ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Honda Jazz Hybrid เทคโนโลยีพลังไฮบริดที่เอื้อมถึง

icon 21 พ.ย. 56 icon 83,471
รีวิว Honda Jazz Hybrid เทคโนโลยีพลังไฮบริดที่เอื้อมถึง
HONDA JAZZ HYBRID
ทดสอบยานยนต์ของคนเมืองขนาดกะทัดรัด Honda Jazz Hybrid กับการรีวิวรูปลักษณ์ตัวถังภายนอก ภายใน อุปกรณ์เสริม ระบบขับเคลื่อนแบบผสม Hybrid IMA เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า
หลังจากประกาศว่าจะลดการปล่อย CO2 และลดการใช้พลังงานตามวิสัยทัศน์ที่แถลงต่อสื่อมวลชนในปี 2010 ล่าสุด ค่าย Honda Automobile (Thailand) co.,Ltd. ปล่อยรถใหม่ถึง 10 รุ่นออกทำตลาดในปี 2012 เริ่มต้นด้วย Honda Civic รุ่นล่าสุดที่สามารถเติมเชื้อเพลิง E85 ในเดือนพฤษภาคม ต่อมาในเดือนกรกฎาคม เปิดตัว Honda Jazz เครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid IMA รุ่นแรกและนับเป็นรถ Hybrid ขนาดเล็กคันแรกที่ขายในประเทศไทย เดือนสิงหาคม Honda เปิดตัวรถ City CNG ซึ่งเป็นรถ CNG รุ่นแรกของ Honda Automobile รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงและแก๊สธรรมชาติ CNG โดยมีมาตรฐานการปล่อย CO2 ในระดับ EURO4 สำหรับเดือนกันยายนที่ผ่านมา Honda Automobile ก็ได้ทำการแนะนำรถ Crossover โมเดลล่าสุดในตระกูล CRV ยนตรกรรมอเนกประสงค์แบบ 5 ประตูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับเชื้อเพลิง E85 นับเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายแรกในประเทศไทยที่มีรถยนต์พลังงานทางเลือกที่หลากหลาย



ระบบ Hybrid แบบมอเตอร์เดี่ยวที่มีน้ำหนักเบาของ Honda กำลังถูกพัฒนาและปรับปรุงให้รถไฟฟ้า EV Car ของ Honda สามารถเพิ่มระยะทางการวิ่งได้มากกว่าในปัจจุบัน การพัฒนาควบคู่กันไปทั้งชุดมอเตอร์ให้กำลังกับแบตเตอรี่ที่กักเก็บกระแสไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาระบบส่งกำลังแบบ CVT ที่ทำงานประสานไปกับมอเตอร์เพื่อการขับเคลื่อนที่ประหยัดและสะอาด ระบบเกียร์แบบใหม่กำลังจะเข้ามาแทนที่ พร้อมๆ ไปกับการสร้างรถ Hybrid ที่ทรงประสิทธิภาพ เช่น CRZ / Insight / Jazz-Fit Hybrid / Civic Hybrid / Accord Hybrid ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยานยนต์แบบใหม่ที่กำลังออกวางจำหน่ายทั้งในเอเชีย ยุโรปและอเมริกา นับเป็นแนวทางของการเติบโตไปบนเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของวงการยนตรกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มุ่งไปในทิศทางอนุรักษ์พลังงาน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความต้องการเคลื่อนที่เดินทางของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน รถยนต์ Hybrid ของ Honda กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความสำคัญในตลาดรถยนต์ของประเทศไทย



