นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market” ในการมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามรถของผู้จำหน่ายรถยนต์ให้สามารถแข่งขันกับตลาดได้อย่างแข็งแรงในอนาคต ผ่านการยกระดับงานบริการรูปแบบใหม่ในทุกด้าน เน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ ซึ่งมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง
โดยหนึ่งในแผนงานสำคัญจากแคมเปญ SUZUKI WORRY FREE คือการร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน เพื่อรองรับงานบริการได้อย่างครบครัน ซึ่งได้มีการแนะนำศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปแล้วจำนวน 32 แห่ง เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าซูซูกิ คือ คนสำคัญ จึงทำการเดินหน้าแผนงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ด้วยการเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง ให้สามารถรองรับการดูแลลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานของซูซูกิอย่างแท้จริง
นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีฯ ซูซูกิยังยกระดับไปอีกขั้นด้วยงานบริการแบบ S-Solution ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะนำมาจำหน่ายในอนาคต โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน
“การสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะอยู่ดูแลลูกค้าต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ การสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ผู้จำหน่ายไม่เพียงจะเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ แต่ยังต้องการพัฒนาและยกระดับให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทยอีกด้วย”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับเป็นความภูมิใจและน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เราสามารถร่วมมือร่วมใจกับผู้จำหน่ายในการพัฒนาและเดินหน้าการยกระดับงานบริการให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซูซูกิได้ร่วมกับผู้จำหน่ายในพิธีแต่งตั้งศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิอย่างเป็นทางการ จำนวน 5 ราย แบ่งออกเป็น 7 สาขา ครอบคลุมพื้นที่บริการในหลายจังหวัดมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- บริษัท เอ็น ซี เอ็ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด จ.นนทบุรี
- บริษัท มาพรพาณิชย์ จำกัด (สาขาระยอง) จ.ระยอง
- บริษัท ซูซูกิลพบุรี จำกัด จ.ลพบุรี
- บริษัท อินเตอร์เทรด ซูซูกิ จำกัด จ.สิงห์บุรี
- บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สำนักงานใหญ่) จ.ขอนแก่น
- บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สาขาเมืองขอนแก่น) จ.ขอนแก่น
- บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สาขาชุมแพ) จ.ขอนแก่น
โดยผู้จำหน่ายทั้ง 5 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันเราจึงมีศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีที่ให้บริการทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 39 สาขา ซึ่ง 5 จุดแข็งอันสำคัญที่ทุกศูนย์บริการที่ผ่านมาตรฐานต้องมี ประกอบด้วย
- อะไหล่แท้ซูซูกิ : เชื่อมั่นในคุณภาพของอะไหล่แท้ที่ได้รับรองมาตรฐานของซูซูกิ
- บริการอย่างมืออาชีพ : มั่นใจในบริการและการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเป็นมิตรและใส่ใจทุกรายละเอียดการซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ซูซูกิ
- เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิ : ใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ ช่วยให้การซ่อมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมั่นใจในคุณภาพงานซ่อม
- สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐานซูซูกิ : ใช้สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ ทำให้สีรถสวยงามและทนทาน เหมือนใหม่จากโรงงาน
- การรับประกันงานซ่อม : รับประกันงานซ่อมว่ามีคุณภาพและมาตรฐานสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยจะรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
นายวัลลภ ยังกล่าวอีกว่า ซูซูกิยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มเติมให้เป็น 50 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2568 เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของซูซูกิและรองรับลูกค้าพร้อมส่งมอบบริการและประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบครันอีกด้วย
นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ งานบริการด้านอื่นๆ ยังถูกยกระดับเพิ่มเติมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ปรัชญา SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ นอกจากเป็นแนวทางในการยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและคนไทยทุกท่าน ว่านอกเหนือจากที่ซูซูกิเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์แล้ว เรายังหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย