รีวิว Toyota Hilux Revo Rocco ใหม่ ลองมาแล้วกับรถกระบะเครื่องแรง ช่วงล่างนุ่ม ขับ Off-Road ง่ายขึ้น (Test Drive)
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนทดลองขับรถยนต์กระบะ
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ใหม่ ภายในสนาม "
TOYOTA Driving Experience Park หรือ
ศูนย์ขับทดสอบรถยนต์ครบวงจร ใหญ่ที่สุดของโตโยต้าในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค" โดยแบ่งเป็นรอบเช้าและบ่ายเพื่อลดความหนาแน่น พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ
"Social distancing" ลดการระบาดของไวรัส โควิด-19 ในการทดสอบครั้งนี้ยังแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ On และ Off-Road ด้วยรถยนต์
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ Rocco 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อเกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,239,000 บาท ทั้งหมดกว่า 10 คัน
Toyota Hilux Revo Rocco ใหม่ ฟังก์ชั่นเยอะขึ้น
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ Rocco ใหม่ นั้นมีการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะทั้งที่มองเห็นและไม่เห็น อย่างเช่น เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ปรับปรุงระบบเทอร์โบแปรผันลูกใหญ่ขึ้นเป็นแบบลูกปืน (Ball bearing) ระบบจ่าบน้ำมันใหม่ I-ART เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรังปรุงรอบเดินเบาให้ต่ำลง 680 รอบต่อนาที ขับขี่ในทางออฟโร้ดง่ายขึ้น แสดงรูปจำลองล้อหน้าบนมาตรวัดให้ง่ายต่อการลุยมากขึ้น
พวงมาลัยแบบปรับแรงตามความเร็ว ระบบช่วงล่างที่ ปรับปรุงใหม่ Super Flex Suspension ทั้งในรุ่นยกสูง Prerunner และ Rocco ใช้แหนบหลังแบบ 3 แผ่น โดยแผ่นกลางใช้เหล็กคุณภาพดี High-Tensile Steel เพื่อความนุ่มนวลและทนทานมากขึ้น
มาพร้อม T-Connect ระบบช่วยเหลือ
แอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ และเพิ่มความอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลด้วย ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) หรือ การติดตามการโจรกรรม การแสดงข้อมูลการขับขี่ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัว
ในหนึ่งแอปพลิเคชันสามารถใช้ได้กับรถโตโยต้าหลายคัน และยังติดตั้งในโทรศัพท์ได้มากกว่าหนึ่งเครื่องต่อรถหนึ่งคัน โดยจะมีเครื่องหลัก 1 เครื่องที่จะค่อยรับการแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ ส่วนอีกเครื่องจะเป็นเพียงการดูตำแหน่งรถและเลขกิโลเมตร กับการติดและดับเครื่องยนต์เท่านั้น ซึ่งจะมีระบบ "ซิม" มาให้ในรถและเบื้องต้นนี้ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ และในอนาคตอาจพัฒนาให้สามารถแจ้งเตือนความผิดปกติจากการทำงานของเครื่องยนต์และระบบในรถยนต์ได้อีกด้วย
ความปลอดภัยที่เพิ่มมา ได้แก่ ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
ลองขับสั้น ๆ สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
เริ่มด้วยการทดสอบขับในทางเรียบ จากการได้ทดลองขับระยะสั้น ๆ ในสนาม 2 รูปแบบในทางเรียบ และ Off-Raod นั้น ช่วงแรกทดลองระบบเตือนออกนอกเลน นับว่ามีความฉลาดพอสมควร เนื่อจจากจะทำงานเมื่อมือที่จับพวงมาลัยไม่มีการขยับหรือโยกทิศทาง ระบบนี้จึงจะมีเสียงเตือนและช่วยหน่วงกลับ แต่ถ้ามีการขยับทิศทางพวงมาลัยอยู่ตลอดระบบจะถือว่าผู้ขับยังควบคุมได้ก็จะไม่ทำงานให้รำคาญใจ เรียกว่าเตือนเฉพาะฉุกเฉินเท่านั้น
