มีรายงานว่า
BYD ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากจีน เตรียมที่จะเปิดตัว
Blade Battery เจเนอเรชั่นใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะทำให้รถ EV มีระยะทางขับขี่ที่มากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
Blade Battery เจเนอเรชั่นแรก
Blade Battery เจนใหม่ มีประสิทธิภาพกว่าเดิม 25%
สำนักข่าว Fast Technology รายงานว่า FinDreams บริษัทผลิตแบตเตอรี่ในเครือของ BYD ได้พัฒนา Blade Battery ใหม่ ที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่แบบ LFP เดิมถึง 25%
ปัจจุบัน Blade Battery เจนเนอเรชั่นแรกของ BYD ถูกใช้ในรถหลายรุ่น เช่น Atto 3, Dolphin ไปจนถึง Seal จะมีความหนาแน่นพลังงานอยู่ที่ 150 Wh/kg.
ซึ่งรายงานจาก Fast Technology ระบุว่า Blade Battery เจนใหม่นี้จะมีความหนาแน่นพลังงานเพิ่มขึ้นเป็น 190 Wh/kg ทำให้สามารถใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่น้อยลงขณะที่ให้ระยะทางเท่ากัน หรือสามารถไปได้ไกลขึ้นขณะที่ขนาดแบตเตอรี่ยังเท่าเดิม

วิ่งไกลได้ถึง 1,000 กม./ชาร์จ แถมต้นทุนถูกกว่า
สำนักข่าวนี้ยังคาดการณ์ว่า สิ่งนี้จะทำให้รถ EV ในปัจจุบันสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 1,000 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ซึ่งเทียบเท่าแบตเตอรี่แบบ solid state และ semi-solid state ที่พัฒนาโดยคู่แข่งอย่าง IM Motors และ Nio เลยทีเดียว แต่จะได้เปรียบตรงที่ต้นทุนจะถูกกว่า
สำหรับรถ EV ของ BYD ที่ใช้ Blade Battery ในปัจจุบัน แบตเตอรี่จะเป็นส่วนหนึ่งของแชสซี ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังและทำให้จุด CG ต่ำลง ทำให้ตัวรถมีการควบคุมที่ดีขึ้น

โดยรถอีวีจาก BYD ที่วิ่งได้ไกลสุดตอนนี้คือ BYD Seal Premium RWD มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 82.56 kWh สามารถขับขี่ได้ไกลสุด 570 กม. ตามมาตรฐาน WLTP (700 กม. ในมาตรฐาน CLTC) ส่วนคู่แข่งโดยตรงอย่าง Tesla Model 3 Long Range AWD สามารถขับขี่ได้ไกลสุดถึง 629 กม. ในมาตรฐานเดียวกัน หาก BYD สามารถพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ได้แล้ว อาจได้เปรียบคู่แข่งทั้งเรื่องระยะทางขับขี่และต้นทุนของรถเลยทีเดียว
สำหรับ Blade Battery ของ BYD ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากการวางเซลล์แบบใบมีด ทำให้สามารถป้องกันการถูกเจาะจากการทดสอบก่อนวางขายได้ โดยไม่ติดไฟเหมือนแบตเตอรี่ทั่วไป