รีวิว-เยี่ยมชม เอลลิโอ เดล เรย์ (Elio Del Ray)

วันนี้ทาง Checkraka.com จะพามาเยี่ยมชมคอนโดมิเนียมแต่งครบสไตล์รีสอร์ท ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข และสถานีปุณณวิถี โดยโครงการนี้มีชื่อว่า "เอลลิโอ เดล เรย์ (Elio Del-Ray)" จากบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นับเป็นโครงการที่ 2 ภายใต้แบรนด์ Elio ต่อจาก Elio Condo สุขุมวิท 64 ที่เปิดขายไปเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา โดยจุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สไตล์รีสอร์ท บนเนื้อที่เกือบ 5 ไร่ กับดีไซน์ 3 คอนเซปต์ ได้แก่ The Island เกาะกลางน้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนยื่นเข้าไปในทะเล, The Beach สระว่ายน้ำความยาว 85 เมตร และ The Cliff สายน้ำที่ออกแบบให้เล่นระดับอย่างลงตัว 

• เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)
  
•  ที่ตั้งโครงการ: ถนนสุขุมวิท 64 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
  
• อาคารชุดพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 8 อาคาร รวม 1,634 ยูนิต โดยแบ่งเป็นยูนิตสำหรับอยู่อาศัย 1,630 ยูนิต และยูนิตสำหรับร้านค้า 4 ยูนิต ประกอบด้วย 
  
  • อาคาร A สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 203 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
  • อาคาร B สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 206 ยูนิต
  • อาคาร C สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 126 ยูนิต
  • อาคาร D สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 154 ยูนิต
  • อาคาร E สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 258 ยูนิต
  • อาคาร F สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 289 ยูนิต
  • อาคาร G สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 224 ยูนิต
  • อาคาร H สูง 8 ชั้น ห้องพักอาศัย 170 ยูนิต
• ลิฟต์โดยสาร อาคารละ 2 ตัว
  
• ห้องชุดมี 3 ขนาด คือ 
  
  • สตูดิโอ ขนาด 24 ตร.ม. 
  • 1 ห้องนอน ขนาด 26-34 ตร.ม. 
  • 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 44 ตร.ม.
• ที่จอดรถทั้งหมด 544 คัน หรือประมาณ 33 %
• ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร เริ่มต้นประมาณ 66,000 บาท (ข้อมูล ณ 3 ต.ค. 57) โปรดสอบถามกับพนักงานขายโครงการเพิ่มเติม
  
• คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณเดือนธันวาคม 2557
  
• วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวโครงการ: 3 ตุลาคม 2557
  

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชนประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,636,630,000 บาท (ชำระแล้ว 200,000,000 บาท) เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่มีสโลแกนสำคัญในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยคือ "Live / Work / Play" (Let's live, work and play more) ปัจจุบันบริษัทฯ พัฒนาทั้งคอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรรในกรุงเทพ และปริมณฑล โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมนั้นมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมตรกับแบรนด์ "ไอดีโอ" และไม่เกิน 600 เมตรกับแบรนด์ "เอลลิโอ" โดยโครงการแรกของบริษัทฯ ที่พัฒนาคือในปี 2550 กับโครงการ "ไอดีโอ ลาดพร้าว 17" จวบจนปัจจุบัน บริษัทฯ พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วทั้งหมดเกือบ 30 โครงการ เมื่อเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็ได้เปิดตัวโครงการคอนโดใหม่อีก 4 โครงการรวด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)

แผนที่แสดงบริเวณรอบๆ โครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการอยู่ในซอยระหว่างซอยสุขุมวิท 64 และสุขุมวิท 66/1 ด้านหน้าโครงการส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนหมู่บ้านเล็กๆ มีร้านขายของชำ และร้านค้าแผงลอยอยู่ตามริมทาง ส่วนด้านหลังของโครงการติดกับทางด่วนเฉลิมมหานคร เราไปดูบรรยากาศรอบๆ โครงการกันค่ะ

เราเริ่มจากหน้าประตูโครงการเลยค่ะ

ไปดูบรรยากาศด้านขวามือโครงการกันค่ะ ด้านหน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อยู่ด้วยค่ะ

 เดินมานิดนึงจะเจอกับร้านขายของชำอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ

เดินเลยมาอีกนิดจะเจอกับแยกค่ะ 

จากแยกเลี้ยวขวามาจะเจอกับร้านค้าแผงลอยอยู่ทางซ้ายมือ

และเยื้องกับร้านค้าแผงลอยจะเป็นโรงเรียนพูนสินอยู่ทางขวามือ
อยู่ก่อนขึ้นสะพานที่จะวิ่งลัดไปออกซอยสรรพาวุธ และทางด่วนเฉลิมมหานคร (ด่านบางนา)

กลับมาที่แยกเมื่อสักครู่ แต่คราวนี้เราลองเลี้ยวซ้ายวิ่งลัดเลาะตามซอยไปเรื่อยๆ
จะทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 64 ได้ค่ะ

บรรยากาศบริเวณปากซอยนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านขายของริมทางเต็มทั้ง 2 ฝั่ง
และที่เห็น BTS อยู่ข้างหน้านั้นคือ สถานีอุดมสุขค่ะ

ปากซอยสุขุมวิท 64 จะติดกับบันไดทางขึ้น-ลง BTS สถานีอุดมสุขเลยค่ะ

จากปากซอยเลี้ยวมาทางขวา เดินตรงมาไม่ไกลจะเป็นป้ายรถเมล์

เราย้อนมาด้านหน้าโครงการเพื่อย้ายไปดูทางฝั่งซ้ายของโครงการกันบ้างค่ะ

ติดกับโครงการจะเป็น Elio สุขุมวิท 64 หรือจะเรียกว่าเป็นเฟส 1 ของโครงการ Elio Del Ray ก็ได้

ตรงมาอีกนิดจะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งอยู่ใกล้โครงการนิดเดียว 
สำหรับใครที่จะเข้า-ออกหน้าปากซอยเรียกใช้บริการพี่วินก็ได้นะคะ

อัตราค่าโดยสารก็ประมาณนี้ค่ะ

จากวินเลี้ยวซ้ายเดินข้ามสะพานมาหน่อยก็จะเห็นปั๊ม ปตท. อยู่ทางขวามือค่ะ
ซึ่งสามารถเดินทะลุไปปั๊ม ปตท. ใหญ่อีกฝั่งนึงได้ค่ะ

ประตูสำหรับเดินทะลุไปปั๊ม ปตท. ใหญ่ค่ะ

ในปั๊ม ปตท. ใหญ่ มีร้านรวงให้ซื้อของหรือทานข้าวมากมายเลยค่ะ

ยังไม่หมดค่ะ ยังมีร้านเหล่านี้ด้วยค่ะ

เอลลิโอ เดล เรย์ ตั้งอยู่บนทำเลสุขุมวิทตอนปลาย ติดกับรถไฟฟ้า BTS ระหว่างสถานีอุดมสุขเพียง 600 เมตร และสถานีปุณณวิถี 650 เมตร พื้นที่โครงการทั้งหมดมี 16 ไร่ 2 งาน 17.7 ตร.ว. รูปแบบตึกเป็นคอนโด Low Rise ความสูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 8 อาคาร จำนวน 1,634 ยูนิต แบ่งเป็น ยูนิตสำหรับอยู่อาศัย 1,630 ยูนิต และยูนิตสำหรับร้านค้าอีก 4 ยูนิต ในตึก A มีทั้งหมด 207 ยูนิต (รวมร้านค้าทั้ง 4 ยูนิต) ตึก B มี 206 ยูนิต ตึก C มี 126 ยูนิต ตึก D มี 154 ยูนิต ตึก E มี 258 ยูนิต ตึก F มี 289 ยูนิต ตึก G มี 224 ยูนิต ตึก H มี 170 ยูนิต ทุกตึกมี Lobby และที่จอดรถอยู่ชั้น 1 จำนวนที่จอดรถรองรับ 544 คันคิดเป็น 33-34% และมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว นอกจากนี้ยังมี Lobby ขนาดใหญ่เป็นเสมือนศูนย์รวมใจกลางโครงการ เรียกว่าห้อง Common Room อยู่บริเวณตึก H มีห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องสมุด ห้องอเนกประสงค์ และโต๊ะสนุกเกอร์ รองรับผู้คนในโครงการ ซึ่งบริเวณตึก H นี้เป็นตึกที่ติดกับสวนส่วนกลาง โดยได้ออกแบบให้ตัวอาคารของตึก H ทำทางเชื่อมกับ Common Room ให้ทางเชื่อมนั้นพาดคร่อมสระว่ายน้ำที่มีความยาวถึง 85 เมตร สำหรับสวนส่วนกลางของโครงการถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญด้วยพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 5 ไร่ แต่งสไตล์รีสอร์ทโดยมีคอนเซปต์แบ่งออกเป็น 3 คอนเซปต์ คือ The Island, The Beach, และ The Cliff มีสระว่ายน้ำระบบคลอรีน 2 สระ สระแรกมีความยาว 85 เมตร สระที่สองยาว 50 เมตร มีจุดพักผ่อนภายในสระ, ศาลาริมสระ, และห้องออกกำลังกาย

ที่ตั้งโครงการ สามารถเข้าได้ทั้งทางซอยสุขุมวิท 64 และ สุขุมวิท 66/1 ส่วนที่ตั้ง Sale Office นั้นอยู่ติดถนนสุขุมวิท
ใกล้กับทางเข้าซอย 66/1 ติดบีทีเอสฝั่งสถานีอุดมสุขค่ะ

