บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกีย ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เผยยอดขายปี 2564 โตสวนกระแสโควิด พร้อมลุยตลาดปีนี้ด้วยการเดินหน้าขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง รองรับลูกค้าให้ครบทุกภูมิภาค ชูไฮไลท์ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม เกีย คาร์นิวัล ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 จัดแสดงให้ชมครบทุกรุ่นย่อย พร้อมข้อเสนอพิเศษ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ณ บูธเกีย B1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565
โตสวนกระแสยอดจองรวม 1,653 คัน
นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปีที่การดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 อย่างไรก็ตาม ยนตรกิจ เกีย ได้ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และสามารถเติบโตขึ้นจากปี 2563 กว่า 33% ด้วยยอดขายรวม 1,653 คัน ทั้งนี้ เนื่องด้วยภาพรวมเศรษฐกิจของไทยที่มีการเปิดประเทศ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยกลับมาฟื้นตัว ปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ ยนตรกิจ เกีย ได้ปรับกลยุทธ์ด้านการขายและการบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างเต็มที่และครอบคลุมมากขึ้น ทั้งการนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมถึงเร่งขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยปัจจุบัน เกีย มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 20 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีก 5 แห่งภายในปี 2565 ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี พิษณุโลก นครปฐม และนนทบุรี และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่อยู่ในช่วงการพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายรายใหม่อีกด้วย และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือ การเปิดตัวยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว อย่าง เกีย คาร์นิวัล ใหม่ ที่มีกระแสตอบรับดีมาก รวมถึงกระแสความนิยมของกลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย โดยสามารถครองสัดส่วนทางการตลาดในกลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์ MPV กว่า 32%”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการระบาดของโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ชิปทั่วโลกที่ส่งผลต่อการผลิตและการส่งมอบรถยนต์ที่ล่าช้า ยนตรกิจ เกีย ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการประเมินสถานการณ์และปรับแผนการสต๊อกเพื่อเร่งส่งมอบรถให้ลูกค้าที่จองมาให้เร็วที่สุด
สำหรับ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย พื้นที่ภายในกว้างขวาง และปรับใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อีกทั้งยังได้รับ รางวัล 2022 TOP SAFETY PICK จากเวที Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้รถยนต์ในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในผู้ทำการทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ด้วยมาตรฐานระดับโลก ทำให้ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ เป็นยนตรกรรม Premium MPV เอนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่โดดเด่นที่สุดในเซ็กเม้นต์และตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น
EX ราคา 2,144,00 บาท และรุ่น
SXL ราคา 2,495,000 บาท และมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก Snow White Pearl สีดำ Aurora Black Pearl สีเทาดำ Panthera Metal และสีใหม่ล่าสุด สีฟ้า Astra Blue (เฉพาะรุ่น SXL) ซึ่งได้จัดแสดงให้ลูกค้าสัมผัสครบทุกรุ่นย่อยและทุกสี พร้อมให้ทดลองขับ ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 นี้
นอกจากนี้ เกีย คาร์นิวัล ใหม่ ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ* สำหรับลูกค้าที่จองภายในงาน ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% สำหรับการจัดไฟแนนซ์ผ่านลีสซิ่งกสิกรไทย
- รับสิทธิ์ผ่อนชำระเงินดาวน์ 0% นานสูงสุด 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย
- การประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี
- ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
ข้อมูลทางเทคนิคเครื่องยนต์และมิติตัวรถ
เครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร มาตรฐาน EURO5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 45 กิโลกรัม-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Brake Hold ระบบเลือกการขับขี่ (Drive Mode): Normal Mode, Sport Mode, Eco Mode, Smart Mode ห้องเครื่องด้านหน้า (overhang) ที่สั้นลงและฐานล้อ (wheelbase) ที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารและ leg room ให้กว้างขวางและสะดวกสบายมากขึ้น ความสูงจากพื้นถึงตัวรถที่เตี้ยลงกว่ารุ่นเดิมประมาณ 28 มม. พร้อมมือจับตรงประตูทำให้สามารถก้าวขึ้น-ลงรถได้สะดวกมากขึ้น เหมาะกับทั้งเด็กและผู้สูงอายุ