Honda เปิดตัว Jazz Hybrid ในประเทศไทยช้ากว่าตลาดต่างประเทศเกือบ 1 ปี ด้วยราคา 7.6 แสนบาท ทำให้มันกลายเป็นยนตรกรรมซับคอมแพ็กต์ขนาดเล็กแบบ 5 ประตูคันแรกที่มีเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับ Jazz Hybrid ถูกเปิดตัวในช่วงอายุของ Jazz รุ่นเครื่องยนต์ปกติเดินทางมาถึงช่วงกลางรุ่นพอดิบพอดี รูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายคลึงกับ Jazz รุ่นธรรมดา แต่มีกันชนหน้าหรือสปอยเลอร์ที่ออกแบบให้ลู่ลมมากยิ่งขึ้น กันชนหน้ามีช่องรับอากาศที่อยู่ตรงกับตำแหน่งของการติดตั้งป้ายทะเบียน กระจังหน้าสีเงินแทนที่สีดำในรุ่นปกติ ไฟหน้าคล้ายคลึงกับรุ่นทั่วไปแต่มีรายละเอียดภายในที่แปลกแยกออกไปเล็กน้อย รวมถึงไฟท้ายเลนพลาสติกโพลิเมอร์ใสกับหลอดไฟท้ายแบบ LED สัญลักษณ์ Hybrid สีน้ำเงินบ่งบอกถึงตัวตนของความเป็นยานยนต์คนเมืองที่เน้นประสิทธิภาพความ ประหยัด โดยมีแบตเตอรี่ที่ให้พลังงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าน้ำหนัก 70 กิโลกรัมวางอยู่ส่วนล่างสุดของที่เก็บของใต้ฝาท้าย พื้นที่เก็บสัมภาระมีปริมาตรความจุ 300 ลิตร เล็กกว่า Honda Jazz รุ่นปกตินิดหน่อย 



Honda Jazz Hybrid เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้รถยนต์ของคนเมือง มาพร้อมกับ Concept เรียบล้ำสมัย แตกต่างด้วยชุดกระจังหน้า ไฟหน้า และไฟท้ายเลนส์ขาวแบบหลอด LED อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ห้องโดยสารล้ำอนาคตด้วยเทคโนโลยี ECO Assist ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน มาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิง มีให้เลือก 4 สี เช่น สีขาวบริลเลียนที สีเงินอลาบาสเตอร์ สีเขียวแฟลชไลม์และสีฟ้าเซรูเลียน ภายในตกแต่งด้วยเบาะสีดำและสีน้ำเงินเข้ม คิ้วโครเมียมที่ฝาท้ายทำจากพลาสติกชุบโครเมียมสีเงิน กับแถบสะท้อนแสงขนาดเล็กข้างมุมด้านล่างของสปอยเลอร์หลัง ด้านข้างของ Jazz Hybrid เรียบลื่นไร้คิ้วขอบใดๆ ทั้งสิ้น มือจับประตูสีเดียวกับตัวถังยังช่วยให้มุมมองด้านข้างมีความกลมกลืน ล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ทำจากอัลลอยปั๊มขึ้นรูป ห่อรัดด้วยยางลดแรงต้านทานผิวถนน Michelin รุ่น Energy MX1 ขนาด 175/65/R15 เป็นยางหน้าแคบที่เน้นลดแรงเสียดทานและช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงโดยยังคงสมรรถนะของการยึดเกาะเอาไว้เหมือนเดิม ส่วนกระจกมองข้างไม่มีเลนส์ไฟเลี้ยวมาให้เหมือนรุ่นอื่นๆ




ภายในห้องโดยสารยังคงกลิ่นอายของรถเล็กยอดนิยมเอาไว้อย่างครบถ้วน และเหมือนกับ Jazz รุ่นเครื่องยนต์ปกติ ที่ไม่เหมือนคือหน้าปัดมาตรวัดซึ่งมีรูปแบบแตกต่างออกไป พลาสติกคอนโซลแบบปั๊มขึ้นรูป ดีไซน์ให้มีขนาดที่ใหญ่โตขึ้นตามสไตล์ของรถ Honda ในยุคใหม่ ทั้ง Civic / City / CRV ต่างมีคอนโซลที่ใหญ่โตราวกับเคาน์เตอร์บาร์ ชิ้นงานพลาสติกถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วนด้วยการใช้โทนสีดำและเงิน ในส่วนของคอนโซลกลางที่ติดตั้งชุดเครื่องเสียงแบบบิวต์อิน สวิตช์ปรับอุณหภูมิและระดับความแรงของพัดลมภายในห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติมีจอทรงกลมสีฟ้าแจ้งระดับของอุณหภูมิภายใน ปุ่มละลายฝ้าที่กระจกฝาท้าย ปุ่มควบคุมอากาศหมุนเวียนภายในห้องโดยสาร ที่วางแก้วน้ำและช่องเสียบเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอกแบบ AUX-USB



วงพวงมาลัยแบบสามก้านติดตั้งสวิตช์ควบคุมและเลือกเพลง สวิตช์ปรับหน้าจอในระบบ MID Multi Information Display รถ Jazz Hybrid เน้นพื้นที่การใช้งานที่หลากหลายแม้จะเป็นยนตรกรรมขนาดเล็ก เบาะนั่งของผู้โดยสารตอนหลังใน Jazz Hybrid เป็นแบบอัลตร้าซีท สามารถปรับเปลี่ยนด้วยการพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ รูปแบบของการพับเบาะถูกออกแบบให้สามารถพับได้ถึง 3 ระดับคือ Utility Mode พับเก็บเบาะด้านหลังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บด้านท้าย / Long Mode พับเบาะด้านหน้าและหลังบริเวณผู้โดยสารตอนหน้าและเบาะหลังเพิ่มพื้นที่ในแนวยาว / Tall Mode ปรับพับเบาะหลังเพื่อวางสัมภาระทรงสูง



หน้าปัดมาตรวัดแบบเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID Multi Information Display กับรายละเอียดของโหมดต่างๆ ที่แสดงผ่านหน้าจอขนาดเล็กที่ให้ความคมชัดและอ่านค่าได้ง่าย ทั้งโหมด ECON แสดงสัญลักษณ์รูปดอกไม้หากผู้ขับใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง / แจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 1 ลิตรต่อกิโลเมตร /อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร /น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือในถังกับระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง /ทริปมิเตอร์ / การถ่ายเทพลังงานระหว่างเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ปุ่ม ECON สีเขียวที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะเข้าไปช่วยให้การใช้คันเร่งมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเกียร์ CVT ให้ทำงานโดยใช้พลังงานอย่างจำกัดและมีความสัมพันธ์กันขณะขับเคลื่อน




นอกจากนั้นในโหมด ECON ระบบจะปรับการทำงานของชุดควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสารให้มีความเหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอก ช่วยควบคุมเครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โหมด Auto Start-Stop จะดับเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติทันทีที่ผู้ขับเหยียบแป้นเบรกจนรถหยุดสนิท และจะติดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อถอนเท้าออกจากแป้นเบรกหรือเซ็นเซอร์ของระบบปรับอากาศคำนวณว่าอุณหภูมิภายในห้องโดยสารกำลังสูงขึ้น (โหมด Auto Start-Stop จะตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ลงด้วย แต่ยังคงใช้พัดลมภายในห้องโดยสารได้ตามปกติ) ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็นและลดการปล่อย CO2



