห้องฟิตเนสจะเป็นพื้นที่นันทนาการ ประกอบด้วย
เคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ สำหรับทานของว่างหรือของทานเล่น, โต๊ะหมากรุกพร้อมเก้าอี้ 2 ชุด และมุมนั่งดูทีวี

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะพูลไว้ให้เล่นอีกด้วย 

ถัดจากโต๊ะพูลมาจะเป็นมุมนั่งเล่นอีก 1 มุมอยู่ด้านหน้าห้องสมุด

บรรยากาศภายในห้องสมุด เข้ามาด้านซ้ายจะเจอกับชั้นวางหนังสือ Built-in
พร้อมชุดเก้าอี้ และโต๊ะกลางเล็กๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสือ

ด้านขวาเป็นเหมือนห้องประชุมเล็กๆ อีก 2 ห้องซึ่งกั้นด้วยกระจกใสจากพื้นถึงฝ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน สามารถนำโน้ตบุ๊คมาต่อได้ใช้ได้เลย โดยทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟไว้พร้อมสำหรับใช้งานแล้วค่ะ

จากห้องสมุดมองออกไปจะเจอกับวิวของรถไฟฟ้าแบบนี้ค่ะ

หน้าตาของห้อง Steam ที่อยู่ภายในห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิง อย่างละ 1 ห้อง

ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted คือมีเฟอร์นิเจอร์ให้เฉพาะบางส่วนเท่านั้น โดยส่วนที่ทางโครงการให้มา จะมีแอร์, วอลเปเปอร์ และชุดเครื่องครัวแบบ Built-in นอกนั้นที่เห็นในห้องตัวอย่างเป็นเพียงของตกแต่งที่ทางโครงการแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น

1. ห้องแบบ สตูดิโอ (1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว) - เนื้อที่ 21.10 - 21.71 ตร.ม.
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้องขนาดใหญ่)
2. ห้องแบบ SUPERIOR (1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว) - เนื้อที่ 30.38  - 30.59 ตร.ม
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้องขนาดใหญ่)
3. ห้องแบบ SUITE (2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว) - เนื้อที่ ขนาด 45.22 - 45.75 ตร.ม.
   (คลิกเพื่อชมแปลนห้องขนาดใหญ่)

1) ภาพห้องตัวอย่างแบบสตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม.

Layout ห้องแบบสตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม. มี 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องครัว (แบบปิด)

ภายในห้องนี้ถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัดแต่ก็จัดวางฟังก์ชันการใช้งานได้ค่อนข้างโอเคเลยค่ะ โดยแยกพื้นที่ห้องนอนและห้องครัวออกจากกันเพื่อป้องกันกลิ่นที่จะเข้ามารบกวนได้ในระดับนึง ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร
พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ทางโครงการแถมวอลเปเปอร์มาให้ด้วยค่ะ

จากประตูเข้ามาทางซ้ายจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี
สามารถติดชั้นวางของเหนือตำแหน่งทีวีเพื่อเก็บของหรือตั้งโชว์รูปภาพเล็กๆ น้อยๆ ได้

ด้านขวาติดกับประตูเป็นส่วนของ Living room มีโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็กอีก 1 ตัว
ซึ่งมุมนี้จะอยู่เชื่อมต่อกับโต๊ะทานข้าว ซึ่งอาจนั่งได้แค่ 1 ที่เท่านั้น เนื่องจากห้องนี้มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด

ติดกันก้บโต๊ะทานข้าวจะเป็นส่วนของเตียงนอน ซึ่งเหมาะสำหรับการวางเตียงขนาด 5 ฟุต
ส่วนปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเลื่อน

โดยจุดเด่นของห้องนี้จะอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานสไลด์ที่เปิดออกจากตรงกลาง โดยมีความสูงเกือบถึงฝ้าเลยทีเดียว

เข้ามาดูพี้นที่ด้านในห้องครัวกันบ้างค่ะ ถ้าเดินเข้ามาจะเจอกับตำแหน่งของที่วางตู้เย็น
ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ และด้านขวาเป็นห้องครัว

