รีวิว Honda HR-V Crossover สวยเฉียบครบ คันเดียวจบ

ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ สปอร์ตครอสโอเวอร์ขนาดย่อม ที่ให้ความหรูหราและสะดวกสบายเกินตัว มาพร้อมรูปทรงโฉบเฉี่ยวเอาใจวัยรุ่น ไฟหน้า LED สว่างชัดทุกสภาพถนน พร้อมไฟ LED Daytime Running แบบเรียงเม็ดสะดุดตา ในรุ่นท็อปสุดเพิ่ม Panoramic Sunroof อุปกรณ์สื่อสารครบทุกรูปแบบ กล้องมองหลังปรับระดับได้ ระบบเบรกมือไฟฟ้าเหมือนรถยุโรประดับ Luxury Car เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 141 แรงม้า เกียร์ CVT เทคโนโลยี Earth dreams อัตราเร่งทันใจ พร้อมความประหยัดที่ลงตัวกับ 3 รุ่นย่อย คือ S 933,000 บาท E 999,000 บาท EL limited 1,050,000 บาท และ EL 1,099,000 บาท (ปรับราคาใหม่ช่วงปี 59) 

การทดสอบฮอนด้า เอชอาร์-วี 1.8 ลิตร อีแอล รุ่นท็อปสุดสีน้ำเงิน น้ำมันเต็มถัง ผู้โดยสารรวมคนขับ 2 คน ใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ โดยออกจากโชว์รูมฮอนด้า บางนา (สถานที่รับรถ) จุดหมายคือ ชายทะเลบางแสน โดยใช้เส้นทางบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี-ชลบุรี-ถนนเลียบชาดหาดบางแสน (เขาสามมุข) รวมระยะทางประมาณ 250 กม. สภาพการจราจรหนาแน่นช่วงในเขตกรุงเทพฯ แต่เมื่อออกชานเมืองรถโล่ง และลักษณะการแบบในรูปแบบทดลองการออกตัว 0-100 กม./ชม. และอัตราเร่งแซงตั้งแต่ 60, 80, 100 ถึง 160 กม./ชม. และในบางช่วงทำความเร็วถึง 190 กม./ชม. 

จุดเด่นของ เอชอาร์-วี รุ่นท็อปก็คือ Panoramic sunroof นี่แหละ! เพราะเจ้าหลังคาแบบนี้ถ้าอยากได้ในรถซักคันนึง ต้องมีเงินขยับไปแตะ 1.6 ล้านบาทหรือ 2 ล้านบาทขึ้นไป และตัวรถอาจมีขนาดใหญ่โตไม่คล่องตัว แถมกินน้ำมันมากกว่าเจ้าเอชอาร์-วี ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเท่านั้น

ไฟหน้า LED เทคโนโลยีจากเดียวกับแอคคอร์ดใหม่

หลังคายาวถึงที่นั่งตอนหลังเทียบเท่ารถระดับพรีเมียม

สวิตช์ควบคุมระบบหลังคา 

จุดเด่นที่มองสะดุดตาแต่ไกลอีกอย่างคือ ไฟหน้าแบบ LED นับเป็นออปชั่นที่มีในรถแพงๆ และรถยุโรป แต่ทางฮอนด้าเห็นว่าสวยและมีประโยชน์ดีจึง "จัดให้" ซึ่งการใช้งานช่วงกลางคืนนั้นสว่างมากๆ และไม่แยงตารถที่สวนทางมาอีกต่างหาก

เอชอาร์-วี มีรูปทรงที่โดดเด่นจากตัวรถสไตล์ครอสโอเวอร์ ที่มีความสูงใต้ท้อง 185 มม. ขับง่ายขนาดของรถนับว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งน่าจะถูกใจบรรดาสาวๆ วัยเรียนหรือทำงาน และแม่บ้าน เพราะความสวยที่ลงตัว เล็ก กะทัดรัด คล่องตัวไม่ต่างจากรถซีดาน 4 ประตู แถมภายในยังอเนกประสงค์ปรับเบาะได้หลายรูปแบบไม่ต่างกับ SUV คันใหญ่ๆ 

ส่วนท้ายนั้นมองคล้ายรถยุโรป ยิ่งตอนกลางคืนลวดลายไฟท้ายโดดเด่นและเห็นชัดเจน โดยเฉพาะส่วนล่างของกันชนให้ความรู้สึกสปอร์ตครอสโอเวอร์เป็นพิเศษ

ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว แต่น่าเสียดายที่ลวดลายน่าจะสปอร์ตเข้ากับทรงรถมากกว่านี้ อาจเน้นความหรูหรามากกว่าสปอร์ต

เอชอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์รหัส R18A เบนซิน 1,799 ซีซี 16 วาล์ว SOHC i-VTEC หัวฉีด PGM-FI 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 172 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ เทคโนโลยี Earth dreams พร้อม Shifting control เลือกจังหวะเกียร์ได้ที่ paddle shift หลังพวงมาลัย ขับเคลื่อนล้อหน้า

เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 141 แรงม้า ประกบ CVT 7 จังหวะเทคโนโลยี Earth dreams บอกเลยขับมันมาก...

ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม H-shape พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ระบบเบรกดิสก์ทั้ง 4 ล้อและล้อแม็กขนาด 17 นิ้วทุกรุ่น (แตกต่างที่ลาย)  

เอชอาร์-วี มีมิติตัวถังยาว 4,294 มม. กว้าง 1,772 มม. สูง 1,605 มม. ระยะฐานล้อ 2,610 มม. มีความสูงใต้ท้อง 185 มม. น้ำหนักโดยประมาณ รุ่น S 1,255 กก. รุ่น E 1,265 กก. และรุ่น EL 1,292 กก. และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร 

เอชอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์รหัสเดียวกับซีวิค ซึ่งแน่นอนว่า แรงชัวร์ แม้ใช้ระบบเกียร์ CVT แต่ก็ขับสนุกได้กับอัตราทดที่ล็อคให้ถึง 7 จังหวะ แต่ตลอดการทดสอบแทบไม่ได้ใช้เพราะว่าระบบเกียร์สั่งงานได้กระฉับกระเฉงอยู่แล้ว หากขับแบบไม่เร่งรีบเอชอาร์-วีจะมีนิสัยเรียบร้อย นุ่มเงียบและความเร็วไหลได้เรื่อยๆ จากการแปรผันของ CVT แม้ขณะออกตัวก็แตะคันเร่งลงไม่ลึกมาก ก็พุ่งตัวได้ทันใจ แต่หากต้องการอัตราเร่งสไตล์เท้าหนักแรงม้า 141 ตัวก็พร้อมตะกุยออกเต็มที่ ตามด้วยเสียงคำรามของเครื่องยนต์แบบเดียวกับขับรถเก๋ง (เจ้าซีวิคนั่นแหละ) ที่ให้สุ้มเสียงเร้าใจขาซิ่งได้ไม่น้อย

อัตราเร่งจากการใช้งานโดยรวมแล้วนับว่าเกินพอ เพราะน้ำหนักรถเพียง 1.2 ตันกว่าๆ ใช้เครื่องยนต์เพียง 1.5 หรือ 1.6 อย่างชาวบ้านเค้าก็วิ่งฉิวแล้ว แต่เอชอาร์-วีไม่! เพราะรู้ใจคนไทยที่ชอบ "แรงเหลือๆ เอาไว้ก่อน" ฮอนด้าจึงจัดให้เพื่อตอบสนองความต้องการ และได้ความปลอดภัยในขณะเดินทางไกลในช่วงเร่งแซงหรือแม้แต่ขับขึ้นทางชันมากๆ หากเครื่องยนต์มีกำลังที่เพียงพอก็ไม่ต้องลุ้นจนตัวเกร็ง โดยเฉพาะเมื่อต้องการเร่งแซงในช่วงความเร็วที่ 100 กม./ชม. ขึ้นไป เจ้าเอชอาร์-วี มีกำลังเหลือๆ ไม่ต้องเผื่อระยะแซงมากนัก   

เรื่องอัตราเร่งและความปลอดภัย ไว้ใจเอชอาร์-วี

มาถึงสิ่งที่ทุกคนรอคอยนั่นคือ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ในเอชอาร์-วีจะประหยัดแค่ไหน.. โดยรวมแล้วความจุ 1.8 ลิตร ไม่ว่าอยู่ในรุ่นใดย่อมมีอัตราสิ้นเปลืองในระดับกลางๆ ไม่กินจุจนเกินรับได้ พร้อมอัตราเร่งทันใจ และประหยัดขึ้นเมื่อขับระยะทางไกล แต่เอชอาร์-วีมีจุดได้เปรียบนั่นคือ "เกียร์ CVT" ที่มีส่วนช่วยให้ประหยัดมากขึ้น เพราะแต่ละช่วงความเร็วที่ขับอยู่นั้น ระบบ CVT นี่เองที่ช่วยทำให้รอบของเครื่องยนต์ต่ำลงมาอีก เยอะกว่าในระบบเกียร์ทั่วไป ดังนั้นเมื่อขับที่ความเร็วสูง ก็จะใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลงส่งผลให้ประหยัดขึ้นไปอีก