อัตราเร่งนั้นมาแบบเรื่อย ๆ สัมผัสได้ถึงแรงดึงพอสมควร แต่ยังให้ความนุ่มนวลและสมูทไม่กระชาก การเข้าสลาลอมในความเร็ว 60 กม./ชม. นับว่ามีอาการโยนออกตามการเหวี่ยงของรถ แต่ไม่มีการเหวี่ยงกลับรุ่นแรงหรือไม่สบัดกลับ โดยไม่ต้องคอยแก้อาการของรถเลย ทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายและปลอดภัยกว่ารุ่นก่อนหน้า ระบบเบรกนุ่มเท้าและผ่อนแรงได้มาก และสามารถหยุดรถได้แม้เบรกอย่างรุ่นแรงจากความเร็ว 80 กม./ชม. ลงมาอยู่ที่ 40 กม./ชม. ในเวลาสั้น ๆ
การขับขึ้นคอสะพานที่ความเร็ว 30 กม./ชม. นับว่าไม่มีอาการ "ดีด" มากนัก แต่หากได้ลองความเร็วที่ใช้งานจริงก็จะดีกว่านี้ ในช่วงจำลองสภาพผิวถนน "พัง" เหมือนถนนจริง ๆ ด้วยเนินสลับซ้าย-ขวา แม้จะมีอาการเหวี่ยงโยนตัวส่ายไปมา แต่ไม่กระชาก ยังมีความนุ่มนวลให้สัมผัสอยู่ ส่วนการขับผ่านในทางขรุขระที่ความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. ก็นับว่ามีการซับอาการ "เต้น" ได้ค่อยข้างดี อย่างไรก็ตามยังคงเป็นการขับผ่านในระดับความเร็วไม่สูงนัก จึงยังไม่สามารถสรุปได้เต็มที่ว่าจะนุ่มนวลเมื่อขับสู่ถนนจริงมากเพียงใดครับ
น้ำหนักพวงมาลัยยังคงมีความหนักหน่วงอยู่เล็กน้อย และยังไม่สามารถจับความรู้สึกของระบบแปรผันน้ำหนักได้เพราะวิ่งในความเร็วต่ำ ๆ แต่ก็นับว่าไม่หนักเกินไปนัก มาถึงช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ Super Flex Suspension รู้สึกได้ชัดเจนว่านุ่มนวลขึ้นอีก ทั้งตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารตอนหลัง
ช่วงทดสอบ Off-Road
ทดสอบช่วง Off-Road ขับขึ้นเนินระดับความชันประมาณ 40 องศา เมื่อขับขึ้นไปจนล้อหลังพ้นทางราบก็เบรกเพื่อทดสอบระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน ด้วยการปล่อยเบรกระบบจะเบรกให้ใน 3 วินาที จากนั้นก็เดินคันเร่งต่อไป ด้วยแรงบิดเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่นี้ สามารถไต่ขึ้นสบาย ๆ เพียงแค่แตะคันเร่งเบา ๆ รอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 รอบต่อนาทีเท่านั้น
ในช่วงขาลงทดลองใช้ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (มาก) หรือ DAC นับว่าปล่อยเบรกและให้ระบบช่วยไหลลงได้อย่างปลอดภัย และยังมีรูปล้อหน้าจำลองแสดงบนมาตรวัด เพื่อให้เห็นว่ารู้กำลังอยู่ในมุมใด นับว่าช่วยในการขับขี่ในสภาพทางออฟโร้ดได้มากขึ้น
ในการขับผ่านเนินสลับจนล้อ 1 ข้างลอย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็ผ่านได้อย่างสบายแม้ไม่มีทักษะสูง ๆ ก็ควบคุมง่าย แทบไม่ต้องเติมคันเร่ง แม้ช่วงจังหวะที่ติดขัดอยู่ก็เพียงเดินคันเร่งเบา ๆ ระบบพร้อมจะช่วยเหลือในทุกสภาพการขับขี่ สำหรับในการทดสอบขับครั้งนี้ได้ขับเพียงระยะสั้น ๆ พอวัดความรู้สึกได้คร่าว ๆ ครับ คงต้องรอรับรถทดสอบมาขับยาว ๆ กว่านี้อีกหน่อย
แม้ลองสั้น ๆ แต่พอรู้สึกในสิ่งที่เปลี่ยน!
สรุปว่า Toyota Hilux Revo Rocco ใหม่ สิ่งที่บอกว่าปรับเปลี่ยนไปนั้น รู้สึกได้ในหลายส่วนทั้งเครื่องยนต์ที่มีกำลังดีในรอบต่ำ แรงอัตราเร่งดี ช่วงล่างนุ่มนวลและยังหนึบพอสมควร เบรกไว้ใจได้ ขับสบายขึ้นอีกเยอะครับ
ผู้สนใจสามารถติดต่อทดลองขับจริงได้ที่โชว์รูมโตโยต้า ของแบบนี้ต้องสัมผัสเองถึงจะรู้ว่า Toyota Hilux Revo Rocco ปรับปรุงใหม่ขับดีขึ้นจริงหรือไม่!
โชว์รูมแนะนำ