Nissan GT-R รถในตำนานของนิสสัน รุ่นต่อไปเตรียมใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ จะมาพร้อมแบตเตอรี่
Solid-State ซึ่งนิสสันระบุว่าจะช่วยให้ GT-R มีสมรรถนะที่เหนือกว่าเดิม
Nissan Hyper Force EV concept คือ GT-R รุ่นต่อไป?
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Nissan เปิดตัว Hyper Force EV concept หนึ่งในรถต้นแบบไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็น GT-R รุ่นต่อไป
Nissan เคลมว่ารถสปอร์ตไฟฟ้าคันนี้จะเป็น “ไฮเปอร์ EV ที่เปลี่ยนเกม” ด้วยกำลังมากกว่า 1,300 แรงม้า (1,000 kW) หรือ 1 เมกะวัตต์ (MW) เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตไฟฟ้าอย่าง Porsche Taycan Turbo GT ปอร์เช่ไฟฟ้ารุ่นแรงสุด สามารถให้กำลังสูงสุดที่ 1,034 แรงม้า (PS) เท่านั้น
กำลังทั้งหมดของรถมาจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใหม่ ที่จับคู่กับแบตเตอรี่โซลิดสเตท โดยดีไซน์ภายนอกของ GT-R รุ่นต่อไปนั้น Nissan พัฒนาร่วมกับทีม NISMO เพื่อเพิ่มแอดรไดนามิกส์ให้ดีที่สุด เราจะเห็นตัวรีดอากาศและดิฟฟิวเซอร์หลัง ซึ่งช่วยให้รถมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
แบตเตอรี่ Solid-State เหมาะกับรถสปอร์ตอย่างไร?
Ivan Espinosa รองประธานฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ Nissan กล่าวกับ Autocar เกี่ยวกับคำถามถึงเรื่องการใช้แบตเตอรี่ Soild-State ว่า “คุณสามารถนำไปใช้กับรถสปอร์ตได้อย่างง่ายดาย”
เขาอธิบายต่อไปว่า แบตเตอรี่ Solid-State เหมาะกับรถสปอร์ตไฟฟ้าตรงที่ สามารถบรรจุพลังงานได้มาก โดยใช้พื้นที่เพียงครึ่งหนึ่งของแบตเตอรี่ทั่วไป
Nissan เผยว่า GT-R ไฟฟ้า จะใช้แบตเตอรี่ Solid-State
Espinosa เผยเป็นนัยว่า GT-R ไฟฟ้ารุ่นต่อไป จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวพร้อมแบตเตอรี่โซลิดสเตท ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แม้ว่า Nissan จะไม่ได้ประกาศเกี่ยวกับสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ แต่เราก็พอจะเห็น โลโก้ “GT-R” ในรถต้นแบบ Hyper Force EV อยู่ และรถคันนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ซึ่งช่วยเพิ่มการควบคุมบนสนามแข่งและทางที่คดเคี้ยว
GT-R ไฟฟ้า อาจเปิดตัวในปี 2028
สำหรับ GT-R R35 ก๊อตซิลล่ารุ่นล่าสุด ได้ทำตลาดมายาวนานกว่า 17 ปี และเลิกผลิตไปเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม GT-R รุ่นถัดไปที่เป็นไฟฟ้าอาจไม่ได้เปิดตัวเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากว่า Nissan จะเปิดตัว EV ที่ใช้แบตเตอรี่ soild-state ภายในปี 2028
แบตเตอรี่ Soild-State คือตัวเปลี่ยนเกม
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Nissan โชว์ให้เราเห็นถึง
ไลน์การผลิตนำร่อง ของแบตเตอรี่ Soild-State ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมเทคโนโลยีเลยทีเดียว เพราะตั้งใจให้มีความสามารถในการ
บรรจุพลังงานได้หนาแน่นกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปถึง 2 เท่า ซึ่งช่วย
เพิ่มสมรรถนะของรถแถม
ลดเวลาชาร์จได้อีกด้วย
Espinosa กล่าวว่า “ในช่วงแรก ต้นทุนอาจจะสูง” แต่เขาคาดว่าต้นทุนจะลดลงตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น และกล่าวเสริมว่า “ด้วยความหนาแน่นของพลังงานที่มากกว่า คุณจะใช้วัสดุต่อแบตเตอรี่หนึ่งก้อนที่น้อยลง เพื่อส่งมอบพลังงานเท่ากัน ดังนั้นต้นทุนโดยรวมควรที่จะแข่งขันได้”
นอกจากนี้ Nissan ยังวางแผนที่จะใช้แบตเตอรี่ Solid-State ในรถหลากหลายรุ่น ซึ่งรวมถึง รถกระบะ ด้วย