เครื่องยนต์ของ Honda Jazz Hybrid เป็นเครื่องยนต์แถวเรียง 4 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 1.3 ลิตร หรือ 1,339 ซีซี 16 วาล์ว iVTEC ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 89 ปอนด์-ฟุตที่ 4,500 รอบต่อนาที บวกมอเตอร์ไฟฟ้า IMA กำลัง 14 แรงม้า กับแรงบิดอีก 58 ปอนด์-ฟุต รวมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้แรงม้า 102 ตัว แรงบิดรอบต่ำเกิดขึ้นตั้งแต่ 1,000 รอบต่อนาทีทำให้เป็นรถยนต์ที่ออกตัวได้อย่างรวดเร็ว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 12.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบสายพาน CVT ชุดควบคุม IPU มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา จัดวางไว้ในบริเวณพื้นที่ของห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายของรถ ส่วนรูปแบบของห้องโดยสารและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ยังคงคล้ายกับ Jazz รุ่นปกติ เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร 88 แรงม้า เมื่อทำงานผสานไปกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 14 แรงม้า ที่ 1,500 รอบต่อนาทีเพียงพอและตอบสนองต่อการขับขี่ทั้งการเดินทางในเมืองหรือการขับทางไกลได้ดี เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังในรูปของแรงบิดสูงสุด 78 นิวตันเมตร ที่ 1,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์จะรับหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนและเสริมแรงด้วยพลังงานจาก มอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการออกตัวรวมถึงการเร่งแซง เมื่อผู้ขับขับขี่ด้วยความเร็วต่ำแบบการใช้งานภายในเมือง เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานและเข้าสู่โหมด EV โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามารับหน้าที่ในการขับเคลื่อนแทนขณะที่เครื่องยนต์เข้าสู่โหมด EV จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาแม้แต่น้อย การลดความเร็วหรือเบรกเครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน ระบบจะนำพลังงานความร้อนขณะเบรกแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับคืนไปเก็บยังแบตเตอรี่ Hybrid เพื่อกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้งานต่อไป และเมื่อทำการหยุดรถ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติโดยจะเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยลดมลพิษ เทคโนโลยี Hybrid ของ Honda Jazz ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 19 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 110 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร



ระบบ Hybrid IMA ของ Honda ผสมผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ขนาดกะทัดรัดและเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง CVT Continuously Variable Transmission ในช่วงออกตัวเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนและเสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วงการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานและเข้าสู่โหมด EV-Electric Vehicle Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่ขับเคลื่อนแต่เพียงอย่างเดียว (ที่ความเร็วต่ำและระยะทางประมาณ 1-3 กิโลเมตร) ช่วงเร่งแซง มอเตอร์ไฟฟ้าจะผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ ในระหว่างการเบรก ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปขณะเบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วส่งไปเก็บยังแบตเตอรี่ Hybrid เพื่อกักเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อรถหยุดนิ่ง เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะปรับตัวเองเข้าสู่โหมด Auto Start-Stop โดยหยุดทำงานทันทีแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ




เช่นเดียวกันกับภายในของ Honda CRZ ซึ่งเป็นยนตรกรรมแบบสปอร์ตเครื่องยนต์ Hybrid มาตรวัดของ Honda Jazz Hybrid จะเปลี่ยนมาเป็นสีเขียวทันทีที่ผู้ขับใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง และจะเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำเงินทันทีที่กดคันเร่งเพื่อแซงหรือต้องการใช้ความเร็ว จอแสดงผล Multi Information Display จะแสดงรูปสัญลักษณ์ดอกไม้หากขับแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ โดยไม่กระโชกโฮกฮากกับคันเร่งไฟฟ้า รวมถึงรูปดอกไม้ที่หายไปทีละดอกหากกดคันเร่งกันแบบไม่บันยะบันยัง แม้มันจะมีเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนกันกับรุ่น Insight แต่รถ Jazz Hybrid ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป มันทำตัวได้เหมาะสมกับการเป็นรถยนต์ของคนเมือง ระบบเกียร์ CVT และพวงมาลัยไฟฟ้าน้ำหนักเบาช่วยให้การขับขี่ง่ายดายกว่ารถเล็กหลายรุ่น โครงสร้างตัวถัง G-CON พร้อมถุงลมนิรภัย Dual SRS Airbag และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS พร้อมด้วยกลไกการกระจายแรงเบรก EBD รถ Jazz Hybrid รับประกันระบบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ Hybrid และระบบสายไฟของ Hybrid System โดยรับประกันทั้งระบบเป็นระยะเวลานาน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทางของการใช้งาน
การทดสอบยานยนต์ประหยัดพลังงานเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า Honda Jazz Hybrid สมรรถนะ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 88 แรงม้าบวกพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 14 แรงม้า บนระบบขับเคลื่อนแบบสะอาด Honda Hybrid IMA


