รีวิว Chevrolet Colorado ใหม่ LTZ ขับสอง ยกสูง

เชฟโรเลต โคโลราโด LTZ ขับสอง รถกระบะรุ่นปรับโฉมล่าสุด แม้เป็น face lift แต่ได้ออกแบบคอนโซลภายในใหม่หมด ที่สำคัญคือ การนำเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ดูราแม็กซ์ ขนาด 2.5 ลิตร ใหม่ พลัง 180 แรงม้า ใช้ติดตั้งในโคโลราโดทุกรุ่น การปรับโฉมให้ทันสมัยทั้งภายในและภายนอก พร้อมขุมพลังใหม่ ทำให้ โคโลราโด ใหม่ ฉีกหนีจากการเป็นรถร่วมโมเดลกับฝาแผด อีซูซุ ดีแมคซ์ อย่างชัดเจน ผู้เขียนนำรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ซึ่งเป็นที่นิยมมาทดลองขับ ทั้งในและนอกเมืองผลที่ได้น่าประทับใจไม่น้อย รายละเอียดในด้านต่างๆ ติดตามจากรีวิวนี้

การปรับโฉมในครั้งนี้ดูชัดเจนและแตกต่างไปจากเดิมพอสมควร ถ้าพิจารณาจากด้านหน้า-ท้าย และภายในห้องโดยสาร แต่เมื่อมองด้านข้างเส้นของตัวถังและหน้าต่างยังคงเดิม มีเพียงล้ออัลลอยลายใหม่ที่ช่วยให้ดูต่าง สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ที่นำมาทดสอบภายนอกโดยรวมคล้ายรุ่นขับเคลื่่อน 4 ล้อ แต่ไม่มีสติ๊กเกอร์บอก 4X4 

มุมมองด้านหลังพยายามปรับให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น ส่วนของไฟท้ายใช้กรอบแบบต่างทรง

ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัยด้วยการออกแบบแผงแดชบอร์ดและคอนโซลกลางใหม่หมด การออกแบบดูลงตัวและฉีกหนีไปจากเดิมชัดเจน การใช้วัสดุเกรดดีสอดแทรกตามจุดต่างๆ รวมถึงหนังหุ้มเบาะสีพิเศษ ยิ่งช่วยให้ดูหรูมากขึ้น ส่วนตัวเบาะนั่งให้สัมผัสที่ดีนั่งสบายได้นานๆ 

 
เบาะหลังนั่งสบายกว่ารถระดับเดียวกันหลายรุ่น ทรงเบาะออกแบบเน้นนั่ง 2 คน แต่ 3 ก็นั่งได้ไม่เบียด
เพียงแต่เบาะตรงกลางไม่รองรับมากนัก ความรู้สึกเมื่อนั่งด้านหลังตัวรถก็โอเคไม่โยน

ขุมพลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ 'ดูราแม็กซ์' ดีเซลเทอร์โบใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร กำลัง 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที เป็นมาตรฐานสำหรับ โคโลราโด ทุกรุ่นย่อย ให้แรงบิดมากถึง 440 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที นับว่าแรงไม่ใช่เล่น รองรับการใช้งานบรรทุกหนัก ขึ้นทางเขาลาดชันได้สบาย

การลองขับเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ ผู้เขียนได้ขับทั้งในและนอกเมืองรวมทั้งสิ้นเป็นระยะทางกว่า 712 กม. การขับในเมืองตัวรถให้การออกตัวที่กระฉับกระเฉงน่าพอใจ มุมมองจากตำแหน่งผู้ขับชัดเจนและกว้าง เมื่อคุ้นเคยการกะระยะ ขับซอกแซกจึงทำได้คล่อง ช่วงรถติดก็รู้สึกไม่ขาดการติดต่อด้วยการอินเตอร์เฟส MyLink ภายในสเปซอาจเท่าเดิมแต่การปรับใช้คอนโซลใหม่ทำให้รู้สึกดีกว่าเดิมดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีตำแหน่งใช้งานง่าย ผู้เขียนมีโอกาสได้นำรถลุยพื้นที่น้ำท่วมขัง ตัวรถก็ผ่านไปอย่างมั่นคง และมั่นใจในการผ่านอุปสรรคแบบนี้ ที่คนเมืองอย่างเรามักได้เจอกันทุกปี ส่วนการขับแลละหยุดและเบรกบ่อยในเมืองก็ทำได้ดีเบรกให้น้ำหนักและความรู้สึกตอบกลับที่น่าพอใจ 

