เปิดตัว 2025 Alfa Romeo Milano รถ EV คันแรกของค่าย โดยชื่อรุ่นมีที่มาจากเมืองต้นกำเนิดของแบรนด์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1910 เป็นนัยถึงการเกิดใหม่อีกครั้งในรูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้า
มีทั้งไฟฟ้าและไฮบริด
ขุมพลังของรถคันนี้มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ไม่ได้มีแค่ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น เริ่มจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 156 แรงม้า จับคู่แบตเตอรี่ขนาด 54 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่ 410 กม. และขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 240 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาดเท่ากัน โดยทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จ DC สูงสุด 100 kW (ชาร์จจาก 10-80% ภายใน 30 นาที) และรองรับ AC สูงสุด 11 kW
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกของเครื่องยนต์สันดาป 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตรเทอร์โบ พ่วงด้วยระบบไมล์ดไฮบริด 48 โวลต์ ที่ให้กำลังสูงสุด 134 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ dual clutch มาให้ด้วย
ตัวถังกะทัดรัด
ตัวรถมีความยาว 4,170 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,500 มม. ถือว่าเป็นครอสโอเวอร์ขนาดเล็กเลยทีเดียว โดยการออกแบบจากอัลฟ่า โรมีโอแสดงให้เห็นถึง “ความสมดุลของสัดส่วน ความบริสุทธิ์ของเส้นสาย และความใส่ใจในคุณภาพของพื้นผิว” อย่างที่แบรนด์ได้บอกไว้
ดีไซน์ครบถ้วนในแบบอิตาลี
เอกลักษณ์หนึ่งของรถจาก Alfa Romeo ก็คือ กระจังหน้าสามเหลี่ยมที่เป็นเหมือนโล่กำบังนั่นเอง ด้านหน้าโดดเด่นด้วย “ไฟหน้า adaptive Full LED Matrix แบบ 3+3” และมี “การสะท้อนที่สมบูรณ์และกลมกลืน”
เมื่อเข้ามาภายใน เราจะเห็นการออกแบบในสไตล์อิตาเลียนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และ “ใช้วัสดุที่ดีที่สุด” รวมถึงการออกแบบการควบคุมต่าง ๆ ให้อยู่ในระยะที่คนขับเอื้อมถึง หน้าปัดของรถออกแบบในสไตล์ Historical 'Telescope' Design ที่ “ชักชวนคุณให้เอามือทั้งสองโอบพวงมาลัย” และ “สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครที่ดีที่สุด”
เมื่อมองไปที่คอนโซลหน้า เราจะเห็นมาตรวัดดิจิทัลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอ infotainment ขนาด 10.25 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยน widgets ได้ตามใจชอบ ช่องแอร์ดีไซน์ให้คล้ายกับใบโคลเวอร์สี่แฉก ซึ่งเป็น “สัญลักษณ์ความเป็นเลิศในความสปอร์ตของ Alfa Romeo”
นอกจากนี้ รถคันนี้ยังมาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพียงพอ โดยเมื่อยังไม่ได้พับเบาะก็มีพื้นที่มาให้ถึง 400 ลิตรเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าใส่กระเป๋าเดินทางขนาดเล็กได้หลายใบเลย
ไม่ได้ผลิตที่อิตาลี
แม้ชื่อรุ่นจะเป็นอิตาลีสักเท่าไหร่ แต่ Milano ก็ไม่ได้ผลิตในอิตาลี แต่เป็นที่โปแลนด์ เพราะโรงงานดังกล่าวคือฐานการผลิตรถที่ใช้แพลทฟอร์ม e-CMP2 ซึ่งเป็นพื้นฐานของรถคันนี้ โดยมีรถรุ่นอื่น ๆ อย่าง Fiat 600e, Citroen e-C4 และ Jeep Avenger ที่แชร์แพลทฟอร์มร่วมกับผลิตในโรงงานนี้ด้วย การผลิตที่โรงงานแห่งนี้จะช่วยให้ต้นทุนของรถถูกลง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นการละเมิดกฎหมายของอิตาลี เพราะประเทศอิตาลีมีกฎหมายที่ว่า สิ่งที่มีชื่อคล้ายกับเป็นของอิตาลีจะต้องผลิตที่อิตาลีเท่านั้น เพื่ออนุรักษ์สินค้าภายในประเทศและป้องกันการเข้าใจผิดอีกด้วย ไม่แน่ว่ารถคันนี้อาจจะถูกเปลี่ยนชื่อรุ่นในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
คาดว่า Alfa Romeo Milano จะมีราคาเริ่มต้นที่ 29,900 ยูโร หรือราว 1.17 ล้านบาทในตลาดยุโรป และจะพร้อมเข้าโชว์รูมภายในเดือนตุลาคมนี้