สเปกเตอร์ (SPECTRE) ยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ
โรลส์-รอยซ์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเป็นยนตรกรรมอัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ นำทุกท่านสู่ยุคใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ทั่วโลกให้กระแสตอบรับดี และเป็นที่ต้องการสูง กำหนดรับรถยาวตลอดปี 2567
“เรามีความยินดี ที่ได้เฉลิมฉลองการเปิดตัว โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นรถที่มีการพูดถึงและได้รับความสนใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยประเทศไทยนับเป็นตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรถยนต์รุ่นนี้ก็นับเป็นยนตรกรรมที่มีความสำคัญกับการก้าวสู่โลกของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของเรา ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นร่วมสมัย ผสานห้องโดยสารที่เอื้อต่อการตกแต่งแบบ Bespoke แบบไร้ขีดจำกัด ร่วมกับความล้ำสมัยในเชิงวิศวกรรมและนวัตกรรมใหม่ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ สเปกเตอร์ มีจุดเด่นตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ทุกประการ" ไอรีน นิคเคียน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
"ประเทศไทยเปรียบได้กับศูนย์กลางแห่งความหรูหราในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มจำนวนของเจ้าของกิจการและผู้ประกอบธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง สเปกเตอร์ ก็นับว่ามาเปิดตัวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ยนตรกรรม อัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ คันนี้ นับว่าอยู่ในจุดสูงสุดของตลาดรถยนต์ และกระผมก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วม ในการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นสำคัญให้กับลูกค้าในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ สำหรับการก้าวไปสู่โลกของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ โรลส์-รอยซ์” กฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ทำการประกาศครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเป็นทิศทางไปสู่อนาคตของแบรนด์ โดย โรลส์-รอยซ์ ยืนยันความแน่วแน่ในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรุ่น สเปกเตอร์’ (SPECTRE) ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 พร้อมตั้งเป้ายุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาป และทำให้ยนตรกรรมที่จำหน่ายขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573 ซึ่งนับตั้งแต่การประกาศสำคัญในครั้งนั้น สเปกเตอร์ ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทดสอบอย่างเข้มข้น เป็นระยะทางรวมระยะทางกว่า 2.5 ล้านกิโลเมตร และเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ณ Home of Rolls-Royce เมือง West Sussex ประเทศอังกฤษ พร้อมเสียงตอบรับที่เยี่ยมจากทั่วโลกปัจจุบัน กำหนดส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าท่านแรกใกล้เข้ามาทุกขณะ สเปกเตอร์ ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในวันที่ 3 ตุลาคม 2566 พร้อมเผยโฉมของยนตรกรรมอัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ รุ่นแรกของโลก สู่สายตาของลูกค้าและสื่อมวลชนในภูมิภาคนี้ เพื่อแสดงถึงทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้า โรลส์-รอยซ์ ในอนาคต
สเปกเตอร์ (SPECTRE) คือ ผู้เปิดตำนานอันน่าตื่นเต้นบทใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมที่ขับเคลิ่อนด้วยไฟฟ้าของแบรนด์ โดยยนตรกรรมรุ่นดังกล่าว นับเป็นการยืนยันถึงพันธสัญญา, ความแม่นยำแห่งการทำนาย และการพัฒนาอันน่าทึ่ง พร้อมแสดงให้เห็นว่า โรลส์-รอยซ์ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ยังคงรักษาเอกลักษณ์และจุดเด่นตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ทุกประการ ควบคู่ไปกับเป้าหมายในการทำให้ยนตรกรรมทุกรุ่นที่จำหน่าย ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส มีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีไฟฟ้ามายาวนาน โดยช่วงปี 2443 มร. ชาร์ลส์ โรลส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ได้ทำนายอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า หลังได้มีโอกาสขับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า ‘The Columbia Electric Carriage’ โดยเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบอันยั่งยืนของยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า อาทิ การปราศจากมลพิษและเสียงรบกวน เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จรองรับอย่างเพียงพอ