ดีไซน์ภายนอก
มาพร้อมโลโก้ Kia แบบใหม่บริเวณฝากระโปรงหน้า ดุมล้อ และ ไฟท้าย
ไฟหน้าและไฟต้ดหมอกหน้า แบบ LED พร้อม Daytime Running Light
ล้ออัลลอยแบบMachine Finished ขนาด 18 นิ้ว
ระบบปรับตั้งระดับไฟหน้าสูง - ต่ำ (High Beam Assist)*
ไฟส่องสว่างที่พื้นบริเวณขึ้น – ลงประตูสไลด์ (Get on /off puddle light)*
แร็คหลังคา*
ดีไซน์ภายใน
เบาะหนังสไตล์ทูโทน สีน้ำตาล Saddle Brown ตัดขอบดำ สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 11 ที่นั่ง
เบาะแถวที่ 4 แบบ Pop-Up Sinking ที่พับเก็บได้ราบเรียบและง่ายดาย เพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระได้มากกว่า
เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบดุนหลัง 4 ทิศทาง (2 ทิศทางสำหรับรุ่น EX)
เกียร์หมุน Dial Type – Shift by Wire พร้อม Paddle Shift*
ม่านบังแดดประตูสไลด์และด้านข้างของเบาะแถวที่ 3
จุดชาร์จ USB จำนวน 6 จุดบริเวณคอนโซลด้านหน้า ด้านข้างของเบาะคู่หน้าและบริเวณที่นั่งแถวที่ 3
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิง
- หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Apple Carplay และ Android Auto
- ระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger
- หน้าจอเรือนใหม่ดิจิตอล Digital Instrument Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว*
- เครื่องเสียงจาก BOSETM ที่มาพร้อมกับลำโพง Tweeter และSub-woofer รวมทั้งหมด 12 ตำแหน่ง*
- ระบบ Rear Seat Entertainment ด้วยจอขนาด 10.1 นิ้ว 2 ตำแหน่งบริเวณหัวหมอนของ ที่นั่งคู่หน้าเพื่อผู้โดยสารในแถวที่สอง*
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์จากกุญแจ Smart Key (Remote Engine Start)
- จุดชาร์จ USB จำนวน 6 จุดบริเวณคอนโซลด้านหน้า ด้านข้างของเบาะคู่หน้าและบริเวณที่นั่งแถวที่ 3
- ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door พร้อมระบบ Smart Entry ที่ประตูสไลด์จะเปิดเองอัตโนมัติเพียงไปยืนอยู่ใกล้ๆประตูด้วยกุญแจอัจฉริยะ Smart Key
- ระบบฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close ที่ประตูท้ายจะเปิดเองอัตโนมัติเพียงไปยืนอยู่ใกล้ๆประตูด้วยกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และจะปิดเองอัตโนมัติเพียงเดินออกห่างจากตัวรถ
- ระบบ One-Touch Remote ที่จะช่วยให้คุณขึ้น-ลงและขนสัมภาระได้ง่ายขึ้น เพียงแค่กดปุ่มที่กุญแจอัจฉริยะ Smart Key ค้างเอาไว้ ประตูสไลด์ทั้งสองบานและประตูท้ายจะเปิดพร้อมกัน
- ซันรูฟคู่ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง (Dual Sunroof)*
- ระบบทำความอุ่นและความเย็นของเบาะนั่งคู่หน้า (Heated and Ventilated Seats)*
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง 2 ตำแหน่ง (Integrated Memory Seats)*
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน รวม 7 จุด: คู่หน้า ด้านข้างเบาะคู่หน้า บริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ ม่านนิรภัยรอบคัน
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเบรก (BAS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และระบบช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)
- ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง Parking Distance Warning (PDW)
- กล้องมองหลัง (Rear-view Monitor)
- กล้องรอบคัน Surround View Monitor (SVM)
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
- เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ DRIVE WiSETM - Advanced Driver Assistance System (ADAS) ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control (SCC)*
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision-Avoidance Assist (FCA)*
- ระบบเตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA)*
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)*
- ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ Rear-Cross Traffic Collision Avoidance Assist (RCCA) *
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA) และ Lane Following Assist (LFA)*
- ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist (SEA)*
- ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง Rear Occupant Alert (ROA)*
- ระบบแจ้งเตือนความเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ (DAW) *
*เฉพาะรุ่น SXL
สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมเกียทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทางเว็บไซต์ที่
www.kia.com โทรศัพท์ 02-915-1991 และสามารถติดตามข่าวสาร Kia Thailand เพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: KIA Thailand หรือ ที่ LINE Official Account: @kia.thailand
หมายเหตุ* เงื่อนไขข้อเสนอพิเศษต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถดูรายละเอียดได้ที่
http://bit.ly/KiaMotorShow2022