ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

The​ new​ Range​ Rover​ Sport​ รถ​ SUV​ Plug-in​ Hybrid​ 510 hp​ สุดหรูแรงประหยัดวิ่งได้รวมกว่า 700 กม. 8.599​ ลบ.

ข่าว icon 4 พ.ค. 66 icon 1,672
The New Range Rover Sport (เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ใหม่) รถยนต์ SUV สุดหรูหรามาพร้อมความความแรงและประหยัดเปิดตัว 1 รุ่นแรก Dynamic SE Plug-In Hybrid 510PS ราคา 8,599,000 บาท พร้อม Range Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี เลือกซื้อรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ www.landrover.co.th
 
 
Range Rover ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่ล้ำสมัยและความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อถึงกัน ให้สมรรถนะการทำงานแบบไดนามิกขั้นสูงสุด ด้วยชุดระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ P510e Plug-In Hybrid รูปแบบใหม่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในการขับขี่ที่มีสมรรถนะสูง ด้วยประสิทธิภาพที่น่าประทับใจของรถ EV ในการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ได้มากกว่า 100 กม. ของระยะทางการขับขี่ เครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 6 สูบ 3.0 ลิตร ของ Land Rover ผสมผสานเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง 105kW และแบตเตอรี่ 38.2kWh ได้อย่างลงตัว ทำให้ได้กำลังขับทั้งระบบอยู่ที่ 510 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.4 วินาที ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด 113 กม. และระยะการขับขี่จริงที่คาดไว้คือ 88 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับเจ้าของรถส่วนใหญ่ที่จะทำได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า1 โดยมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 18 กรัม/กม.2 สำหรับการเดินทางไกล ระบบจะส่งกำลังปลั๊กอินไฮบริดที่ให้ระยะทางรวม 740 กม. ของการขับขี่ด้วยระบบเบนซินและไฟฟ้า
 
 
รูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรานั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็น Range Rover Sport ได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยพื้นผิวที่ทรงพลัง รูปทรงที่โดดเด่น และคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ใครก็สามารถจดจำได้ทันทีที่เห็น ด้วยระยะยื่นจากล้อที่สั้น บริเวณด้านหน้าดูโฉบเฉี่ยว และกระจกมีระดับความลาดเอียงเหมาะสมของทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถ กระจังหน้าและชุดไฟ Digital LED ดีไซน์ใหม่ที่เฉียบคม ช่วยสร้างเอกลักษณ์ของ Daytime Running Light ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น องค์ประกอบสีตัวถังแบบแบ่งครึ่งตามแนวนอนที่ทำให้ตัวรถดูกว้างยิ่งขึ้น เสริมด้วยการใช้สีดำในการเพิ่มรายละเอียด ด้านหลังของรถสลักลายที่ประตูท้ายช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ กราฟิกไฟ LED ที่ไม่ขาดตอนสะท้อนให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยี LED เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยได้อย่างชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน ลายเส้นที่ดูสะอาดตาภายนอกตัวรถได้รับการเสริมรายละเอียดด้วยการเคลือบเงาเพื่อความสง่างาม มือจับประตูได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูซ่อนเร้น มาพร้อมกับหลังคาที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ที่เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แม่นยำทางด้านเทคนิค และการผสมผสานรายละเอียดที่ซับซ้อนได้อย่างลงตัว เทคโนโลยีที่เอื้อต่อการออกแบบเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิกมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดย Range Rover Sport โฉมใหม่นี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอยู่ที่ระดับ 0.29 เท่านั้น
 
 
การตกแต่งภายในแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยี Range Rover Command Driving Position เพื่อความสมดุลของความสง่างาม ห้องโดยสารที่ดูเหมือนห้องนักบินสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบไดนามิกด้วยทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายให้ผู้ขับขี่ด้วยคอนโซลกลางที่ลาดเอียงในแนวสูงและเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Pivi Pro หน้าจอสัมผัสแบบโค้ง และมีความละเอียดสูงขนาด 13.1 นิ้ว สามารถควบคุมทุกการใช้งาน ตั้งแต่การนำทางไปจนถึงการตั้งค่าสื่อและยานพาหนะ ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่รอบรู้และใช้งานได้ง่าย ช่วยลดความจำเป็นที่ผู้ขับขี่จะต้องละสายตาจากถนน
 