มาดูบรรยากาศ Sale Office กันก่อนค่ะ

ทางเข้าด้านหน้าโครงการ ถ้ามาด้วยบีทีเอสก็เข้าทางนี้ได้เลยค่ะ

เข้าไปด้านใน มีเคาน์เตอร์ Sale โมเดลอาคาร และที่นั่งรับรองลูกค้า

ที่นั่งเยอะแยะเลยค่ะ

ส่วนทางนี้เป็นทางเข้าจากด้านหลังค่ะ ถ้าเอารถยนต์มาก็เอามาจอดด้านหลัง แล้วเข้าทางนี้ได้เลย

เข้าจากด้านหลังก็จะเห็นบรรยากาศประมาณนี้ โอ่โถงโล่งกว้าง

เก้าอี้หวายแบบชิงช้า เก๋ไก๋ ไปนั่งเล่นได้ค่ะ

ต่อไปมาดูที่ตัวโครงการบ้างค่ะ ภาพ Master Plan โครงการ แสดงที่ตั้งแต่ละอาคาร
อาคาร A จะอยู่ด้านหน้า ซึ่งอาคาร A และ B ได้ขายหมดแล้ว

ภาพนี้เป็นโมเดลอาคาร แสดงจุดสำคัญๆ จะเห็นว่าสระว่ายน้ำมี 2 ส่วน ส่วนแรกอยู่บริเวณตึก A, F, G, H
มีความยาวสระ 85 เมตร ตัวสระทอดผ่านลอดอาคาร H ส่วนอีกสระอยู่บริเวณตึก B, C, D, E ซึ่งในส่วนนี้มี Fitness อยู่ด้วย

ทางเข้าโครงการมีจุดเดียว สามารถเข้าได้ทั้งทางซอยสุขุมวิท 64 และ สุขุมวิท 66/1 
ทางเข้ามีความกว้าง 8 เมตร เข้าไปเจออาคาร A ก่อน

สำหรับตึก A จะเป็นตึกที่มียูนิตร้านค้า โดยทางโครงการวางแพลนว่าจะเป็น Max Value อยู่บริเวณด้านหน้าตึก A ชั้น 1
และ True Coffee อยู่ด้านหลังตึก A ชั้น 1 หันหน้าเข้าวิวสระพอดี

โมเดลแสดงสระว่ายน้ำส่วนแรก

อีกมุมนึงค่ะ

โมเดลสระว่ายน้ำส่วนที่ 2 มีอาคารฟิตเนส ณ ปัจจุบัน ส่วนนี้กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ

ภาพตึก H ที่สร้างเสร็จแล้ว

• สระว่ายน้ำระบบคลอรีนมี 2 สระ ส่วนที่ลึกที่สุดลึก 1.4 เมตร
• ศาลาพักผ่อนอยู่ในส่วนสระว่ายน้ำส่วนแรก และจุดพักผ่อนระหว่างสระ
• สวนสีเขียวรอบๆ สระว่ายน้ำ
• ฟิตเนสอยู่ในส่วนสระว่ายน้ำส่วนที่สอง
• มี Lobby ที่ชั้น 1 ทุกอาคาร
• Common Room ชั้น 1 อาคาร H เป็นห้อง Lobby ขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้ทุกคน มีห้องสมุด โต๊ะสนุกเกอร์ และห้องอเนกประสงค์
• พนักงานรักษาความปลอดภัยพร้อมกล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพจำลองสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองสระว่ายน้ำ พร้อมวิวร้าน True Cofee ที่อยู่ชั้น 1 อาคาร A

ซึ่งตอนนี้ยังเป็นห้องเปล่าอยู่

ภายในสระว่ายน้ำมีที่นั่งริมสระให้ด้วยค่ะ จะซื้อน้ำจาก True Coffee มาจิบริมสระก็ได้บรรยากาศสุนทรีย์ดีค่ะ

ช่องระหว่างอาคาร A กับ อาคาร H มองเห็นส่วนสระว่ายน้ำที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างอยู่

ลองซูมดูความคืบหน้า

กลับมาดูที่สระ 1 นอกจากที่นั่งในน้ำแล้ว ยังมีจุดพักผ่อนตรงกลางสระด้วยค่ะ

ข้างนอกสระก็มีเตียงให้นอน ปรับที่นั่งได้ สะดวกสบาย

นอกจากนี้ก็มีศาลาพักผ่อนหย่อนใจให้อีก สมกับเป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ทจริงๆ ค่ะ มีจุดพักผ่อนอยู่ทั่วไปหมด

อีกมุมนึง

ศาลาสีขาว 2 ชั้น มีรั้วเหล็ก

ด้านบนอาจจะยังไม่มีอะไรตอนนี้ คาดว่ามีการตกแต่งเพิ่มเติมในอนาคตค่ะ

ชั้นล่างเป็นห้องน้ำ

บรรยากาศห้องน้ำด้านในค่ะ

มีห้องอาบน้ำสำหรับล้างตัวก่อนลงสระ หรือจะอาบน้ำที่นี่เลยก็ได้ มีการเจาะผนังทำชั้นวางของให้ด้วยค่ะ

