รีวิว All new KIA Carnival SXL รถพรีเมี่ยมครบความบันเทิงพร้อม DRIVEWISE เพื่อการขับขี่ปลอดภัยอีกระดับ

All new KIA Carnival SXL รถยนต์ครอบครัวพร้อมความอเนกประสงค์ขนาด 11 ที่นั่ง นำเข้าทั้งคันจากเกาหลีใต้แบบไม่มีกั๊กออปชั่น โดยรุ่นนี้นับเป็นรุ่นสูงสุดที่นำเข้าจำหน่ายในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นระบบความบันเทิงและความปลอดภัย "DRIVEWISE" ช่วยเหลือการขับขี่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางขึ้นอีกขั้น กับราคา 2,459,000 บาท มาดูกันว่าราคานี้มีอะไรน่าสนใจ ก่อนตัดสินใจซื้อ!!..  

สำหรับรถยนต์เกีย คาร์นิวัล ใหม่ รุ่น SXL นับเป็นรถที่เพิ่มเติมเรื่องของระบบความปลอดภัย ฟังก์ชั่นการใช้งานความบันเทิงที่เติมเต็มมากขึ้น โดยตัวพื้นฐานรถทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ที่นั่ง เหมือนกันกับรุ่นเริ่มต้น EX แต่ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นขึ้นมามากมายเมื่อเทียบกับการเพิ่มเงินอีก 315,000 บาทรวมแล้วรถระดับนี้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาทนับว่าคุ้มค่าแล้วครับ 

ภายนอกความรุ่น SXL มีความแตกต่างจาก EX ไม่มากนักได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED เพิ่มตัวเลนส์โปรเจคเตอร์แบบสี่เหลี่ยมทั้งไฟสูงและต่ำ ส่วนกระจังหน้าตรงช่องดักลมมีชุดเรดาร์และเซ็นเซอร์พร้อมกับกล้องด้านบนของกระจกบังลมหน้าสำหรับตรวจจับและแจ้งเตือนความปลอดภัยได้ทั้ง ยานพาหนะ, คน และจักรยาน   

LED อัพเกรทเป็นแบบ Projector lens 

ตำแหน่งของเรดาร์ตรวจจับระบบแจ้งเตือนด้านหน้ารถทำงานคู่กับกล้องตรวจจับบนกระจกบังลมหน้า

ผมคือ "ปลาวาฬครับ" ตัวใหญ่ใจดีให้ของเล่นเยอะ

กล้องตรวจจับด้านหน้า

กระจกขนาดใหญ่ตามกฎหมายสำหรับรถเกิน 7 ที่นั่งในเกาหลี พร้อมระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง

หลังคาติดตั้งแร็คสำหรับยึดอุปกรณ์เสริมและหลังคาซันรูฟ 2 ตำแหน่ง ตอนหน้าและหลัง ไฟตัดหมอกหลังบริเวณตรงกลางด้านล่างของกันชนท้าย กระจกด้านคู่หน้าใสแต่จะมีการไล่โทนสีเข้มขึ้นที่กระจกผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อลดการมองเห็นจากภายนอกโดยไม่ต้องติดฟิล์ม ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยางขนาด 235/60R18  

เพิ่มไฟตัดหมอกหล้งตรงกลาง

ท้องแบนเรียบและยางอะไหล่อยู่บริเวณใต้ท้องของเบาะแถวที่ 2 ฝั่งขวา

All new KIA Carnival SXL ใหม่มาพร้อมระบบ Smart entry แบบเต็มระบบเริ่มจากเมื่อเข้าใกล้ตัวรถ กระจกข้างจะกางออกอัตโนมัติและไฟเลี้ยวกระพริบเป็นการตอบรับระบบสัญญาณรีโมทและรถพร้อมทำงานแล้ว

เมื่อขึ้นประตูด้านหน้าก็เพียงกดปุ่มเปิดประตูได้เลย การสตาร์ทเครื่องแค่เหยียบเบรกและกดปุ่มสตาร์ท ส่วนประตูสไลด์ทั้ง 2 ข้างนั้น นับว่าทันสมัยกว่ารถระดับเดียวหลายรุ่นนั่นคือ ในกรณีที่รถล็อคอยู่เพียงแค่เดินในตำแหน่งระยะรับสัญญาณรีโมทบริเวณส่วนกลางของประตูสไลด์ราว ๆ 30 - 60 ซม. กระจกมองข้างจะกางออกพร้อมไฟเลี้ยวกระพริบเช่นกัน และจะมีเสียงเตือนว่าประตูกำลังจะเปิดออก โดยที่ผู้เปิดไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เลย นับว่าสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งการยืนเพื่อให้ระบบประตูเปิดออกนั้นมีเงื่อนไขว่า รถต้องล็อคอยู่และยืนตำแหน่งเฉพาะบริเวณที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับเท่านั้น เนื่องจากป้องกันการเปิดโดยไม่ตั้งใจนั่นเองครับ 

ตำแหน่งเซ็นเซอร์รับสัญญาณเปิดประตูอัตโนมัติ จะอยู่ประมาณช่วงท้ายของบานประตูครับ

สำหรับประตูท้ายก็เป็นแบบ Smart Tailgate ระบบ Hand Free กรณีที่ล็อครถอยู่เพียงเดินเข้ามาในระยะที่ตัวรถรับสัญญาณกับรีโมทประมาณ 50 - 100 ซม. กระจกมองข้างจะกางออกและไฟเลี้ยวกระพริบ พร้อมกับเสียงเตือนดังขึ้น 6 ครั้ง และฝาท้ายไฟฟ้าจะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และยังสามารถเลือกตั้งระยะความสูงของการเปิดฝาท้ายได้ 4 ระดับ จากเมนูตั้งค่าตัวรถ หรือตั้งค่าความสูงการเปิดฝาท้ายได้เองจากท้ายรถ เพียงแค่ดึงฝาท้ายให้ได้ระดับตามต้องการและกดปุ่มปิดฝาท้าย (ด้านซ้ายมือ) เท่านั้น ระบบนี้ "ไม่ต้องใช้เท้ากวาดหรือเตะแต่อย่างใด" เพียงยืนเฉย ๆ เค้าก็เปิดให้ครับ!!    

