ลองของหรู VOLVO S80 1.6 DRIVe
ซีดานหรูขนาดกลางจากสแกนดิเนเวียที่วางเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบ รองรับเชื้อเพลิง E85 สมรรถนะและพลังจากเครื่อง 1,596 ซีซี 180 แรงม้า กับรีวิวรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย...
การพยายามปรับดีไซน์ของทีมออกแบบจาก
Volvo ถือเป็นการกำหนดนิยามของรูปทรงแบบใหม่ที่จะปรากฏอยู่บนรถรุ่นล่าสุดทั้งหมด รถเยอรมันคือเป้าประสงค์ของการท้าทายในครั้งนี้และกลายเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ในการเอาชนะ แต่วิศวกรและทีมดีไซเนอร์ของค่ายรถจากสวีเดนกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ยอดขายของรุ่น C30 / S60 / V60 ทั่วโลกที่ดีขึ้นกำลังจะลบภาพหน้าตาของรถ Volvo ที่ดูโบราณในยุคหนึ่งให้แปรเปลี่ยนไป ปัจจุบัน งานออกแบบตัวถังและภายในของ Volvo ทั้งหมดนั้นถูกกำหนดขึ้นโดยความต้องการของลูกค้า ซึ่งเน้นพื้นที่ของห้องโดยสารกับความกลมกลืนของรูปลักษณ์ เส้นสายรอบคันที่โค้งมนมากยิ่งขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ต้องดูดี รถรุ่นใหม่นั้นดูมีเสน่ห์ขึ้นมากและเปลี่ยนมุมมองภาพลักษณ์ของคนขับ Volvo จากหมอฟันแก่ๆ มาเป็นชายหนุ่มที่ร่าเริงและแฝงความเจ้าชู้ขี้เล่นในตัวตน อย่างชัดแจ้ง รถ
Volvo S80 DRIVe คือตัวอย่างที่ดีสำหรับการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับลูกค้า นี่คือยนตรกรรมซาลูนขนาดกลางที่ทั้งงดงามและเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ นับเป็นหนึ่งในรถยนต์นั่งขนาดกลางจากยุโรปที่มีเครื่องยนต์เล็กที่สุด ปล่อยมลพิษต่ำที่สุดและราคาถูกที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง
BMW Series-5 F10 /
Audi A6 /
Mercedes Benz E-Class หรือแม้แต่
Lexus GS250 ซึ่งทุกคันที่กล่าวมามีราคาแพงกว่าเจ้า S80 1.6 DRIVe อยู่พอสมควร
การก้าวเดินออกจากแนวคิดเก่าๆ แบบอนุรักษนิยมเป็นสิ่งจำเป็นในอันดับต้นๆ ที่จะต้องเร่งทำและทีมออกแบบของค่ายรถจากสวีเดนแห่งนี้ทำได้อย่างน่าพึงพอใจ แบรนด์ Volvo ยังคงมุ่งๆ ไปที่โฉมหน้าของรถยนต์รุ่นใหม่ที่แสดงออกถึงความทันสมัย จริงจัง และเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของมากยิ่งขึ้น ภายนอกของ
S80 DRIVe ถูกปรับเปลี่ยนจนมีความลงตัวจากกระจังหน้า สปอยเลอร์หน้า ไฟคู่หน้าแบบใหม่และฝากระโปรงที่สอดคล้องไปกับด้านหน้าทั้งหมดของตัวรถ ชายล่างของชุดสปอยเลอร์หน้าบริเวณมุมซ้าย-ขวาติดตั้งไฟตัดหมอกทรงกลมอยู่ในชิ้นงานพลาสติกซึ่งทำเป็นกรอบสีเงิน ตะแกรงทรงรังผึ้งของช่องรับอากาศเข้าไประบายความร้อน แก้มข้างที่ช่วยเพิ่มมิติของฝากระโปรงด้วยมุมประชิดที่สูงขึ้นอีกเล็กน้อย คือความสง่างามที่เหมาะสมกับขนาดของตัวถังของ S80 ที่มีความใหญ่โตมากกว่ารุ่นอื่นๆ ยกเว้น XC90
ไฟคู่หน้าไบซีนอนพร้อมระบบแอคทีฟที่มีโคมภายในเลี้ยวไปตามองศาพวงมาลัย ไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างตั้งอยู่บนแนวบ่าจากแก้มข้างไปจนถึงฝาท้าย ลักษณะของการออกแบบด้านข้างของรถ Volvo รุ่นใหม่ที่นิยมทำให้แนวด้านบนของตัวถังด้านข้างไล่จากบังโคลน ประตูทั้งสองบานไปจนจรดไฟท้าย เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์จากแดนไวกิ้งยี่ห้อเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ คิ้วโครเมียมรอบคันช่วยทำให้แสงและเงาที่ตกกระทบช่วยในการเน้นเส้นนำสายตา ให้เฉียบคม แนวหลังคาโค้งมนไหลลื่น ขอบกระจกยังกรุด้วยชิ้นงานโครเมียมเพื่อยกระดับและมาตรฐานของรุ่นเรือธง อย่าง S80 ล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว ลาย 7 ก้าน พร้อมยาง Michelin รุ่น Primacy HP ไซส์ 225/55R16W ทั้ง 4 ล้อ
โครงสร้างนิรภัยของ Volvo ขึ้นชื่อในด้านความแข็งแกร่งและอยู่ในอันดับต้นๆ ของ EURO NCAP หน่วยงานที่ทดสอบการชนปะทะทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง เครื่ิองยนต์และระบบส่งกำลังที่ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดจะช่วยให้การยุบตัวของโครงสร้างด้านหน้าเป็นไปด้วยความถูกต้อง การทำงานร่วมกันของระบบบังคับเลี้ยวที่มีแกนพวงมาลัยแบบยุบตัวได้และถุงลมนิรภัยสองจังหวะเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บ หลังคาที่มีการเสริมความแข็งแรง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนม้ติพร้อมม่านนิรภัยด้านข้าง IC รองรับผู้โดยสารหากเกิดการพลิกคว่ำ ระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง SIPS พัฒนาโดยวิศวกรของ Volvo รวมถึงพนักพิงศีรษะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ WHIPS คือระบบป้องกันผู้โดยสารที่เป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ในการความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุการชนปะทะที่มุมต่างๆ ของตัวรถ
ภายในที่ออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่หรูหราด้วยวัสดุพวกหนังแท้โทนสีอ่อน อะลูมินั่มอัลลอยแบบผิวลื่น พลาสติกเกรดดีกับการจัดวางที่เน้นความหรู คอนโซลใช้โฟมขึ้นรูปห่อหุ้มด้วยวัสดุพวกหนังสังเคราะห์สีเข้มมีส่วนช่วยใน การลดแสงสะท้อน โฟมขึ้นรูปหุ้มหนังยังช่วยให้การซับเสียงดีขึ้นและช่วยให้แดชบอร์ดมีมิติที่ น่ามองไม่แข็งกระด้างเหมือนพลาสติกขึ้นรูปราคาถูก คอนโซลกลางใช้ชิ้นงานอัลลอยขนาดใหญ่ วางปุ่มและสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิ ช่องใส่ CD สวิตช์ควบคุมจอมัลติฟังก์ชั่นเพื่อปรับเข้าสู่โหมดต่างๆ สวิตช์ปรับระดับความดังของระบบให้ความบันเทิง ปุ่มปรับความเร็วของพัดลมแอร์ในห้องโดยสาร
