10 จุดเด่นใน Ford Everest ใหม่ ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว!
Ford Everest รถอเนกประสงค์ SUV หรือ PPV ใหม่ล่าสุดเพิ่มความพรีเมี่ยม หรูหรา และสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ให้ความนุ่มนวล กว้างขวางในทุกที่นั่ง นับเป็นรถอเนกประสงค์ที่มียอดจำหน่ายติดอันดับ 1 ใน 3 ของรถยนต์ประเภทนี้ ฟอร์ด เอเวอเรส มาพร้อม 10 จุดเด่นที่เป็นฟังก์ชั่นโดนใจหลายคน และยังเป็นรถเจ้าแรก ๆ ที่นำระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายหลายอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นออปชั่นบางอย่างนับเป็นเจ้าเดียวที่มีให้!
รับรองเลยครับว่า 10 จุดเด่นของ
Ford Everest Titanium+ 2.0L Bi-turbo 4x4 AT ใหม่ในราคา
1,799,000 บาท นี้ ต้องถูกใจหลายคนแน่นอนครับ
1.หนึ่งเดียว...หลังคาพาโนรามิกรูฟ
ฟอร์ดเอเวอร์เรส นับเป็นรถ SUV/PPV รุ่นแรกและหนึ่งเดียวที่ติดตั้งหลังคา Panoramic moonroof ในเซกเมนต์นี้ โดยเป็นกระจกยาวถึงผู้โดยสารตอนหลัง เปิดได้ทั้งแบบกระดกขึ้นและเลื่อนออกได้ครึ่งหนึ่ง พร้อมแผ่นบังแสงลดความร้อนจากกระจก (รุ่น TITANIUM+)
2.เจ้าแรก...ประตูท้าย Handfree
ถัดมาก็เป็นระบบเปิด-ปิดประตูไฟฟ้า กับฟังก์ชัน Handfree (เตะเปิด) นับเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ติดตั้งในรถกลุ่มนี้ เพิ่มความสะดวกสบาย เนื่องจากตัวรถที่มีความสูงจากพื้นมากกว่ารถเก๋ง ฟอร์ดจึงเห็นว่าน่าจะเพิ่มระบบนี้ขึ้นมาให้ผู้ใช้สะดวกเวลาไม่สามารถใช้รีโมทได้ คิดมาเผื่อสำหรับเจ้าของรถเรียบร้อย
3.เครื่องยนต์แรงสุด 213 แรงม้า เกียร์ 10 สปีดจาก Mustang
แรงสุด แต่คงความประหยัด...กับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่
Bi-Turbo ให้
กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ผ่านระบบเกียร์ 10 สปีด ที่ใช้รุ่นเดียวกับรถซูเปอร์คาร์อย่าง
Ford Mustang และมันคือเครื่องยนต์กับเกียร์แบบเดียวกับใน
Ranger Raptor !! 4.เบาะแถวสามพับระบบไฟฟ้า
เพิ่มความสะดวกสบายกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ กับระบบไฟฟ้าพับเก็บและกางออกเบาะนั่งแถวที่สาม สั่งการด้วยสวิตช์ที่ติดตั้งด้านข้างของเสาหลัง (C-Pillar) และยังพับเก็บได้แบนราบเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อีกเยอะ
5.หนึ่งเดียว...กับระบบช่วยจอดแบบขนาด Active Park Assist และ เปิดเปิดไฟสูงอัตโนมัติ
Ford Everest TITANIUM+ นับเป็นรุ่นที่ติดตั้งระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติเจ้าแรกและเจ้าเดียวในปัจจุบัน ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการจอดขนาดชิดขอบทาง เมื่อต้องการจอดริมทางแต่ไม่อาจกะระยะช่องว่างที่มีว่ากว้างพอสำหรับเอเวสเรสหรือระบบนี้ก็จะช่วยคำนวนดูว่าสามารถจะยัดตัวเข้าไปจอดได้อย่างแม่นยำเลยครับ และหนึ่งเดียวที่มีระบบไฟหน้า Bi-LED พร้อมโหมด AUTO เปิด-ปิดอัตโนมัติ และมีร
ะบบปรับไฟสูงลงมาไฟต่ำอัตโนมัติ เมื่อถนนมืดหรือมีรถสวนทาง แตกต่างจากค่ายอื่นที่มีเพียงเปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเข้าที่มืดเท่านั้น
การใช้งานก็ง่ายเมื่อเจอช่องว่าง เพียงกดปุ่มช่วยจอด รูป P+พวงมาลัย ระบบจะแจ้งข้อความบนจอเครื่องเสียงและทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้เลยครับ ระบบนี้คล้ายกับที่อยู่ในรถวอลโว่, เมอเซเดส-เบนซ์ หรือ บีเอ็มดับเบิ้ลยู
6.ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC3 ภาษาไทย
หน้าจอสัมผัส Multi-Touch อินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาด 8 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันควบคุมเครื่องเสียงที่นับว่าเป็นเจ้าแรกอีกแล้วครับที่มีในรถระดับนี้ พร้อมกับการใช้งานที่ครอบคลุมมากที่สุดเชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพง 8 ตำแหน่ง และ ระบบแผนที่นำทาง Navigation
7.ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 โหมดการขับขี่แบบเดียวกับ Raptor
Ford Everest Titanium+ 2.0L Bi-turbo 4x4 AT สามารถเลือกปรับรูปแบบโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ คือ ปกติ, ทางหิมะหรือเปียกลื่น, ทรายหรือกรวดลอย และปีนหินหรือผ่านอุปสรรคที่ต้องใช้กำลังมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีระบบ Electronic Locking Rear Differential ล็อคเฟืองท้ายและระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control ขาดแค่โหมด
"บาฮา" ที่มีแต่ในแร็พเตอร์เท่านั้น ว่าแต่...รถแบบนี้จะไปลุยทะเลทรายกันหรือ?..
8.หนึ่งเดียวกับพวงมาลัยไฟฟ้าเบากระชับแม่นยำ
ข้อดีของระบบพวงมาลัยไฟฟ้าก็คือ ผ่อนแรงได้ดีมาก น้ำหนักเบา (เบากว่ารถเก๋งบางรุ่น) ไม่ต้องออกแรงมาก ผู้หญิงก็ขับได้สบาย ๆ ไม่ต้องโหน และยังช่วยไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามหัวไหล่เมื่อต้องเดินทางไกลอีกด้วย นอกจากนี้การปรับน้ำหนักตามความเร็วก็ช่วยให้ควบคุมรถที่ความเร็วสูงได้ดีไม่แกว่งหรือเบาเกินไป และพวงมาลัยระบบผ่อนแรงไฟฟ้าในรถเซ็กเมนต์นี้ ก็มีเพียงฟอร์ดและเชฟโรเลตเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีเพียงหนึ่งเดียวคือ ฟอร์ดนั่นเองครับ
9.เจ้าแรก...กับล้อขนาด 20 นิ้ว
ฟอร์ดชอบให้อะไรที่เป็นของใหม่พิเศษและมักจะทำเป็นเจ้าแรก ๆ อย่างเช่น ล้ออัลลอยขนาดใหญ่โตไซต์ 20 นิ้ว ที่เป็นออปชั่นติดรถมาในค่ายแรกของเซ็กเมนต์นี้ พร้อมกับลวดลายที่ดูพรี่เมี่ยมหรูหรา แทบไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ก็ขับได้สวยหล่อสะดุดตาทีเดียวครับ
10.รับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังรวม 10 ปี หรือ 150,000 กม.
เอเวอเรสต์ใหม่นี้นอกจากจะมีการปรับโฉมภายนอกแล้ว ระบบอะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆ ก็ถูกปรับปรุงให้มีสมรรถนะและความทนทานที่ดีขึ้นอีกด้วย เช่น ชุดเฟืองเกียร์ ท่ออินเตอร์คูลเลอร์ ฯลฯ จึงกล้าการันตีด้วยการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนานขึ้นเป็น 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องซื้อแพ็คเกจเพิ่มแต่อย่างใด เยอะกว่ารายอื่นอีกแล้วครับ
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานอีกมากมาย
ในเอเวอเรสใหม่ รุ่น ไททาเนียมพลัสนั้นมีการติดตั้งฟังก์ชั่นอีกมากมายและนับเป็นเจ้าแรกอีกเช่นกัน เพียงแต่ในปัจุบันนี้เริ่มมีรถจ่ายหลายค่ายเริ่มใส่ใจและอัดออปชั่นความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบเหล่านี้ก็ไม่ธรรมดาครับ ถือว่าปลอดภัยระดับเดียวกับรถยุโรปค่ายหรูเลยทีเดียวอย่างเช่น...
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน Adaptive cruise control
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
- ระบบไฟหน้า Bi-LED พร้อมโหมด AUTO เปิด-ปิดอัตโนมัติ และมีระบบปรับไฟสูงลงมาต่ำอัตโนมัติ เมื่อมีรถสวนทาง
- ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection (Autonomous Emergency Braking with Pedestrian Detection)
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind spot
- ระบบตรวจจับรถด้านหลังขณะออกจอดช่องจอด Cross Traffic Alert เป็นต้น
คงต้องบอกว่าหากใครที่กำลังเล็งซื้อรถครอบครัวที่พร้อมลุยไปได้ทุกที่ในงบประมาณหนึ่งล้านปลาย ๆ เมื่อได้ทดลองขับ
Ford Everest ใหม่ กับ 10 จุดเด่นที่จัดเต็มทั้งระบบแบบนี้ รับรองว่าต้องรีบขอ
"ใบจอง" ทันทีเลยครับ