ครัวของห้องนี้จะอยู่ติดกับระเบียงห้อง ซึ่งข้อดีคือเวลาที่ทำอาหารสามารถ
เปิดประตูระเบียงออกไปเพื่อช่วยในการระบายกลิ่นได้

ชุดครัวที่ให้มาเป็นแบบ Built-in พร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ค่อนข้างครบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างจาน
แบบหลุมเดียว (ไม่มีที่พักจาน) ของ Max, เครื่องดูดควันของ Max, เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว
พร้อมตู้ใส่ของแบบบานพับปกติไม่เป็น Soft close ส่วนด้านล่างทางขวาเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้

พี้นที่ระเบียงมีขนาดค่อนข้างจำกัด สามารถวางโต๊ะและเก้าอี้ขนาดเล็กได้ 1 ชุด หรืออาจจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับวางราวตากผ้าเล็กๆ ก็ได้ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ แขวนไว้ด้านบนเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการวาง พร้อมติดตั้งกริลแอร์มาให้เรียบร้อย

ระหว่างส่วนของห้องครัวและห้องน้ำมีธรณีประตูสูงประมาณ 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

ภายในห้องน้ำทางซ้ายจะเป็น Shower Box ซึ่งเป็นกระจกนิรภัย

ส่วนด้านขวาเป็นอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำของ COTTO
ซึ่งได้รับรองฉลากประหยัดพลังงาน SCG Eco Value ด้วย

2) ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.

Layout ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.0 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องครัว (แบบเปิด)

ห้องนี้จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าห้องแบบสตูดิโอพอสมควร ตำแหน่งฟังก์ชันการใช้งานก็แตกต่างกัน
โดยครัวห้องนี้เป็นแบบครัวเปิด แยกพื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นออกจากกัน ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร
พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ทางโครงการแถมวอลเปเปอร์มาให้เหมือนกันค่ะ

ตำแหน่งครัวจะอยู่ทางด้านซ้ายติดกับประตูทางเข้าห้อง ซึ่งเป็นชุดครัว Built-in เหมือนห้องสตูดิโอ
แต่มีขนาดใหญ่กว่านิดนึง และมีลิ้นชักเก็บของตรงกลางเพิ่มมาให้

เข้ามาทางขวาของประตูพอจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้ Built-in ทรงสูง สำหรับเก็บของหรือเก็บรองเท้าได้
(ตู้นี้โครงการไม่ได้ให้นะคะ)

ถัดมาเป็นส่วนของที่วางตู้เย็น โดยเหนือตู้เย็นเป็นตำแหน่งของแอร์

ถัดมาเป็นส่วนของโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่งที่เชื่อมต่อกับส่วนของ Living room สามารถวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี โดยถ้าติดตั้งทีวีแบบแขวนผนัง จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการวางของได้มากขึ้นอีก

ประตูที่กั้นระหว่าง Living room กับระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 บาน โดยจุดเด่นของห้องนี้อยู่ตรงที่
การออกแบบระเบียงเป็นแบบ Semi-Outdoor สามารถเปิดประตูชั้นนอกราวกั้นระเบียงเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้
ส่วนประตูกระจกด้านนอกเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน

ด้านนอกระเบียงมีห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ พร้อมประตูปิดอย่างเป็นสัดส่วน
ช่วยป้องกันลมร้อนและเสียงรบกวนจากคอมเพรสเซอร์แอร์

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอน ภายในห้องสามารถวางเตียงแบบ 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ ได้ 1 ตัว
สำหรับทีวีแนะนำให้แขวนผนัง เพื่อที่จะได้เหลือพื้นที่ทางเดินบริเวณปลายเตียง

ด้านขวาของเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะปรับเป็นโต๊ะทำงานก็ได้
โดยมุมนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 บาน ซึ่งมีความสูงเกือบถึงฝ้ามาให้ด้วย

ส่วนด้านซ้ายของเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ซึ่งติดกับผนังส่วนของห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำได้ Shower Box อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำของ COTTO
ซึ่งได้รับรองฉลาก SCG Eco Value เหมือนกันกับห้องแบบสตูดิโอ