Honda Civic 2022 รถสปอร์ตซีดานใหม่เครื่อง 2.0 ลิตร และ 1.5 เทอร์โบ 180 ม้า!
รถยนต์
Honda Civic 2022 เจนเนอเรชั่นที่ 11 เผยโฉมแล้วในยุโรป หลังจากโฉมที่แล้วเจนเนอเรชั่น 10 ฝาดยอดเรียบทั้งในและต่างประเทศ ฮอนด้าจึงเปิดตัวรถซีวิคซีดานที่ใช้เทคโนโลยีระดับเดียวกับใน
ฮอนด้า แอคคอร์ด รูปร่างเปรียวเน้นความสปอร์ตกว่าเดิม ติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงแบบแอคทีฟและพาสซีฟ
ทางฝั่งชาวอเมริกันได้ซื้อ
Honda Civic มากกว่า 12 ล้านคันตั้งแต่ปี 1973 ทำให้เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดในอเมริกาตลอด 48 ปี ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 1.7 ล้าน นับว่าเป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งของตัวเลือกคนในรุ่น Gen Z ฮอนด้าเจนเนอเรชั่น 10 ที่ผ่านมา
Honda Civic 2022 ได้มุ่งเน้นในการลดมลพิษและให้อากาศบริสุทธิ ควบคู่กับเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มขึ้น พร้อมความหรูหราเริ่มด้วยการขยับส่วนล่างของเสากระจกบังลมไปด้านหลังเกือบ 2 นิ้ว (1.96 นิ้ว) ทำให้ฝากระโปรงยาวขึ้นสไตล์เดียวกับแอคคอร์ด หลังคาและส่วนท้ายที่ลาดลงมาคงความเป็นคูเป้ กระจังหน้าและกันชนเพรียวบางลง ไฟหน้า Full LED ทรงหรูหรา พร้อมเอกลักษณ์เดิม "มุมทับทิมส้ม" และไฟตัดหมอก LED ตรงมุมชายล่างกันชนหน้า ส่วนไฟท้ายที่ดีไซน์ใหม่เปลี่ยนจากรูปตัว "C" เดิม ซึ่งโดยรวมมีความเหมือนแอคคอร์ดอยู่ไม่น้อย
ภายในออกแบบใหม่ให้มีพื้นที่ส่วนหัวขาไหล่และสะโพกที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารทุกคน รู้สึกถึงความกว้างขวาง คอนโซลหน้าเรียบหรูตกแต่งด้วยแผงลายรังผึ้งเป็นแนวยาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นและมาตรวัดที่มีจอแสดงผล LCD ขนาด 7 นิ้ว ในรุ่น LX, Sport และ EX แบบเดียวกับในแอคคอร์ด ส่วนรุ่น Touring ได้รับการตกแต่งด้วยจอแสดงผล LCD จอสีความละเอียดสูงขนาด 10.2 นิ้ว ที่เลือกใช้งานจากพวงมาลัย โดยแสดงมาตรวัดในแบบเข็มและหน้าปัดกลม ตรงกลางแสดงข้อมูลการทำงานต่าง ๆ และแสดงผลใช้งานของระบบความปลอดภัย Honda Sensing® พร้อมรูปรถยนต์ซีวิค 3 มิติ ที่แสดงผลได้ตั้งแต่การเปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยว
สำหรับ Honda Civic รุ่น LX, Sport และ EX มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสสีใหม่ขนาด 7 นิ้วซึ่งเป็นหน้าจอมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Civic ที่เคยมีมา และได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มทั้งปุ่มเลือกปรับโหมดกำลัง, ปรับระดับเสียงและปุ่มปรับแต่งหรือเลือกเพลง ฯลฯ ของระบบความบันเทิงและมาพร้อมระบบนำทาง รับ-วางสายโทรศัพท์
เชื่อมต่อ Bluetooth®/USB/Apple CarPlay® และ Android Auto™ ได้แบบครอบคลุมทุกการใช้งาน ในรุ่น Touring มาพร้อมจอสัมผัสสีขนาด 9 นิ้ว ใหญ่สุดตั้งแต่รถฮอนด้าเคยมีมา ติดตั้งระบบ Display Audio เช่นเดียวกับใน Accord, Odyssey, Pilot, Passport มีระบบชาร์จแบบไร้สายที่เข้ากันได้กับ Qi และระบบเครื่องเสียง Bose การประมวลผลสัญญาณดิจิตอล Bose Centerpoint 2 และ Bose SurroundStage ระบบใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาอย่างแม่นยำ เทคโนโลยี Dynamic Speed Compensation จะปรับระดับเสียงและโทนเสียงโดยอัตโนมัติตามความเร็วรถ
ระบบ Bose Premium Sound System
- ลำโพง Twiddler ขนาด 3.25 นิ้ว กลางคอนโซล 1 ตัว
- ทวีตเตอร์นีโอดิเมียมน้ำหนักเบาขนาด 1 นิ้ว 4 ตัว บริเวณเสา A และประตูคู่หลัง
- ลำโพงขนาด 6.5 นิ้ว 2 ตัวที่ประตูคู่หน้า
- ลำโพงขนาด 5.25 นิ้ว 2 ตัวที่ประตูคู่หลัง
- ลำโพงเสียงกลาง / สูง Bose Twiddler ขนาด 3.25 นิ้ว 2 ตัวบนเพดานด้านหลัง
- ซับวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว 1 ตัว ตรงกลางแผงด้านหลัง
- พลังขับจากแอมพลิฟายเออร์ดิจิตอลของ Bose แบบ 12 channels
ความปลอดภัย Honda Civic 2022 มาพร้อมโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของซีวิคและฐานล้อที่เพิ่มขึ้น 1.4 นิ้วเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ปรับปรุงให้ทนแรงบิดตัวได้เพิ่มขึ้น 8 % และความแข็งแกร่งในการโค้งงอดีขึ้น 13 % เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าและรับกับระบบ NVH โดยโครงสร้าง Advanced Compatibility Engineering™ (ACE™) รุ่นใหม่ของฮอนด้าได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการชนในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต
ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบคือ รุ่นมาตรฐาน LX และ Sport เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 158 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที (SAE net) และ 138 ปอนด์ - ฟุต (187 นิวตันเมตร) แรงบิดที่ 4,200 รอบต่อนาที (SAE net) ระบบ idle-stop และระบบกรองไอเสียใหม่ลดมลพิษลงได้มากขึ้น ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT ที่ปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงโดยใช้ปั๊มไฮดรอลิกไฟฟ้าที่แข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดภาระของปั๊ม เพลารองแบบลูกปืนเพื่อลดแรงเสียดทาน นอกจากนี้ยังได้รับการตั้งโปรแกรมให้มีการเปลี่ยนเกียร์ในช่วงต้นขณะเบรกและมีการปรับปรุงการตั้งโปรแกรม Step-Shift ซึ่งจะจำลองการเปลี่ยนเกียร์จริงภายใต้การเร่งความเร็วอย่างหนักเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่คุ้นเคยและสนุกสนานยิ่งขึ้น
สำหรับรุ่น EX และ Touring เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตรเทอร์โบให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที (SAE net) และ 177 ปอนด์ - ฟุต (240 นิวตันเมตร) แรงบิดที่ 1,700 ถึง 4,500 รอบต่อนาที (SAE net) เมื่อใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 87 แรงม้า เท่ากับว่าเพิ่มขึ้นอีก 6 แรงม้าและ 15 ปอนด์ - ฟุต (20 นิวตันเมตร) ของแรงบิดจากรุ่นปีที่แล้ว
ปรับปรุงระบบการไหลเวียนของน้ำมันเลี้ยงเทอร์โบที่ดีขึ้น และการเพิ่ม Variable Timing และยก Electronic Control (VTEC®) ไปยังวาล์วไอเสีย ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวแปลงแรงบิดในขณะที่ยังใช้การตั้งโปรแกรม Step-Shift ไปพร้อมกัน โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์มาพร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน Narmal, Eco ส่วนในรุ่น 2.0L Sport และ 1.5L Touring เพิ่มโหมด Sport ที่ใช้สวิตช์เปิดปิดที่คอนโซลกลาง
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ปรับปรุงข้อต่อต่าง ๆ ให้รับแรงได้ดีขึ้น ด้านหลังถูกขยายความยาวให้กว้างขึ้นอีก 0.5 นิ้ว พร้อมด้วยบูชใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแกนบูชที่ปรับปรุงใหม่เพื่อลดความกระด้างให้น้อยที่สุดและพวงมาลัยปรับปรุงให้แม่นยำกว่าเดิม
ความปลอดภัยนำระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟและพาสซีฟใหม่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าทั้งคนขับและผู้โดยสารได้รับการออกแบบมาเพื่อลดสภาวะที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่สมองได้ดีขึ้นโดยควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะได้ดีขึ้นในการชนบางประเภท เพื่อแก้ไขปัญหาการบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรง ถุงลมนิรภัยด้านคนขับด้านหน้าแบบใหม่ใช้โครงสร้างรูปทรงโดนัทที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารใช้การออกแบบเป็น 3 ชั้น โดยมีช่องด้านนอกสองช่องที่ออกแบบมาเพื่อรองรับและควบคุมการหมุนของศีรษะ ผสานเข้ากับระบบ Honda Sensing® เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใช้ระบบกล้องเดี่ยวใหม่ที่ให้มุมมองที่กว้างขึ้นกว่าระบบที่ใช้เรดาร์และกล้องรุ่นก่อนหน้า ระบบนี้ยังสามารถระบุคนเดินเท้าผู้ขี่จักรยานและยานพาหนะอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นรวมถึงเส้นถนนและป้ายบอกทาง
Honda Sensing® ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ระบบได้เพิ่ม Traffic Jam Assist และระบบที่ใช้กล้องใหม่จะปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานที่มีอยู่เช่นการใช้งานเบรคที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นและการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นเมื่อใช้ Adaptive Cruise Control (ACC) นอกจากนี้ยังมีการบังคับเลี้ยวที่เป็นเส้นตรงและเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่อใช้ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKAS) ด้วยการเพิ่มเซนเซอร์โซนาร์แปดตัวทำให้ Civic มีระบบควบคุมการเบรกความเร็วต่ำและระบบป้องกันการสตาร์ทผิดพลาดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
Honda Civic Sedan จะมีการผลิตใน Alliston, Ontario, Canada และเป็นครั้งแรกที่ Civic Hatchback จะผลิตในสหรัฐอเมริกาที่โรงงาน Greensburg รัฐ Indiana และการผลิตซีวิคทั้งหมดในอเมริกาเหนือจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศและจากทั่วโลก
ภาพและข้อมูลจาก www.netcarshow.com