Business Insider รายงานว่า เจ้าของ
Tesla Cybertruck คนหนึ่งต้องการขายรถคันนี้คืน เนื่องจากกระบะไฟฟ้าคันนี้ใหญ่เกินไปสำหรับที่จอดรถอพาร์ทเมนต์ของเขา ที่ Salt Lake City รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
ซื้อมาโดยไม่รู้ว่าจะจอดยากขนาดนี้
เจ้าของ Cybertruck คนนี้ เคยเป็นเจ้าของ Tesla รุ่นอื่น ๆ มาก่อน การซื้อรถคันนี้อาจไม่ได้คำนึงถึงขนาดของรถให้ถี่ถ้วนมากพอ แม้เขายอมรับการส่งมอบรถแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่พักอาศัยของเขาก่อนหน้านี้นั้นอยู่ที่บ้าน จึงสามารถจอด Cybertruck ได้สบาย แต่ตอนนี้เขาแยกกันอยู่กับครอบครัวแล้วมาอยู่ในพื้นที่ที่ใช้ที่จอดรถร่วมกับผู้อื่นแทน
นอกจากนี้ บริเวณที่จอดของเขานั้นอยู่ติดกับเสาและกล่อง เจ้าของรถบอกกับ Business Insider ว่าเขาต้องโยกรถอยู่หลายครั้งจนกว่าจะจอดได้ ซึ่งสร้างความน่าเบื่ออยู่ไม่น้อย
Tesla Cybertruck ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าคู่แข่งเลย
ในความจริงแล้ว Tesla Cybertruck นั้นไม่ได้ใหญ่อย่างที่เราคิด โดยมีความกว้าง 2,199 มม. (พับกระจกข้างแล้ว) สูง 1,790 มม. และยาว 5,681 มม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Rivian R1T พบว่า Tesla ยาวกว่า 167 มม. แต่ก็สั้นกว่า Ford F-150 Lightning ถึง 228 มม. ส่วนความสูงนั้นเตี้ยกว่าคู่แข่งทั้งสองคันราว 203 มม. แต่ Cybertruck ก็มีส่วนยื่นออกมาที่ด้านท้ายเล็กน้อย
ขายต่อจะเสียค่าปรับ
เจ้าของ Cybertruck คนนี้พบว่าปัญหานี้กวนใจเขาอย่างมาก ทำให้เขาตั้งใจขายรถคันนี้ แต่ด้วยสัญญา Tesla Motor Vehicle Order Agreement ระบุว่า เจ้าของ Cybertruck ถูกห้ามมิให้ขายรถภายใน 1 ปีที่เป็นเจ้าของ หากฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับ 50,000 เหรียญหรือเท่ากับราคารถ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะมากกว่า และจะถูกแบนจากการซื้อ Tesla ในอนาคต โดยเทสล่าได้รับคำขอนี้แล้วแต่ปัดตกไป เนื่องจาก “่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด” ของเขาไม่เพียงพอสำหรับการซื้อรถคืนของบริษัท
ชายผู้น่าสงสารของความช่วยเหลือจากชาวเน็ต
หลังจากการปฏิเสธของ Tesla เขาจึงมา
ขอความช่วยเหลือบนโลกออนไลน์ โดยแท็กซีอีโออย่างอีลอน มัสก์ ซึ่งเขายืนยันว่าไม่ต้องการสร้างกำไรจากการขาย และต้องการให้รถออกไปจากชีวิตเขาเท่านั้น เนื่องจากรถสามารถจอดได้ลำบาก
อย่างไรก็ตาม Tesla ก็สามารถให้ข้อยกเว้นกับเงื่อนไขที่มีอยู่เดิมได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่ามีข้อยกเว้นอย่างไรบ้าง รวมถึง Tesla และมัสก์ก็ยังไม่ตอบกลับข้อความของเขา
ทั้งนี้ ยังมีวิธีที่ทำให้ให้เราไม่ต้องไปจอดรถตรงนั้น เช่น หาที่จอดบริเวณอื่นที่กว้างกว่านี้ หรือใช้บริการเปิดรถให้เช่า (คล้ายกับบริการของ Haup ในไทย) อาจช่วยทำให้รถไปจอดที่อื่นแทนได้บ้าง