สำหรับรุ่นระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หรือ P400e นั้น คือสิ่งสำคัญในความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นของดีเฟนเดอร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตรที่ให้กำลังแรงถึง 300 แรงม้าพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ 19.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้รถยนต์รุ่น P400e มีขุมพลังรวมถึง 404 แรงม้าจากระบบส่งกำลัง PHEV ขั้นสูง ทำให้มีสมรรถนะและการตอบสนองที่ดีเยี่ยมด้วยพลังงานไฟฟ้า นอกเหนือจากการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษแล้วนั้น ดีเฟนเดอร์ P400e ยังให้ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที อีกทั้งบนเส้นทางขรุขระสามารถใช้แรงบิดทันทีจากมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มขีดความสามารถของดีเฟนเดอร์ขึ้นไปอีกขั้น
ดีเฟนเดอร์ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด P400e รุ่นใหม่นี้คือสิ่งสำคัญในการปรับปรุงดีเฟนเดอร์รุ่นล่าสุด ซึ่งมอบการผสมผสานระหว่างสมรรถนะและความประหยัด ในขณะที่ยังคงเป็นแลนด์โรเวอร์ที่ทนทานที่สุด
ด้วยความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้และรูปทรงออฟโรดสำหรับรถยนต์ระบบไฮบริดไฟฟ้า 4x4 เต็มกำลัง ทำให้ P400e สามารถขับเคลื่อนในโหมด EV ต่ำได้อย่างเต็มที่ นำพามิติใหม่มาสู่การผจญภัยในโลกกว้าง
มาตรฐานของดีเฟนเดอร์ P400e ทุกรุ่นคือล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ และพอร์ตชาร์จทางด้านซ้ายของตัวรถ ทั้งหมดมาพร้อมกับสายชาร์จ Mode 2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สายชาร์จ Mode 2 จะใช้เวลาประมาณเจ็ดชั่วโมงในการชาร์จให้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชาร์จที่บ้านแบบข้ามคืน และด้วยการใช้ตัวชาร์จแบบชาร์จไวขนาด 50 กิโลวัตต์ทำให้รุ่น P400e ชาร์จได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 30 นาที
ดีเฟนเดอร์ P400e แบบ 5 ที่นั่ง พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ 3 โซนแบบมาตรฐาน กระจกนิรภัย และกระจกลดทอนแสงอาทิตย์ เฉพาะรุ่น
PHEV เท่านั้นที่มีการเบรคแบบจ่ายพลังงานคืน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายในการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ การฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไปจากการชะลอตัวและการเบรค และส่งพลังงานเหล่านั้นกลับเข้าไปในก้อนแบตเตอรี่
ระบบส่งกำลังของ PHEV ยังนำเสนอความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระอย่างเหนือชั้น การส่งแรงบิดเชิงเส้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินอย่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง เป็นไปอย่างราบรื่นควบคู่กับระบบขั้นสูงที่ทำให้ดีเฟนเดอร์เป็นแลนด์โรเวอร์ที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุด
ดีเฟนเดอร์ ได้นำเสนอระดับความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระในโหมดพลังงานไฟฟ้าแบบเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการนำเสนอรูปทรงออฟโรดที่เหนือกว่าสำหรับรถยนต์ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด เพื่อให้มั่นใจว่าความสามารถอันมหาศาลของดีเฟนเดอร์จะถูกใช้งานร่วมกันกับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังทั้งหมด ลักษณะเหล่านี้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อความสามารถในการลากจูงของดีเฟนเดอร์ โดยในรุ่น P400e สามารถลากจูงได้มากถึง 3,000 กิโลกรัม และสามารถรับน้ำหนักบนหลังคาได้ถึง 168 กิโลกรัมระหว่างขับขี่ หรือ 300 กิโลกรัมเมื่ออยู่กับที่
พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์
New Land Rover Defender Plug-In Hybrid รับฟรี Defender Glamping Experience 2 ทริปการขับขี่ออฟโรดในภูมิประเทศจริง พร้อมที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง ในทุ่งหญ้าส่วนตัว วิวภูเขาพาโนรามา 360 องศา ให้คุณได้ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง จำนวน 3 วัน 2 คืน ตั้งอยู่ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-666-7500 และ
www.landrover.co.th