ระบบสื่อสารและสั่งการแบบใหม่ใช้ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย รวมถึงจอแสดงผลที่มีความคมชัด ปุ่ม My Car ใช้ปรับตั้งการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ระบบ IDSI / City Safety / ACC / Collision Warning With Full Auto Brake And Pedestrian Detection / Driver Alert System / BLIS ระบบไฟส่องสว่าง กระจกมองข้าง การล็อกและปลดล็อกประตู รวมถึงการปรับแต่งเสียงและเลือกเพลงหรือสถานีวิทยุ ระบบ Volvo Sensus ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ฟังก์ชั่นช่วยในการควบคุมรถยนต์ เพื่อเข้าถึงการสั่งงานในระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อกดปุ่ม My Car สำหรับการปรับตั้งไฟหน้า กระจกมองข้าง ระบบปรับอากาศ ระบบล็อกประตูและฝาท้าย จอสีขนาด 7 นิ้วที่ให้ความคมชัดสูงยังใช้เล่น DVD และรองรับกล้องช่วยถอยหรือ Park Assist Camera ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม (ออฟชั่น)
Volvo S80 1.6 DRIVe ใช้ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง High Performance Audio System ให้กำลังขับ 4x40W ลำโพง 8 ตำแหน่งกระจายอยู่รอบห้องโดยสารเพื่อมิติในการฟังเพลงที่สมบูรณ์แบบ พร้อมด้วยระบบโทรศัพท์ไร้สายแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงการฟังเพลงแบบAudio Streaming ผ่านสัญญาณ Bluetooth สำหรับการเลือกเพลงจากโทรศัพท์มือถือมาเล่นในระบบเครื่องเสียงในรถยนต์ ช่องเชื่อมต่อ AUX / USB รองรับอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงจากภายนอก
S80 นับเป็นรถยนต์ซีดานหรูรุ่นแฟลกชิพของ Volvo ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยปีที่ผ่านมามียอดขาย S80 ในประเทศไทย 300 คัน ซึ่งหากนับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว S80 มานั้น มีผู้ใช้รถ S80 จนถึงปัจจุบันกว่า 4,000 คัน จากรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ S80 2.5 FT และ S80 D3 ทั้งนี้ การมาของ S80 DRIVe นี้ จะเข้ามาเสริมทัพ S80 ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการได้ตรงใจมากกว่าเดิม Volvo S80 DRIVe 1.6 วางเครื่องยนต์ FLEXIFUEL E85 เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 1,596 ซีซี 16 วาล์ว 180 แรงม้า เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรที่มีขนาดใหญ่ กินเชื้อเพลิงมากกว่า แถมยังมีน้ำหนักมากกว่าและปล่อยมลพิษสูงกว่าเครื่องขนาด 1.6 ลิตร ที่มีความกะทัดรัด เบาและทรงพลัง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่แตกต่างจากรถยนต์ที่วางเครื่องเท่ากัน เพียงแต่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรนั้น มักถูกนำไปวางในรถยนต์คันเล็กแบบ City Car ไม่ใช่รถยนต์ระดับซาลูนที่มีขนาดใหญ่โตอย่าง S80 1.6 DRIVe
ราคา
Volvo S80 1.6 DRIVe E85 2,499,000 บาท* (คันทดสอบ), Volvo S80 D3 2,749,000 บาท และ Volvo S80 T4 2,840,000 บาท Volvo S80 DRIVe มี 5 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ ขาว (Ice White), เงิน (Silver Metallic), เทา (Oyster Grey Metallic), เงิน (Electric Silver metallic) และ ดำ (Ember Black Metallic)