ภายในของ Jazz Hybrid แทบไม่แตกต่างไปจากรุ่นเครื่องยนต์ปกติในรุ่น V มีเพียงหน้าปัดมาตรวัดกับสีสันที่แปรเปลี่ยนไปเพื่อให้เจ้าของได้รับรู้ว่า กำลังขับรถ Jazz เครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า หน้าปัด MID ยังทำหน้าที่แจ้งเตือนตำแหน่งการเปิดปิดประตู เข็มขัดนิรภัย อุณหภูมิภายนอก ระยะทางต่อเชื้อเพลิงในถังที่สามารถไปถึง ระบบชาร์จและถ่ายเทพลังงานของการขับเคลื่ิอนทั้งจากเครื่องยนต์และจาก มอเตอร์ไฟฟ้า (ซึ่งทำงานน้อยไปสักนิด) รวมถึงการแจ้งเตือนระดับของการขับขี่ในโหมด ECON เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้คันเร่งได้อย่างถูกต้องและประหยัดเชื้อเพลิงอย่างสูงสุดเท่าที่ระบบ Hybrid IMA จะสามารถทำได้ ตำแหน่งท่านั่งที่สูงโด่งคล้ายการควบคุม MINI MPV แม้จะทำให้ทัศน์วิสัยของการมองเห็นกว้างขึ้น แต่ผมอยากได้เบาะที่ปรับระดับให้เตี้ยลงมากกว่านี้ เพื่อการควบคุมที่ดีและลดแรงเหวี่ยงเมื่อต้องขับเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็ว ที่มากกว่าการใช้งานในชีวิตประจำวัน



การขับขี่ใช้งานภายในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ขนาดที่ีกะทัดรัดของ Jazz Hybrid กับแรงบิดรอบต่ำของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ฝังตัวเองอยู่ในชุดเกียร์มีความกระฉับกระเฉงแม้จะมีขนาดของเครื่องยนต์เพียง 1.3 ลิตร 88 แรงม้า แต่มีมอเตอร์เข้ามาเสริมในด้านของแรงบิด ทำให้การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งค่อนข้างว่องไวทันอกทันใจเกือบเท่ารุ่น เครื่องยนต์ปกติขนาด 1.5 ลิตร มอเตอร์ Hybrid IMA กำลัง 14 แรงม้า ช่วยทำให้เจ้ารถเล็กคันนี้มีเรี่ยวแรงที่เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนัก ช่วงติดสัญญาณไฟ เครื่องยนต์จะเข้าสู่โหมด Auto Start-Stop โดยเซ็นเซอร์จะสั่งงานไปที่ระบบดังกล่าวเพื่อดับเครื่องยนต์ทันทีที่ตัวรถ หยุดสนิท แม้จะทำงานบ้างไม่ทำงานบ้างแล้วแต่การสั่งงานของ Idling Stop และมีช่วงเวลาดับเครื่องยนต์นานแค่ 1 นาทีเศษ แต่มันได้เข้ามาช่วยในเรื่องของการลดมลพิษในอากาศได้ตามที่ Honda ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ปี 2010 วิศวกรของ Honda แจ้งว่า สำหรับประเทศไทยเป็นเมืองเขตร้อน ระบบ Idling Stop จะทำงานเท่าที่จำเป็น เนื่องจากระบบนี้ เมื่อทำงานจะตัดการทำงานของคอมแอร์โดยเหลือเพียงแค่พัดลมแอร์ในห้องโดยสาร หากเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายนอกตรวจพบว่ามีอากาศร้อนจัด Idling Stop จะทำงานเท่าที่จำเป็นคงความเย็นในห้องโดยสารเอาไว้สำหรับความสะดวกสบายของ ผู้โดยสารในระหว่างการเดินทาง



สภาพการจราจรที่หนาแน่นและพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดในการจอดรถของเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร ทำให้การขับขี่ใช้งานรถเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz Hybrid มีความลงตัวใช้ได้ ขนาดที่สั้นแต่มีความกว้างของห้องโดยสารที่ถูกออกแบบให้มีพื้นที่เหนือศีรษะ มากกว่าปกติ ทำให้การขับขี่ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนรถเล็กบางยี่ห้อ ระบบส่งกำลังแบบ CVT แปรผันไปตามความเร็ว มันค่อนข้างนุ่มนวล ไหลลื่นแต่ออกจะน่าเบื่ออยู่บ้างในบ้างเวลาที่ต้องการทำความเร็ว เมื่อกดคันเร่งลงลึกสุด ระบบเกียร์ CVT จะตอบสนองอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสมองกลเกียร์ที่จะแปรผันไปตามระดับความเร็ว อัตราเร่งแบบไหลเรื่อยๆ ของคันเร่งไฟฟ้าในโหมดประหยัดถูกออกแบบให้มีความเหมาะสมกับประสิทธิภาพในการแสดงตัวตนว่าเป็นยนตรกรรมประหยัดพลังงาน แม้มอเตอร์จะทำงานได้ไม่นานนักจากขนาดที่กะทัดรัดของชุดแบตฯ แต่ความประหยัดจะเกิดขึ้นทันทีที่คุณใช้คันเร่งของมันอย่างทะนุถนอมในโหมด ECON ระบบจะเข้ามาหน่วงคันเร่งไฟฟ้าไม่ให้ว่องไวตอบสนองต่อการกดรวดเร็วจนเกินไป รวมถึงเกียร์ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความเร็ว และเมื่อขับด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบ Hybrid IMA จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทันที แม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่เครื่องยนต์จะเข้ามาสานต่อ แต่การประสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายในเกียร์ CVT ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงหรูหรากว่า Honda Jazz รุ่น 1.5 ลิตรอยู่พอสมควร 



หลังจากวิ่งใช้งานในเมืองมานานหลายวัน ในช่วงใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมนำเจ้า Jazz Hybrid สีฟ้าสดใสออกวิ่งทางไกลเป็นครั้งแรกโดยใช้เส้นทางวงแหวนตะวันออกที่เชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษฉลองรัช ผ่านวังน้อย แล้วเลี้ยวขวาขึ้นสะพานต่างระดับไปยังเส้นบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรีต่อ เชื่อมกับถนนมิตรภาพ มุ่งสู่มวกเหล็ก เขาใหญ่ เพื่อร่วมทดสอบ Honda Brio Amaze อีโคคาร์รุ่นสี่ประตูที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์ในปี 2012 ของ Honda ถึง 10 รุ่นภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อวิ่งบนทางไฮเวย์และคอยควบคุมคันเร่งไม่ให้มากจนเกินไป อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Jazz Hybrid จะอยู่ที่ 16-18 กิโลเมตรต่อลิตรที่ความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากใช้ความเร็วเดินทางอย่างต่อเนื่องที่ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้น การเร่งแซงรถช้าโดยกดคันเร่งจนมิด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่ผสานกำลังในรูปของแรงบิดอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผมขับโดยใช้ความเร็วต่ำไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาขับเคลื่อนโดยเข้าสู่โหมด EV อย่างที่กล่าวว่ามอเตอร์ของ Jazz Hybrid ทำงานสั้นๆ และได้ระยะไม่มากเท่า Prius ซึ่งเกิดจากขนาดของเครื่องยนต์ ระบบมอเตอร์เสริมแรงและแบตเตอรี่มีขนาดที่เล็กกว่า รวมถึงราคาของเจ้า Jazz Hybrid ก็ยังถูกกว่ากันอยู่มาก ส่วนยางลดแรงต้านทานของ Michelin รุ่น Energy MX1 ขนาด 175/65/R15 84T ที่ความเร็วต่ำให้การยึดเกาะในระดับที่ปกติ แต่หากใส่กันในโค้งแรงๆ แล้วยางหน้าแคบจะออกอาการอยู่บ้าง ทั้งเสียงของขอบแก้มยางที่ส่งออกมาเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ รวมถึงอาการแปลกๆ ช่วงกลางโค้งหากขับแบบรุนแรง จากขนาดของยางที่ต้องการความประหยัดเมื่อออกแบบมาสำหรับรถประหยัดพลังงาน มากกว่าจะเอามาวิ่งที่ย่านความเร็วสูงกันบ่อยๆ ส่วนการเปลี่ยนล้อและยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะส่งผลให้การยึดเกาะดีขึ้น แต่อัตราสิ้นเปลืองก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้



