รีวิว-ทดลองขับ New Toyota Fortuner Legender 2.8 4wd สุดปัง! ลุยไม่ห่วงหล่อ ประหยัดกว่าเดิม เพิ่มเติมระบบความปลอดภัยเพียบ!
ได้ฤกษ์ทดสอบกันสักที และเป็นโอกาสอันดีที่ผู้หญิงตัว (ไม่) เล็กได้มีโอกาสมาทั้งขับ และนั่งสัมผัสกับ New Toyota Fortuner รุ่นล่าสุด 2020 รถ PPV ที่เปิดตัวมาเป็นเจนเนอรเรชั่นที่ 2 และครั้งนี้ทีมงานเช็คราคา.คอม ก็มีโอกาสได้ออกมาทดสอบลุยกันทั้งในแบบออนโรดทางเรียบกรุงทพฯ - พัทยา และแบบออฟโรดที่ไม่คิดว่าครั้งนี้ โตโยต้าจะใจป๋าให้ขับฟอร์จูนเนอร์ ตัวใหม่มาลุยขึ้นเขาระเบิดแบบเละๆ ลุยๆ ทางเหว ทางแคบ สลับไปมา แบบที่สายออฟโรดจะรู้ดีเลยว่าทางนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
สำหรับ
Toyota Fortuner Legender 2.8 4wd เป็นอีก 1 รุ่น ตัวท็อป ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากรุ่นธรรมดาที่สังเกตุง่ายๆ คือสีรถแบบทูโทน หลังคาดำ รับกับกระจังหน้าคมเข้ม พิถีพิถันซึ่งดูแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน เส้นสายที่ดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว เพิ่มความทันสมัยด้วย ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED พร้อมปรับดีไซน์กันชนหลังใหม่ให้สอดรับกับดีไซน์ด้านหน้าอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนลายล้ออัลลอย 20 นิ้ว เป็นดีไซน์ใหม่เช่นกัน
เส้นทางออนโรด ขับง่าย นิ่ง นิ่ม
ซึ่งต้องบอกว่าความเป็นรถแบบ PPV ที่สาวๆ หลายๆ คนหรือแม้กระทั่งผู้ชายตัวเล็ก มองว่ามันมีขนาดใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว วิสัยทัศน์ในการขับกับรถที่สูง มีดีและชัดเจนมากๆ ถ้าเทียบกับการก้าวขาขึ้นรถที่และดูจะลำบากไปนิด แต่บอกเลยว่าจะไม่มีใครกล้าปาดหน้าคุณแน่ๆ
การเดินทางในกลุ่ม 2 จะเป็นการเริ่มต้นจากโรงแรมเรเนซองส์ ที่พัทยา โดยขับตามกันเป็นขบวน ซึ่งจุดหมายแรกจะอยู่ที่ เขาอ่างแก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เขาระเบิด" หรือ ลานร่มร่อน 1 คัน ต่อ 1 สื่อซึ่ง ทีมงานจัดฟอร์จูนเนอร์ Legender เครื่องยนต์ 2.8 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ให้แรงม้าได้ถึง 204 แรงม้า(PS) เกียร์ออโต้ 6AT (พร้อม Sequential Shift และ paddle Shift)
ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางคู่กับข่าวผู้มากประสบการณ์ พี่ต่อ เจ้าของเว็ปไซต์ Auto Freestyle (www.autofreestyle.com) และรับหน้าที่เป็นผู้ขับไม้แรก สิ่งหนึ่งที่พี่ต่อได้เอ่ยกับเรา นั่นคือในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์ทั้งนอกและใน ที่ไม่ได้มาสัมผัสฟิลลิ่งนี้มานานหลายปี รถขับนิ่ม และรอบที่ต่ำ 1800 รอบอยู่ที่ 120 กม./ลิตร กับเครื่องขนาด 2.8 บอกเลยว่าประหยัดพอควร แต่สิ่งหนึ่งที่เราต่างสัมผัสกันได้นั่นก็คือระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาให้จนรู้สึกว่ารถคันนี้ตอบโจทย์ครบทุกอณูประการ (เพราะผู้เขียนเองก็ใช้ ฟอร์จูนเนอร์ หน้าแชมป์ 3.0 ตัวเก่า) จึงทำให้รู้ว่าโฉม 2020 นี้มันน่าใช้ และปลอดภัยกว่าเดิม ทำให้ผู้ขับอุ่นใจได้หลายเท่า
ในรุ่น Legender 2.8 4wd จะมีระบบความปลอดภัย พร้อมออพชั่นมากมายกว่ารุ่นมาตรฐาน และเป็นครั้งแรกที่ ฟอร์จูนเนอร์ นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยคนขับนั่นคือ ระบบ Lane Departure Alert ซึ่งหากผู้ขับเกิดอาการหลับใน หรือเปลี่ยนช่องโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว รถจะส่งสัญญาณเตือนแล้วพวงมาลัยจะหน่วงกลับอัตโนมัติ (แต่อาจหน่วงกลับมาแรงไปนิด) ถ้าคนขับไม่ชินอาจตกใจว่ารถมันดึงเข้าเลนแบบหนักหน่วงเกินไป แต่ทว่าทางทีมวิศวกร วิจัยมาแล้วว่า บางทีหน่วงเบาๆ คนไม่ตื่น ต้องซัดแรงๆ ให้สะดุ้งกันไป