สำหรับในวันทดสอบนั้นเอชอาร์-วี มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าปัดที่ 12.4 กม./ล. จากการขับในสภาพจราจรหนาแน่นช่วงในเมืองและถนนโล่งเมื่อขับออกนอกเมืองไปแล้ว และใช้อัตราเร่งแซงค่อนข้างบ่อย ถ้าขับด้วยความเร็วปกติเฉลี่ยประมาณ 90 กม./ชม. ตลอดเส้นทางอาจได้ตัวเลขสวยๆ กว่านี้ แต่บังเอิญเครื่องมันแรงเลยเหยียบสนุกไปหน่อยครับ... 

ความเร็ว 80 กม./ชม. รอบเครื่องประมาณ 1,500 รอบ/นาที  

 ความเร็ว 120 กม./ชม. รอบเครื่องประมาณ 2,500 รอบ/นาที

ภายในห้องโดยสาร นับตั้งแต่ก้าวขึ้นที่นั่งคนขับก็พบว่ากว้างขวางจากประตูที่เปิดได้กว้างกว่าปกติ และระดับความสูงของรถที่ไม่มากนักทำให้การก้าวขึ้น-ลงไม่ลำบาก แม้แต่สุภาพสตรีก็สามารถก้าวขึ้นได้อย่างสบายๆ ครับ

เบาะนั่งคู่หน้าทรงกึ่งสปอร์ต ฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ระดับเบาะและพวงมาลัยสามารถปรับให้เข้ากับสรีระอย่างลงตัว ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มสั่งงานต่างๆ ใช้งานสะดวกด้วยนิ้วโป้งซ้ายและขวา ชุดควบคุมบนแผงคอนโซลก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องเอื้อมตัวมากนัก นับว่าขับสบายและใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายมากครับ  

ไฟแสดงการทำงานของเบรกมือไฟฟ้าและเบรกชั่วคราว (BRAKE HOLD) 

ไม่ต้องเบรกขณะจอดทางลาดเอียงอีกต่อไป! เมื่อใช้ระบบ BRAKE HOLD ราวกับรถยุโรปเลยทีเดียว

ชุดคอนโซลกลางมีปุ่ม BRAKE HOLD ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ทันสมัยและล้ำสุดๆ ที่มีให้เกินกว่ารถในระดับเดียวกัน ซึ่งเพิ่มความสะดวกเมื่อใช้ปุ่มนี้ เพราะโดยปกติเมื่อจอดนิ่งขณะรอไฟเขียวหรือจอดคาอยู่บนเนินสูง เราต้องแตะเบรกตลอด หรือต้องดึงเบรกมือและปลดลงให้สัมพันธ์กับช่วงเร่งออกตัว ซึ่งมีโอกาสไหลลง แม้จะมีระบบช่วยออกตัวทางลอดชัน (HSA) แต่ระบบนี้หน่วงเพียง 3 วินาที อาจไม่พอถ้าผู้ขับไม่ชำนาญหรือ "มือใหม่" แต่ Brake Hold จะช่วยคุณได้ เพราะหากไม่เหยียบคันเร่ง ระบบจะเบรกค้างเอาไว้ตลอด โดยปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกได้เลย ซึ่งรวมถึงเมื่อจอดอยู่บนทางลาดลงด้วย และที่สำคัญไม่ต้องกลัวลืมปลดเบรกมือด้วยครับ      

ภายในของจริงกว้างกว่าที่เห็นอีกนะ

พับเบาะแล้วกว้างมากเหมาะกับการทำธุรกิจส่วนตัวเลย

เบาะตอนหลังพับแยกได้ 60:40 และปรับให้แบนราบขนของได้มากขึ้น และมีไฟส่องอ่านหนังสือประจำที่นั่งตอนหลัง 2 จุดมาให้อีกด้วย นับว่าเทียบเท่ารถระดับพรีเมียมจริงๆ 

