BMW จะสร้างไลน์การผลิตที่ให้ทั้งระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน แม้ EV จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
Bernd Körber หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ BMW กล่าวว่า บริษัทรู้อยู่แล้วว่าการเปลี่ยนผ่านไปยังขุมพลังไฟฟ้านั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยกล่าวต่อไปว่า เมื่อสองปีที่แล้ว การคาดการณ์ยอดขาย EV นั้น “มองโลกในแง่ดี” มากเกินไป
แต่ Körber กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ “พวกเขากำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป” ด้วยการลงทุนในทุกระบบขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดย BMW สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและกฎระเบียบที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Körber ให้สัมภาษณ์กับ Autocar ว่า “สิ่งที่แสดงออกมาในขณะนี้คือกลยุทธ์ของเรา”
“สำหรับเราแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่าการพัฒนาของเราจะมีความผันผวนมาก เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและความต้องการของลูกค้า สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังเข้าสู่แนวทางของความยืดหยุ่นทางเทคโนโลยี (technology-flexible) ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงทำให้ทุกระบบขับเคลื่อนอยู่ในสายการผลิตเดียวกัน”
Körber ระบุว่า การนำทุกระบบขับเคลื่อนมารวมกันในสายการผลิตเดียวนั้นหมายความว่า บริษัทไม่จำเป็นต้อง “ปิดโรงงานเพื่อลดกะการทำงาน” หากตลาดมีการเปลี่ยนทิศทางก็สามารถ “เปลี่ยนไปยังระบบขับเคลื่อนอื่น” ได้เลย
ใช้แพลตฟอร์ม EV แยกกับรถน้ำมัน แต่ยังขายควบคู่กันไป
เราจะเห็นถึงแนวทางของ BMW จากไลน์อัพปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น BMW X1, X2, และ X3 ต่างมีเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนที่จำหน่ายควบคู่กับเวอร์ชันน้ำมันในหลายประเทศ
โดยแพลตฟอร์มใหม่ของแบรนด์อย่าง Neue Klasse จะเป็นแพลตฟอร์มแยกสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ ส่วนแพลตฟอร์มของเวอร์ชันน้ำมัน (ทั้ง ICE และไฮบริด) จะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มเดิมให้ดียิ่งขึ้น