ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Nissan Pulsar แรงสั่งได้

icon 16 ก.พ. 59 icon 23,828
รีวิว Nissan Pulsar แรงสั่งได้

Nissan Pulsar 1.6 DIG TURBO สปอร์ตแฮตช์แบ็กแรงสั่งได้ 
Nissan Pulsar 1.6 DIG Turbo สปอร์ตแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ทั้งหรูหรากว้างขวางกว่ารถระดับเดียวกัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มาพร้อมเครื่องยนต์รหัสร้อนแรงสเปคส่งจำหน่ายต่างประเทศ MR 16 DDT  190 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร เกียร์ CVT พร้อมโหมดสปอร์ต +/- ระบบช่วงล่าง และระบบเบรกปรับปรุงเพิ่มความมั่นใจในทุกความเร็ว อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลา 9 วินาที (ไม่เป็นทางการ) เทียบเท่ารถขนาด 2.0 - 2.5 ลิตร ความเร็วปลายแตะที่ 215 กม./ชม. ความนุ่ม สวย แรง ดิบ ดุ ในคราบรถครอบครัวควักเพิ่มจากรุ่น 1.8 SV Sunroof ราคา 981,000 บาท อีก 106,019 เป็นราคา 1,070,00 บาทเท่านั้น คุณจะได้สมรรถนะอัตราเร่งเทียบเท่ารถยุโรปบางรุ่น และมีเพียง 350 คันในไทย !!!... 



นิสสัน พัลซาร์ ในอดีตเคยเป็นชื่อรถยนต์รุ่นหนึ่งของนิสสันที่โด่งดังมาก เป็นรถแฮตช์แบ็ก 3 ประตู เครื่องยนต์ รหัสร้อนแรงที่วงการรถซิ่งรู้จักกันดี SR 20 DET ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 230 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นรุ่นที่นิสสันจับลงแข่งรายการแรลลี่โลกและได้แชมป์มาในหลายๆ สนาม และยังผลิตเจนเนอเรชั่นใหม่ต่อเนื่องเรื่อยมา

SR 20 DET Turbo Intercooler 230 HP

ปัจจุบันนิสสัน จึงใช้ชื่อนี้เป็นชื่อทางการตลาดในประเทศไทย เนื่องจากความโด่งดัง และเป็นตำนานที่สานต่อความเป็นรถสปอร์ตในคราบรถธรรมดา
โดยเช็คราคา.คอม ได้รับอนุเคราะห์รถยนต์นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบสีดำจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการนำมาทดสอบครั้งนี้ครับ
เส้นทางการทดสอบ
เส้นทางทดสอบนิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ กรุงเทพฯ - บางแสน โดยเวลา 10.00 น. รับรถจากอาคารนันทวัน ถนนราชดำริ (สำนักงานนิสสันฯ) แวะเติมน้ำมันให้เต็มถังที่ปั๊มเอสโซ่พระราม 4 ก่อนขึ้นทางด่วนขั้นที่ 1 ที่ด่านเก็บเงินท่าเรือคลองเตยและต่อด้วยทางด่วนบูรพาวิถีมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี และใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท-ชลบุรีสู่จุดหมายคือหาดบางแสน 
ขาเดินทางกลับใช้เส้นทางเดิม กลับจากหาดบางแสนเข้ากรุงเทพฯ สิ้นสุดที่อาคารนันทวรรณ เวลาประมาณ 18.00 น. รวมระยะทางทั้งหมด 200.8 กิโลเมตร ปริมาณรถเบาบาง ลักษณะการขับขี่ใช้ความเร็วสูงบ่อยๆ และเร่งแซงด้วยการคิกดาวน์เมื่อทางโล่ง ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 120 - 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปริมาณน้ำมันเต็มถังจากกรุงเทพฯ จนสิ้นสุดการทดสอบระดับเข็มน้ำมันลดลงมาครึ่งถัง และเหลือระยะทางที่น้ำมันในถังวิ่งได้อีกถึง 234 กิโลเมตร
ข้อมูลทั่วไป - จุดเด่น
นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ นับเป็นรถพรีเมียมแฮตช์แบ็กสไตล์สปอร์ต 5 ประตูที่ใช้พื้นฐานเดียวกับพัลซาร์ในรุ่นปกติ แตกต่างเพียงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางอย่างเช่น เพิ่มที่ฉีดล้างโคมไฟหน้า, ระบบเกียร์มีโหมดสปอร์ต( +/- ) เพิ่มความสนุกมากขึ้น, สติ๊กเกอร์ "DIG TURBO" คาดทั้ง 2 ข้างตัวรถ, สัญลักษณ์ตัวอักษร "DIG TURBO" ที่มุมขวาของฝากระโปรงท้าย, ระบบ VDC (VEHICLE DYNAMIC CONTROL) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบ TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, มาตรวัดความเร็วมีถึง 260 กม./ชม. (รุ่นธรรมดามี 240 กม./ชม.) และเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วยเพิ่มกำลัง