ทดลองขับ Volvo S80 1.6 DRIVe ยนตรกรรมสวีเดนระดับซาลูน พิสูจน์พลังของเครื่อง 1.6 ลิตร เทอร์โบ กับระบบส่งกำลัง 6 Speed Power Shift และระบบความปลอดภัยแบบใหม่ บนเส้นทางที่งดงามของอุทยานแห่งชาติพะเนินทุ่ง
โทนสีขาวดำของห้องโดยสารในรถ S80 คันทดสอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่เน้นโทนขาวดำเป็นหลัก คอนโซลกลางดีไซน์โดยใช้วัสดุพวกอะลูมิเนียมเงาๆ ทำเป็นชิ้นงานแผ่นแบนขนาด ใหญ่กับปุ่มสวิตช์ที่ใช้ควบคุมเครื่องเสียงและปรับตั้งรายละเอียดของระบบต่างๆ ที่รองรับการขับ แผ่นอัลลอยสีเงินที่ใช้ทำคอนโซลกลางนั้นเป็นอัลลอยแท้ๆ ไม่ใช่พลาสติกชุบโครเมียมอย่างบางค่าย ทำให้งานตกแต่งภายในของ Volvo รุ่นเรือธงคันนี้ดูสง่างามแต่ก็สิ้นเปลืองเกินเหตุ อัลลอยที่ปรากฏบนชิ้นงานต่างๆ เช่น ช่องแอร์ มือจับที่เปิดประตู คิ้วแผงประตู กรอบคันเกียร์ออโต้ ทำให้หมดอะลูมิเนียมไปเกือบครึ่งประเทศกันเลยทีเดียว เบาะสีขาวครีมมีผิวที่ค่อนข้างนุ่มและดูแลรักษาไม่ให้เกิดรอยจะยากไปสักนิด เบาะคู่หน้าขนาดใหญ่ราวกับโซฟาในห้องนั่งเล่นยังช่วยให้การขับเดินทางไกลมีความสบายไม่เมื่อยล้า จากการออกแบบท่านั่ง และตำแหน่งการปรับเบาะด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า เบาะผู้โดยสารด้านหลังมีชุดควบคุมเครื่องเสียง ช่องเสียบหูฟัง เสากลางยังมีช่องแอร์ที่คอยเป่าลมเย็นจากระบบปรับอากาศติดตั้งมาให้เพื่อความสะดวกสบาย รถ Volvo S80 เป็นโมเดลซาลูนขนาดใหญ่และมักเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงในการเลือกใช้งานสำหรับขับขี่เดินทางในชีวิตประจำวันทั้งแบบขับด้วยตัวเองหรือมีคนขับรถ อุปกรณ์ภายในที่ให้มาครบจึงค่อนข้างหรูหราและครอบคลุมการใช้งานมากเป็นพิเศษ
ความยาวและขนาดที่กว้างของ S80 ทำให้ตัวรถมีด้านข้างที่ยาวถึง 4,851 เซนติเมตร ซึ่งยาวกว่า Series-5 F10 หรือแม้แต่ Mercedes Benz E-Class เจ้า Volvo S80 มีให้เลือกสามรุ่นคือ S80 DRIVe คันทดสอบ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ปริมาตรความจุ 1,596 ซีซี 180 แรงม้า ราคา 2,499,000 บาท / S80 D3 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 5 สูบ 1,984 ซีซี 163 แรงม้า ราคา 2,749,000 บาท / S80 T4 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1,999 ซีซี 203 แรงม้า ราคา 2,840,000 บาท สำหรับรถคันทดสอบแม้จะเป็นรุ่นต่ำสุดที่วางเครื่องยนต์แค่ 1.6 ลิตร แต่ประสิทธิภาพของแรงม้าและแรงบิดกลับอยู่ในระดับที่มากเกินพอสำหรับการใช้งาน ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์หน้าตาประหลาดคล้ายกับสวิตช์ทรงเหลี่ยมทั่วๆไป ผมเหยียบแป้นเบรกแล้วกดสวิตช์สตาร์ต เครื่องยนต์ขนาดเล็กติดขึ้นมาทันที ในรอบเดินเบาสไตล์ Volvo มันให้ความรู้สึกเงียบและผ่อนคลาย เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร มีเรี่ยวแรงถึง 180 แรงม้ากับแรงบิดอีก 240 นิวตันเมตร บนการออกตัวไม่มีคำว่าอืดอาดแม้แต่นิดเดียว เมื่อกดคันเร่ง รถจะพุ่งออกไปตามน้ำหนักของฝ่าเท้า ซึ่งผ่านการคำนวณโดยเซ็นเซอร์ของระบบ Drive By Wire น้ำหนัก 1.7 ตันเมื่อรวมเชื้อเพลิงเกือบเต็มถังทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตรได้ในเวลา 9.2 วินาที ตามหลัง Series-5 F10 525i อยู่แค่ 1 วินาที แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเครื่องเล็กกะทัดรัด ความจุไม่มาก จะทำได้ดีขนาดนั้น
