Toyota 4Runner เจเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวแล้ว หลังห่างหายไปกว่า 10 ปี สำหรับรุ่นปี 2025 นั้นจะไม่มีเครื่อง V6 แต่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2 ตัวด้วยกัน โดยให้พละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่อย่าง Trailhunter และ Platinum อีกด้วย
ใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ Tacoma
2025 Toyota 4Runner ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มร่วมกับ Toyota Tacoma กระบะขนาดกลางที่จำหน่ายในอเมริกา (ขนาดใกล้กับ Hilux Revo) จะเห็นได้ว่ามีดีไซน์ภายนอกและภายในที่ใช้ร่วมกัน ด้านหน้าของรถมาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันเป็นเอกลักษณ์ ด้านข้างเราจะเห็นเส้นสายที่ลากมาตั้งแต่หลังซุ้มล้อหน้า ขึ้นมาเป็นขั้นบันไดไปยังด้านหลัง แสดงถึงความแข็งแกร่งของตัวรถ แต่ไม่ได้เป็นสไตล์คลาสสิคแบบ Land Cruiser 250
เทียบความต่างระหว่าง Tacoma (ซ้าย) และ 4Runner (ขวา)
ภายในของ 4Runner ใหม่มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Tacoma เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่การออกแบบแดชบอร์ด อุโมงค์กลาง ช่องเก็บของ ไปจนถึงราวจับต่าง ๆ และระบบ infotainment หากมองแค่ด้านคนขับจะไม่สามารถแยกออกได้เลย คล้ายกับ Hilux Revo กับ Fortuner ในบ้านเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม 4Runner ใหม่ไม่ได้มีอะไรคล้ายกับ Land Cruiser 250 ที่เพิ่งเปิดตัวไปมากนัก แต่จะใช้พื้นฐานวิศวกรรมร่วมกัน ประกอบด้วย พื้นฐานแพลทฟอร์ม และระบบขับเคลื่อน นอกจากเรื่องนี้แล้ว ในด้านของดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย 4Runner จะมาพร้อมความดุดัน ส่วน Land Cruiser จะดูหรูหราพรีเมียมมากกว่า
ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือ 4Runner ยังมาพร้อมกระจกหลังเปิด-ปิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้มาช้านาน
สำหรับ 4Runner เจเนอเรชั่นที่ 6 ถือว่าเป็นการกลับมาใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ Tacoma อีกครั้ง หลังจากที่มีแพลทฟอร์มของตัวเองตั้งแต่ปี 1996 นับว่าเป็นการกลับมารากฐานของตัวเองอีกครั้ง
ยาวกว่า Land Cruiser 250 พร้อมฟังก์ชันลุยครบครัน
2025 4Runner อยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA-F ที่ใช้ร่วมกับ Tacoma, Tundra, Land Cruiser, รวมถึง Lexus GX มีมิติตัวถัง ดังนี้
- ความยาว 4,950 มม.
- ความกว้าง 1,976 มม.
- ความสูง 1,798 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,844 มม.
เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมแล้ว ทำให้ 4Runner ใหม่นั้นยาวกว่าเดิม 119 มม. และกว้างกว่า 51 มม. รวมถึงมีฐานล้อยาวขึ้น 61 มม. ขณะเดียวกัน เมื่อเทียบกับ Land Cruiser 250 จะยาวกว่า 28 มม. แต่ความกว้างและฐานล้อจะเท่ากัน
สำหรับสายลุย มุมเงย (approach angle) ของรถนั้นอยู่ที่ 32 องศา มุมจากอยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะจากจุดต่ำสุดถึงพื้นอยู่ที่ 233 มม. แต่ทาง Toyota ไม่ได้ยืนยันว่า 4Runner ทุกรุ่นจะเป็นแบบนี้ เพราะมีรุ่นย่อยสำหรับสายลุยอย่าง Trailhunter และ TRD Pro ที่คาดว่าจะมีช่วงล่างที่ต่างออกไป
รถคันนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์สายลุยใหม่ล่าสุดของ Toyota อย่าง Multi-Terrain Select system ที่มีทั้งโหมด 4WD-High และ 4WD-Low รวมถึงมีโหมดการขับขี่ตามสภาพถนน ได้แก่ Mud(โคลน), Dirt(ทางฝุ่น), และ Sand terrains(ทราย) เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Crawl Control ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบ cruise control บนทางออฟโรดที่ความเร็วต่ำ ขณะเดียวกันก็มีเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยกระจายกำลังให้สมดุล รวมถึงระบบควบคุมความเร็วบนทางลาดชัน Downhill Assist Control
ไม่มี V6 แล้ว ใช้ไฮบริดแทน
4Runner เจเนอเรชั่นที่ 6 มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- เบนซิน i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 278 แรงม้า แรงบิด 429 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้จะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