เอชอาร์-วีมีความสูงใต้ท้อง 185 มม. ขับได้คล่องตัวไม่ต้องกลัวเนินหรือทางขึ้นที่จอดรถสูงชัน และช่วงล่างเน้นสมบุกสมบันมากขึ้นกว่ารถเก๋งปกติ ซึ่งเหมาะกับถนนเมืองไทยมากแถมด้วยกระจกข้างที่สามารถสั่งพับได้ที่กุญแจรีโมท นับเป็นฟังก์ชันที่หายากในรถราคาระดับนี้

พื้นที่เก็บของท้ายรถยังเหลืออีกเพียบ

เอชอาร์-วีมีกระจกบานหน้าขนาดใหญ่ จึงมองได้ชัดเจนและคอนโซลหน้าที่ไม่ยื่นเข้าหาตัวมาก ยิ่งมีมุมมองพื้นถนนได้ระยะใกล้ขึ้นอีก ส่วนกระจกหลังเป็นสไตล์แฮตช์แบ็กท้ายตัด จึงมีมุมมองกว้างเต็มบานมองเห็นรถที่วิ่งตามหลังได้กว้างถึง 3 เลน

เนื่องจากเบาะนั่งปรับระดับได้ จึงทำให้เห็นมุมมองรอบตัวง่ายแม้ต้องจอดชิดขอบทาง กระจกมองข้างขนาดใหญ่กำลังดี ไม่เกะกะเกินไป และขณะถอยหลังยังมีกล้องมองที่แสดงภาพพร้อมกับเส้นกะระยะที่ปรับได้ 3 ระดับและทำมุมเลี้ยวได้ตามการหมุนของพวงมาลัย ไฮเทคเทียบเท่าพี่ใหญ่อย่าง CR-V เลยนะเนี่ย ขาดแค่กล้องมองรถทางซ้ายเมื่อเปิดไฟเลี้ยวเอง

สำหรับในช่วงกลางคืน ไฟหน้าแบบ LED ของเอชอาร์-วีส่องสว่างเห็นชัดเจน กระจกมองหลังตัดแสงกันพวกไฟซีนอนจีนแดงแยงตาได้ดี แต่บางครั้งจะมืดไม่บ้าง ซึ่งสามารถกดปุ่มปิดระบบตัดแสงอัตโนมัติได้ที่ขอบด้านล่างของกระจกนี้ด้วย 

คุณผู้หญิงก็ขับได้ง่ายคล่องตัวใน HR-V 

ความรู้สึกเมื่ออยู่ในเอชอาร์-วี คล้ายกำลังขับรถระดับพรีเมียมอยู่ โดยเฉพาะในส่วนหลังคากระจกนั้น ไม่ได้มีมาให้ในรถระดับนี้บ่อยๆ ยิ่งถ้าเปิดแผ่นบังแสงยิ่งได้ความรู้สึกโปร่งสบายอย่างที่รถหลายรุ่นราคาระดับล้านบาทไม่มีมาให้ และสามารถเปิดรับลมเป็นซันรูฟได้ด้วย พร้อมกับปุ่มสั่งงานเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ เรียกว่าเกินคุ้มกับราคาที่จ่ายเพิ่ม และระบบ Hold Brake ทำหน้าที่ได้แม่นยำและมีประโยชน์มาก เหมาะกับการขับในเมืองเป็นที่สุด เพราะไม่ชอบเหยียบเบรกค้างนานๆ เวลาจอดตรงเนินและถ้าต้องใส่เบรกมือก็กลัวลืมปลดออก 

เอชอาร์-วีมีขนาดตัวรถกะทัดรัด ทำให้มีความคล่องตัวสูง ทั้งการจอดรถในห้างฯ แคบๆ จะกลับรถในถนนเพียง 2 เลนหรือขับขึ้นเนินชันแบบไม่ต้องกลัวขูดกับสเกิร์ตหน้า 

การเกาะถนนในความเร็วสูงนับว่าทำได้ดี เพราะระดับความสูงที่ไม่โย่ง และความหนึบของช่วงล่างยิ่งทำให้มั่นใจเมื่อต้องใช้ความเร็วสูงๆ โดยขณะขับเข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 70 - 80 กม./ชม. เป็นไปอย่างราบรื่นน้ำหนักพวงมาลัยถูกเพิ่มให้ยิ่งหนืดขึ้น ยิ่งควบคุมรถได้แม่นย้ำ ระบบเบรกตอบสนองได้แบบกลางๆ ไม่ไวเกินไป เพียงเพิ่มน้ำหนักเท้าก็หยุดได้สบาย และที่สำคัญทำความคุ้นเคยง่ายมากๆ   

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารติดตั้งในจุดที่ใช้งานง่ายรอบๆ ตัวคนขับ ทำให้ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยมากนักช่วยให้ปลอดภัยขึ้น แต่ปุ่ม 4 ใบเถาที่อยู่ใต้คอนโซลกลางใช้ยากไปหน่อยครับ แต่เมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่งก็จะเริ่มคุ้นมือ หลับตาก็เสียบได้ถูกจุด

ระบบแอร์เป็นระบบอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ล้ำหน้าด้วยระบบสัมผัส ซึ่งตอนแรกหาปุ่มปรับระบบแอร์ไม่เจอ แต่ที่จริงสามารถเอานิ้วจิ้มบนสัญลักษณ์ต่างๆ ได้เลยไฮโซมากๆ แต่ไม่ต้องเสียใจที่ไม่มีช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลังนะครับ เพราะแค่ช่องแอร์แผงยาวๆ ทางด้านหน้าฝั่งคนนั่งก็น่าจะเกินพอแล้ว บวกกับระบบแอร์ที่ทำงานได้ดีแม้จอดตากแดดก็เย็นเร็ว เย็นจัด และเย็นทั่วถึงทันใจดีจริงๆ

เสียงเล็ดรอดเข้ามาภายในห้องโดยสารของเอชอาร์-วี มีเพียงเสียงของเครื่องยนต์เมื่อลากรอบสูงๆ หรือเสียงยางที่วิ่งผ่านตะเข็บของถนน และเมื่อมีรถท่อดังเป็นพลุแตกทั้งหลายขับผ่านก็ไม่รู้สึกรำคาญ นับว่าเก็บเสียงอยู่ในระดับเทียบเท่าพรีเมียมคาร์ก็ว่าได้ สามารถเปิดเพลงความดังเบอร์ 5 - 6 ก็เพลิดเพลินได้แล้ว

มาถึงระบบทันสมัยของเครื่องเสียงที่นอกจากระบบ Bluetooth/MP3/DVD/FM/AM/Smart Phone มี USB ให้ 2 จุดแล้ว ก็เพิ่มช่องเชื่อมต่อ HDMI และระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI พร้อมเนวิเกเตอร์อีกด้วย พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 7 นิ้ว ลำโพง 6 จุด    

นาฬิกาลอยอยู่ในอวกาศบนจอวิทยุ

ระบบเครื่องเสียงมีให้เล่นเพลินจนไม่อยากลงจากรถ

เอชอาร์-วีติดตั้งระบบความปลอดภัยเทียบเท่าพรีเมียมคาร์ราคาหลักหลายล้านบาท เช่น เบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบ ABS/EBD ระบบช่วยการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ เซ็นเซอร์หลัง 4 จุด ที่สำหรับยึดเบาะเด็ก ISOFIX และกุญแจ Immobilizer เป็นต้น มีให้เยอะจริง

เอชอาร์-วี ครอสโอเวอร์ที่รวมทั้งความสปอร์ต ความหรู ทันสมัย ปลอดภัยไว้ในคันเดียว พร้อมห้องโดยสารอเนกประสงค์สำหรับชีวิตหลากหลายกิจกรรม ขับในเมือง-นอกเมืองคล่องตัว สมรรถนะดีเมื่อเดินทางไกล ลุยน้ำท่วมได้อีกด้วย

นอกจากนี้ระบบหลังคาแบบ Panoramic sunroof ระบบ Auto Brake Hold หรือระบบถุงลมนิรภัยที่มีให้มากมาย หาครบๆ ได้ยากในรถราคาระดับนี้ นับว่าได้ครบทุกด้านและตอบสนองความต้องการคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วนด้วยราคาสวยๆ ที่ 1,099,000 บาท (ปรับราคาใหม่ช่วงปี 59) เอชอาร์-วี "สวยเฉียบคมหรู ครบในคันเดียว"

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น HONDA HR-V ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น HONDA ทุกรุ่น