มิติตัวถังเท่ากันกับพัลซาร์รุ่นธรรมดา ยาว 4,295 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,520 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. น้ำหนักประมาณ 1,200 ตันนิดๆ แต่สิ่งที่อดเสียดายไม่ได้นั่นคือ ถูกตัดหลังคาซันรูฟออกไป เพื่อให้ทำราคาได้ต่ำที่สุดเท่าที่จะไม่ขาดทุน ซึ่งเฉพาะเครื่องยนต์รุ่นนี้ ค่าตัวก็พุ่งสูงลิ่วแล้ว แต่ส่วนมากซันรูฟก็ไม่ได้ใช้งานเท่าไรนัก เพราะอากาศบ้านเรา ร้อนสุดๆ                                    


ภายในเหมือนรุ่น 1.8 ตัวท็อปแทบทุกอย่าง แตกต่างเพียงที่ฐานของคันเกียร์มีช่องสามารถผลักให้เป็นโหมดเปลี่ยนเองได้ เพิ่มความมันได้อีกมากมาย ระบบเครื่องเสียง FM-AM/MP3/USB/AUX/Bluetooth/Navi/กล้องมองขณะถอยหลัง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับซ้ายขวาได้กับช่องแอร์ตอนหลัง ซึ่งก็เป็นแบบเดียวกับพัลซาร์รุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา  





สิ่งที่โดดเด่นนอกเหนือจากภาพลักษณ์นั่นคือ ความแรง ความหนึบ เนื่องจากนิสสัน พัลซาร์ รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบนี้ เป็นผลพวงจากการที่ทางนิสสันต้องผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศอยู่แล้ว จึงเพิ่มรุ่นนี้เพื่อทำในตลาดบ้านเรา เริ่มต้นนั้นพัลซาร์ 1.6 เทอร์โบมีการผลิตจำนวนจำกัดเพียง 350 คันเท่านั้น เพื่อให้เป็นทางเลือกของผู้มีใจรักรถสปอร์ตสไตล์ครอบครัวที่เน้นใช้งานง่ายๆ คล่องตัว อเนกประสงค์และประหยัด พร้อมการบำรุงรักษาเทียบเท่ารถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แต่ว่าได้ความแรงสะใจเหมือนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรที่ไม่มีระบบอัดอากาศ ราคาก็ไม่ต่างจากคู่แข่งระดับเดียวกัน ดังนั้นใครที่ชอบแรงๆ ขับสบาย เงินถึง จัดซักคันเลยครับ
SPECIFICATION
นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MR 16 DDT (DOHC - Direct injection - Turbocharger) ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าสู้ห้องเผาไหม้ หรือ DIG-Direct injection gasoline 16 วาล์วแปรผันทั้งไอดี-ไอเสีย TWIN C-VTC พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จ Mitsubishi TF-035HL-13T กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที และให้แรงบิดคงที่เป็น Flat Torque ไปจนถึง 5,200 รอบต่อนาที ผ่านระบบเกียร์แปรผัน Xtronic CVT พร้อมโหมดสปอร์ต +/- แบบ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า 

ช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม แต่ที่พิเศษเพิ่มจากรุ่นไม่มีเทอร์โบคือ ความแข็งหรือความหนืดของสปริงและโช้กอัพถูกปรับให้มีมากขึ้น เพิ่มความเกาะถนนและรองรับกำลังเครื่องยนต์และความเร็วสูงๆ ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อนั้นหยุดม้า 190 ตัวได้สบายๆ แถมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VDC (VEHICLE DYNAMIC CONTROL) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) ยิ่งมั่นใจในทุกความเร็ว และล้อแม็กลายเดียวกันกับรุ่น 1.8 ขนาด 17 นิ้ว ส่วนยางคันที่ขับทดสอบเป็นของ Continental continental contipremium contact 2 ขนาด 205/50 R17  