ปรัชญาและตำแหน่งการตลาด สเปกเตอร์ (SPECTRE) คงคอนเซปต์ของการเป็น
โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ภายใต้หลักปรัชญา
A Rolls-Royce first, and an electric car second. พร้อมรักษาจุดเด่นด้านความสะดวกสบาย พื้นที่ห้องโดยสาร ความนุ่มนวลและสมรรถนะไว้อย่างครบถ้วน พร้อมปรับแต่งทุกรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบผ่านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอันเป็นเลิศสะดุดตากับสัดส่วนที่ลงตัวในสไตล์รถยนต์ฟาสแบคสองประตู สเปกเตอร์จึงเปรียบเสมือนผู้สืบทอดของยนตรกรรมระดับไอคอน 'แฟนธอม คูเป้' (Phantom Coupé) ขณะที่ห้องโดยสารนั้นเป็นดั่งผืนผ้าใบที่พร้อมสำหรับการรังสรรค์รูปแบบตามสไตล์ของผู้ครอบครอง (Bespoke) ควบคู่ไปกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated fascia) และครั้งแรกของ โรลส์-รอยซ์ ในสายการผลิต กับประตูดาวส่องแสงระยิบระยับ (Starlight Doors) ส่งผลให้ สเปกเตอร์ ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ชื่นชอบการขับรถด้วยตนเอง
วิศวกรรม โรลส์-รอยซ์ 3.0 โรลส์-รอยซ์ รุ่นแรกในยุคของ กู๊ดวูด (Goodwood-era) หรือ โรลส์-รอยซ์ 1.0 คือ รุ่น แฟนธอม ที่เปิดตัวช่วงปี 2546 พร้อมจุดเด่นเชิงสถาปัตยกรรม Bespoke ต่อมา ทางแบรนด์ได้รังสรรค์ โรลส์-รอยซ์ 2.0 ที่ชูจุดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา Architecture of Luxury กับแพลตฟอร์มอะลูมิเนียมสเปซเฟรมที่ใช้เป็นพื้นฐานของรุ่น โกสต์ (Ghost) และ คัลลิแนน (Cullinan) มาถึงปัจจุบัน กับรุ่น สเปกเตอร์ (SPECTRE) ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ผสานความล้ำสมัยของระบบ Decentralised Intelligence จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของ โรลส์-รอยซ์ 3.0
แพลตฟอร์มอะลูมิเนียม สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา
สเปกเตอร์ (SPECTRE) เป็นยนตรกรรมรุ่นที่ 4 ที่ใช้แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และผ่านการออกแบบมาเพื่อรองรับกับขุมพลังไฟฟ้าอย่างลงตัว อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของสเปซเฟรมอีก 30% เมื่อเทียบกับ โรลส์-รอยซ์ รุ่นอื่นๆ ส่วนแบตเตอรี่ได้รับการติดตั้งบริเวณพื้นรถ ที่นอกจากช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นเรียบ และเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและมีการทรงตัวดีขึ้น ก็ยังทำหน้าที่เป็นแผ่นกันเสียงรบกวนที่มีน้ำหนัก 700 กิโลกรัมอีกด้วย
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
การเปิดตัวของ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ แสดงถึงความเชื่อมั่นของ โรลส์-รอยซ์ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือ หนทางสู่อนาคต เหนือกว่าเทคโนโลยีไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจาก 2 มอเตอร์ SSM (Separately Excited Synchronous Motors) ด้านหน้า 190 กิโลวัตต์ / 365 นิวตันเมตร ด้านหลัง 360 กิโลวัตต์ / 710 นิวตันเมตร หรือมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป พละกำลัง 430 กิโลวัตต์ (584 hp) แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที
สำหรับระยะทางในการขับ ทางแบรนด์ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ทราบถึงความต้องการในการใช้งานที่แท้จริง ซึ่งระยะทางสูงสุดที่สามารถขับได้ไกลถึง 530 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) นับว่าสูงกว่าที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ทำให้ สเปกเตอร์ เป็นยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ได้เป็นอย่างดี จากการที่ลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ส่วนใหญ่ มักมีรถยนต์ใช้งานประมาณ 7 คัน และขับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ของตนเอง เป็นระยะทางประมาณ 5,100 กิโลเมตรต่อปี นอกจากนั้น ทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้า ในการติดตั้งระบบชาร์จไฟที่บ้านอีกด้วย ซึ่ง สเปกเตอร์ สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ใน 34 นาที ผ่านระบบชาร์จไฟกระแสตรง (195 กิโลวัตต์-DC) และสามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร เมื่อผ่านการชาร์จไฟเพียง 9 นาทีเท่านั้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยขับ คือ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Active Lane Centring) และอะแด๊ปทีฟครูสคอนโทรล เพื่อการขับที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่
ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตจากแร่โคบอลต์และลิเธียมจากแหล่งผลิตที่มีการควบคุมเข้มงวดในออสเตรเลีย,โมรอคโค และ อาร์เจนตินา ซึ่งเซลล์ภายในแบตเตอรี่ผลิตขึ้นด้วยพลังไฟฟ้าที่มาจากธรรมชาติ 100% พร้อมทำการทดสอบภายใต้อุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ไปจนถึงร้อนจัดกว่า 50 องศาเซลเซียส ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสมสำหรับการใช้งานทุกสภาวะ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์อันชาญฉลาด
ไฮไลท์อื่นๆ ที่มีใน โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ มีดังนี้:
- ระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก (Braking recuperation)
โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ มีระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก โดยระบบจะทำงานเมื่อผู้ขับกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ B บริเวณก้านควบคุม ซึ่งการใช้งานใน Brake Mode รถยนต์จะมีการหน่วงอัตโนมัติเมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จากการกักเก็บพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับได้โดยแทบไม่ต้องแตะเบรก (Single-pedal driving) แต่หากผู้ขับเลือกใช้โหมด low recuperation อาการหน่วงเมื่อยกคันเร่งจะมีไม่มากนัก ให้ความรู้สึกคล้ายการขับ โรลส์-รอยซ์ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากกว่า - วิศวกรรมดิจิทัล
วิศวกรของ โรลส์-รอยซ์ ให้คำนิยามของ สเปกเตอร์ ไว้ว่าเป็น โรลส์-รอยซ์ ในแบบอัลตรา-ไฮ เดฟินิชั่น ซึ่งมาจากการประมวลผลอันรวดเร็วของระบบ Decentralised Intelligence โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกนำมาประมวลผลแบบอิสระจากกัน ช่วยลดโอกาสผิดเพี้ยน ต่างจากรถยนต์ที่ใช้การประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ส่วนกลางเพียงจุดเดียว - ระบบช่วงล่างพลานาร์ (Planar Suspension System)
โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ใช้ระบบช่วงล่างพลานาร์ ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากที่ติดตั้งในรุ่น โกสต์ เป็นครั้งแรก โดยเป็นการทำงานร่วมกันหลายชิ้นส่วนที่ผ่านการพัฒนามาอย่างพิถีพิถัน เสมือนเป็น ออเคสตร้า ที่ช่วยสร้างประสบการณ์เดินทาง magic carpet ride ที่ให้ความรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่บนพรมวิเศษ การขับบนทางตรง ระบบช่วงล่างสามารถตัดการเชื่อมต่อของเหล็กกันโคลง ช่วยให้แต่ละล้อสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะที่เมื่อเข้าโค้ง ระบบจะเพิ่มความหนืดโช้กอัพ และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยว 4 ล้อ เพื่อให้สามารถเข้าและออกโค้งได้อย่างราบรื่น โดยมีเซ็นเซอร์อิสระ วัดค่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะเลี้ยวโค้ง อาทิ องศาพวงมาลัย, การเบรก, การส่งกำลัง และการทำงานของระบบช่วงล่าง พร้อมปรับระดับการทำงานอย่างเหมาะสม เพื่อความสมบูรณ์แบบของประสิทธิภาพการทรงตัวและเกาะถนน - SPIRIT-สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา มาในแบบดิจิทัล
สปิริต (SPIRIT) เป็นสถาปัตยกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ผู้ครอบครอง สเปกเตอร์ ได้เชื่อมต่อกับรถยนต์ของตนอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย นอกเหนือจากการควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ขณะใช้รถ สปิริต ก็เป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่น 'วิสเปอร์ส' (Whispers) ของ โรลส์-รอยซ์ ทำให้เจ้าของรถสามารถสั่งการได้จากระยะไกล