ฟังก์ชั่นเปิดเองโดยไม่ต้องกวาดเท้าหรือเตะใต้ท้องนับว่าเหนือกว่ารถคู่แข่งหลายรุ่นเลย

ปิดเองได้ด้วยเมื่อระยะรีโมทออกห่างเกินกำหนด

Smart Tailgate with Away Auto-Close ฝาท้ายไฟฟ้าปิดอัตโนมัติ เมื่อฝาท้ายไฟฟ้าเปิดสุดและ Smart key อยู่ในพื้นที่รับสัญญาณทางด้านท้ายรถมากกว่า 3 วินาที เมื่อระบบพร้อมทำงานจะมีสัญญาณเสียงเตือนดังขึ้นเป็นระยะเป็นเวลา 2 นาที (หากเกินเวลาระบบจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ) เมื่อต้องการให้ฝาท้ายเริ่มปิดอัตโนมัติให้นำ Smart key ออกนอกพื้นที่รับสัญญาณด้านท้ายรถ จะมีเสียงเตือน 3 ครั้ง เพื่อเตรียมการปิด และเสียงเตือนอีก 2 ครั้ง ฝาท้ายไฟฟ้าจะเริ่มปิดอัตโนมัติ (หากต้องการยกเลิกระบบ Power tailgate auto close ให้กดที่ปุ่มรูปรถเปิดท้ายและมีคำว่า off)

ยังครับยัง!..ยังไม่หมดระบบรีโมทอัจฉริยะของ Carnival ใหม่นี้สามารถส่งเปิดประตูสไลด์ทั้ง 2 ฝั่งและฝาท้ายได้พร้อมกันด้วยปุ่มเดียว เพียงกดปลดล็อคค้างเอาไว้เท่านั้น ครับ และสามารถสั่งปิดได้ด้วยปุ่มล็อคค้างไว้เช่นกันครับ และยังสามารถเลือกตั้งค่าให้ทำงานเฉพาะประตูสไลด์ไฟฟ้าหรือพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าได้จากเมนูตั้งค่าตัวรถ 

สั่งเปิด-ปิดประตูทุกบานได้ในปุ่มเดียวและตั้งค่าเลือกเปิดทีละ 2 บานก็ได้

ถ้าจอดรถกลางแดดเมื่อต้องการสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์เอาไว้ก่อนจะขึ้นรถก็เพียงสั่งสตาร์ทได้จากรีโมทง่าย ๆ อีกแล้ว โดยกดปุ่มล็อค 1 ครั้งในระยะ 10 เมตร จากตัวรถ ภายในเวลา 4 วินาที หลังจากกดปุ่มล็อกให้กดปุ่มรีโมทสตาร์ท (HOLD) ค้างไว้นานกว่า 2 วินาที สัญญาณไฟฉุกเฉินจะกระพริบและเครื่องจะทำการสตาร์ท นับเป็นความสะดวกสบายสำหรับรถครอบครัวเพื่อการเดินทางอย่างแท้จริงนะครับ และถ้าหากใช้ฟังก์ชั่นสตาร์ทรีโมทเมื่อต้องเข้ารถก็เพียงเปิดล็อคประตูปกติแล้วสามารถขับได้เลยโดยไม่ต้องเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทซ้ำอีกครั้ง นับว่าสะดวกมากขึ้นอีกระดับครับ

แดดขนาดนี้ต้องติดเครื่องเปิดแอร์ก่อนเลย

• หากสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทแล้วไม่มีการปลดล็อกประตูด้วย Smart key หรือปุ่มปลดล็อกที่ประตู เครื่องยนต์จะติดเอาไว้ 10 นาที และจะดับลง
• หากสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทแล้วมีการปลดล็อกและเปิดประตู โดยที่รถไม่พบ Smart key เครื่องยนต์จะติดอยู่เป็นเวลา 30 วินาที และจะดับลง

ภายในถูกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายและความบันเทิงมากขึ้นได้แก่ Paddle Shift บนพวงมาลัย สวิตช์ควบคุมระบบ Smart Cruise control ควบคุมความเร็วแปรผัน ปุ่ม Lane Following Assist ควบคุมรถให้อยู่ในเลน สวิตช์ระบบ Lane Keeping Assist ป้องกันออกนอกเลนพร้อมดึงกลับ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโมติ 

กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ    

สวิตช์ควบคุมเรดาร์ครูสคอนโทรล ตั้งระยะห่างรถคันหน้า เลือกเมนูบนหน้าจอ และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง

สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง

ไฟหน้าพร้อมปรับไฟสูง-ต่ำโหมดอัตโนมัติ และแพดเดิ้ลชิฟเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

ด้านบนเป็นทางซ้ายสวิตช์เปิด-ปิดแทรกชั่นคอรโทรล/ขวา ระบบเตือนรถออกนอกเลน

เบาะนั่งผู้ขับขี่ด้านหลังปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมดันหลัง 4 ทิศทาง และระบบล็อคความจำ 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะปรับให้ทั้งตัวเบาะและกระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่งตามที่ตั้งค่าเอาไว้อีกด้วย ส่วนฝั่งข้างคนขับปรับ 8 ทิศทาง พร้อมเพิ่มระบบอุ่นเบาะและเป่าลมมาให้ทั้งคู่ 

ปรับให้เหมาะแล้วกด SET ตามด้วยเลข 1 หรือ 2 ต้องทำตอนรถจอดนิ่งเท่านั้นครับ

สะดวกสบายด้วยสวิตช์กระจกไฟฟ้าที่ให้ระบบขึ้น-ลงอัตโนมัติมาทั้ง 4 บาน และมีสวิตช์แยกให้ที่ประตูครบทุกบาน พร้อมสวิตช์ควบคุมล็อค ปรับกระจกมองข้าง 

รถสไตล์ MPV ผู้ขับและผู้โดยสารให้ความรู้สึกอบอุ่นใกล้ชิดกว่ารถแบบ VAN หรือรถตู้  

หลังคาซันรูฟ 2 ตอนหน้า-หลังพร้อมสวิตช์ควบคุมแยกอิสระ 2 ตำแหน่งให้ทั้งคนขับหรือว่าผู้โดยสารใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีระบบระบบ Rear Occupant Alert เตือนให้ตรวจสอบผู้โดยสารด้านหลังก่อนออกจากรถช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ทำการตรวจสอบที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังเมื่อจะออกจากรถ 

Rear Occupant Alert โดยใช้ตัวตรวจจับแบบ Ultrasonic sensor ที่ติดตั้งบนเพดานตอนกลางและตอนหลัง ซึ่งจะตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวและแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบในรูปแบบภาพพร้อมข้อความและเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่ดับเครื่องยนต์และเปิดประตูด้านผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงถูกลืมไว้ในรถ หากผู้ขับขี่ออกจากรถไปโดยที่ยังมีผู้โดยสารอยู่ภายในรถเมื่อทำการล็อกรถระบบจะยังคงแจ้งเตือนให้ในรูปแบบสัญญาณเสียงแตรรถหลังจากล็อกรถและเซ็นเซอร์เริ่มตรวจพบความเคลื่อนไหวภายในรถประมาณ 20 วินาที เสียงแตรรถจะดังพร้อมสัญญาณไฟฉุกเฉิน 25 วินาที และหยุด 30 วินาที สลับกันไปจนกว่าจะมีการปลดล็อกประตู

แอร์แยกอิสระตอนหน้าและหลัง พร้อมแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาสำหรับตอนหน้าได้

ตรงคอนโซลกลางมีคันเกียร์แบบหมุน สวิตช์ปรับเป่าลมร้อนและเย็นเบาะคู่หน้า สวิตช์แมมโมรี่เบาะคนขับ 2 ตำแหน่ง ไฟเรืองแสงบริเวณแผงประตูทั้ง 4 บาน และไฟส่องพื้นบริเวณประตูสไลด์ทั้ง 2 ข้าง หลังคาซันรูฟ 2 ตอน หน้า-หลัง ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมีระบบทำความเย็นแยกเป็นสองชุดด้านหน้าและหลังพร้อมแยกปรับได้อิสระซ้าย-ขวา ด้านหลัง และสวิตช์แยกสำหรับผู้โดยสารตอนหล้งกับช่องลมทั่วถึงในทุกตำแหน่ง  

สวิตช์ควบคุมแอร์ด้านหลัง

ระบบอุ่นและเป่าลมสำหรับเบาะคู่หน้า

เกียร์หมุนแบบนี้คุ้ม ๆ ตาในรถยุโรป แรก ๆ ยังไม่คุ้นเคยในการใช้งานเท่าไหร่นัก แต่ขับไปเดี๋ยวก็ชินเองครับ

ช่องสำหรับชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

ระบบความบันเทิงจอสัมผัส 12.3-inch Display เพิ่มจอ Tablet 10.1-inch Display บนพนักพิงเบาะผู้ขับขี่และเบาะผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมแอบพลิเคชั่น Youtube/Netflix/Baby shark/Song/Game ระบบ Screen sharing แชร์หน้าจอระหว่าง 2 จอหลัง ด้านซ้ายและด้านขวา รองรับระบบ Mirroring ลำโพงจาก Bose^TM รอบคัน 12 จุด และ Subwoofer รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้ง USB/Bluetooth เชื่อมต่อ Apple CarPlay, Android Auto เชื่อมต่อ Wi-Fi สามารถรองรับการแสดงภาพได้สูงถึงอัตราส่วน 21:9

เบาะแถวที่สองเป็นแบบ 3 ที่นั่ง ตรงกลางเป็นเบาะเล็กพับเก็บเพื่อเป็นช่องทางเดินไปที่นั่งตอนหลังได้ และยังปรับเลื่อนเบาะหน้าฝั่งข้างคนขับได้จากสวิตช์ด้านข้างพนักพิง โดยไม่ต้องรบกวนคนนั่งด้านหน้าในกรณีที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กนั่งอยู่ แถวที่สามเป็นเบาะ 3 ที่นั่งเช่นกันและมีขนาดเท่ากัน จึงนั่งได้สบายไม่แตกต่างจากแถวที่สอง สำหรับเบาะตรงกลางทั้งสองแถวนี้พับพนักพิงลงมาเป็นที่วางแก้วน้ำและวิ่งของต่าง ๆ พร้อมช่องวางโทรศัพท์ ยังไม่นับที่แผงด้านข้างของเบาะแถวที่สามมีช่องอีกเพียบ ทั้งวางแก้วน้ำ โทรศัพท์ สิ่งของต่าง ๆ ได้อีกมากมายเลยครับ สามารถตอบสนองการใช้งานได้ครบทุกตำแหน่ง 

เข้า-ออกสบายด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้ช่วงประตูสไลด์กว้างตามไปด้วย

สวิตช์สำหรบผู้โดยสารตอนหลังปรัลเลื่อนเองได้

การขึ้นไปนั่งในเบาะแถวที่สามนั้นสามารถขึ้นได้ 2 ช่องทางคือ เดินตรงกลางเบาะ และขึ้นจากประตูได้เลย เพราะว่าใน คาร์นิวัลรุ่นใหม่นั้นถูกขยายฐานล้อให้ยาวขึ้นและช่วงของประตูที่กว้างกว่ารุ่นเดิม จึงสามารถก้าวขึ้นด้านได้สะดวกมากขึ้นครับ พร้อมกับมีที่ดึงเบาะสำหรับผู้โดยสารแถวที่สามสามารถดึงให้เบาะพับไปข้างหน้าเพื่อลงรถได้เองด้วยครับ 

ช่วงประตูกว้างขึ้นเข้า-ออกเพื่อนั่งตำเบาะแถวที่สามได้ง่ายขึ้น

การสั่งเปิด-ปิดประตูจากภายในใช้งานได้ 2 ที่คือ สวิตช์ตรงเสาตรงและโยกที่มือจับประตู

มาถึงเบาะแถวที่สามมี 3 ที่นั่งและนับว่าเป็นเบาะเสริมเพราะเป็นแบบพับเก็บลงพื้นแบนราบ จึงทำให้มีขนาดตัวเบาะสั้นและเล็ก มีพื้นที่วางขาน้อยที่สุด หากต้องการเข้าไปนั่งจำเป็นต้องปรับเลื่อนเบาะในแถวอื่นไปด้านหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาให้ผู้โดยสารที่จะนั่งแถวสามนี้ และด้านข้างกับหลังคาอาจทำให้อึดอัดอยู่บ้าง ซึ่งหากใช้เพียงเดินทางระยะสั้น ๆ ไม่นานนักนับว่าพอนั่งได้ แต่ถ้าเดินทางยาว ๆ อาจต้องแวะพักยืดเส้นสายบ่อยสักหน่อยนะครับ สรุปว่าเบาะแถวที่สามเหมาะกับเด็กเล็ก ๆ หรือว่ามีสัตว์เลี้ยง หรือจะใช้สัมภาระต่าง ๆ น่าจะดีกว่าครับ 