ส่วนการขับนอกเมืองบนทางเปิดโล่ง เส้นทางบายพาสชลบุรี ผู้เขียนมีโอกาสใช้ความเร็วระดับ 140 - 160 กม./ชม. ต่อเนื่องยาวๆ ทั้งทางตรงยาว เปลี่ยนเลนเร่งแซงรถช้า ก็พบว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบใหม่ DURAMAX 2.5 ลิตร ใน โคโลราโด ใหม่ ให้พลังที่ยอดเยี่ยมน่าประทับใจมาก แรงบิดที่มาแบบเรื่อยๆ (Flat) ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้น การยกและเติมคันเร่ง ตัวเครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันใจ ไม่มีอาการรอรอบมากนัก การเบรกชะลอหยุดจากความเร็วสูงก็ทำได้ดีเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตุได้ช่วงขับยาวทางโล่งก็คือ เสียงรบกวนภายนอกเข้ามาน้อยมาก ตัวรถเก็บเสียงได้ดีจริงๆ ส่วนอัตราสิ้นเปลืองโดยรวม ตัวเลขวัดที่หน้าจอแสดงผลได้ 11.0 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 711.7 กม. 

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ดูทันสมัยทั้งเทคโนโลยีและอินเตอร์เฟซ เด่นด้วยการควบคุมได้ทุกการเชื่อมต่ออย่าง Apple CarPlayTM ช่วยให้เพลิดเพลินกับความบันเทิง การติดต่อสื่อสาร หรือระบบนำทางได้ทุกเส้นทาง ด้วย Chevrolet MyLink ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงแบบฉบับเฉพาะของเชฟโรเลต ควบคุมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ทั้งยังสั่งงานได้ด้วยเสียง เพื่อควบคุมเพลง เลือกรายชื่อ หรือแม้แต่ค้นหาเส้นทาง ผู้เขียนชอบที่อินเตอร์เฟซดูเข้าใจและใช้งานง่าย

ระบบเซฟตี้ในโคโลราโด ใหม่ เปี่ยมไปด้วยมาตรฐานที่สมบูรณ์แบบ ทำให้มั่นใจในการเดินทาง ทางเชฟโรเลตบอกว่า โครงสร้างของตัวรถแข็งแกร่งและทนทานป้องกันการบิดตัวของตัวถังได้ดีเยี่ยม พร้อมเสริมความแข็งแรง ด้วยคานนิรภัยด้านข้างที่แผงประตู ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ "เเชสซีส์ออกเเบบใหม่หมด" ให้การทรงตัวเเละเกาะถนนดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้าและถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า ส่วนระบบช่วยเหลือต่างๆ มีให้มากมาย แต่ที่ชอบและใช้งานดีก็คือ กล้องมองหลังขณะขับถอย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับรถปิคอัพยกสูง เพราะบางครั้งอาจมีสิ่งกีดขวางหรือ เด็กอยู่ด้านหลังโดยที่เรามองไม่เห็นในกระจกมองหลัง

สรุป เชฟโรเลต โคโลราโด LTZ ขับสอง สร้างความแตกต่างจากเพื่อนสนิทอีซูซุมากขึ้น ด้วยการปรับรูปทรงภายนอกใหม่จนสวยล้ำ และหนีจากเค้าโครงหน้าเดิมอย่างชัดเจน รวมถึงการออกแบบคอนโซลภายในใหม่ด้วย นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบใหม่ที่มีขนาดเดียว 2.5 ลิตร และให้พลังที่น่าประทับใจมากๆ ช่วงล่างก็ทำงานได้ดีขึ้น ภายในห้องโดยสารเงียบลง โดยรวมนับเป็นการไมเนอร์เชนจ์แบบก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ด้วยความโดดเด่นทั้งหมดนี้ เชื่อว่าถ้าได้ลองขับ หลายคนต้องชอบ โคโลราโด ใหม่ ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่มี โคโลราโด ใหม่ ไว้ในใจถ้าต้องซื้อรถกระบะ แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้สัมผัสของจริง ลองจริง และจึงตัดสินใจซื้อ 

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น เชฟโรเลต โคโลราโด C-Cab 2.5 LTZ Z71 A/T  

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น เชฟโรเลต โคโลราโด