อีก 1 จุดที่ ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มีนั่นก็คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Dynamic Rader Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วพร้อมมีเรดาร์ตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้าและลดความเร็วอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับลดความเมื่อยล้าได้อีกเวลาขับทางไกล อีกทั้งการปรับเซทช่วงล่างใหม่ทำให้รู้สึกเวลาเข้าโค้งแม้มาด้วยความเร็ว (แต่ไม่เร็วจนเกินไปจนไม่ปลอดภัย) ด้วยระบบที่ฟอร์จูนเนอร์ใส่เข้ามาเพิ่ม คือระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSC) แม้ถนนเปียก ก็ยังเกาะถนนแบบเอาอยู่ อีกทั้งยังมีระบบช่วยกระจายแรงเบรคทั้ง 4 ล้อ ให้หยุดได้อยู่หมัด ท้ายไม่สะบัด ทำให้ผู้ขับรู้สึกปลอดภัยได้ทุกสภาพถนน
ในเรื่องของการเร่งแซง และการทำความเร็ว เพราะรถคันนี้มาพร้อมพละกำลัง 204 แรงม้า การเร่งแซงและออกตัวจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วง บวกกับเทอร์โบที่ใส่คู่มากับรถ ให้สามารถส่งกำลังได้ต่อเนื่อง ปุ๊บปั๊บถึงตัว และคอนเซ็ปต์ของรถในปีนี้ ออกแบบมาเพื่อนเน้นให้ขับได้ทุกเพศ ทุกวัย การดีไซน์จึงเน้นตอบโจทย์คนที่ใช้รถทั้งการทำงานเมือง และออกไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างจุใจ
ลุยออฟโรดไม่ห่วงหล่อ กับยางเดิมๆ
สำหรับออฟโรดลุยกันแบบยางเดิมสแตนดาร์ด โตโยต้าสุดมากยอมเอารถใหม่มาลุยจนเละ แต่ระบบ Sigma4 ระบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ออกแบบเฉพาะให้ฟอร์จูนเนอร์เป็นรถ PPV ที่ครบองค์ประกอบทุกการเดินทาง อีกทั้งหมดห่วงเพราะมีตัวช่วยกับระบบ DAC (ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน) และการเปลี่ยนเป็นระบบ 4WD ของรถ กับช่วงล่างที่ปรับจูนใหม่ และระบบ A-TRC (ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Active) ที่ช่วยให้ขับการขับ Offroad ได้สมูท และสนุกกับการปรับรอบเดินเบาโดยใช้ทั้งระบบ H4 และ L4 ถือว่าขึ้นทางชันและลุยดินเละได้อย่างหายห่วง โดยไม่คิดว่ารถที่เดิมๆ ไม่มีการเซ็ทใหญ่จากเจ้าสำนักไหนๆ ก็สามารถบุกตะลุยขึ้นดินโคลนเละๆ ร่องหลุ่มผ่านไปได้อย่างมั่นใจ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ประสบการณ์คนขับด้วยเช่นกัน
โดยรวม เรื่องดีไซน์ถือว่ารุ่นท็อป ทำออกมาสวยสมราคา ดูหรูหราและบึกบึนในรูปลักษณ์เดียวกัน กระจังหน้า กันชนออกแบบใหม่ ไฟหน้า ไฟท้ายเป็น LED ทั้งหมดถือว่าปรับใหม่ดูน่าใช้ ผู้หญิงขับก็ยังดูอ่อนโยน การทดสอบในถนนออนโรด ถือว่าฟอร์จูนเนอร์ทำมาดีตั้งแต่รุ่นแรก ทั้งในเรื่องสมรรถนะและการใช้งานในพื้นที่ห้องโดยสาร ที่หลายๆ ครอบครัวต่างตั้งไว้ให้เป็นตัวเลือกแรก ยิ่งโฉมล่าสุดที่มีการใส่ออพชั่นเข้ามาเพิ่มเติมโดยเน้นเรื่องการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น หรือจะเป็นระบบความปลอดภัยที่ผู้ขับสะดวกสบายกว่าเดิม
ในเรื่องดีไซน์ห้องโดยสาร แม้จะดูไม่หวือหวาถ้าบอกว่ารถราคาล้านกว่า แต่ก็ปรับออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า มีอุปกรณ์ชาร์จมือถือแบบไร้สาย (กดปุ่มปิดได้ถ้าไม่ใช้) หน้าจอเครื่องเสียง 9 นิ้ว แต่ติดที่ลำโพงซ้าย - ขวา บนคอนโซลที่สะท้อนกระจก (แต่ถ้าติดฟิล์มทึบก็อาจจะช่วยได้หรือเปล่า) ที่ใหญ่และรบกวนทัศนีย์ภาพในการมองทาง รถประหยัดเห็นชัด แม้จะเป็นเครื่องเทอร์โบ 2.8 แต่ก็มีการปรับจูนให้รอบต่ำ (1,800 รอบ อยู่ที่ 120 กม./ชม.) จึงทำให้รถประหยัดกว่าเดิม ในเรื่องระบบความปลอดภัยที่ยังไงยุคนี้รถส่วนใหญ่เริ่มจะมีเข้ามาให้เช่นระบบ Lane Keeping รถกระชากแรงไปนิดแต่เพื่อให้คนขับทางไกลตื่นจากความง่วง ในส่วนพวงมาลัยน้ำหนักเบาคุมดี เข้าโค้งง่าย นิ่ง นิ่ม ช่วงล่างไม่กระเด้ง โดยรวมเทคโนโลยีที่จัดเพิ่มให้ในฟอร์จูนเนอร์ตัวใหม่ และทุกๆ อย่างที่ปรับมาครั้งนี้บอก้ลยว่าน่าใช้ และน่ามีอย่างมาก ถ้าไม่ติดว่าตัวคุณเล็ก ขึ้นลงลำบาก ก็จัด! ไม่ต้องคิดเยอะ
Toyota Fortuner 2.8 Legender 4WD AT MY2020 ราคา 1,839,000 บาท
โชว์รูมแนะนำ