ช่วงล่างที่แทบไม่แตกต่างไปจาก Honda Jazz รุ่นปกติให้ความรู้สึกมั่นคงใช้ได้ แต่หากวิ่งเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องระวังเรื่องของการเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน เนื่องจากขนาดของหน้ายางที่เล็กและแคบเพียงแค่ 175 ยาง Michelin รุ่น Energy MX1 นั้นเหมาะกับรถเล็กที่เน้นวิ่งแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆมากกว่าจะใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกหลอกๆ อยู่พอสมควรสำหรับเจ้าของรถหน้าใหม่ที่ เพิ่งจะถอย Jazz Hybrid ออกมาใช้งาน และคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับความรู้สึกของพวงมาลัยอยู่บ้าง น้ำหนักที่ตำแหน่งกึ่งกลางหน่วงมาหนักมือใช้ได้ แต่ระยะฟรีก็ยังมีอยู่บ้างซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร ที่ความเร็วต่ำมันค่อนข้างคล่องแคล่วสำหรับการถอยเข้าออก แต่การวิ่งทำความเร็วทางตรง พวงมาลัยของมันจะออกอาการขืนเล็กน้อยคล้ายพวงมาลัยของ MINI Cooper สำหรับการเก็บเสียงนั้นทำได้ตามราคาค่าตัว ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร เสียงลมปะทะจะดังเข้ามาให้ได้ยินอยู่บ้าง ขนาดที่เล็กและการเลือกใช้วัสดุที่ไม่แพงมากทำให้การซับเสียงอยู่ในระดับปกติไม่ได้โด่ดเด่นอะไร เครื่องเสียงมีลำโพงคุณภาพปานกลางและให้ความคมชัดที่ดี เล่นได้ทั้ง CD /MP3 / AUX / USB โดยสามารถกดสั่งงานบนปุ่มที่พวงมาลัย ปุ่ม i Control ที่ด้านขวาใช้ควบคุมจอ MID ที่เป็นจอข้อมูลของระบบต่างๆ