ทีนี้มาดูตรงส่วนอาคาร H ที่ทำทางให้สระน้ำลอดผ่าน
ตรงนี้จะมี Common Room ศูนย์รวมผู้คนในโครงการ จะเรียกเป็นจุดนัดพบก็ได้ค่ะ

มีทำเป็นสะพานข้าม ชมวิวได้ด้วย ทางเข้า Common Room ก็อยู่ตรงนี้พอดี

บรรยากาศ Common Room ก็จะมีห้องโถงใหญ่ และมีแบ่งย่อยห้องต่างๆ มากมาย

มีห้องนั่งเล่น

โต๊ะสนุกเกอร์ก็มีค่ะ

ต่อไปเป็นส่วนด้านหลังอาคาร H ตรงนี้มีส่วนสระน้ำตื้นสำหรับเด็กให้ด้วยค่ะ

อีกมุมนึง โซนนี้จะอยู่ใกล้อาคาร G กับอาคาร F ค่ะ

มีเตียงอยู่รอบๆ ริมสระว่ายน้ำ

มุมนี้มองเห็นอาคาร F

มุมจากด้านในสุดของโครงการ มองออกไปเห็นสระลอดผ่านอาคาร H

รอบๆ สระเป็นสนามหญ้าเขียวขจี ปลูกต้นไม้ประดับประดา และมีทำเป็นลู่สำหรับทางเดินให้ค่ะ

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการมีให้เยี่ยมชมมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันคือ ห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม. ห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. และห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. สำหรับห้อง Studio จะเป็นห้องที่ไม่มีการกั้นห้องนอน ซึ่งแบ่งสัดส่วนห้องด้วยการจัดวาง Layout ของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องไว้เป็นส่วนๆ และมีการจัดวางได้อย่างลงตัว โดยทุกห้องขายแบบ Fully Furnished โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ของ SB Furniture โดยภาพตัวอย่างที่เราได้นำมาให้ชมกันนี้เป็นห้องตัวอย่างจาก Sale Office และห้องตัวอย่างจากโครงการ ไปดูกันเลยค่ะ

1) ภาพห้องตัวอย่างแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม.

Layout ห้องแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม. มี 1 ส่วนห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ส่วน Pantry
และมีระเบียงในตัว ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว

เฟอร์นิเจอร์ที่แถมจากโครงการ ของ SB Furniture

ด้านหน้าสุด จากแปลนห้องจะมีส่วนที่เป็น Pantry ซึ่งในจุดนี้จากโปรโมชั่นของโครงการ เราก็จะได้เคาน์เตอร์ Pantry
ตามที่เห็นในภาพเลยค่ะ ยกเว้นท็อปครัวด้านบน ของตกแต่งบนเคาน์เตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้าม Pantry ก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ

สำหรับในห้องน้ำ เทียบจาก Layout จะเห็นว่า แบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกคนละครึ่งด้วยธรณียกสูง

โถสุขภัณฑ์โครงการใช้ของ Cotto ฝักบัวและก๊อกน้ำใช้ของ Prema
และในส่วนเปียกมีการเจาะผนังทำช่องสำหรับวางอุปกรณ์ในห้องน้ำแทนชั้นวางของ

เดินมาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นอยู่ในส่วนเดียวกันกับห้องนอนค่ะ

มุมกลับจากในห้องมองออกไปด้านนอกก็จะเห็นเป็นลักษณะนี้

อีกมุมนึงค่ะ จากที่เห็นในภาพนี้จะเห็นว่า เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะมีอยู่ในภาพนี้เลยค่ะ ซึ่งก็คือ เตียงนอน,
ตู้เสื้อผ้าปลายเตียง, โซฟาข้างเตียง, โต๊ะเล็กในห้องนั่งเล่น, ชั้นวางทีวี, เคาน์เตอร์ Pantry,
และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้ก็คือ แอร์ 1 เครื่อง แทบจะครบครัน ชนิดที่ว่า หิ้วกระเป๋ามาก็อยู่ได้เลยทีเดียว

ส่วนตู้ที่อยู่ปลายเตียงมี 2 ตู้ค่ะ เป็นตู้เสื้อผ้า กับ ตู้ชั้นวางของ ด้านบนมีพื้นที่วางของได้อีก

ออกไปดูระเบียงกันค่ะ

ระเบียงเป็นแนวยาวพื้นปูกระเบื้อง มุมด้านในมีพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์

ทีนี้เรามาดูห้องขายจริงสำหรับห้องแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม. กันบ้างค่ะ ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ในโครงการคอนโด เอลลิโอ เดลเรย์ สุขุมวิท 64 เลยค่ะ อยู่ในส่วนอาคาร H ชั้น 2 ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยพร้อมอยู่ เป็นห้องที่ใกล้เคียงกับห้องจริงที่เราจะได้ในวันที่ซื้อเลยค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ

1.1) ห้องแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม.