- เบนซินไฮบริด i-FORCE MAX 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมแบตเตอรี่ไฮบริดขนาด 1.87 kWh ให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิด 629 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้จะมีให้เลือกเพียงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
ทำให้ 4Runner เครื่องไฮบริดสามารถลากจูงได้ถึง 6,000 ปอนด์เลยทีเดียว ทั้งสองเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดามาให้
สำหรับระบบขับเคลื่อนมีทั้งขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ให้เฟืองท้ายลิมิเตดสลิปอัตโนมัติมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD part-time และ full-time โดยระบบขับสี่ทั้งสองนอกจากจะมีเฟืองท้ายเหมือนรุ่นขับหลังแล้ว ยังมาพร้อม transfer case 2 สปีดมาให้
รุ่นย่อยครบครัน แล้วแต่ความต้องการ
2025 Toyota 4Runner เปิดตัวในสหรัฐฯ ด้วย 9 รุ่นย่อย ดังนี้
- Toyota 4Runner SR5 (i-Force)
- Toyota 4Runner TRD Sport (i-Force)
- Toyota 4Runner TRD Sport Premium (i-Force)
- Toyota 4Runner Limited (i-Force and i-Force MAX)
- Toyota 4Runner TRD Pro (i-Force MAX)
- Toyota 4Runner TRD Off-Road (i-Force and i-Force MAX)
- Toyota 4Runner TRD Off-Road Premium (i-Force and i-Force MAX)
- Toyota 4Runner Trailhunter (i-Force MAX)
- Toyota 4Runner Platinum (i-Force MAX)
สำหรับรุ่นเริ่มต้นอย่าง 4Runner SR5 ให้ออพชั่นมาอย่างครบครัน เริ่มที่ล้ออัลลอย 17 นิ้ว, ไฟหน้า-ไฟท้าย LED, keyless entry, หน้าจอ infotainment 8 นิ้ว และมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้วมาให้เป็นมาตรฐานแล้ว
รุ่นถัดมาอย่าง TRD Sport จะมาพร้อมล้อที่ใหญ่ขึ้น ระบบเครื่องเสียงที่ดีขึ้น ต่อมาคือ TRD Sport Premium โดย 3 รุ่นแรกจะมีเครื่องยนต์ i-Force ให้เลือกเท่านั้น หากต้องการเครื่อง i-Force MAX จะต้องเป็นรุ่น Limited ขึ้นไป
หน้าจอ infotainment ขนาด 14 นิ้ว
ออพชั่นที่โดดเด่น ได้แก่ หน้าจอ infotainment ขนาด 14 นิ้ว มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วเต็มระบบ ไปจนถึงการตกแต่งที่จะพรีเมียมมากขึ้นตามแต่ละรุ่นย่อย
สำหรับ 3 รุ่นนี้ ได้แก่ TRD Pro, Trailhunter และ Platinum จะมีเครื่องไฮบริด i-Force MAX ให้เลือกเพียงอย่างเดียว โดยรุ่น TRD Pro และ Trailhunter จะมาพร้อมดิฟล็อคหลังมาให้เป็นมาตรฐาน
รุ่น TRD Pro
รุ่น Trailhunter
รุ่นย่อยใหม่ Trailhunter สำหรับสายออฟโรดโดยเฉพาะ
ในรุ่นย่อยใหม่ Trailhunter นอกจากจะมีเครื่องยนต์ใหม่แล้ว ยังมาพร้อมชุดแต่ง Off-Road Package มาให้จากโรงงาน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ออฟโรดโดยเฉพาะทั้งภายนอก ภายใน และช่วงล่าง รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเมื่อต้องลุยอีกด้วย
สิ่งที่โดดเด่นในรุ่นย่อยนี้ เช่น ชื่อรุ่นสีทองแดง, light bar ขนาด 20 นิ้ว, ช่วงล่างใหม่, ยาง A/T พร้อมล้อลายใหม่, วัสดุภายในแบบทนทาน, ลำโพง JBL ที่ถอดออกได้
ส่วนรุ่นท็อปสุดอย่าง Platinum มาพร้อมความหรูหรา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ฟีเจอร์ที่โดดเด่น ได้แก่ หน้าจอ infotainment 14 นิ้ว, กล้อง 360 องศา, เบาะหุ้มด้วยวัสดุพรีเมียม รวมถึงออพชั่นจากรุ่น Trailhunter อย่างลำโพง JBL ถอดได้
ระบบความปลอดภัยจาก Toyota Safety Sense 3.0
2025 Toyota 4Runner มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ประกอบด้วย
- ระบบช่วยขับขี่ proactive driving assist
- ระบบเตือนก่อนการชน pre-collision detection
- ระบบตรวจสอบคนเดินถนน pedestrian detection
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน lane-departure warning
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ adaptive cruise control
- ระบบช่วยให้อยู่ในเลน lane-tracing assist
- ระบบเบรคอัตโนมัติ emergency braking
สำหรับราคาและรายละเอียดแต่ละรุ่นย่อยของ 2025 Toyota 4Runner ยังไม่มีการเปิดเผยในตอนนี้ หากมีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ทราบกัน