สำหรับ
Mercedes-Benz ในงาน
Bangkok International Motor Show 2025 หรือ
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จะได้พบกับทัพยนตรกรรมอันเหนือระดับ พร้อม 3 ยนตรกรรมเพื่อนใหม่จาก
Mercedes-AMG ที่มาเผยโฉมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก นำโดย
Mercedes-AMG G 63 เจ้าของตำแหน่งพี่ใหญ่แห่งเส้นทาง Off-Road มาพร้อมส่วนผสมที่ลงตัวทั้งความแข็งแกร่ง สมรรถนะที่ทรงพลัง และเอกลักษณ์เฉพาะที่เหนือกาลเวลา โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร ที่ออกแบบโดย AMG และเกียร์แบบใหม่ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-SPEED SPORTS TRANSMISSION พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและแม่นยำ
มอบพละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.5 วินาที พร้อมยกระดับสมรรถนะด้วยระบบ Mild Hybrid ที่ผสานการทำงานเข้ากับพื้นฐานเครื่องยนต์ V8 ภายใต้แนวคิด "One Man, One Engine" เสริมพลังการออกตัวที่เฉียบคม และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Mercedes-AMG G 63 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 18,800,000 บาท Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ ยนตรกรรมที่ผสานเสน่ห์ของยนตรกรรมเปิดประทุนสุดหรูรถยนต์กับความเป็นที่สุดในทุกด้านจาก Mercedes-AMG มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังในแบบฉบับ AMG ประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแบบ “One Man, One Engine”
ด้วยเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo มอบพละกำลังสูงสุด 476 แรงม้าที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ แบบ all-wheel drive ซึ่งถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่บนถนนปกติและในสนามแข่ง
Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 14,900,000 บาท Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ ยนตรกรรมตระกูล GT เจเนอเรชันที่ 2 ของแบรนด์ Mercedes-AMG ครั้งนี้กลับมาเปิดตัวในประเทศไทยด้วยรหัสตัวถัง C192 ออกแบบภายใต้แนวคิด “One Man, One Engine” ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo และติดตั้งในตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์แบบ hot inside “V” ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างพละกำลังได้สูงถึง 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตันเมตร
ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยรถรุ่นนี้ได้ถูกปรับแต่งระบบควบคุมเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการควบคุมระบบอัดอากาศให้เหมาะสมตามการขับขี่ และตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยลายเซ็นของผู้ประกอบที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของ AMG
Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 15,900,000 บาท โดยในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินหน้าต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และกลุ่มลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการทำการตลาดที่มีความหมายผ่านการเชิญชวนคนที่มี Passion for Benz มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ “Friend with Benz”
VIDEO
ในการถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก และประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ ในแบบฉบับของตัวเอง และยังมาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษอย่าง Friend get Friend เพียงชวนเพื่อนมาซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่งาน Motor Show 2025 หรือที่ตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษที่มีเฉพาะในช่วงเวลานี้ทันที พร้อมเปิดมาตรฐานใหม่ด้วย MANUFAKTUR Exclusive โปรแกรมปรับแต่งรถยนต์ที่เข้ามารองรับกลุ่มลูกค้าระดับ Top-End Luxury ให้สามารถร่วมออกแบบรถยนต์ของตัวเองได้อย่างอิสระ ภายใต้คอนเซปต์ “MADE TO MEASURE” ครอบคลุมทั้งโมเดล S-Class ไปจนถึงไลน์อัพระดับ Flagship ของแบรนด์ Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสีตัวถังเพิ่มเติมได้มากขึ้นถึง 50 แบบ และ ออปชันสีภายในอีกกว่า 20 แบบ รวมถึงแพ็กเกจ MANUFAKTUR optional extra ที่ให้คุณตกแต่งรถยนต์รอบคันทั้งภายในและภายนอกได้ตามที่ต้องการ พบกันที่บูธ Mercedes-Benz หมายเลข A17 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี หรือที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568