ประตูอิเล็กทรอนิกส์ (Effortless Doors)
สเปกเตอร์ มีประตูยาว 1.5 เมตร แบบไร้เสากลาง เชื่อมด้วยเลเซอร์ ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะ สเปกเตอร์ เมื่อผู้ขับเหยียบเบรก ประตูจะปิดโดยอัตโนมัติ
รูปลักษณ์
แรงบันดาลใจในการออกแบบ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ไปไกลกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโลกยนตรกรรม โดยได้นำรูปลักษณ์อันโดดเด่นและประณีตในทุกรายละเอียด ของ เรือยอชท์ทรงสปอร์ต มาปรับใช้อย่างชาญฉลาด ขณะที่กระจังหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาของวิหารแพนธีออน (Pantheon grille) ก็มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยติดตั้งกับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ซี่กระจังผลิตจากสเตนเลสปัดเงา พร้อมผิวสัมผัสนุ่มเรียบ เพิ่มความอลังการด้วยแอลอีดี 22 ดวง ที่ส่องแสงกระทบกับพื้นหลังเสาที่ผ่านการพ่นทราย เกิดเป็นมุมมองที่งดงามแบบ 3 มิติยามค่ำคืน
สัญลักษณ์นางฟ้าบริเวณหน้ารถ (Spirit of Ecstacy) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ สเปกเตอร์ โดยปรับให้มีลักษณะต่ำลงเล็กน้อย และดูลู่ลมยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการออกแบบและทดสอบในอุโมงค์ลม รวมกว่า 830 ชั่วโมง หรือกว่า 1 เดือน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ สเปกเตอร์ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำมาก (drag coefifficient) เพียง 0.25cd ส่งผลให้ สเปกเตอร์ เป็นรถที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ไฟหน้าแบบแยกส่วนนับเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ มาช้านาน และเป็นการรำลึกถึงดีไซน์ของรุ่นพี่อย่าง แฟนธอม คูเป้ ลงตัวกับเส้นสายตัวถังอันเฉียบคม นำสายตาไปสู่ด้านหลังในสไตล์รถฟาสต์แบค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยนตรกรรมคลาสสิกและเรือยอชท์ที่ใช้ในการแข่งขัน ขณะที่เส้นตัวถังบริเวณข้างประตู (waft line) ให้ความรู้สึกเหมือนเรือที่ลอยเหนือผิวน้ำ สะท้อนถึงความนุ่มสบายของการขับเคลื่อนแบบ magic carpet ride อันเลื่องชื่อ อีกจุดเด่นคือ ไฟท้ายแบบใหม่ ออกแบบให้ปราศจากสีสันโดยสิ้นเชิง เพื่อให้สามารถเข้ากับสีของตัวถังที่มีให้เลือกไม่จำกัด ปิดท้ายด้วยล้อขนาดอลังการ 23 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ คูเป้ ในสายการผลิตในรอบเกือบ 100 ปี เติมเต็มสัดส่วนอันสง่างามของ สเปกเตอร์ อย่างลงตัว
ห้องโดยสาร
ภายในของ สเปกเตอร์ พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและหลากหลายฟีเจอร์พิเศษแบบ Bespoke อาทิ ประตูดาว (Starlight Doors) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกกับ โรลส์-รอยซ์ ในการการผลิต ส่องแสงอ่อนๆ เป็นประกายระยิบระยับ ผ่าน 4,796 ดวงดาว หรือหากลูกค้าต้องการ ก็สามาเลือกติดตั้งแผงไม้ คานาเดล (Canadel panelling) ที่ผลิตขึ้นด้วยมือจากไม้ชั้นเลิศ งดงามกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ผ่านการฉลุเป็นชื่อ SPECTRE ล้อมรอบด้วยประกายดาวมากกว่า 5,000 ดวง ส่วนเบาะคู่หน้าก็สามารถเลือกสีบริเวณปีกเบาะ ให้เข้ากันกับบริเวณรองนั่ง หรือเลือกสีตัดกันได้ตามชอบในสไตล์เทเลอร์เมดตามแบบชาวอังกฤษ รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ โรลส์-รอยซ์ เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดแบบ Bespoke ได้ตามจินตนาการไร้ขีดจำกัด
- รับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตนาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (ไม่ครอบคลุมรถยนต์
- ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์)*
- รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 10 ปี*
- โปรแกรมบำรุงรักษา (service inclusive) ครอบคลุมค่าแรงทั้งหมด*
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง*
- ทีมบุคลากรของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศไทย ผ่านการอบรมพร้อมประกาศนียบัตรด้านการบำรุงรักษา สเปกเตอร์ อย่างเต็มรูปแบบ*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด