2022 Ford F-150 Lightning EV รถที่ประธานาธิบดี Biden ถึงกับร้องว่า "this sucker is quick"
2022 Ford F-150 Lightning บุกตลาดรถกระบะ EV รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ และเปิดจองเต็มรูปแบบครั้งแรกด้วยราคาเริ่มต้น 39,000 เหรียญ ซึ่งในวันที่ "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันร่วมทดลองขับขี่ในสนามแห่งหนึ่งถึงกับอุทานว่า "this sucker is quick" ****มันเร็วขนาดนี้!! และกลายเป็นวลีที่คนทั่วโลกถึงกับอึ่งในความน่าสนใจของ Ford F-150 Lightning EV ใหม่
F-150 รถกระบะพันธุ์แกร่งไซต์ยักษ์พลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนมาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามารถทำความเร็ว 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 4 วินาทีกว่า จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุดที่มีกำลังสูงสุดรวม 563 แรงม้าและแรงบิด 775 ปอนด์ฟุต (1,050.7 นิวตัน-เมตร ) และยังมีรุ่นที่แบตเตอรี่มาตรฐานขนาดพละกำลังรองลงมาให้เลือกคือ 426 แรงม้า แรงบิดเท่ากัน 775 ปอนด์ฟุต (1,050.7 นิวตัน-เมตร )
FORD F-150 Lightning ใหม่เป็นรถบรรทุก F-Series รุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และความสะดวกสบาย สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุด 2,000 ปอนด์ หรือ 900 กว่ากิโลกรัม รองรับน้ำหนักรถพ่วงลากจูงได้ถึง 10,000 ปอนด์ หรือราว 4,500 กิโลกรัม
FORD F-150 Lightning มีชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้เลือก 2 ชุด เริ่มต้นที่แบบมาตรฐานสามารถขับได้ระยะทางสูงสุด 230 ไมล์ (370 กิโลเมตร) และแบตเตอรี่แบบ extended range วิ่งได้ประมาณ 300 ไมล์ (482 กิโลเมตร)
F-150 ไฟฟ้าจะมีเครื่องชาร์จ AC ออนบอร์ดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชุดแบตเตอรี่ที่ลูกค้าเลือกใช้ แบตเตอรี่มาตรฐานขนาด 11.3 กิโลวัตต์ AC Charger มาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จ 48A สำหรับใช้ในบ้านซึ่งจะชาร์จแบตเตอรี่จาก 15 - 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
และแบตเตอรี่แบบ extended range ขนาด 19.2 กิโลวัตต์ ที่ชาร์จได้ทั้ง 2 รูปแบบพร้อมระบบชาร์จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามมาตรฐานการชาร์จ SAE มาพร้อมเครื่องชาร์จ Dual สามารถเสียบเข้ากับเครื่องชาร์จบ้าน 80A จาก 15 - 100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง หรือใช้เครื่องชาร์จสาธารณะแบบเร็วขนาด 150kW DC กระแสตรงจาก 15 - 80 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลา 41 นาที
ฟอร์ด F-150 มีระบบทำงานซอฟต์แวร์ Intelligent Range ที่แสดงช่วงระยะทางการขับขี่ที่เหลือโดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เช่น น้ำหนักบรรทุกและการลากจูงเพื่อการคาดการณ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อใช้เซ็นเซอร์ของรถบรรทุกระบบจะประมาณได้ว่าขณะนั้นใช้กำลังลากเท่าไรและจะปรับการคาดการณ์ให้เหมาะสมกับไฟที่มีในแบตเตอรี่ นอกจากนี้ F-150 Lightning ยังทำหน้าที่เป็น Intelligent Backup Power เครื่องจ่ายไฟฟ้าให้กับที่พักอาศัย โดยสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถเพื่อจ่ายไฟให้บ้านของคุณในช่วงที่ไฟดับได้อีกด้วย! ดูแล้วคล้ายกับใน
Mitsubishi Outlander PHEV เลยครับ
สำหรับระบบ Intelligent Backup Power สามารถจ่ายกระแสไฟได้ 9.6 กิโลวัตต์ (เพิ่มขึ้นจาก 7.2 กิโลวัตต์ของ F-150 Hybrid) ทำให้ F-150 Lightning สามารถจ่ายไฟให้กับบ้านได้นานถึงสามวัน ระบบไฟฟ้าสำรองอัจฉริยะนี้เปิดใช้งานโดยเครื่องชาร์จในบ้าน 80A ของฟอร์ด และที่กระบะหลังมีเต้ารับมากถึง 11 จุด
ชุดแบตเตอรี่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับใช้กับ F-150 Lightning โดยมีระบบระบายความร้อนที่เพิ่มขึ้น ฟอร์ดต้องการให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของ F-150 Lightning จะสามารถรับมือในสภาพการขับขี่ที่ยากลำบากรวมถึงการลากจูงรถพ่วงที่มีน้ำหนักมากและการขับขี่แบบออฟโรด และผลิตออกมาให้มีอายุการใช้งานเท่ากับตัวรถ
F-150 Lightning ใหม่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไฟหน้า LED กระจังหน้าถูกปิดทึบแทนที่ฝากระโปรงหน้าด้วยที่ใส่สัมภาระขนาด 400 ลิตร และรับน้ำหนักบรรทุกมากถึง 400 ปอนด์ หรือ 181 กิโลกรัม พื้นที่แช่เย็นจากพลังงานของระบบ Mega-Power Frunk พร้อมกับมีฟังก์ชั่น USB แผ่นรองพื้นแบบถอดได้ ปลั๊กแบบระบายน้ำหรือโคลนได้ในตัว
F-150 ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC4A ล่าสุดของฟอร์ดที่ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ในแนวตั้งขนาด 15.5 นิ้วและคุณสมบัติการควบคุมด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติ ระบบนำทางที่เชื่อมต่อบนคลาวด์ Apple CarPlay ไร้สายและระบบไร้สาย Android Auto ตลอดจนการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air จอแสดงผลแบบสัมผัสยังคงมีปุ่มควบคุมทางกายภาพเช่นเดียวกับใน Mustang Mach-E
F-150 Lightning ใหม่จะสามารถเลือกใช้ได้กับระบบช่วยเหลือคนขับ L2 หรือหน่วยความจำระบบควบคุมการขับขี่แบบอัตโนมัติ 2 ผู้ขับขี่ แบบแฮนด์ฟรีของฟอร์ด BlueCruise ซึ่งสามารถเปิดใช้งานบนทางหลวงพิเศษที่ผ่านการตรวจสอบล่วงหน้าได้มากกว่า 100,000 ไมล์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ฟอร์ด F-150 Lightning ปี 2022 จะออกสู่ตลาดในช่วงกลางปีหน้ามีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ตามขนาดความจุแบตเตอรี่และออปชั่นอื่น ๆ พร้อมกับการเชื่อมต่อและบริการ telematics อีกด้วย
ภาพและข้อมูลจาก www.carscoops.com