Nio แสดงผลการทดสอบระยะทางขับขี่ของ 2024 ET7 ที่สามารถขับได้ถึง 665 ไมล์หรือ 1,070 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้แบตเตอรี่ชนิดใหม่ นั่นคือ แบตเตอรี่เซมิ โซลิดสเตท (Semi-Solid State Battery) นั่นเอง
ทดสอบบนสถานการณ์จริง เหมือนใช้งานรถจริง ๆ
การทดสอบครั้งนี้ได้ทดสอบกันในสถานการณ์จริงด้วย 2024 Nio ET7 ทั้งหมด 3 คัน โดยให้คันหนึ่งเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ไปเซียเหมินในระยะทาง 1,046 กม. จนแบตเตอรี่หมด อีกคันหนึ่งเดินทางจากปักกิ่งไปยังเหอเฟย ด้วยระยะทาง 1,062 กม. จนแบตเตอรี่หมด และคันสุดท้าย เดินทางจากคุนหมิงไปยังจ้านเจียง ด้วยระยะทาง 1,070 กม. จนแบตเตอรี่หมดเช่นกัน
สำหรับคันที่ขับได้ไกลที่สุดนั้น ไม่ได้เดินทางแบบเบา ๆ หรือมีผู้ขับขี่เพียงคนเดียว แต่มีน้ำหนักบรรทุกกว่า 200 กก. และอยู่บนระดับเหนือน้ำทะเลกว่า 1,875 กม. ตลอดการเดินทาง
รวมถึงความเร็วสูงสุดในทริปคือ 118 กม./ชม. ขณะที่ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 83.7 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วเดินทางทั่ว ๆ ไป โดยรวมแล้ว การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาถึง 12.8 ชั่วโมงเลยทีเดียว
Semi-Solid State Battery เป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่ทำให้รถคันนี้สามารถขับขี่ได้ไกลนั้นเป็นผลมาจากแบตเตอรี่ “เซมิ โซลิดสเตท” ที่ให้พลังงานอยู่นั่นเอง โดยรถคันนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 150 kWh ซึ่งใช้พื้นที่เท่ากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเดิมที่มีความจุ 100 kWh แบตเตอรี่ใหม่จะมีน้ำหนักมากกว่าเดิมเพียง 20 กก. แต่สามารถเก็บไฟได้มากกว่าเดิมถึง 50%
Semi-Solid State Battery คืออะไร
เว็บไซต์ Grepow อธิบายว่า สำหรับแบตเตอรี่ เซมิ โซลิดสเตท (Semi-Solid State Battery) ต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปตรงที่จะแทนที่อิเล็กทรอไลท์ที่เป็นของเหลว ด้วยวัสดุกึ่งแข็ง (semi-solid) ประกอบด้วยวัสดุนำไฟฟ้าที่เป็นของแข็ง ที่จะแขวนลอยอยู่ในอิเล็กทรอไลท์ที่ยังเป็นของเหลวอีกที
ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ให้ระยะทางขับขี่ที่มากกว่า EV ทั่วไป แต่ยังลดขนาดแบตเตอรี่ให้กับรถ EV ทำให้แบตเตอรี่เบาลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Nio ประกาศผลการทดสอบครั้งนี้ พร้อมกับการเปิดพรีออเดอร์ 2024 Nio ET7 เมื่อ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยในวันที่ 25 เมษายนนี้ Nio จะเผยสเปคทั้งหมดของรถ และรถจะพร้อมส่งมอบตั้งแต่ 30 เมษายน 2024 เป็นต้นไป