จุดสังเกตง่ายๆ อีกอย่างคือ ขนาดปลายท่อจะใหญ่กว่ารุ่นธรรมดา
สมรรถนะเครื่องยนต์
นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ รุ่นนี้ มองผ่านๆ แทบไม่มีความแตกต่างกับรุ่นธรรมดามากนัก ยกเว้นเพียงสติ๊กเกอร์คาดข้างตัวรถ "DIG TURBO" และตัวหนังสื่อโลหะที่แปะท้ายเท่านั้น หรือถ้าสังเกตดีๆ ก็เห็นตัวฉีดน้ำล้างโคมไฟหน้าที่เก็บอย่างมิดชิดตรงกันชนหน้า แม้ว่าจะมีสติ๊กเกอร์ แต่ก็ทำให้ผู้พบเห็นต่างมองตามกันแบบงงๆ แอบสงสัยว่ามีรุ่นนี้ด้วยหรือนี่!
สำหรับในวันที่ทดสอบมีผู้ใช้นิสสัน พัลซาร์รุ่นธรรมดาขับผ่านต่างก็มองด้วยความหลงใหล และคงอยากสัมผัสเจ้าพัลซาร์ 1.6 เทอร์โบคันนี้ และบางครั้งก็แอบมีรถแต่งซิ่งมาเทียบเคียงอยาก "ลองของ" เป็นครั้งคราว

ซึ่งเจ้าพัลซาร์ เทอร์โบคันนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะอัตราเร่งดีตั้งแต่ออกตัวไปจนถึงความเร็วปลายแตะ 200 กม./ชม. แต่ปริมาณรถหนาแน่นจึงต้องรีบผ่อนลดความเร็วลงมา และแม้จะขับความเร็วระดับ 80, 90 กม./ชม. เมื่อต้องการเร่งแซงก็เพียงคิกดาวน์เท่านั้น ไม่กี่วินาทีเข็มวัดรอบเครื่องยนต์ก็กวาดไปนิ่งที่ 6 - 7 พันรอบ/นาที ที่ความเร็ว 180 กม./ชม. แบบไม่ต้องลุ้นเลย เรียกว่ามาตามสั่ง 

เนื่องจากระบบเกียร์ของพัลซาร์นั้นเป็นแบบ CVT ดังนั้นอาการกระชากขณะเร่งแซงเมื่อเทอร์โบเริ่มทำงาน อาจไม่หวือหวาจนหลังติดเบาะครับ แต่เชื่อเถอะครับว่าเข็มความเร็วนั้นขึ้นพรวดพราดราวกับรถสปอร์ต และแม้จะไม่สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ CVT แต่มันทำอัตราเร่งจนคุณจะลืมระบบเกียร์แบบเดิมไปเลย 

เปิดฝาครอบเครื่องออกมาจะเห็น "หอยพิษ" นอนสงบนิ่งอยู่ด้านหลัง

Intercooler ใบไม่เล็กไม่ใหญ่บูสต์มาไว้ ถูกติดตั้งหลังกระจังหน้า

สำหรับความเร็วรอบเครื่องยนต์เมื่อขับคงที่ 80 กม./ชม. อยู่ที่ 1,500 รอบ/นาที และที่ 120 กม./ชม. อยู่ที่ 2,500 รอบ/นาที นับว่าประหยัดในระดับเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี ทั่วไป 

ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ 1,500 รอบ/นาที  

ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่ 2,500 รอบ/นาที
แต่สิ่งที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดาอีกอย่างนั้นคือ ช่วงล่างที่หนึบแน่นขึ้น และการทรงตัวในขณะออกตัวเร่งแซงแรงๆ หรือแม้ในขณะเข้าโค้งลงสะพานทางเบี่ยงต่างระดับก็ไม่รู้สึกน่ากลัว สามารถขับเข้าได้อย่างมั่นใจ ขณะเปลี่ยนช่องทางในความเร็ว 140 - 160 กม./ชม. ช่วงล่างของพัลซาร์เทอร์โบคันนี้ยังรับไว้ แต่หากเจอลมปะทะหรือเพิ่มความเร็วมากขึ้นไปอีกก็เริ่มมีอาการโคลงบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าขับตรงๆ นิ่งๆ ในช่วงความเร็วสูงกว่า 160 กม./ชม. นั้นสบายๆ รถแทบไม่โยนหรือยวบยาบเลย 

