รีวิว Mitsubishi Xpander GT รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง กว้าง เงียบ นุ่ม ประหยัด ราคาเบาๆ
Mitsubishi Xpander ใหม่ รถอเนกประสงค์ที่มีความทันสมัยสไตล์อวกาศ โดดเด่นในเรื่องความใหญ่โตอลังการเกินรถระดับเดียวกัน ราวกับปาเจโร่ย่อส่วน แต่ว่าขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ จะไหวหรือไม่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีให้มาจะใช้งานได้คุ้มค่าและสะดวกสบายแค่ไหนมาติดตามกัน
Mitsubishi Xpander GT 2018
ทีมงานเช็คราคา.คอม รับรถยนต์
Mitsubishi Xpander GT มาทดสอบ ทางมิตูบิชิบอกไว้ว่านี่คือรถสไตล์ครอสโอเวอร์! แต่ก็น่าจะมีความเป็นไปได้เนื่องจากมีความสูงใต้ท้องรถมากถึง 205 มม. และรูปลักษณ์ราวกับเคาะออกมาจากปาเจโร สปอร์ต ในราคาเบาๆ เพียง 849,000 บาทเท่านั้น โดยใช้งานในรูปแบบวิถีชีวิตคนเมืองทั่วไปในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งสภาพรถติดมากๆ และคล่องตัว ในทางแคบๆ ตามตรอกซอกซอย มาดูกันว่าจะใช้งานได้ตรงใจบ้างหรือไม่
Mitsubishi Xpander นิยามใหม่ของ Crossover ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยถ่ายทอดความแข็งแกร่งและแรงบันดาลใจเพื่อสร้างเซกเมนต์ใหม่ ด้วยการผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งแบบรถ Crossover เข้ากับความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่หลากหลาย
ภายนอก
Mitsubishi Xpander GT มีความสูงจากพื้นมากกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกันที่ 205 มม. ด้านดีไซน์ล้ำสมัยด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced "Dynamic Shield" ไฟหรี่เป็น Crystal LED ไฟหน้าเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์แบบฮาโลเจน พร้อมไฟตัดหมอก กระจังหน้ารูปตัว "X" กันชนทรงสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED ทรงคล้ายบูมเมอแรง
กระจกมองข้างขนาดใหญ่โต ประตูทั้ง 4 บานมีขนาดใหญ่ขึ้นลงได้สะดวก ประตูท้ายกว้างขวาง โดยในรุ่น GT มาพร้อมชุดแต่งรอบคันที่ดูดุดันขึ้น และล้อแม็ก 16 นิ้วลายเรียบๆ
ภายในกว้างขวางคอนโซลหน้าออกแบบให้หรูหรามากขึ้น ใช้วัสดุค่อนข้างดีงานประกอบนับว่าใช้ได้ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันควบคุมทั้งเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผล และครุซคอนโทรล พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
มาตรวัดแบบเรืองแสงพร้อมจอแสดงผลตรงกลาง เครื่องเสียงแบบ 2 DIN หน้าจอสัมผัส 6.2" พร้อมเครื่องเล่น DVD/MP3 และรองรับระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายเชื่อมต่อ USB และ Bluetooth
เบาะคู่หน้าขนาดใหญ่นั่งสบายแบบปรับมือ พร้อมปรับระดับสูงต่ำทางด้านเฉพาะคนขับ แผงประตูฝั่งคนขับมีปุ่มควบคุมล็อคประตู ทางด้านขวาคอนโซลหน้ามีปุ่ม PUSH Start, ปรับกระจกมองข้างและสวิตช์เปิด-ปิดแทรคชั่นคอนโทรล
ระบบแอร์แบบสวิตช์มือหมุนถัดลงมามีจุดจ่ายไฟ DC12 V คอนโซลหน้าฝั่งคนนั่งตกแต่งลูกเล่นด้วยแผงลายเคฟล่าร์ คอนโซลกลางมีที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และกล่องอเนกประสงค์แบบมีฝาปิดสไลด์ นอกจากนี้ใต้เบาะคนนั่งข้างคนขับมีถาดใส่รองเท้าอีกด้วย
ตอนหลังมีระบบแอร์แยกไว้ให้สามารถปรับแรงลมได้เพียงอย่างเดียว พร้อมช่องแอร์แบบ 4 ช่องเรียงกัน เบาะตอนสองพับแยกแบบ 40 : 20 : 40 ระบบ One Step เบาะที่นั่งแถวที่ 3 พับ 50 : 50 และแบบแนวราบได้ ด้านหลังมีที่เก็บของเล็กๆ ใส่รองเท้าและของกระจุกกระจิกพร้อมฝาปิด
All New Mitsubishi Xpander รุ่น GT ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อลูมินัมอัลลอยเบนซิน รหัส 4A91 ขนาด 1.5 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังทอร์ชั่นบีม ดิสก์เบรกหน้าและดรัมเบรกหลัง โดยมีระยะความสูงใต้ท้อง 205 มม.
ระบบความปลอดภัยเบรก ABS ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ กล้องมองภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด เป็นต้น
Mitsubishi Xpander รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางที่มีความกว้างขวางสะดวกสบายสมกับที่ออกแบบมาให้มีความใหญ่และกว้างกว่ารถระดับใกล้เคียงกัน ยิ่งได้ลองนั่งยิ่งเห็นชัดเจน พื้นที่ด้านในห้องโดยสารในช่วงเบาะคู่หน้านั้น คล้ายๆ กับรถขนาดบี-เซกเมนต์
สำหรับตัวผมที่เป็นคนทดสอบมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่เมื่อนั่งในตำแหน่งคนขับกลับรู้สึกว่าหลวมๆ โปร่งสบาย ระดับเบาะไม่ต่ำมาก ทัศนวิสัยดี ตัวเบาะก็สามารถรองรับสรีระได้ดี
สำหรับสมรรถนะนั้นแม้ว่าเครื่องยนต์เพียง 1.5 ลิตร เกียร์ 4 จังหวะ แต่กลับให้อัตราเร่งและการเร่งแซงไม่ด้อยกว่ารถระดับ 1.5 ลิตร ที่อยู่ในตัวถังรถแบบซีดานมากนัก เรียกว่า "ไม่ขี้เหร่" กระฉับกระเฉงพอตัวไม่อืดจนต้องลุ้น โดยเฉพาะช่วงเร่งออกตัวนั้น ระบบเกียร์เปลี่ยนได้นุ่มนวลและสัมพันธ์กับความเร็วได้ดี
ยิ่งการขับขี่ในเมืองเกียร์ 4 จังหวะเหมาะสมมากกับเครื่องยนต์ และขนาดตัวรถทำให้มีความคล่องตัวพอสมควรในการเร่งแซงและจังหวะออกตัว
แต่ก็มีในบางจังหวะใช้งานที่ต้องรอรอบอยู่บ้างด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กับน้ำหนักราวๆ 1 ตันกลางๆ จึงอาจมีจังหวะต้องเร่งหรือเพิ่มน้ำหนักคันเร่งมากขึ้นเพื่อที่จะแซงหรือขับขึ้นเนินสะพานต่างๆ หากความเร็วและรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเกินไป แต่ระบบเกียร์อัตโนมัตินั้นไม่สามารถเชนจ์ตำแหน่งเกียร์ต่ำลงมาได้ เพราะรอบเครื่องยนต์จะดีดสูงเกินไป จังหวะนี้เองที่อาจมีอาการ "รอรอบ" ซึ่งก็เป็นธรรมดาของรถเครื่องยนต์เล็กตัวถังใหญ่ และคอนเซปต์รุ่นนี้ไม่ได้เน้น "ความแรง" เลย แต่เน้นการใช้งานที่หลากหลายตอบสนองได้ดีมากว่า
แม้สมรรถนะหรือความแรงอาจจะไม่โดดเด่น แต่ว่าเอ็กซ์แพนเดอร์ มีความสามารถในการ "ลุย" ได้ตามที่มิตซูบิชิเคลมไว้ว่ารุ่นนี้เป็นเหมือนรถครอสโอเวอร์ จึงสามารถขับผ่านเส้นทางที่มีอุปสรรคสูงได้ดีกว่ารถระดับเดียวกัน ด้วยระยะห่างใต้ท้องรถที่มีความถึง 205 มม. ใกล้เคียงรถปิคอัพรุ่นปกติเลยทีเดียว ดังนั้น แม้ว่ากำลังเครื่องยนต์จะไม่โดดเด่น แต่ได้เรื่องความลุยไปได้ทุกสภาพถนน โดยเฉพาะถนนในกรุงเทพฯ หรือว่าเมืองไทยในหลายๆ แห่ง ที่สามารถขับ "รูด" ได้โดยต้องกลัวติดใต้ท้องรถ (ความสูงของอุปกรรคต้องไม่สูงมากเกินไป โปรดใช้ความระมัดระวังในการลุย)
แต่สิ่งที่เอ็กซ์แพนเดอร์ให้ความคุ้มค่ามากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของความอเนกประสงค์และพื้นที่ภายในของเบาะนั่งคู่หน้าและเบาะแถวที่สองที่สะดวกสบายมากๆ ส่วนเบาะแถวที่สามนั้นมีความกว้างแบบพอดีๆ ไม่ได้เยอะมากมายแต่พอที่จะนั่งได้สบายโดยเฉพาะเด็กหรือคนตัวเล็ก ส่วนคนตัวใหญ่อาจต้องเลื่อนเบาะแถวที่สองไปด้านหน้าให้เยอะที่สุด เพื่อให้มีพื้นที่วางขาได้สบายขึ้น แต่ก็คงต้องจอดแวะพักยืดเส้นสายกันบ้าง
ส่วนในเรื่องความประหยัดนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ทั่วๆ ไปครับ ไม่กินจุ แต่ก็ไม่ได้ประหยัดมาก เทียบเท่ากับรถระดับ 1.5 ลิตร ที่อยู่ในตัวถังรถครอบครัว 7 ที่นั่งมีในท้องตลาด
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
Mitsubishi Xpander GT รถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครัน ทั้งความกว้างขวาง สะดวกสบาย รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย สมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนนกับราคาที่อยู่ในระดับกลางๆ ไม่สูงจนเกินไป เรียกว่าคุ้มค่ากับค่าตัวที่ 849,000 บาท