การทำงานของระบบ Hybrid IMA หรือ Integrated Motor Assist ในรถ Jazz Hybrid คล้ายคลึงกับรถ CRZ แต่มีเรี่ยวแรงน้อยลงมาตามสัดส่วนของการออกแบบระบบขับเคลื่อน ในช่วงของการออกตัว เครื่องยนต์จะเข้ามารับหน้าที่หลักในการสร้างแรงบิดและเสริมกำลังด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่ง เมื่อผมกดปุ่มโหมดประหยัดหรือ ECON Eco Assist (Ecological Drive Assist System) คันเร่งจะยืดหยุ่นการทำงานโดยลดความฉับไวลงเล็กน้อยเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงการขับขี่ที่ย่านความเร็วต่ำนั้น เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานลงชั่วครู่และเข้าสู่โหมด EV หรือ Electric Vehicle Mode แบบอัตโนมัติ (ที่ระดับความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งติดตั้งอยู่ในชุดเกียร์ CVT จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ส่วนช่วงของการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า หรือการออกตัวแบบฉับพลันทันที เมื่อผมกดคันเร่งไฟฟ้า Drive By Wire มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ Hybrid IMA จะเข้ามาทำงานพร้อมๆ ไปกับเครื่องยนต์ เพื่อสร้างแรงบิดสูงสุดสำหรับการเร่งความเร็วหรือแซง สำหรับการเบรก เมื่อรถหยุดสนิทนิ่ง เครื่องยนต์จะเข้าสู่โหมด Auto Start-Stop และหยุดการทำงานลง ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปขณะเบรกมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วส่งกลับคืนไปเก็บยังแบตเตอรี่ท้ายรถเพื่อนำพลังงานมาใช้ต่อไป ระบบ Idling Stop จะหยุดการทำงานของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าลงเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อย CO2 โดยที่คอมเพรสเซอร์ของระบบทำความเย็นจะหยุดทำงานไปด้วย เหลือเพียงแค่พัดลมในห้องโดยสารที่ยังคงทำงานอยู่ สำหรับระบบ Auto Start-Stop หรือ Idling Stop ใน Jazz Hybrid บางครั้งจะสั่งให้เครื่องยนต์ไม่ดับลงเนื่องจากแบตเตอรี่มีประจุกระแสไฟไม่พอ รวมถึงหากอุณหภูมิภายนอกสูงมากจนเกินไป ระบบจะสั่งให้เครื่องยนต์ติดตลอดอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องโดยสารในวันที่มีอากาศร้อนจัด


ระบบ Hybrid IMA ของ Honda แม้จะไม่มีประสิทธิภาพเท่า Toyota Prius แต่มีรูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายกว่ามาก มีความซับซ้อนก็น้อยกว่าและมีชิ้นส่วนเท่าที่จำเป็น หากใช้งานโดยคำนึงถึงการใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง ความประหยัดก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่า Jazz เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับการตอบสนองนั้น รถ Jazz Hybrid ให้ความคล่องตัวในระดับที่น่าพอใจ อัตราเร่งเมื่อเครื่องยนต์ทำงานควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้ามาเร็วและมีความต่อเนื่องดี ธรรมชาติของรถยนต์แบบ Hybrid นั้น เน้นการขับขี่แบบไม่รีบเร่ง ซึ่งสอดรับกับการออกแบบระบบส่งกำลัง CVT ที่มอบความนิ่มนวลในการปรับเปลี่ยนอัตราทด โดยภาพรวมแล้ว Honda Jazz Hybrid จะให้ความประหยัดหากผู้ขับใช้รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากจนเกินไป ระบบส่งกำลังแบบสายพานยังออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์และมอเตอร์ได้ดี ช่วงล่างให้ความมั่นใจที่ความเร็วไม่เกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนห้องโดยสารนั้นเป็นจุดเด่นของรถเล็กรุ่นนี้อยู่แล้วจากการออกแบบพื้นที่ ของการวางเท้า พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่สำหรับการขนสัมภาระ วัสดุและอุปกรณ์อยู่ในระดับรถยนต์ราคา 7.6 แสนบาททั่วไป หากซื้อไปใช้ขับในเมืองซึ่งมีสภาพการจราจรหนาแน่น ความคล่องตัวจากขนาดที่กะทัดรัดรวมถึงระบบขับเคลื่อน Hybrid IMA ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่าเครื่องยนต์แบบปกติ จะช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมืองมีความสะดวกสบายกระเป๋าขึ้นมาอีกเล็กน้อย เมื่อไม่ต้องวิ่งเข้าออกปั๊มน้ำมันกันบ่อยนัก


ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล จากคอลัมน์ Man & Machine
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)