ทางตรงยาวกับการกดคันเร่งไฟฟ้าลงลึกสุด แรงดึงของเครื่อง 1.6 เทอร์โบ ให้ความรู้สึกไหลอย่างต่อเนื่อง รอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมอัตราทดของเกียร์ 6 สปีดพาวเวอร์ชิฟทรอนิกส์ ที่ทำงานปะสานไปกับเครื่องยนต์ในการถ่ายเทแรงบิดลงสู่ล้อหน้าซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน ความรู้สึกสบาย นิ่งและมั่นคงตลอดการเร่งความเร็วรวมถึงการวิ่งที่ความเร็วสูงระดับ 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันก็ยังให้ความมั่นใจได้ดี เครื่องเล็กแรงเยอะตัวนี้สามารถพาตัวถังหนัก 1.7 ตันให้ปลิวไปตามลมได้อย่างง่ายดาย ช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้กอัพ เหล็กกันโคลง กับช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ถ่ายทอดอารมณ์ของการควบคุมตามแบบฉบับของ Volvo มันหนักแน่นและไม่เบาเหมือนกับ S60 ที่ตัวเล็กกว่า พวงมาลัยไฟฟ้า EPS หน่วงน้ำหนักที่ความเร็วสูงได้ดี และเมื่อต้องลดความเร็วลงอย่างกะทันหัน เบรกของ S80 1.6 DRIVe จับกับจานดิสด้วยความแข็งแรง มวลน้ำหนักของตัวรถถูกคำนวณประสิทธิภาพของการเบรกในขั้นตอนของการพัฒนา เนื่องจากเน้นในเรื่องของระบบความปลอดภัย และคำนึงถึงสภาพการขับขี่ควบคุมที่ต้องใช้เบรกอย่างกะทันหันหากห้อกันมาสุดๆ แล้วมีอะไรวิ่งตัดหน้า เบรกของ S80 แทบจะเอาอยู่ในทุกสถานการณ์ หากคนขับไม่กล้าบ้าบิ่นมากจนเกินขอบเขตของความปลอดภัย ระบบช่วยเบรกที่ติดตั้งมาจากโรงงานยังช่วยรองรับการเบรกในทางที่ลื่นไถลได้ดี น้ำหนักของรถแบบซาลูนขนาดกลางที่มากกว่าปกติ จะต้องมีเบรกที่ทรงประสิทธิภาพ และวิศวกรของ Volvo ทำออกมาได้อย่างน่าพอใจ
เทคโนโลยีใหม่ของ Volvo ซึ่งกำหนดขอบเขตปริมาตรความจุและขนาดตลอดจนน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ใช้วางในรถรุ่นใหม่ การลดขนาดความจุ โดยหันมาพัฒนาเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรความจุเพียงแค่ 1,600 ซีซี แต่ให้พลังงานเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี ช่วยให้การใช้เชื้ิอเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรที่ใช้วางใน
Volvo S80 1.6 DRIVe คือ เครื่องยนต์แบบเบนซินแถวเรียง 4 สูบที่มีขนาดเล็กที่สุดที่ใช้วางในรถซาลูนขนาดกลางของ Volvo มันให้สมรรถนะในการวิ่งใช้งานไม่แตกต่างไปจากเครื่อง 6 สูบที่กินจุกว่ามาก เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ยังปล่อย CO2 ลดลง กินเชื้อเพลิงน้อยลง และมีค่าดูแลรักษาต่ำกว่าเครื่อง 6 สูบอยู่พอสมควร แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการปรับเปลี่ยนความคิดของคนไทยที่ยังคงนิยมเครื่องยนต์ที่มีความจุมากๆ ในรถยนต์ซาลูนของยุโรป ค่าย Volvo คือเจ้าแรกที่กล้านำเครื่องเล็กความจุไม่มากมาวางลงในรถยนต์รุ่นเรือธง โดยมีระบบอัดอากาศอันทรงประสิทธิภาพคอยสร้างแรงบิดตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูงสุด เครื่อง 1.6 ลิตรของ S80 ยังรองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E85 ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่มีราคาต่ำกว่าเชื้อเพลิงอื่นๆ ในประเทศไทย และเมื่อมีการคำนวณค่าเชื้อเพลิงในระยะยาวแล้ว รถยนต์ที่สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 ได้ จะมีค่าน้ำมันเฉลี่ยต่อปีต่ำกว่าเห็นๆ
เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติพะเนินทุ่ง เป็นถนนลาดยางสองเลนสวนกันที่ค่อนข้างเงียบสงบและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม แต่มีอันตรายแอบแฝงอยู่จากความโล่ง รถส่วนใหญ่เป็นรถปิกอัพและรถบรรทุกหนักที่บรรทุกพืชผลทางการเกษตร แต่ละคันห้อกันมาด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ การจอดถ่ายรูปจึงต้องใช้ความระวังกันพอสมควร อุทยานแห่งชาติพะเนินทุ่งเป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.8 ล้านไร่ กินพื้นที่ครอบคลุมถึงสามอำเภอ คือ เขตอำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อุทยานแห่งนี้ยังคงสภาพเป็นป่าดงดิบตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ รวมถึงจุดชมวิวและจุดที่นักท่องเที่ยวใช้กางเต็นท์เพื่อพักผ่อนชมธรรมชาติของผืนป่าในเขตตะวันตกของไทย
ในโมเดล
S80 16. DRIVe ซึ่งเป็นรุ่นถูกสุด ราคา 2.5 ล้านบาท ไม่มีระบบป้องกันการชนปะทะที่ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ติดตั้งมาให้เหมือนกับรุ่นที่สูงกว่าอย่าง S80 D3 / S80 T4 ซึ่งทั้งสองคันมีราคาสูงกว่าหลายแสนบาท แต่ S80 1.6 DRIVe มีระบบรองรับการขับขี่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยต่างๆ เช่น BLIS And IDSI For Better Control เป็นระบบเซ็นเซอร์ด้านข้างที่คอยแจ้งเตือนยามเปลี่ยนทิศทางว่ามีรถอยู่ด้านข้างหรือไม่ ระบบดังกล่าวนี้ ช่วยให้การขับรถมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะแจ้งเตือนถึงวัตถุกีดขวางที่อยู่นอกเหนือมุมมองของกระจกมองข้าง การเปลี่ยนทิศทางโดยไม่ตั้งใจจากสาเหตุของการหลับในระหว่างขับขี่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนให้รับรู้ทันทีที่รถเริ่มเบนทิศทาง รวมถึงระบบไฟหน้าแบบหักเหไปตามองศาของพวงมาลัย ไฟหน้าแบบ LED Active Control จะคอยปรับมุมให้ประสานไปกับจังหวะของการหมุนพวงมาลัย ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางที่อุดมไปด้วยทางโค้งขึ้นลงเขาในยามค่ำคืนมองเห็นได้ไกลและกว้างมากกว่าระบบไฟหน้าแบบปกติทั่วไป เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุกีดขวางรอบคันจะส่งสัญญาณเสียงเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกระแทก จากขนาดที่ใหญ่โตของมิติตัวถัง ทำให้การถอยหลังหรือเดินหน้าเพื่อเข้าที่จอดรถมีความปลอดภัยสูง ระบบรองรับการขับขี่ทั้งหมดของ Volvo S80 1.6 DRIVe ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลงได้ค่อนข้างมาก จากภาพรวมทั้งหมดของแบรนด์ Volvo ที่เน้นหนักในด้านความปลอดภัยมากกว่ารถยนต์จากค่ายอื่นๆ ส่วนระบบจัดการภายในห้องโดยสาร CZIP Clean Zone Interior Package ช่วยกรองอณูแปลกปลอมให้ห้องโดยสารมีอากาศที่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ระบบ IAQS Interior Air Quality System ป้องกันผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศและโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยระบบกรองอากาศของ S80 ทุกชิ้นได้รับการคัดสรรแต่วัสดุคุณภาพสูง
ช่วงล่างของ S80 ออกไปในแนวทางนิ่มนุ่มสบายก้น ระบบรองรับที่ปรับแต่งมาเพื่อการขับที่เน้นให้มีบุคลิกภาพแบบผู้ใหญ่ ซึ่งทำออกมาให้นั่งโดยสารหรือขับขี่ได้ทั้งวันโดยปราศจากอาการเมื่อยล้า บนทางโค้งยาวๆ การถ่ายเทน้ำหนักและมุมของการยุบตัวอยู่ในระดับเดียวกับซาลูนหรูจากเยอรมัน ซึ่งเป็นรถคู่แข่งที่มีราคาสูงกว่ามาก การทรงตัวที่ย่านความเร็วสูงก็ยังเปี่ยมไปด้วยความมั่นคงอย่างที่กล่าวมาแล้ว สำหรับโค้งมุมแคบ เนื่องจากเป็นยนตรกรรมที่เน้นให้ขับและนั่งได้สบายมากกว่าปกติ การขับเข้าทางโค้งที่แคบและลึกจึงต้องคำนึงถึงความเร็วที่เหมาะสม แม้โช้คอัพและสปริงจะส่งถ่ายความนุ่มนวลออกมาอยู่ตลอดเวลา ความเร็วที่มากจนเกินไปและไม่สัมพันธ์ไปกับมุมของการขับเข้าสู่โค้งอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้ แต่โดยภาพรวมแล้วระบบกันสะเทือนของ S80 เหมาะมากกับเส้นทางแบบไฮเวย์ในประเทศไทย อาการย้วยหรือยุบตัวของช่วงล่างในรถรุ่นเก่าถูกแก้ไขจนหมดไปในรถรุ่นใหม่ รถ Volvo รุ่นล่าสุดในทุกโมเดลของทุกวันนี้ มีระบบรองรับที่ให้สัมผัสดีขึ้นอย่างชัดเจนและไม่เป็นรองยนตรกรรมซาลูนจากเยอรมนีอย่าง
BMW Series-5 F10 หรือ
Mercedes Benz E-Class แม้แต่น้อย ส่วนที่แตกต่างกันคือราคาที่ถูกกว่ากันเกือบๆ 2 ล้านบาทของ S80 1.6 DRIVe นั่นเอง
ระบบบังคับเลี้ยวของ S80 มีความซับซ้อนพอสมควร มันใช้เฟืองแบบแปรผันเมื่อผู้ขับหมุนพวงมาลัย ฟันเฟืองจะขยับใกล้กันเพื่อให้เลี้ยวได้ฉับไวมากยิ่งขึ้น แต่รัศมีวงเลี้ยวยังคงกว้างมากกว่ารถรุ่นเก่า ซึ่งเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์แบบสายพาน พวงมาลัยไฟฟ้าใน S80 ให้ความเฉียบคมในระดับปานกลาง บนความเร็วต่ำ มันมีความเบาสบายแฝงอยู่ และจะหน่วงน้ำหนักให้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่ย่านความเร็วสูง Center of Gravity ที่ลดต่ำลงมากกว่ารุ่นที่ผ่านมายังช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา การใช้เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กแบบ 1.6 ลิตร ทำให้สามารถวางเครื่องยนต์ได้ต่ำมากกว่าเครื่อง 6 สูบรุ่นเก่าที่ใหญ่โตและมีขนาดของความสูงมากกว่า