ประตูทางเข้ามีดับเบิลล็อค ประตูแบบมือจับ และช่องตาแมว เข้าไปด้านหน้าก็จะเป็นส่วน Pantry 

ฝั่งตรงข้าม Pantry เป็นห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกให้เหมือนกันค่ะ 

ในส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่รวมกัน

ด้านข้างเตียงเป็นระเบียง

ซึ่งจากที่ตั้งของห้อง ที่อยู่อาคาร H ชั้น 2 ห้องนี้เป็นวิวสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

มุมมองจากด้านในห้องมองออกไปที่ประตู จากที่เห็นในภาพ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็เกือบจะครบเลยค่ะ
ทั้งเตียง ตู้ปลายเตียง ชุดโต๊ะหน้าโทรทัศน์ ชั้นวางโทรทัศน์ โซฟา โต๊ะกาแฟ, เคาน์เตอร์ Pantry และแอร์ค่ะ

ต่อไปมาดูห้อง Studio อีกห้องนึง ซึ่งมีขนาดกว้างขึ้นที่ 26 ตร.ม. โดยห้องนี้จะมีสัดส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่กว้างขึ้น และมีการแยกส่วน Pantry ไว้ชัดเจนกว่าห้องแบบ 24 ตร.ม. และในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ ก็มีให้ครบพร้อมเหมือนกันค่ะ

2) ห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม.

Layout ห้อง 26 ตร.ม. มี 1 ส่วนห้องนอน 1 ส่วนห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ 1 ส่วนห้องครัว
และระเบียง มีลักษณะห้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จากโครงการ

ประตูทางเข้าห้อง ตรงกับห้องนั่งเล่นพอดีค่ะ ซึ่งด้านในตรงไปเป็นส่วนเตียงนอน

ห้องนั่งเล่นโดยรวมก็จะเป็นประมาณนี้ ของที่ได้ก็จะมีโซฟา ชั้นวางทีวี โต๊ะกาแฟแบบพับเก็บของได้ และแอร์

มุมนี้ก็จะมีชุดโต๊ะให้ด้วยค่ะ

เตียงที่ทางโครงการมีให้

ปลายเตียงมีตู้เสือผ้าให้

มุมมองจากมุมห้องตรงโซฟาค่ะ จะเห็นว่ามีการกั้นเป็นห้อง ส่วนด้านหลังตู้เสื้อผ้าทำเป็นห้องครัว 

ถ้ามองจากมุมเตียงก็จะเห็นห้องน้ำด้วยค่ะ จากในภาพ โต๊ะเครื่องแป้งนั้นทางโครงการเขาก็มีให้ค่ะ

เข้ามาดูห้องน้ำของห้องขนาด 26 ตร.ม.นี้ มีกั้นส่วนแห้งส่วนเปียกให้ แต่ Layout จะแตกต่างกันนิดหน่อยค่ะ
จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนแห้งส่วนเปียกอยู่คนละด้านกัน แยกชัดเจนดีค่ะ

ในส่วนของโถสุขภัณฑ์อาจจะมีพื้นที่จำกัดไปหน่อย มีการก่อผนังขึ้นมา
ซึ่งในส่วนนี้ได้เจาะทำชั้นวางของให้เหมือนกับห้อง 24 ตร.ม. ส่วนยี่ห้อวัสดุที่ใช้ก็เหมือนๆกันค่ะ

เดินออกมาจากห้องน้ำก็เป็นส่วนห้องครัว หรือ Pantry ซิงค์ล้างจานยี่ห้อ MEX ค่ะ

ด้านในสุดเป็นระเบียง เอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ แบบไม่มีที่กั้น
สำหรับห้องเล็ก ถ้าจะออกไปยืนพักผ่อนหย่อนใจ อาจจะมีลมร้อนเป่าหน้าได้ค่ะ

ต่อไปเป็นห้องจริงจากโครงการ อยู่บนอาคาร H ชั้น 2 เช่นกันค่ะ ซึ่ง Layout แตกต่างจากห้องจริงนิดหน่อย ตรงที่ห้องจะอยู่สลับด้านกันค่ะ

2.1) ห้องจากโครงการ แบบ Studio 26 ตร.ม.