ระบบเบรกยิ่งมั่นใจ แม้จะลึกไปสักหน่อย แต่ผู้ผลิตน่าจะเน้นให้ความรู้สึกนุ่มเท้า และควบคุมง่ายกว่าแป้นเบรกที่แข็งและดื้นแบบว่าแตะนิดเดียวหัวทิ่ม ในช่วงเร่งความเร็วเพื่อแซงบางจังหวะระหว่างทดสอบนั้นก็เกิดเหตุการณ์รถคันด้านหน้าเบรกกะทันหัน ในขณะที่กำลังเร่งจากความเร็ว 80 - 140 กม./ชม. ซึ่งก็ต้องรีบแตะเบรกทันที และสามารถลดระดับความเร็วได้ โดยไม่ต้องเกร็ง เพราะสามารถชะลอความเร็วได้ดีแม้กำลังเร่งเต็มที่ จึงเป็นสิ่งที่มั่นใจว่าความปลอดภัยของนิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบที่เครื่องแรงๆ ก็พร้อมที่จะสยบได้อย่างง่ายดายเช่นกัน  

ระหว่างทางเจอญาติพี่น้องวิ่งอยู่หลายคัน
อัตราสิ้นเปลือง
นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ มีอัตราสิ้นเปลืองโดยรวมตลอดทริปบนมาตรวัด 7.8 กม./ลิตร นับว่าดุไม่น้อยเนื่องจากความสนุกบวกกับอัตราเร่งที่มาได้ดั่งใจ จึงทำให้พอมีจังหวะถนนโล่งก็กดคันเร่งสุดทุกทีตอบสนองความเร้าใจได้ตลอดทาง ไปกลับกรุงเทพฯ - บางแสน รวมกว่า 200 กม. ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้งานจริงราวๆ 120 -140 กม./ชม. ที่สามารถทำความเร็วได้ค่อนข้างสูงก็เพราะใช้เส้นทางบางนา - บูรพาวิถีที่รถไม่มาก และเป็นวันธรรมดาถนนโล่งขับสบาย 

ระดับน้ำมันในถังลดลงมากครึ่งหลังจากขับไปกลับ กรุงเทพฯ - บางแสน 200 กม.และขับเร่งแซงบ่อยๆ
แต่ในความแรงของเครื่องยนต์เทอร์โบนั้น สามารถขับให้ประหยัดสุดๆ ได้เหมือนกันครับ! เพียงแค่เราใช้น้ำหนักเท้ากดคันเร่งแบบค่อยๆ ไต่ระดับความเร็วรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปตามธรรมชาติ ระบบเกียร์ CVT จะแปรผันให้ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในจุดที่เราต้องการเอง และยิ่งขับแบบที่เทอร์โบแทบไม่ทำงาน (บูสต์) เครื่องยนต์เทอร์โบก็จะไม่มีพิษสงใดๆ เลย เปรียบได้กับเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี เท่านั้นเอง ดังนั้นการขับแบบเนียนๆ ไม่เร่งมากจนเกินจำเป็นจะยิ่งทำให้ประหยัดกว่ารถในระดับเดียวกันที่เครื่องยนต์ 1.8 หรือ 2.0 ลิตร 

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบนหน้าปัด 7.8 กม./ลิตร กินจุเพราะเท้าหนักไปหน่อย!
อีกกรณีหนึ่งหากรถยนต์ในขนาดตัวถังและน้ำหนักที่เท่าๆ กัน ระบบเทอร์โบจะยิ่งช่วยให้ประหยัดขึ้นได้นั่นคือ ในขณะต้องการกำลังเร่งแซง เทอร์โบจะช่วยปั่นอากาศเข้าเครื่องยนต์ให้เร็วที่สุด เครืองยนต์ก็เริ่มต้นมีกำลังเพื่อฉุดให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปได้ในเวลาอันสั้นๆ โดยที่เราเหยียบคันเร่งไม่ต้องลึกมากก็สามารถแซงขึ้นไปได้โดยง่ายได้ ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซีที่ไม่มีเทอร์โบนั้น เมื่อต้องเร่งแซงจะต้องเพิ่มแรงกดคันเร่งมากขึ้นหรือลึกกว่า เพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังที่จะแซงได้และยังใช้เวลานานกว่าจะแซงผ่านพ้นไปได้ หรือแม้กระทั่งเครื่องยนต์ขนาด 1.8, 2.0 ลิตรขึ้นไปที่มีอัตราเร่งดี แต่อย่าลืมว่าในขณะขับใช้งานในชีวิตประจำวันเราไม่ได้ใช้กำลังเครื่องตลอดเวลา เช่น เมื่อขับความเร็วคงที่หรือเมื่อจอดนิ่งๆ เครื่องยนต์ที่มีความจุสูงๆ ย่อมใช้น้ำมันเข้าไปผสมในห้องเผาไหม้มากกว่าเครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยกว่าเสมอ 