ซึ่งทำให้ผมค่อนข้างชอบอาการที่ออกมาในแนวเป็นกลางของมัน รถ S80 แม้จะมีมิติที่ใหญ่โตและมีมวลมากถึง 1.7 ตัน แต่ขับได้ง่ายดายเหมือนรถเล็กๆ ทั่วไป ส่วนล้อขอบ 16 นิ้วกับยางไซส์ 225/55/R16 ของ Michelin รุ่น Primacy HP เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อความนิ่มนวลจากแก้มยางที่สูง รวมถึงขนาดที่เล็กเพียงแค่ 16 นิ้ว ยังช่วยลดแรงเสียดทานกับพื้นผิวของถนนได้ในระดับหนึ่ง
Volvo S80 1.6 DRIVe ทำตัวได้อย่างกลมกลืนบนเส้นทางพะเนินทุ่ง สถานที่ทดสอบที่ผมชอบนำรถมาวิ่งลองสมรรถนะและเก็บภาพความงดงามของวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ความเงียบสงบและรกร้างว่างเปล่าในบางห้วงเวลา ทำให้รถยนต์ทดสอบหลายคันเค้นเอาสมรรถนะที่แท้จริงออกมาจนหมดสิ้น โดยภาพรวมแล้ว S80 1.6 DRIVe เป็นยนตรกรรมซาลูนที่น่าใช้งาน มันขับขี่ได้คล่องแคล่วว่องไวตรงข้ามกับขนาดที่โตของเรือนร่าง และเครื่องยนต์ที่เล็กกระจิ๋วหลิว ประสิทธิภาพของเครื่องเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,596 ซีซี แรงจนคุณเองก็ยังต้องแปลกใจ กำลังในรูปของแรงบิดมีให้ใช้อย่างพอเพียงสำหรับการเร่งแซงรวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ไม่แตกต่างจากรถยนต์ที่มีเครื่อง 1.6 ลิตรทั่วๆ ไป เพียงแต่รูปลักษณ์มิติของ S80 นั้น ใหญ่โตโอฬารพอๆ กับห้องรับแขกเคลื่อนที่ มันนั่งและขับได้อย่างสบายบนทางยาวๆ เป็นรถยนต์อีกคันที่วิ่งห้อจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ได้โดยที่หลังของคุณไม่แหกไปเสียก่อนจากอาการเมื่อยขบ และเมื่อลงจากรถก็สามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ทันที โดยไม่ต้องไปแวะนวดแผนโบราณให้เสียเงินและเวลา
ระบบส่งกำลัง 6 Speed Power Shift เน้นไปที่เกียร์ 6 ซึ่งเป็นเกียร์ Over-Drive หากขับแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ใช้คันเร่งเท่าที่เหมาะสม โดยมีตำแหน่ง +/- ให้คนขับได้ชิฟเกียร์เองหากนึกมันส์ขึ้นมาหรือต้องวิ่งขึ้นลงทางลาดชันผ่านหุบเขา การตัดต่ออัตราทดนิ่มนวลไร้รอยต่อและไหลลื่นว่องไวใช้ได้ การเก็บเสียงทำได้ดี แต่ยังคงเป็นรองคู่แข่งอยู่บ้างเล็กๆ จากเสียงของยางที่เริ่มดังเข้ามาให้พอได้ยินเบาๆ ในช่วง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนที่ความเร็วต่ำกว่านั้นเงียบสนิทจนน่าชมเชย อุปกรณ์และระบบความปลอดภัยที่ให้มาถือว่าสมควรแก่ราคาค่าตัว เมื่อต้องควักกระเป๋า 2.5 ล้าน คุณจะได้รถยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวางสมบูรณ์แบบ กับการขับขี่ที่ง่ายดายราวกับเป็นรถยนต์เล็กที่มีเครื่องยนต์แรงพอตัว รวมถึงมุมมองของคนภายนอกที่มองว่าคุณเป็นผู้บริหารระดับสูงที่รอบคอบในเรื่องของความปลอดภัยยามเดินทาง ลองไปขับทดสอบตามโชว์รูมของ Volvo ดูว่า ยนตรกรรมจากสวีเดนรุ่นนี้จะเหมาะกับบุคลิกและการใช้ชีวิตของคุณหรือเปล่า
ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล จากคอลัมน์
Man & Machine