BMW 1-Series โฉมปี 2025 เปิดตัวแล้ว เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน โดยจะเปิดตัวรุ่นย่อย 118d, 120d, 120, และ M135 xDrive โดย BMW เรียก 1-Series รุ่นนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แต่ความจริงคือ Big Minorchange เท่านั้น
1-Series ใหม่ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ BMW เนื่องจากเป็นโมเดลแรกที่จะไม่มี “i” ต่อท้ายแล้วสำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ของแบรนด์ที่จะใช้ “i” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
ดีไซน์แบบ BMW ยุคใหม่ แต่ไม่ชัดเจนเท่ารุ่นพี่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดีไซน์ของ BMW ยุคใหม่เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อย ด้วยดีไซน์กระจังหน้าขนาดใหญ่ หรือไฟหน้าแบบแยกส่วน แต่สำหรับ 1-Series ใหม่ไม่ได้ชัดเจนแบบรุ่นพี่ โดยมีเส้นสายเรียบง่าย พร้อมไฟหน้าและกระจังหน้าขนาดเล็ก ด้านหลังมาพร้อมไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่คล้ายกับ X2 เจนปัจจุบัน
มิติตัวถัง 2025 BMW 1-Series
- ความยาว 4,361 มม.
- ความกว้าง 1,800 มม.
- ความสูง 1,459 มม.
เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วพบว่าจะยาวกว่า 42 มม. และสูงกว่าเดิม 25 มม. แต่ยังคงสัดส่วนที่ไม่ต่างจากเดิมมาก
ภายในดีไซน์ใหม่
สำหรับภายในได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับ BMW ยุคปัจจุบัน มาพร้อมมาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว และจอกลางขนาด 10.7 นิ้ว รวมกันอยู่ใน BMW Curved Display รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้มีการลดทอนปุ่มบนคอนโซลลง ดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น มีช่องแอร์ตรงกลางเป็นช่องเดียวแบบ X1 และ 3 Series รุ่นล่าสุดแล้ว
อุปกรณ์มาตรฐานของ 1-Series ใหม่จะเริ่มที่ เบาะหุ้มด้วยผ้าแบบ Arktur สีแอนทราไซต์, head-up display, หลังคากระจกพานอรามิค และมีออพชั่นเครื่องเสียง Harman Kardon ให้เลือก
ภายในของรุ่น M135 xDrive
สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้อย่างครบครัน เช่น แท่นชาร์จไร้สายที่คอนโซลกลาง, ระบบปรับอากาศ 2 โซน และไฟ ambient light สำหรับเบาะหลังสามารถพับได้ทั้ง 60:40 และ 40:20:40 โดยก่อนพับเบาะจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่ 380 ลิตร และมากที่สุดถึง 1,200 ลิตร เมื่อพับเบาะทั้งหมดแล้ว
ขุมพลังให้เลือกหลากหลาย
1-Series ใหม่ในตลาดโลกเปิดตัวด้วยรุ่น 118d, 120d, 120, และ M135 ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ ดังนี้
- 120 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร ผสานเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า (hp) แรงบิด 280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.8 วินาที
- 120d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ผสานเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า (hp) แรงบิด 400 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที
- 118d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า (hp) แรงบิด 360 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.3 วินาที
M135 xDrive ขาแรง
สำหรับรุ่นท็อปสุดในการเปิดตัวครั้งนี้อย่าง M135 xDrive ก็ไม่มี ‘i’ ต่อท้ายเช่นเดียวกัน มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 296 แรงม้า (hp) ในตลาดยุโรป และ 312 แรงม้าในตลาดอื่น ๆ ให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.9 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกล็อกไว้ที่ 250 กม./ชม.
BMW 1-Series ใหม่ทุกรุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic dual-clutch 7 สปีด โดยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ 1-Series ไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกแล้ว
ผู้ที่ซื้อ M135 xDrive สามารถเพิ่มออพชันจากสำนัก M ได้อีก ได้แก่ M Sport Package, M Sport Design, และ M Technology Package รวมถึงมีชิ้นส่วน M Performance หลายรายการให้เลือกอีกด้วย
ระบบความปลอดภัยครบครันมีให้เป็นมาตรฐาน
ระบบความปลอดภัยของ 2025 BMW 1-Series ที่น่าสนใจ ได้แก่
- ระบบช่วยเตือนการขนด้านหน้า (front collision warning)
- ระบบช่วยเตือนออกนอกเลน (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อออกจากรถ (Exit Warning)
- ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition)
- ระบบช่วยจอดพร้อมช่วยถอยหลัง (Parking Assistant with Reversing Assistant)
- ระบบช่วยบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในเลน (Steering and Lane Control Assistป
- ระบบช่วยกำหนดความเร็วอัตโนมัติ (Automatic Speed Limit Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง (Active Cruise Control with Stop & Go)
- ระบบช่วยจอด (Parking Assistant Professional) ที่เป็นออพชั่นให้เลือกในบางรุ่นย่อย ทำให้เราสามารถจอดรถผ่านการควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนได้ด้วย
รอลุ้นในไทย แต่อาจจะทำได้แค่ลุ้น
2025 BMW 1-Series จะเริ่มจำหน่ายในยุโรปในเดือนตุลาคม โดยยังไม่เปิดราคาในตอนนี้ สำหรับในบ้านเราอาจต้องคอยลุ้นกันว่าจะมาหรือไม่ แต่หากดูจากโฉมก่อนแล้วก็คงเป็นไปได้ยากที่จะทำตลาดในไทย