ทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับความกังวลในเรื่องต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมา ทั้งระยะทางขับขี่ ไปจนถึงสถานีชาร์จ Ideal Power จึงต้องการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และต้องการเข้าใจว่าความกังวลเหล่านี้มีมากน้อยเพียงใด โดย Quantum Research Group เป็นผู้ดำเนินการวิจัย
16% ปล่อยรถแบตหมดกลางทาง
ปัจจุบัน หลายคนจะมีความกังวลในเรื่องระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าน้อยลงแล้ว เพราะรถ EV ในปัจจุบันสามารถวิ่งได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร แต่งานวิจัยนี้เผยว่า เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าถึง 16% ยังปล่อยให้รถตัวเองแบตเตอรี่หมดกลางทาง
เจอที่ชาร์จไม่ว่างกันทุกคน แต่ส่วนใหญ่รอไม่นาน
หนึ่งในข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเจ้าของรถ EV คือการไปที่สถานีชาร์จแล้วไม่พบจุดชาร์จที่ว่างเลย ซึ่งเจ้าของรถอีวีกว่า 75% กล่าวว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และ 10% ของผู้ที่ตอบคำถามกล่าวว่าพวกเขาเคยต้องรอชาร์จเป็นเวลา 1 ชม.หรือมากกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้ว ค่าเฉลี่ยของการรอชาร์จจะอยู่ที่ 15 นาทีหรือน้อยกว่า
ผลสำรวจนี้ยังพบว่า เจ้าของรถ EV กว่า 70% ชาร์จรถตัวเองที่บ้าน 16% ชาร์จที่สถานี ส่วนอีก 14% ที่เหลือ ใช้ทั้ง 2 วิธี
หลายคนยอมจ่ายค่าจองที่ชาร์จเพิ่ม
จากการวิจัยยังพบว่าผู้คนก็ยังกังวลเกี่ยวกับระยะทางขับขี่และการชาร์จอยู่ไม่น้อย โดยระบุว่า เจ้าของรถ EV กว่า 42% ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อจองที่ชาร์จ
สิ่งที่น่าสนใจคือ งานวิจัยครั้งนี้อยู่ในสหรัฐฯ ที่หากต้องจองที่ชาร์จไฟจะต้องเสียเงินเฉลี่ย 15 ดอลล่าร์หรือราว 550 บาทเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับข้อมูลค่าไฟในสหรัฐฯ จากสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 0.174 ดอลลาร์หรือ 6 บาทต่อหน่วย (kWh) ซึ่งแตกต่างกันหลายเท่า
แม้ปัญหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการชาร์จ แต่เจ้าของรถอีวีกว่า 56% กล่าวว่า ความกังวลเรื่องระยะทางขับขี่ทำให้เกิดความเครียดมากกว่าความกังวลเรื่องที่ชาร์จ แต่แน่นอนว่า ทั้งสองเรื่องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก
เจ็บยังไงก็รัก
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ แม้จะมีรายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ไม่ดีจากเจ้าของรถ EV มามากมาย แต่งานวิจัยนี้ก็พบว่า กว่า 91% ระบุว่า รถคันต่อไปของพวกเขาจะยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
โดยเจ้าของรถ EV ถึง 44% ระบุว่า “ความกังวลเกี่ยวกับระยะทางส่งผลเสียต่อความพึงพอใจโดยรวมของการเป็นเจ้าของรถ EV”