 สำหรับห้องนี้ ประตูทางเข้าจะอยู่ด้านซ้ายของห้อง แต่โดยรวมภายในห้องก็จัดวางเหมือนกันค่ะ
เปิดเข้ามาเจอห้องนั่งเล่น และห้องนอน

มองจากเตียงนอนไปที่ประตูทางเข้า ก็จะเป็นลักษณะนี้

บรรยากาศห้องนั่งเล่น ได้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นโทรทัศน์และชั้นวางของแบบติดผนัง

มีผนังกั้นห้องครัวกับห้องน้ำ แต่ไม่มีประตูให้นะคะ

ด้านซ้ายจะเป็นห้องครัว ด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ

มาดูห้องครัวกันค่ะ มีตู้ชั้นวางของ เคาน์เตอร์ Pantry ด้านข้างเป็นระเบียง

ส่วนระเบียงค่ะ

ถ้ามองจากระเบียงกลับไป จะเป็นห้องน้ำพอดี

ห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกเหมือนกันค่ะ

มาดูห้องตัวอย่างแบบสุดท้ายกันแล้วค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ตอนนี้ค่ะ เพราะห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นได้ Sold out จากโครงการไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องแบบ 1 ห้องนอนนี้ มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น และในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็ครบเช่นกันค่ะ ไปดูกันเลย

3) ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

Layout ของห้อง มีการแบ่งห้องนอนแยกชัดเจน และมีพื้นที่กว้างขวาง ห้องน้ำรวมอยู่ในห้องนอน มี 1 ส่วนห้องนั่งเล่น
และ 1 ส่วน Pantry อยู่ติดกับทางเข้าห้อง จะเห็นว่าส่วน Pantry นั้นจะมีพื้นที่แบบไม่เน้นการใช้งานประกอบอาหารหนักๆ เท่าไหร่นัก เนื่องจากภายในห้องถูกออกแบบตามคอนเซปต์สไตล์รีสอร์ท ซึ่งจะเน้นไปในในเรื่องของการพักผ่อนมากกว่าค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จากโครงการ

มีตู้ชั้นวางของอยู่ติดกับประตู

เป็นตู้แบบเดียวกันหมดทุกห้องค่ะ ได้ตู้แบบนี้ทุกห้องเลย วางแตกต่างกันไปแล้วแต่ Layout หรือใครจะย้ายทีหลังก็ไม่ว่ากัน

ส่วนเคาน์เตอร์ Pantry อยู่ติดประตูฝั่งตรงข้ามตู้ ที่มีเหมือนกันทุกห้องเช่นกัน

มองเข้าไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งสำหรับห้องนี้จะมีระเบียงอยู่ติดกับส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งก็คือด้านในสุดนั่นเองค่ะ

บรรยากาศห้องนั่งเล่น มีโซฟา โต๊ะพับได้ และชั้นวางโทรทัศน์ให้เสร็จสรรพ

มุมกลับจากด้านในสุดของห้อง มองออกไปที่ประตูค่ะ

กลับมายืนที่ส่วนประตูทางเข้า ส่วนห้องนอนจะอยู่ขวามือของห้อง ด้านในมีเตียงให้ 2 เตียง
เป็นเตียง King Size และเตียงเล็กๆ คล้ายกับเตียงนอนริมสระให้อีกตัวนึงให้ด้วย และโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

เข้ามาในห้องนอนแล้วจะเห็นว่ากว้างขวางกว่าห้องก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด

มุมจากด้านในห้อง มีตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ

ด้านในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกให้เหมือนเดิม แต่รอบนี้โถสุขภัณฑ์ไม่แออัดแล้วค่ะ

มาดูแบบห้องจริงกันบ้าง ยังคงอยู่ที่ตึก H ชั้น 2 เหมือนเดิมค่ะ

3.1) ห้องจริงจากโครงการ แบบ 1 ฺBedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ซึ่งห้องนี้ก็มีการสลับด้านจากห้องตัวอย่างเช่นกัน โดยประตูทางเข้าจะมาอยู่ด้านขวาของห้อง

ส่วน Pantry ที่อยู่ตรงประตู มีเฟอร์นิเจอร์ให้เหมือนกับห้องอื่นๆ

ด้านในเป็นห้องนั่งเล่น มีโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 คน มีให้ทุกห้องเช่นกัน

ส่วนที่เป็นห้องนอน มีประตูกั้นห้องให้เพิ่มความเป็นส่วนตัว

เปิดเข้ามาเจอเตียงใหญ่ และ เตียงเล็ก

เตียงเล็กติดกับหน้าต่างเอาไว้นอนชมวิวสระสวยๆ เพลินๆ ค่ะ

ห้องนี้ก็สามารถมองสระว่ายน้ำได้ชัดเลยเหมือนกัน

ด้านในห้องนอนมองออกไป จะมีห้องน้ำในตัว

ด้านหน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าให้ค่ะ

ส่วนห้องน้ำกั้นส่วนแห้งส่วนเปียก Layout เหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ตัวอย่างราคายูนิตที่ขายอยู่ 

• อาคาร E ชั้น 2 - ห้อง Studio ขนาดพื้นที่ 24.00 ตร.ม. ตกแต่งครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน (เช่น แอร์) ราคา 1,590,000 - 1,840,000 บาท 
  เงินจอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ 1,560,000 - 1,810,000 บาท
• อาคาร C ชั้น 4 - ห้อง Studio ขนาดพื้นที่ 26.00 ตร.ม. พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน (เช่น แอร์) ราคา 1,840,000 - 2,100,000 บาท
  เงินจอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ 1,770,000 - 2,070,000 บาท
• อาคาร G ชั้น 2 - ห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (1 Bedroom) ขนาดพื้นที่ 34.00 ตร.ม. ตกแต่งครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน (เช่น แอร์) ราคา 2,570,000 - 2,800,000 บาท
  เงินจอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ 2,540,000 - 2,770,000 บาท 

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

• ค่าใช้จ่ายส่วนกลางรายปี 45 บาท ต่อตร.ม.ต่อเดือน ชำระ 1 ปีล่วงหน้า
• เงินกองทุนแรกเข้า 500 บาท ต่อตร.ม. (ชำระครั้งเดียว) 
• ค่าธรรมเนียมในการโอน 2% (ผู้จะซื้อและผู้จะขายชำระคนละ 1%) 

• ทำเลที่ตั้ง - โครงการนี้ตั้งอยู่ภายในซอยระหว่างซอยสุขุมวิท 64 ทะลุซอยสุขุมวิท 66/1 และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ถึง 2 สถานีด้วยกัน คือสถานีอุดมสุข และสถานีปุณณวิถี โดยทั้ง 2 สถานีห่างจากโครงการไม่ถึง 1 กม. เท่านั้น (สถานีอุดมสุข 600 เมตรและสถานีปุณณวิถี 650 เมตร) ด้านหลังของโครงการติดกับทางด่วนก็อาจจะมีเสียงดังบ้างเล็กน้อยสำหรับห้องที่อยู่ติดกับฝั่งทางด่วน (แต่เราเข้าใจว่าทางโครงการก็ได้รับทราบถึงปัญหานี้ และอาจมีการติดอุปกรณ์กันเสียงให้กับยูนิตทางด้านนี้) ส่วนด้านหน้าโครงการจะเป็นชุมชนชาวบ้าน ร้านค้าเล็กๆ และร้านค้าแผงลอย ส่วนแหล่งอาหารการกินที่ใกล้ที่สุดสำหรับโครงการนี้ก็น่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท. ใหญ่ใกล้ๆ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (แต่ก็คงไม่ใช่ทุกร้าน) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 200 เมตรเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ออกไปที่ปากซอยสุขุมวิท 64 บริเวณนั้นก็จะมีร้าน 7-Eleven และร้านค้าริมทางให้เลือกทานเยอะพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถ้าอยากจะช้อปปิ้งห้างใหญ่ๆ หรือซื้อของกินของใช้แบบเป็นเรื่องเป็นราวก็มีอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก เช่น เทสโก้โลตัสอ่อนนุช ระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. หรือ เซ็นทรัลบางนา ระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.4 กม. 
• การเดินทางเข้า-ออก - การเดินทางสำหรับโครงการนี้ถือว่าค่อนข้างสะดวก เพราะสามารถเลือกใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถยนต์ส่วนตัว โดยถนนเส้นหลักที่ใช้คือถนนสุขุมวิท ในเวลาเร่งด่วนเส้นทางนี้อาจจะมีปริมาณรถหนาแน่นพอสมควร แต่ก็อาจหลีกเลี่ยงด้วยการหันไปใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ใกล้ๆ โครงการแทนก็น่าจะพอช่วยได้ โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้โครงการมีด้วยกัน 2 จุดคือ ด่านบางนา ระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.2  และด่านสุขุมวิท 62 ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. ส่วนการเดินทางด้วย BTS (สถานีอุดมสุข และสถานีปุณณวิถี) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับชั่วโมงเร่งด่วนที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง โดยทางโครงการมีบริการรถ  Shuttle bus รับส่งถึงสถานี BTS เลยค่ะ หรือจะเลือกใช้บริการพี่วินก็ได้นะคะ มีคอยให้บริการอยู่หลายจุดเหมือนกันทั้งด้านหน้าโครงการ ปากซอยสุขุมวิท 64 และปากซอยสุขุมวิท 66/1 แต่ทางเราขอแนะนำนิดนึงว่าถ้าไม่ได้ใช้รถส่วนตัว โดยเฉพาะตอนกลางคืนนั้นให้ใช้เส้นทางสขุมวิท 64 จะดีกว่า เพราะจากที่ทีมงานเราไปเดินสำรวจดูนั้น เส้นสุขุมวิท 66/1 จะค่อนข้างเปลี่ยวนิดนึง
• ส่วนกลางและตัวโครงการ - สำหรับส่วนที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นและจุดขายของโครงการเลยก็คงจะเป็นในเรื่องของส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยโครงการมีสวนส่วนกลางเกือบ 5 ไร่ มีพร้อมทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระแบ่งเป็น 3 Concept คือ Island, Water Fall, และ Cliff  สระว่ายน้ำส่วนแรกมีความยาวถึง 85 เมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยมีอาคาร H คั่นกลางโดยทำตัวสระลอดใต้อาคาร มีจุดพักผ่อนหย่อนใจอยู่รายล้อมรอบสระ ทั้งที่นั่งในสระและริมสระ สระว่ายน้ำส่วนที่ 2 ขนาดเล็กกว่า มีทั้งสระว่ายน้ำธรรมดาและแบบสระน้ำล้น เพิ่มความเป็นสไตล์รีสอร์ท และมีอาคารฟิตเนสอยู่ในส่วนสระว่ายน้ำส่วนที่ 2 นี้ นอกจากนี้ ยังรายล้อมไปด้วยสวนสีเขียว ต้นไม้ใหญ่มากมายเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติ เสมือนว่าผู้อาศัยได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทอันผ่อนคลายตลอดเวลา ในส่วนของตัวคอนโดที่มีทั้งหมด 8 อาคาร ในแต่ละอาคารก็มี Lobby และที่จอดรถ อยู่ที่ชั้น 1 ทุกอาคาร และมีลิฟต์รองรับอาคารละ 2 ตัว ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ดีไม่หนาแน่นสำหรับผู้อยู่อาศัย ที่จอดรถมีสัดส่วนประมาณ 33-34%
• ห้องและวัสดุ - แบบห้องทั้งหมดของโครงการมี 4 แบบคือ แบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม., Studio ขนาด 26 ตร.ม., แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม., และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 44 ตร.ม. โดยห้องที่ Sold Out ไปเรียบร้อยแล้วนั้นเป็นแบบ 2 ห้องนอน สำหรับ Layout ของห้องถูกออกแบบมาให้เป็นในสไตล์รีสอร์ทเช่นเดียวกัน มีคอนเซปต์ทำให้ตัวโครงการเป็นเสมือนคอนโดตากอากาศ เพื่อเป็นจุดพักผ่อนของเส้นสุขุมวิท โดยห้องที่ขายเป็นแบบ Fully Furnished ที่ใช้เฟอร์นิเจอร์จาก SB furniture เรียกได้ว่า Fully จริงๆ ค่ะ เพราะได้ทั้ง เตียง ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ชุดครัว Pantry อีกทั้งยังมีระเบียงในทุกแบบห้องที่ใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ และห้องที่ใหญ่ขึ้นก็สามารถออกไปยืนรับลมชมวิวได้ด้วยเช่นกัน
• ราคา - ห้องที่ขายเป็นแบบ Fully Furnished โดยมีราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรอยู่ที่ 65,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 24 ตร.ม. ซึ่งถ้ามองในแง่ของราคาถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล เพราะนอกจากจะได้ห้องที่สมส่วนกับราคาแล้ว ยังได้เฟอร์นิเจอร์ที่เรียกได้ว่าแทบจะครบครันชนิดที่ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมนอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้า และยังสะดวกสบายไปกับส่วนกลางที่กว้างขวาง นอกจากนี้ยังตั้งอยู่บนทำเลทอง ในระยะที่เดินทางไปรถไฟฟ้าได้สะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากอยู่คอนโดบนถนนสุขุมวิทในระดับราคาที่จับต้องได้