ระบบ Cabin Air Purification Pro รุ่นล่าสุดพร้อมสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ระบบนี้ผสมผสานคุณสมบัติในการกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี nanoeTM X เพื่อลดกลิ่นอับ แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงไวรัส SARS-CoV-23 อุปกรณ์ nanoeTM X ตัวที่สองได้รับการติดตั้งไว้ในบริเวณแถวที่สองเพื่อให้คุณภาพอากาศที่สม่ำเสมอทั่วทั้งห้องโดยสาร และฟังก์ชันการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภายในห้องโดยสารก่อนการเดินทางหรือแม้ขณะขับรถ ทำให้มั่นใจได้ถึงการตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นในทุกการขับขี่ และสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารทุกคน พร้อมทั้งติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงรุ่นล่าสุดที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ที่เน้นไปที่ความปลอดภัยในการขับขี่ ระบบเบรกฉุกเฉิน กล้อง 3D รอบทิศทาง รวมถึงเซ็นเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบ Wade Sensing ระบบ ClearSight Ground View4 และไฟเลี้ยวที่มีระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบสภาพคนขับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน และระบบจดจำป้ายจราจร
 
 
Range Rover Sport โฉมใหม่นำเสนอเทคโนโลยีของแชสซียานยนต์ที่ล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมา ความแข็งแกร่งของสถาปัตยกรรมโลหะผสมที่มีความยืดหยุ่น MLA-Flex ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดได้สูงกว่า Range Rover Sport รุ่นก่อนหน้านี้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ระบบ Dynamic Response Pro ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Air Suspension เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสปริงลมแบบปรับระดับได้เป็นครั้งแรก ให้การควบคุมการหมุนขั้นสูงสุดผ่านระบบควบคุมการหมุนด้วยพลังงานแอคทีฟอิเล็กทรอนิกส์ 48 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้แรงบิดได้สูงสุดถึง 1,400 Nm ในแต่ละเพลา เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่อย่างมั่นใจ รวมไปถึงการควบคุมตัวถังและความนุ่มนวลในการเข้าโค้งที่เหนือระดับ
 
ระบบ Dynamic Air Suspension ได้รับการติดตั้งใน Range Rover Sport ทุกคัน โดยระบบอัจฉริยะนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบกันสะเทือน ระบบนี้ทำงานโดยการปรับแรงดันของกระบอกโช้คให้สอดคล้องกับพื้นผิวถนน และความลาดชัน เพื่อมอบความสะดวกสบายที่เป็นต้นแบบของ Range Rover รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบตรวจสอบทิศทางของถนนข้างหน้า โดยใช้ระบบข้อมูลการนำทางที่เรียกว่า eHorizon เพื่อทำงานให้สอดคล้องกับระบบช่วงล่าง ที่ต้องปรับสภาพให้เป็นไปตามข้อมูลล่วงหน้าที่ได้รับจากระบบ หรือเมื่อต้องเข้าโค้งในระยะที่ใกล้เข้ามา เทคโนโลยี Adaptive Dynamics ช่วยเพิ่มความสามารถแบบไดนามิกด้วยการควบคุมอย่างต่อเนื่องของระบบ Active Twin Valve Dampers เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของร่างกายผู้ขับขี่ ระบบนี้ยังสามารถตรวจสอบปัจจัยภายนอกได้สูงถึง 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อให้การตอบสนองที่สมบูรณ์แบบและสอดคล้องกับเทคโนโลยีอื่นๆของแชสซี อีกทั้งยังเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและลงตัว
 
ความคล่องตัวในการเข้าโค้งของ Range Rover Sport โฉมใหม่นี้ยังช่วยยกระดับการขับขี่ไปอีกขั้นด้วยระบบ All-Wheel Steering ระบบ Torque Vectoring by Braking และระบบ Electronic Active Differential ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวขั้นสูง ระบบ All-Wheel Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวของล้อหลังทำมุมตรงกันข้ามกับล้อหน้า ได้สูงสุดถึง 7.3 องศา เพื่อลดวงเลี้ยวให้แคบลงในความเร็วต่ำและทำมุมขนานกับล้อหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในช่วงเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบนี้ทำให้ Range Rover Sport โฉมใหม่สามารถสร้างวงเลี้ยวได้เสมือนกับรถประเภทแฮทช์แบค และมีความคล่องตัวบนท้องถนนเสมือนรถยนต์ขนาดเล็ก
 
 
ระบบแชสซียานยนต์ที่ดีที่สุดของ Range Rover Sport โฉมใหม่นี้ยังรวมไว้ซึ่งระบบ Dynamic Response Pro ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Electronic Active Differential และระบบ Torque Vectoring by Braking สร้างความประทับใจในการขับขี่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนท้องถนนที่มีสภาพพื้นผิวปกติหรือบนเส้นทางแบบออฟโรดที่ยากลำบาก ระบบ Terrain Response 2® ล่าสุดของ Land Rover ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรดโดยใช้วิธีการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อการขับขี่ในสภาพภูมิประเทศที่มีความแตกต่างได้อย่างชาญฉลาด ระบบ New Adaptive Off-Road Cruise Control ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกกับ Range Rover Sport โฉมใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ท่องไปในสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความยากลำบากได้อย่างราบรื่น และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบแม้สภาพพื้นผิวถนนจะมีความแตกต่าง
ร่วมสัมผัสและทดลองขับ Range Rover Sport โฉมใหม่ ได้ที่โชว์รูมรถยนต์แลนด์โรเวอร์ พระราม 4 และศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-666-7500
 