ในการทดสอบครั้งนี้เติมน้ำมันเต็มถังจากกรุงเทพฯ และขับผ่านสภาพวจรจรติดขัดเล็กน้อยแถวถนนหลังสวนและถนนพระราม 4 จนไปถึงแยกซอยอารีย์และเลี้ยวเข้าถนนเกษมราษฐร์ผ่านหน้ากรมศุลกากรและขึ้นทางด่วนท่าเรือ หลังจากขึ้นบนทางด่วนก็คิกดาวน์เร่งแซงตลอดทาง แต่ก็พยายามไม่ให้เกิน 120 กม./ชม. ตามกฏหมาย แต่เมื่อต่อทางด่วนบูรภาวิถีก็แอบแรงแซงตลอดในบางช่วงความเร็วโดดไปกว่า 180 กม./ชม. อยู่บ่อยๆ แต่ก็ลดความเร็วลงมาในบางช่วงเพื่อถ่ายทำคลิปวิดีโอ แต่เมื่อมีโอกาศถนนโล่งก็กดคันเร่งจมตลอด เพราะชอบอัตราเร่ง แม้ไม่มีรถให้แซงก็อยากจะขอกดคันเร่งสัมผัสแรงดึงแบบนุ่มๆ ตลอดทาง และเร่งแซงทุกครั้งที่มีโอกาสจนมุ่งหน้าถึงหาดบางแสน และในขากลับก็ขับโหดๆ แบบเดิมจนถึงกรุงเทพฯ รวมระยะทางทั้ง 200.8 กม. จากน้ำมันเต็มถัง (แบบหัวจ่ายตัดเองนะครับ) ระดับเข็มน้ำมันลดลงมาครึ่งถังเท่านั้น นับว่าประหยัดกว่าที่คิด เพราะเมื่อเทียบกับรถบางรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ระยะใกล้เคียงกันขับในลักษณะเดียวกัน 1 ถัง เหลือไม่เกินครึ่ง แสดงว่านิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ สามารถขับให้ประหยัดกว่านี้ได้อีกเยอะ!
 
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดจะขับพัลซาร์เทอร์โบคันนี้ รับรองว่าคุณเลือกที่จะสนุกกับมันแน่ๆ และเมื่อคุณเหยียบคันเร่งมากขึ้น เครื่องยนต์ต้องใช้อากาศเข้าไปในกระบอกสูบมากขึ้น ก็ย่อมจะต้องจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อเข้าไปผสมกับอากาศในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย สรุปได้ว่า "ขับแบบไหน ได้แบบนั้น"

ความสะดวกสบาย
ความสะดวกสบายในนิสสัน พัลซาร์ รุ่นนี้มีมาให้แบบครบคันแบบเดียวกันกับพัลซาร์รุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา แต่เพิ่มความพิเศษตรงมาตรวัดความเร็วจาก 240 กม./ชม. เป็น 260 กม./ชม. คันเกียร์โยกมาทางขวาเพื่อเปลี่ยนจังหวะเองแบบ Manual Mode 6 Speed โดยล็อกชุดมู่เล่ย์ CVT เอาไว้ 6 จังหวะ (อันที่จริงไม่จำเป็นต้องใช้เลย เพราะแค่กดคันเร่งก็พุ่งพรวดแล้ว) หลังคาซันรูฟ - ไม่มีครับถูกตัดออกลดต้นทุน แต่ก็ไม่น่าจะจำเป็นนักสำหรับในประเทศไทยที่ร้อนๆ แดดแรงๆ ควันเยอะๆ 

เบาะนั่งคนขับที่กล้าบอกได้ว่าสบายที่สุดในรถเซกเมนต์นี้ที่เคยขับมา ขับยาวๆ ทางไกลไม่รู้สึกเมื่อยเลย กลับนุ่มสบายชดเชยระบบช่วงล่างที่แข็งขึ้น แต่ก็แปลกที่เวลาเข้าโค้งหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหันเบาะนั่งยังคงล็อคลำตัวได้อย่างมั่นใจ ทำให้ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น

เบาะหลังขนาดใหญ่นั่งเหมือนโซฟาที่บ้าน พับได้แบบ 60 : 40 และยังมีพื้นที่วางขาที่คนสูงขนาด 170 ซม. ลงไปนั่งกองกับพื้นได้เลยครับ


ห้องเก็บสัมภาระท้ายมาพร้อมถาดปิดป้องกันคนอยากรู้อยากเห็น และยังมีขนาดกว้างขวาง ยิ่งพับเบาะหลังสามารถขนของได้เยอะขึ้น 

ความสะดวกที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นระบบกุญแจที่ไม่ต้องกดปุ่มเปิดล็อค เพียงเดินใกล้ประตูฝั่งคนขับและกดปุ่มที่มือจับประตู เมื่อเข้ามานั่งในรถก็เหยียบเบรกและกดปุ่มสตาร์ตเครื่องเท่านั้นช่างสะดวกสบายจริงๆ 

ทางด้านเพดานมีลูกเล่นเยอะตามแบบรถหรูหราด้วยไฟส่องแผนที่ตอนหน้าทั้งซ้าย-ขวา ที่เก็บแว่นตา แผ่นบังแดดมีกระจกพร้อมไฟส่อง ที่คอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำ แต่หยิบยากสักหน่อยต้องระวังข้อศอกไปโดนแก้วน้ำที่วางอยู่ ส่วนกล่องเก็บของตรงกลางมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป และติดตั้งจุดเชื่อมต่อ AUX และ USB เอาไว้ด้านใน แถมใส่ที่วางแขนแบบสไลด์หน้า-หลังได้ตามต้องการ  

สำหรับความสะดวกสบายของรถตระกูลนิสสัน โดยเฉพาะในทีด้ารุ่นก่อนจนถึงพัลซาร์ทุกรุ่นย่อยนับว่าออกแบบมาให้นั่งสบายทุกที่นั่ง ไม่เน้นให้เฉพาะตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เรียกว่าสบายอย่างทั่วถึงครับ เพราะว่าการออกแบบเบาะนั่งหรือแม้แต่พื้นที่ส่วนที่นั่งของรถในรุ่นบางค่ายอาจเน้นคนขับ บางค่ายเน้นคนนั่ง แต่สิ่งหนึ่งที่พัลซาร์ให้มาคือ นั่งสบายทุกที่นั่งครับ

ลิ้นชักเก็บของลึกและกว้างจุได้มากพอสมควร
ทัศนวิสัย
มุมมองเมื่อนั่งตำแหน่งคนขับในพัลซาร์ ไม่ต่างจากรถ SUV ขนาดกลาง นั่นคือ ขับง่าย มองส่วนด้านหน้ารถชัดเจนบริเวณเสา A ทั้ง 2 ข้างที่ผอมๆ ทำให้ไม่บังมุมเลี้ยว ส่วนกระจกประตูด้านข้างทั้งหน้าและหลังก็ขนาดใหญ่ เพียงหันไปชำเลืองดูกระจกข้างก็มองเห็นรถที่วิ่งมาด้านข้างเลยไปจนถึงส่วนท้ายรถ ทำให้มั่นใจเวลาเปลี่ยนช่องทาง 


กระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวามองชัดเจน เป็นกระจกกึ่งๆ โค้งนิดๆ จึงเห็นได้กว้างขึ้น แต่ไม่หลอกตาจนเกินไป

ในส่วนกระจกด้านหลังแม้จะเป็นบานแบนๆ แต่ความกว้าง และช่องกระจกเล็กตรงระหว่างเสา C และ D ตรงมุมท้ายก็ใหญ่พอที่จะช่วยให้มองเห็นรถที่วิ่งมาในแนวทแยงได้อย่างดี    

เมื่อมองที่มาตรวัดต่างๆ บนหน้าปัดจะเห็นตัวเลขชัดเจนทั้งรอบวัดเครื่องยนต์และความเร็ว รวมทั้งเข็มน้ำมัน ความร้อน และสัญลักษณ์เตือนสถานะต่างๆ และสามารถปรับความมืดหรือสว่างเพิ่มขึ้นได้
ความรู้สึกเมื่อลองขับ
หลังจากที่ได้ลองขับนิสสัน พัลซาร์ ทั้งในแบบความเร็วต่ำๆ ไปจนถึงความเร็วสูง ทั้งถนนเรียบบนทางด่วน และขรุขระมีหลุมบ่อในบางส่วน นับว่าให้ความรู้สึกนุ่มนวลไม่ต่างจากซีดานขนาดใหญ่ มีเพียงการโยนตัวที่ระยะสั้นกว่ารถระดับสุดหรูอย่างเทียน่า หรือออกแนวกระด้างกว่า แต่โดยรวมก็นับว่านุ่มนวลอยู่ดี แม้ว่าระบบช่วงล่างในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบจะปรับให้แข็งขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเด้งเป็นรถโหลดแต่อย่างใด และยังได้ความสูงใต้ท้องเท่ากับรุ่นปกติ ทำให้ขับซิ่งได้ไม่ต้องหยอดหลุมเบาๆ หรือไม่ต้องกังวลเมื่อขึ้นหลังเต่าสูงๆ มากนักเหมือนพวกรถแต่งสปริงโหลด

พวงมาลัยแบบ 3 ก้านทรงหนาหุ้มหนังแท้ของพัลซาร์จับกระชับมือ และนุ่มมากเช่นกัน ขนาดวงเล็กๆ สไตล์สปอร์ตควบคุมง่ายๆ แม่นยำ น้ำหนักเมื่อจอดกับที่ก็เบาจนไม่ต้องออกแรง และในความเร็วสูงขึ้นก็ปรับความหนืดได้เหมาะสมดี 

ปุ่มมัลติฟังก์ชั่นต่างๆ บนพวงมาลัยมีให้ครบ ทั้งครูซคอนโทล-ปรับตั้งความเร็ว-ยกเลิก, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ปุ่มปรับสถานะต่างๆ บนจอข้อมูลบนหน้าปัด เป็นต้น  
แต่ก็มีข้อด้อยเล็กน้อยคือ เนื่องจากพวงมาลัยวงเล็ก แต่ส่วนตรงกลางและแกนมีขนาดใหญ่ ทำให้ช่องว่างเล็กไปด้วย เมื่อเอามือสอดเข้าไปเพื่อหมุนพวงมาลัยบางครั้งติด จึงต้องจับเพียงแต่วงด้านนอกเท่านั้น เรียกว่าสาวพวงมาลัยจากด้านในลำบากไปหน่อย
สรุปว่าขับทดสอบคันนี้มีแต่เร่งแซงบ่อยๆ เพราะชอบอัตราเร่งและความคล่องตัว ที่ไม่ทำให้ผิดหวัง บวกกับช่วงล่างที่เพียงพอกับระดับความแรง 190 แรงม้า และที่สำคัญเบาะนั่งรับสรีระได้อย่างดีไม่มีการเมื่อยล้าแม้ขับต่อเนื่องระยะทางไกลๆ 
ระบบปรับอากาศ
ระบบแอร์ของพัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ เป็นอัตโนมัติ ปรับอุณหภูมิแยกซ้ายขวาได้ พร้อมช่องแอร์สำหรับที่นั่งตอนหลัง ซึ่งทำความเย็นได้รวดเร็ว และควบคุมอุณหภูมิตามที่ตั้งเอาไว้ได้อย่างแม่นย้ำ พร้อมโหมดควบคุมการเลือกกระแสลมที่เป่าด้านบน, เป่าลมเฉพาะส่วนเท้า และเป่าลมทั้ง 2 ส่วน



เสียงรบกวนจากภายนอก
การเก็บเสียงของพัลซาร์ นับว่าเงียบถึงเงียบมาก เสียงลมไม่ได้ยิน ยกเว้นเมื่อขับที่ความเร็ว 140 กม./ชม. ขึ้นไปเริ่มมีเสียงลมปะทะกระจกบังลมหน้า หรือมองข้างบ้าง แต่ก็ไม่รำคาญ ส่วนเสียงเครื่องยนต์ที่ตอนแรกคิดว่าขอแบบมันๆ ตามแบบฉบับเครื่องเทอร์โบ แต่ก็น่าผิดหวัง เพราะเงียบเหลือเกิน แม้ขณะถอดคันเร่งยังไม่มีเสียงของวาล์วกันแรงดันย้อนกลับ (Blow off Valve - วาล์วกันแรงดันเกินย้อนกลับเข้าใบพัดของเทอร์โบขณะถอดคันเร่งอย่างรวดเร็ว/ถูกต่อท่อระบายไหลกลับเข้าปากทางเข้าของเทอร์โบอีกที) ของระบบอัดอากาศเลย 

เสียงของยางจะได้ยินก็ต่อเมื่อใช้ความเร็วสูงๆ ระดับ 140 กม.ชม.ขึ้นไปเช่นกัน แต่เมื่อวิ่งผ่านตะเข็บถนนที่สูงๆ จะได้ยินเสียงกระทบค่อนข้างดังหน่อย อาจเป็นเพราะใช้ยางแก้มเตี้ย (205/50R17) จึงรับรู้ถึงแรงสะเทือนได้บ้าง 

อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียงเป็นแบบจอสัมผัสขนาด 5.8 นิ้ว FM-AM/MP3/CD/DVD/USB/AUX/Bluetooth/Navi/กล้องมองขณะถอยหลัง ลำโพง 6 ตัว เสียงไพเราะและหนักแน่นพอสมควร พร้อมกับติดตั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วโป้งมือซ้ายก็เพลิดเพลินกับระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย 


ความสวยงาม
นิสสัน พัลซาร์มีความโดดเด่นในเรื่องการออกแบบตั้งแต่รูปทรงที่ดูสวยมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน (ทีด้า) มีความโค้งมนมากขึ้น จุดที่สะดุดตาที่สุดน่าจะเป็นโคมไฟหน้าที่สวยงามลงตัว พร้อมโคมโปรเจ็กเตอร์ และกระจังหน้าที่สอดรับกับกันชนยิ่งดูมีสเน่ห์

ในส่วนท้ายประตูบานหลังโค้งมนมากขึ้น ไฟท้ายขนาดใหญ่โดดเด่นเห็นชัดเจน ด้านข้างตกแต่งด้วยเส้นโครเมี่ยมรอบๆ กระจกทั้ง 4 บานดูหรูหราขึ้นไปอีก แต่ยังแอบมีความเป็นสปอร์ตด้วยลายล้อแม็กที่กลมกลื่นระหว่างความหรูหราและสปอร์ต

ภายในคอนโซลหน้า-กลาง รวมถึงพวงมาลัยที่ดีไซน์ให้ดูคล้าย Luxury Car รุ่นใหญ่อย่างนิสสัน เทียน่า และสิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือ ความกว้างขวางและอเนกประสงค์ของเบาะหลังทำให้นึกถึงโซฟานุ่มๆ ที่นั่งดูหนังที่บ้าน และส่วนเก็บสัมภาระท้ายก็มีแผ่นปิดกันคนแอบมองมาให้ยิ่งดูคล้ายรถซีดานสุดหรูเข้าไปอีก เรียกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ
ความปลอดภัย
นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบรุ่นนี้เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยจากรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา เช่น ถุงลม SRS คู่หน้า ถุงลมด้านข้าง ม่านถุงลมรวมเป็น 6 ใบ, ระบบ VDC (VEHICLE DYNAMIC CONTROL) - ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง,  TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) - ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบทำความสะอาดไฟหน้า, ไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ 

นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานอีก เช่น ระบบเบรกกันล้อล็อค - ABS และ ระบบเสริมแรงเบรก - BA ระบบกระจายแรงเบรก - EBD,  กุญแจอัจฉริยะป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบ Immobilizer และ Panic Alarm

ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

หากเทียบความคุ้มค่าแล้ว นิสสัน พัลซาร์ 1.6 ดีไอจี เทอร์โบ นอกจากจะให้อุปกรณ์ครบ ความปลอดภัยเพียบพร้อมแล้ว ยังได้เครื่องยนต์ระดับ 190 แรงม้า ซึ่งราคาของรถในเซกเมนต์เดียวกันยังเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศมาให้และในรุ่นท็อปของแต่ละยี่ห้อก็แตะที่หนึ่งล้านบาทอยู่แล้ว ซึ่งพัลซาร์ เทอร์โบก็เป็นรุ่นท็อปในไลน์การผลิตเช่นกัน  
ถ้าใครนึกไม่ออกว่า ความแตกต่างที่เราต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นอย่างไรให้ลองเทียบง่ายๆ กับนิสสัน เทียน่ารุ่น 2.0 และรุ่น 2.5 ว่าทำไมถึงมีคนต้องการซื้อรุ่น 2.5 ลิตร ทั้งที่จ่ายแพงกว่า.... ก็เพราะว่าคุณจะได้อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ความแรงที่เพิ่มและความหรูหรามากกว่าเช่นกันครับ 
Nissan Pulsar 1.6 DIG Turbo เป็นรถที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจดุจรถสปอร์ต พร้อมความอเนกประสงค์และความปราณีตในการออกแบบของนิสสัน และโดดเด่นด้านสมรรถนะเกินกว่าคู่แข่งจนกล้าบอกได้ว่า "แรงกว่าเครื่องยนต์ 2,000 แต่ประหยัดน้ำมันเทียบเคียงเครื่องยนต์ 1,600" และราคา 1,070,000 บาท ซึ่งอยู่ช่วงกลางๆ ของรถรุ่นท็อปๆ ยี่ห้ออื่นในเซกเมนต์เดียวกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)