สำหรับเกีย คาร์นิวัลใหม่ ด้วยภาษีการนำเข้าทางยนตรกิจเกียเลยจำเป็นที่จะต้องนำรถยนต์เข้ามาเป็น 11 ที่นั่ง แต่ถ้าหากไม่ได้ใช้เบาะแถวสุดท้ายก็สามารถพับเก็บเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น และสามารถบรรจุผู้โดยสาร 7-8 คนได้โดยที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดมากเกินไปอีกด้วยครับ 

นอกจากนี้ยังมีไฟสร้างบรรยากาศที่แผงประตูทั้ง 4 บานไฟส่องพื้นที่ประตูสไลด์ทั้ง 2 ข้าง ช่องวางแก้วน้ำ วางโทรศัพท์ ช่องชาร์จไฟทั้งแบบ USB และ ปลั๊ก 12V มากมายเต็มคันเกือบทุกที่นั่ง ม่านบังแดดกระจกตอนหลัง และเมื่อพับเบาะท้ายสุดท้ายจะมีพื้นที่เก็บของที่กว้างกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ด้วยครับ

สำหรับในรุ่น SXL นั้นใช้พื้นฐานตัวถังโครงสร้าง เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ช่วงล่าง ขนาดล้อและยางเหมือนกันกับในรุ่น EX ทุกประการ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลสมาร์ทสตรีม (Smart stream) ดีเซล 4 สูบ CRDI อัตราส่วนกำลังอัด 16.0 : 1 เทอร์โบแปรผัน 2.2 ลิตร ที่ดูเหมือนจะคล้ายรุ่นก่อนหน้าแต่ความจริงมีการปรับปรุงในหลายจุดอย่างเช่น แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงที่หัวฉีด 2,200 บาร์ ออกแบบให้ชุดลูกปืนและแบริ่งมีการลดแรงเสียดทานมากขึ้น Aluminum Cylinder Block เสื้อสูบแบบอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ผ่านมาตรฐาน EURO5 DOC+DPF ให้กาลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 45 กิโลกรัม-เมตร หรือ 441 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,750 รอบต่อนาที ปรับปรุงเยอะจนบอกได้ว่าเป็นเครื่องตัวใหม่แต่ความจุเท่าเดิม

ระบบเกียร์ 8 สปีดใหม่ A8LF2 สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม เพิ่มการตอบสนองดีขึ้นด้วยการควบคุมโซลินอยด์วาล์วโดยตรง ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลขึ้นปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์และ Lock up clutch แบบหลายแผ่น พร้อม Paddle Shift เลือกเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้เองบนพวงมาลัย ที่ฐานเกียร์มีปุ่มเลือกระบบเลือกการขับขี่ (Drive Mode) 4 แบบ คือ Normal Mode, Sport Mode, Eco Mode, Smart Mode และสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold 

มิติตัวรถยาวขึ้นกว่าเดิม 40 มม. ด้วยความยาว 5,155 มม. ความกว้าง 1,995 มม. ความสูง 1,775 มม. และฐานล้อยาวขึ้นเป็น 3,090 มม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 30 มม. ความสูงใต้ท้อง 172 ซม. แถมมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.8 ม. ขับในเมืองหรือนอกเมืองสบายครับ

ระบบโครงสร้างของช่วงล่างที่ออกแบบมาใหม่ช่วยให้การขับขี่ในขณะเข้าโค้งได้ดีขึ้น รวมถึงการควบคุมพวงมาลัยที่เป็นเพาเวอร์ไฟฟ้าทำได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้นช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัทด้านหลังมัลติลิงค์ พร้อมกับใช้บูชยางรองคานหน้าแบบไฮดรอลิกลดการสั่นสะเทือนได้ดีมากขึ้น พวงมาลัยไฟฟ้าและดิสก์เบรก 4 ล้อ

การทดลองขับ All new Kia Carnival ใหม่ ความรู้สึกแรกคือ นุ่มนวล ราบรื่น ตอบสนองทันใจ และพวงมาลัยเบากระชับมือ ด้วยรูปทรงรถแบบ MPV ท่านั่งขับขี่และการมุมมองต่าง ๆ นับว่ากำลังพอดี วิสัยทัศน์โปร่งโล่งทั้งกระจกหน้าและด้านข้าง มุมองที่เห็นนั้นสูงกว่าเก๋งทั่วไป แต่ก็ไม่สูงมากเท่ากับรถกระบะหรือ SUV/PPV ทำให้การกะระยะรอบ ๆ ตัวรถง่ายไม่แตกต่างกับรถเก๋งมากนักเลยครับ

พวงมาลัยเบาเหมือนรถเก๋งควบคุมง่าย

โดยส่วนตัวแล้วชอบน้ำหนักของพวงมาลัยที่เบามากทั้งความเร็วต่ำจนระดับกลาง ๆ ส่วนความเร็วสูง ๆ นั้น จะเริ่มเบาหวิวในช่วงเกิน 110 กม./ชม. ขึนไป ซึ่งในการเดินทางปกตินั้นก็ใช้ความเร็วระดับ 90 - 120 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยและตามกฎหมายกำหนด หากขับเร็วกว่านั้นย่อยเบาขึ้นเป็นธรรมดาครับ ดังนั้น ถ้าจะขับความเร็วสูงมาก ๆ ย่อมต้องมีทักษะในการควบคุมรถยนต์ให้ดีตามไปด้วยครับ แต่ใช่ว่าที่ความเร็วสูงจะควบคุมยาก ด้วยน้ำหนักตัวรถที่มาก ระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ฐานล้อยาวและกว้าง ความสูงไม่มากนัก มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การใช้ความเร็งสูง ๆ นั้นก็ไม่แตกต่างกับการขับรถเก๋งคันใหญ่ ๆ คันหนึ่งเท่านั้นเองครับ

ข้อดีของพวงมาลัยน้ำหนักเบานั้น ควบคุมง่ายทั้งการจอด ขับในเมือง เลี้ยวเข้าออกตามห้างหรือโรงเรียน ทำให้แม้จะเป็นสุภาพสตรี หรือคนมีอายุก็ขับได้สบายครับ กล้ามไม่ขึ้นแน่นอน ส่วนน้ำหนักคันเร่งที่มีความหนืดกำลังพอดีควบคุมง่ายเบาเกินไปและไม่ต้องเกร็งเท้ามากนัก สำหรับแป้นเบรกให้ความรู้สึกเหมือนรถยุโรปนั่นคือ นุ่มเท้าไม่กระด้าง เบาแรง ใช้น้ำหนักไม่มากก็สามารถหยุดรถได้สนิท พร้อมกับมีระบบ Auto Hold มาให้ไม่เมื่อยเมื่อติดไฟแดงนาน ๆ อีกด้วย 

ช่างล่างนุ่มนวลกว่ารุ่นก่อนหน้านี้หรือเจนฯ 3 เน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและรองรับการเดินทางมากขึ้น ทำให้ผู้โดยสารนั่งสบายขึ้น การปรับเพิ่มความนุ่มนวลนี้มีเพื่อคำนึงถึงผู้โดยสารตอนที่สองและสามมากขึ้นอีกด้วยครับ แม้จะถูกโยนบนคอสะพานหรือหลังเต่า ก็ยังยุบตัวลงมาได้อย่างนุ่มนวล 

ความนุ่มนวลที่ปรับใหม่นั้นก็ยังสามารถรองรับกับสภาพถนนได้หลายรูปแบบ และไม่ทำให้การควบคุมรถหรือการทรงตัวในความเร็วสูงลดลงแต่อย่างใดครับ เพราะมีระบบช่วงล่างที่ดีและระยะจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ได้เปรียบกว่ารถตู้หรือเอสยูวีหลายเท่าตัว

และแน่นอนว่าอัตราเร่งออกตัวสำหรับกำลัง 202 แรงม้า และมีแรงฉุดกระชากระดับ 441 นิวตัน-เมตร ลากตัวถังขนาดกว่า 2 ตันได้อย่างปลิวทีเดียวครับ การเร่งแซงทันใจในทุกย่านความเร็วเพียงแค่ "จุ่ม" คันเร่ง รถก็พร้อมฉุดไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนเกียร์ก็นุ่มนวลต่อเนื่องดี    

ระบบการทำงานอย่างต่อเนื่องของชุดเกียร์ 8 สปีด A8LF2 ใหม่นี้แม้จะมีการเปลี่ยนที่ราบรื่นรวดเร็วและต่อเนื่องกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อยู่หลายเท่า แต่ในบางย่านความเร็วก็มีใช้เวลาคิดนานในการเลือกตำแหน่งเกียร์อยู่บ้างอย่างเช่น ในช่วงขับช้าแบบ "กรอคันเร่ง" ความเร็วต่ำราว ๆ 20 - 40 กม./ชม. หรือช่วงเกียร์ 1 ไป เกียร์ 2 นั้น (อย่างเช่นกำลังเลี้ยวกลับรถโดยไหลเข้าไปช้า ๆ ก่อนล้อตั้งตรงและเร่งเครื่อง) หากเพิ่มน้ำหนักคันเร่งไม่เยอะมากนักเพื่อจะเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อยก็จะมีอาการ "รอรอบ" หรือแม้จะเติมน้ำหนักเข้าอีกก็ยังรออยู่ดี น่าจะเป็นผลจากอัตราทดเกียร์ 1 ที่สูงมากเพื่อช่วยในการออกตัวจะอยู่ที่ 4.808 และเกียร์ 2 ห่างออกไปอยู่ที่ 2.901 ทำให้เมื่อใช้ความเร็วต่ำ ๆ มักค้างอยู่เกียร์ 2 บ่อย ๆ และเมื่อต้องการเพิ่มความเร็วนั้นอัตราทดเกียร์ 3 อยู่ที่ 1.864 ซึ่งอาจจะห่างเพิ่มขึ้นอีกนิด จึงเป็นผลให้รอรอบในช่วงนี้ แนะนำว่าหากต้องการเพิ่มความเร็วในช่วงนี้ควรจะเหยียบคันเร่งเยอะหน่อยครับ ให้รอบของกำลังแรงบิดช่วง 1,750 - 2,750 รอบ/นาที ทำงานเพียงครู่เดียวรถก็พุ่งทยานไปอย่างทันใจแล้ว ผู้ขับขี่อาจต้องมีการเรียนรู้นิสัยของรถควบคู่ไปด้วยครับ  

สำหรับเรื่องความประหยัดนั้นอาจไม่เน้นมากนักเนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตรที่นับว่าให้ประหยัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองตลอดที่ขับทดสอบกว่า 5 วันนั้นอยู่ที่ 10 ปลาย ๆ ถึง 12 กม./ลิตร ขับในเมืองตลอดเพราะช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงไม่สะดวกในการเดินทางข้ามจังหวัดมากนักครับ แต่ขณะเดียวกันในรุ่น Carnival EX ที่ทดสอบไปก่อนหน้านี้ทำได้ดีที่สุดถึง 6.9 ลิตร/100กม. หรือ 14.5 กม./ลิตร ทีเดียวครับ คาดว่าน่าจะขึ้นกับลักษณะการขับขี่ที่แตกต่างกันในแต่ละวันด้วยครับ เรียกว่า "ประหยัดตามเท้าเรา" นั้่นเองครับ  

รุ่น SXL

รุ่น SXL

*อัตราสิ้นเปลืองในตอนทดสอบรุ่น EX ก่อนหน้านี้ 

โดยรวมแล้วสมรรถนะของเจ้าปลาวาฬยักษ์คันนี้ลงตัวกับขนาดรถและการควบคุมที่ง่ายคล่องตัว เกาะถนนได้ดีกว่ารถทรงสูง ๆ หรือที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูง ๆ และยังให้ความนุ่มนวล ขับสบายไม่ต่างกับรถเก๋งซีดานอีกด้วยครับ และนอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมเจ้ายักษ์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไปดูกันว่าระบบที่ว่าคืออะไรครับ

DRIVE WISE เป็นรูปแบบของ Kia ที่ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Advanced Drive Assistance System (ADAS) ซึ่งจะแบ่งออกเป็นรถบบช่วยเหลือสำหรับการขับขี่และระบบเตือนความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร

Forward Collision-Avoidance Assist (FCA) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า 
ตรวจจับการเคลื่อนไหวโดยใช้กล้องมองด้านหน้าและเรดาร์ด้านหน้าเพื่อคำนวณตำแหน่งและความเร็วของสิ่งกีดขวางทางด้านหน้า (ยานพาหนะ, คนเดินเท้า, จักรยาน) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบด้วยสัญญาณเตือนภาพพร้อมเสียงและช่วยเบรกให้เมื่อจำเป็น โดยมี Sensor fusion คือการทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์จากกล้องมองด้านหน้าและเรดาร์ด้านหน้า เพื่อประสิทธิภาพและความแม่นยำที่ถูกต้องมากขึ้น โดยมีหลักการทำงานดังนี้ 

• 10 - 180 กม./ชม. ตรวจจับยานพาหนะ 
• 10 - 85 กม./ชม. ตรวจจับคนและจักรยาน

ได้ทดลองใช้งานแบบไม่ตั้งใจในระบบนี้ ขณะขับขี่ความต่ำ ๆ รถติดสลับหยุดนิ่ง มีจังหวะที่คันหน้าเคลื่อนตัวออกไป เราก็เร่งตามไป แต่คันหน้าก็หยุดอีกครั้ง ซึ่งความเร็วของรถเรายังไม่ช้าลงมากนัก แต่ระบบก็แจ้งเตือนและถ้าเท้าไม่แตะที่แป้นเบรกในระยะใกล้มากขึ้น รถก็เบรกให้ทันทีเลยครับ นับว่าการทำงานแม่นยำและไว้ใจดี ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มาก ๆ เมื่อเกิดอาการเมิ่อลอยหรือละสายตามจากหน้ารถเพื่อหยิบจับสิ่งของ

• 10 - 75 กม./ชม. ตรวจจับยานพาหนะ
• 10 - 65 กม.ชม. ตรวจจับคนและจักรยาน

ระบบช่วยป้องกันการชนด้านหน้าขณะเลี้ยว เป็นระบบจะตรวจจับรถที่กำลังขับสวนมาจากฝั่งตรงข้ามเมื่อต้องการเลี้ยวที่ทางแยก ระบบจะทำการแจ้งเตือนและเบรกให้อัตโนมัติเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกับรถที่ขับสวนมาระหว่างทำการเลี้ยว ระบบนี้จะตรวจจับเพียงยานพาหนะเท่านั้น ไม่รวมรถสองล้อ, คนเดินเท้า และสัตว์ มีช่วงการทำงานที่ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. และความเร็วของรถฝั่งตรงข้าม 30 - 70 กม./ชม. ในระยะ 4 - 5 เมตร และมุมเลี้ยวประมาณ 180 องศา บวกลบไม่เกิน 20 องศา  

ช่วยแจ้งเตือนเมื่อมารถด้านข้างในขณะที่เมื่อผู้ขับขี่พยายามเปลี่ยนช่องทาง โดยใช้กล้องมองด้านหน้าและเรดาร์มุมด้านหลังเพื่อคำนวณตำแหน่ง และความเร็วของรถคันอื่นที่อยู่ด้านข้าง หากมีระบบหรืออาจเกิดการชนระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับด้วยสัญญาณเตือนพร้อมกับควบคุมทิศทางพวงมาลัยกลับเข้าช่องทางโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้ไม่ว่าจะเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวหรือไม่ก็ยังคงคอยตรวจจับและแจ้งเตือนหากมีรถมาด้านข้าง นอกจากนี้ระบบยังสามารถเตือนเมื่อขับรถออกจากที่จอดอีกด้วยครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเปิดไฟเลี้ยวแล้วก็ตามถ้ามีรถมาระบบก็ยังดึงกลับให้เสมอครับ

การทดลองระบบนี้เมื่อแกล้งเบนรถออกนอกเลน ล้อหน้ายังไม่ทันจะทับเส้นแบ่งช่องทาง รถก็เตือน และหลังจากเตือนถ้ายังเบนออกไปอีกก็จะดึงพวงมาลัยกลับทันที โดยใช้เวลาเพียงเสี่ยววินาที ถือว่ารวดเร็วและปลอดภัยขึ้นเยอะ และในขณะเดียวกันถ้าใช้ควบคู่กับระบบ "Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยป้องกันการขับออกนอกเลน" หรือ "Lane Following Assist (LFA) ระบบช่วยให้รถขับอยู่ในเลน" จะยิ่งปลอดภัยเพราะจะควบคุมรถให้อยู่ในกลางช่องทางตลอดเวลา โดยที่มีระบบช่วยดึงกลับค่อยเสริมทัพอีกที..สุดจัดจริง ๆ ครับท่านผู้อ่าน!  

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติเมื่อขับผ่านในที่มืดและจะปรับกลับเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทางมา เปิดใช้งานด้วยการหมุนสวิตช์ไฟหน้ารถไปที่ตำแหน่ง "Auto" และยังเป็นไฟ Follow Home หลังดับเครื่องยนต์อีกด้วยครับ

ระบบนี้ช่วยล็อคความเร็วตามที่ผู้ขับตั้งค่า และเพิ่มระบบตรวจจับรถคันหน้าเพื่อช่วยลดความเร็วเมื่อมีรถคันด้านหน้าขับช้ากว่าที่ตั้งเอาไว้ โดยจะชะลอให้มีความเร็วเท่ากับรถคันหน้า ไม่ว่ารถด้านหน้าจะเบรกลดความเร็วลง รถเราก็จะลดตาม หรือคันหน้าเพิ่มความเร็วก็จะเพิ่มตามจนถึงที่ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งสามารถตั้งระยะห่างจากคันหน้าได้ 4 ระดับคือ1 ระยะ 25 ม. 2 ระยะ 32.5 ม. 3 ระยะ 40 ม. และ 4 ระยะ 52.5 ม. โดยทั่วไปตั้งไว้ที่ 25 ม.กำลังดีมีระยะเหมาะสมสำหรับการจราจรในประเทศไทย เพราะถ้าไกลเกินไปจะชอบมีรถมาแทรก!!

Stop & Go หยุด-ออกตัวตามคันหน้า หนึ่งในระบบ SCC ช่วยออกตัวจากจุดหยุดนิ่งได้ เมื่อเปิดใช้ระบบ SCC - ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน เมื่อรถคันหน้าลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งจอดสนิทไม่เกิน 3 วินาที และคันหน้าเคลื่อนตัวออกไป ระบบจะเร่งออกตัวตามคันหน้าทันทีครับ แต่หากหยุดนานเกิน 3 วินาที เมื่อคันหน้าออกตัวไประบบจะมีข้อความแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ทำการกดคันเร่งหรือกดปุ่มรูป "II กับลูกศรครึ่งวงกลม" หรือ "+ / -" ที่พวงมาลัย เพื่อให้รถเริ่มออกตัวตามคันหน้าไปและจะคงใช้ระบบ SCC ต่อไป แค่นี้อาจดูธรรมดาทั่วไปรถระดับราคาสูง ๆ เค้าก็มีกัน แต่ในระบบ SCC ของเกีย คาร์นิวัลใหม่ แอบเพิ่มฟังก์ชั่นเด็ด ๆ เข้าไปด้วย 

โดยปกติแล้วหากใช้ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอยู่ ถ้าต้องการเร่งแซงคันหน้าที่ขับช้ากว่าความเร็วที่ตั้งไว้ ผู้ขับจะต้องเบี่ยงรถแซงออกไปให้พ้นรถคันหน้าจนเรดาร์หรือกล้องตรวจว่าไม่มีรถขวางอยู่ ซึ่งจะต้องเบนรถออกมาอีกช่องทางแบบเต็มคัน แล้วระบบถึงจะเร่งความเร็วขึ้นไปได้ แม้ว่ารถด้านหลังในเลนขวาที่จะแซงอยู่ไกลในระยะปลอดภัยแล้ว ก็อาจทำให้เสียจังหวะ และรถที่อยู่ข้างหลังเข้ามาในระยะชิดเกินไปอาจเกิดอันตรายได้ ผู้ขับเองจึงต้องเติมคันเร่งเพื่อให้รถเพิ่มความเร็วให้เหมาะสม 

แต่ในระบบ SCC นี้เพียงเปิดไฟเลี้ยวด้านขวา ระบบจะรับรู้ว่าต้องการแซงจะค่อย ๆ เพิ่มความเร็วโดยอัตโนมัติ (อัตราเร่งและระยะเวลาเพิ่มความเร็วนั้น ขึ้นกับความแตกของความเร็วที่ตั้งไว้กับความเร็วในขณะนั้น : ยิ่งห่างมากยิ่งเร่งเร็วมากขึ้น) เพื่อไม่ให้เสียจังหวะในการแซง โดยจะต้องเป็นการแซงทางฝั่งขวาตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น หรือถ้าในประเทศที่พวงมาลัยซ้ายก็ต้องแซงฝั่งซ้ายเช่นกัน 

ระบบนี้เป็นการช่วยประคองหรือควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทางตลอดเวลา โดยมีกล้องและเรดาร์ตรวจจับเส้นขอบเลน เมื่อมีการเลี้ยวโค้งกว้างไม่มากนักระบบจะบังคับให้รถเลี้ยวตามโค้งได้ แต่ถ้าทางโค้งแคบมาก ๆ ระบบจะตัดการทำงานออก โดยสังเกตุที่สัญลักษณ์รูป "พวงมาลัย+เส้นขอบทาง" หากขึ้นสีเขียวกำลังทำงานและสีขาวไม่ทำงานครับ ซึ่งระบบนี้สามารถแยกการทำงานกับ "Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยป้องกันการขับออกนอกเลน" ระบบช่วยให้รถขับอยู่ในเลนได้อีกด้วยครับ

ยังไม่หมดครับ!..ระบบนี้จะสามารถตรวจจับและควบคุมทิศทางตามรถคันหน้าได้ ในกรณีที่เส้นถนนหาย ไม่ชัดเจน ระบบจะยังจับให้รถขับในทิศทางเดียวกับรถคันหน้า เพื่อรักษาแนวการวิ่งของรถต่อไปได้ แม้จะไม่เจอเส้นขอบเลนก็ตาม หรือเมื่อมีรถมาแทรก ระบบก็จะชะลอความเร็วตามคันที่อยู่ใกล้มากที่สุดครับ

Driver Attention Warning (DAW) ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้า  

ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้าจะวิเคราะห์รูปแบบการขับขี่ของผู้ขับขี่ เช่น ขับเซไปมาหรือมีลักษณะผิดปกติ โดยใช้กล้องด้านหน้าเพื่อตรวจจับรูปแบบการขับขี่ที่อาจจะเกิดจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ หรือการขับขี่แบบไม่ตั้งใจ ผ่านระบบตรวจสอบความสนใจในการขับขี่ได้ 5 ระดับ ข้อความแจ้งเตือนพร้อมเสียงแนะนำให้ผู้ขับขี่หยุดพัก และยังมีระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถคันหน้ากำลังออกตัวไปแล้วอีกด้วยครับ ใครเล่นมือถืออยู่ก็ไม่ต้องกลัวใครบีบแตรเมื่อไฟเขียวแล้วคันหน้าออกตัวไปก่อนเกียคาร์นิวัลใหม่มีระบบค่อยเตือนให้ด้วยครับ

ระบบป้องกันรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ เช่น ก้มหยิบของ หันไปคุยกับเพื่อน ๆ เมื่อรถเกิดการเบนออกใกล้กับเส้นขอบช่องทางจราจร ระบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียงและถ้ายังเบนออกไปเรื่อย ๆ ระบบก็จะควบคุมพวงมาลัยดึงกลับเข้ามาในเลนทันที ระบบนี้ถ้าทำงานเดี่ยว ๆ จะมีการดึงกลับอย่างรวดเร็วและตอบสนองได้ชัดเจนมาก แต่ถ้าใช้ร่วมกับ "Lane Following Assist (LFA) ระบบช่วยให้รถขับอยู่ในเลน" อาจจะนุ่มนวลขึ้นเพราะมีระบบคุมรถให้อยู่ช่องทางเป็นตัวหลักก่อน จึงทำให้การบังคับทิศทางของรถเป็นไปอย่างนุ่มนวลกว่าครับ  