โครงการเอลลิโอ เดลเรย์ เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจาก เอลลิโอ สุขุมวิท 64 ที่สร้างเสร็จไปเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และสำหรับเอลลิโอ เดล เรย์ มีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ พร้อมอยู่ได้ในวันที่ 1 ธันวาคม สำหรับอาคาร A และอาคาร B ได้ขายหมดไปแล้วทุกยูนิต เหลือในส่วนอาคาร C, E, F, G, H ซึ่งอาคาร D นั้น ในวันที่ได้ไปเยี่ยมชม ยังไม่มีการเปิดขาย คาดว่าจะเปิดขายในปีนี้ ส่วนยูนิตที่ขายหมดไปแล้วเป็นแบบ 2 ห้องนอน 44 ตร.ม. เหลือแบบ Studio และ 1 ห้องนอน ที่ขายแบบ Fully Furnished สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามกับทางโครงการได้เลยค่ะที่ โทร. 02-316-2222

ในวันที่ 25-26 ต.ค. 57 ที่จะถึงนี้ ทางโครงการเอลิโอ เดล เรย์ เตรียมจัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม "X5" มอบส่วนลด ณ วันโอนฯ สูงสุด 200,000 บาท และเฟอร์นิเจอร์แต่งครบ พิเศษกว่า ฟรี!! ค่าสวนกลาง 1 ปี ค่ากองทุนแรกเข้า และค่าธรรมเนียมการโอน พร้อมข้อเสนอผ่อนชำระเงินจอง และทำสัญญา 30,000 บาท ดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด) ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท และจองในงานรับ iPhone 6 ฟรี! ชมห้องจริง วิวจริงก่อนใคร พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก ว่าน ธนกฤต และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ณ โครงการ เอลลิโอ เดล เรย์ สุขุมวิท 64

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดจากโครงการเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-316-2222

Website: http://www.ananda.co.th/

Facebook: https://www.facebook.com/ideocondo