 
1ประมาณการของผู้ผลิต เวลาในการชาร์จจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและสถานที่ชาร์จที่มี
2ตัวเลขที่ระบุเป็นผลจากการทดสอบอย่างเป็นทางการของผู้ผลิตตามกฎหมายอนุพันธ์ของกฎหมาย EU WLTP ที่จะแสดงให้เห็นเมื่อแบตเตอรี่ได้รับการชาร์จจนเต็ม เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบเท่านั้น ตัวเลขในโลกแห่งความเป็นจริงอาจแตกต่างออกไป ค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ค่าการประหยัดเชื้อเพลิง ค่าการใช้พลังงาน และค่าตัวเลขระยะทางอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น รูปแบบการขับขี่ สภาพแวดล้อม น้ำหนักบรรทุก การติดตั้งล้อ อุปกรณ์เสริมที่ติดตั้ง เส้นทางจริง และสภาพของแบตเตอรี่ ตัวเลขระยะทางอิงตามยานพาหนะที่ผลิตจำหน่ายตลอดเส้นทางที่เป็นมาตรฐาน ควรทำการชาร์จรถที่บ้านเท่านั้น โดยอิงตามข้อมูลความเป็นเจ้าของที่อาจไม่ระบุชื่อลูกค้าของ Range Rover
3Texcell research, ของปี 2020 ดำเนินการและจัดทำโดย Panasonic
4ระบบ ClearSight GroundView ทำงานด้วยกล้อง 360 องศา แบบรอบทิศทาง ภาพจะไม่แสดงสด ตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย คุณสมบัติเสริม ภายใต้ข้อบังคับของแต่ละท้องที่ สำหรับกระจกมองหลังภายใน หรือ ClearSight Interior Rear View Mirror หากผู้ใช้ระบบ Bifocal หรือ Varifocal ไม่สามารถปรับโฟกัสของภาพแบบดิจิทัลได้ สามารถเปลี่ยนกลับเป็นโหมดกระจกมองหลังแบบปกติได้ทุกเมื่อ
 

Jaguar Land Rover เตรียมอัดงบ 1.5 หมื่นล้านปอนด์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อปูทางสู่วิวัฒนาการของระบบไฟฟ้าแห่งอนาคต

•    Jaguar Land Rover เตรียมงบ 1.5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อลงทุนต่อยอดความสำเร็จของอุตสาหกรรมโปรแกรมยานยนต์ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบ AI และการพัฒนาทักษะของบุคลากร ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า 
•    โรงงานของ Jaguar Land Rover ในเมืองเฮลวู้ดในย่านเมอร์ซีย์ไซด์ สหราชอาณาจักร กำลังจะกลายเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
•    “ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์” (Engine Manufacturing Centre) ของ Jaguar Land Rover ในเมืองวูล์ฟแฮมป์ตัน สหราชอาณาจักร กำลังจะได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์การผลิตการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า” (Electric Propulsion Manufacturing Centre)
•    Jaguar Land Rover พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ Reimagine ด้วยแนวทางใหม่ในการเป็นศูนย์รวมแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่หรือ House of Brands และมุ่งมั่นส่งต่อวิสัยทัศน์ที่มาพร้อมความหรูหราและความทันสมัย
•    สถาปัตยกรรมและการออกแบบรถยนต์ SUV ขนาดกลางรุ่นต่อไปจะมุ่งเน้นการใช้ระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
•    รถยนต์ Range Rover รุ่นแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด จะเปิดให้จองภายในปลายปีนี้ 
•    รถยนต์ Jaguar ไฟฟ้าที่หรูหราและล้ำสมัยหนึ่งในสามคันแรกได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นรถยนต์ GT 4 ประตู ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นในเมืองโซลิฮัลล์ สหราชอาณาจักร
 
Jaguar Land Rover ได้ประกาศแผนการที่น่าตื่นเต้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่หรูหราและล้ำสมัยชั้นนำของโลก โดยจะเปลี่ยนโรงงานในเฮลวู้ด สหราชอาณาจักร ให้กลายเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อเป็นสื่อกลางแห่งอนาคตของสถาปัตยกรรมรถยนต์ SUV และสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ไฟฟ้าแบบ EMA ที่จะทำงานด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด
 
การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไป
Jaguar Land Rover มีการประกาศโรดแมปในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารุ่นต่อไป โดยยืนยันว่าจะเริ่มเชิญลูกค้ามาสั่งจองรถยนต์ Range Rover ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า หรูหรา และล้ำสมัยภายในช่วงปลายปีนี้ รถยนต์ SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่รุ่นแรกนี้จะเป็นรุ่นที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่มาจากตระกูล Range Rover ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2568 และได้รับการพัฒนาขึ้นในเมืองเฮลวู้ดในย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ถือเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของ Jaguar Land Rover ที่มีต่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในสหราชอาณาจักร 
 
ในขณะที่สถาปัตยกรรมโมดูลาร์ไฟฟ้าแบบ EMA จะทำงานด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เนื่องจากแนวโน้มของการใช้พลังงานไฟฟ้าในบางตลาดเพิ่มขึ้น Jaguar Land Rover จะยังคงใช้สถาปัตยกรรมโมดูลาร์ไฟฟ้าแบบ MLA ที่ยืดหยุ่น ซึ่งรถยนต์ Range Rover และ Range Rover Sport จะได้รับการพัฒนาด้วยเครื่องยนต์แบบ ICE ไฮบริด และตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบ BEV สิ่งนี้ทำให้ Jaguar Land Rover มีความยืดหยุ่นอย่างไร้เงื่อนไขในการปรับสายการผลิตภัณฑ์ยานยนต์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดทั่วโลก ซึ่งมีความคล่องตัวที่แตกต่างกัน ไปสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ 
 
ศูนย์รวมแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ 
ในขั้นตอนต่อไปของกลยุทธ์ Reimagine มีการเปิดเผยว่า Jaguar Land Rover จะเปลี่ยนไปใช้แนวทาง House of Brands เพื่อขยายลักษณะเฉพาะของแต่ละแบรนด์ ทั้ง Range Rover, Defender, Discovery และ Jaguar พร้อมเร่งการเผยวิสัยทัศน์ของบริษัท เพื่อเป็นผู้สร้างความภาคภูมิใจของแบรนด์ยานยนต์ที่หรูหราและล้ำสมัย และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกสำหรับลูกค้าที่ฉลาดเลือก
รถยนต์ Jaguar สุดหรูสไตล์โมเดิร์นคันแรกจากทั้งหมด 3 คัน ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ จะเป็นรถ GT 4 ประตูที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในเมืองโซลิฮัลล์ในย่านเวสต์มิดแลนด์ สหราชอาณาจักร ด้วยพละกำลังที่มากกว่า Jaguar รุ่นก่อนๆ โดยวิ่งได้ไกลถึง 700 กม. (430 ไมล์) และมีราคาโดยประมาณอยู่ที่ 100,000 ปอนด์ Jaguar โฉมใหม่จะถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัวในชื่อ JEA รายละเอียดเพิ่มเติมของรถยนต์ GT Jaguar 4 ประตูโฉมใหม่จะเปิดตัวภายในปลายปีนี้ ก่อนจะออกจำหน่ายในตลาดที่ได้รับการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายในปี 2567 และส่งมอบถึงมือลูกค้าได้ภายในปี 2568
 
การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของ Jaguar Land Rover ในสหราชอาณาจักร
โรงงานในเมืองเฮลวู้ดในย่านเมอร์ซีย์ไซด์ สหราชอาณาจักร กำลังจะกลายเป็นโรงงานผลิตที่ใช้พลังไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมการพัฒนาสถาปัตยกรรมรถยนต์ SUV ขนาดกลางรุ่นต่อไป สถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ EMA ก็จะได้รับการพัฒนาให้ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าล้วนเช่นกัน Jaguar Land Rover ยังเปิดเผยว่า “ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์” (Engine Manufacturing Centre) ในเมืองวูล์ฟแฮมป์ตัน สหราชอาณาจักร ซึ่งปัจจุบันผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ Ingenium สำหรับยานยนต์ของบริษัท จะมีการผลิตชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์รุ่นต่อไปของ Jaguar Land Rover ในอนาคต โดยจะเปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์การผลิตการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า” (Electric Propulsion Manufacturing Centre) เพื่อแสดงถึงการพัฒนาที่เหนือชั้น 
 
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ พระราม 4         โทร 02-666-7500
โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ สยามพารากอน     โทร 02-007-0008
อีเมล์ sales@jaguarlandroverthailand.com      หรือ ติดตามข่าวสารได้ที่ www.landrover.co.th  
 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

range rover THE NEW RANGE ROVER SPORT

ข่าวและอีเว้นท์รถยนต์ล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)