ซึ่งทั้งสองระบบนี้จะต้องจับพวงมาลัยเอาไว้ตลอดเวลาด้วยเพื่อความปลอดภัย แต่หากเผลอปล่อยทั้ง 2 มือ ระบบจะแจ้งเตือนพร้อมกับจะยกเลิกระบบ เพื่อบังคับให้ผู้ขับขี่ควบคุมพวงมาลัยเอาไว้นั่นเองครับ ระบบมีแค่ช่วยคราวเกิดเหตุจำเป็นเท่านั้น

ระบบที่มีในรุ่น SXL ซึ่งจะตรวจจับและคอยเตือนเมื่อมีรถ คน หรือ จักรยาน กำลังผ่านด้านหลังในขณะเข้าเกียร์ถอยหลัง เพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ระวัง ในขณะเดียวกันถ้ามีรถมาในระยะกระชั้นชิดและผู้ขับขี่ไม่ทันระวังหรือยังไม่แตะเบรก ระบบก็จะทำการเบรกให้โดยอัตโนมัติครับ ป้องกันการชนขณะถอยหลังได้เป็นอย่างดี เหมาะกับเวลามีผู้โดยสารเต็มคันรถหรือว่าจอดในมุมอับสายตาไม่สามารถมองเห็นรถที่วิ่งผ่านด้านหลังได้เป็นอย่างดี  

ระบบ DRIVE WiSE ใน Carnival SXL เยอะมากเดี๋ยวสรุปให้ครับว่า แต่ละระบบทำอะไรบ้าง??...

Forward Collision-Avoidance Assist (FCA) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า - เตือนเมื่อจะชนรถคันหน้าด้วยเสียงและเบรกอัตโนมัติ

Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA) ระบบเตือนมุมอับด้านข้าง - เมื่อมีรถด้านข้างระยะใกล้จะเตือนและดึงกลับอัตโนมัติ 

Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยป้องกันการขับออกนอกเลน - เมื่อรถเอนออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ เตือนด้วยเสียงและดึงกลับอัตโนมัติ 

Lane Following Assist (LFA) ระบบช่วยให้รถขับอยู่ในเลน - ช่วยบังคับพร้อมรักษาในรถอยู่กึ่งกลางเลน เตือนและบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ

Smart Cruise Control (SCC) ระบบควบคุมเร็วแปรผันพร้อมหยุด-ออกตัวตามคันหน้า (Stop & Go) - ควบคุมความเร็วแปรผันตามคันหน้า พร้อมลดความเร็วจนจอดนิ่งและออกตัวอัตโนมัติ (ในเวลาหยุดนิ่งไม่เกิน 3 วินาที) 

High Beam Assist ระบบปรับไฟหน้าสูง/ต่ำอัตโนมัติ - เปิดไฟสูงให้อัตโนมัติเมื่อเจอที่มืดมาก ๆ และปิดไฟสูงเมื่อมีรถส่วนทางมา 

Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA) ระบบเตือนพร้อมเบรกขณะถอยหลัง - เตือนพร้อมช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านด้านท้ายขณะถอยหลัง 

Driver Attention Warning (DAW) ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้า  - เตือนเมื่อขับรถส่ายไปมา เตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว 

Safe Exit Assist (SEA) ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง 

ในกรณีที่จอดรถแบบริมทาง เมื่อผู้โดยสารตอนหลังต้องการจะลงฝั่งด้านนอกถนนนั้น ระบบ SEA จะใช้เรดาร์มุมด้านหลังเพื่อตรวจจับรถยนต์ที่เข้ามาจากด้านข้าง และเตือนผู้โดยสารก่อนออกจากรถ หากผู้โดยสารพยายามเปิดประตูสไลด์ไฟฟ้าในขณะที่มีรถจากเลนด้านข้างที่อยู่ติดกัน ระบบ SEA จะป้องกันให้ไม่สามารถใช้ประตูสไลด์ไฟฟ้าได้

ระบบเตือนให้ตรวจสอบผู้โดยสารด้านหลังก่อนออกจากรถนับว่าอันนี้ดีมาก!!! ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ทำการตรวจสอบที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังเมื่อจะออกจากรถ โดยใช้ตัวตรวจจับแบบ Ultrasonic sensor ที่ติดตั้งบนเพดานตอนกลางและตอนหลัง ซึ่งจะตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวและแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบในรูปแบบภาพพร้อมข้อความและเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่ดับเครื่องยนต์และเปิดประตูด้านผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงถูกลืมไว้ในรถ หากผู้ขับขี่ออกจากรถไปโดยที่ยังมีผู้โดยสารอยู่ภายในรถเมื่อทำการล็อกรถระบบจะยังคงแจ้งเตือนให้ในรูปแบบสัญญาณเสียงแตรรถ

โดยหลังจากล็อกรถและเซ็นเซอร์เริ่มตรวจพบความเคลื่อนไหวภายในรถ ประมาณ 20 วินาที เสียงแตรรถจะดังพร้อมสัญญาณไฟฉุกเฉิน 25 วินาที และหยุด 30 วินาที สลับกันไปจนกว่าจะมีการปลดล็อกประตู*

ระบบความปลอดภัยเหล่านี้อยู่ใน All new Kia Carnival SXL ครบหมดั้งช่วยเหลือการขับขี่และปกป้องผู้โดยสาร ซึ่งวิศวกรของเกียได้คิดและออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้สมกับเป็นรถยนต์เพื่อครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดหนึ่งรุ่นจากเกีย

All new Kia Carnival SXL รถยนต์อเนกประสงค์ MPV ระดับพรีเมี่ยมที่มีโครงสร้างรองรับการเดินทางที่นุ่มนวล ทัศนวิสัยมุมมองรอบคันดีเยี่ยม สมรรถนะการขับขี่ไม่แตกต่างจากรถเก๋ง เกาะถนนทรงตัวดี เดินทางได้ทั้งครอบครัว ระบบความบันเทิงให้เพลิดเพลินตลอดการเดินทางครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เทคโนโลยีที่ดีที่สุดและมากที่สุดในตอนนี้ จ่ายแพงกว่าทำไม ในเมื่อออปชั่นทั้งหมดนี้เพียง 2,459,000 บาทเท่านั้น