Audi เปิดตัว The New e-tron GT ตอกย้ำทิศทางของโลกยนตรกรรมในอนาคต พร้อมรับจองทันที
The New Audi e-tron GT ยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% นับว่าเป็นยนตรกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุดหลังจากการเปิดตัวผ่าน Online World Premier ของ
AUDI AG เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่ผ่านมาเพียง 1 เดือน ก็ได้เขย่าอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัวเป็นประเทศแรกในเอเชีย โดยเชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, ผู้บริหาร, นักธุรกิจ และองค์กร ที่ให้ความสำคัญและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมรับจองทันที โดยมีให้เลือกถึง 3 รุ่น พร้อมข้อเสนอราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง
6,390,000 บาท สำหรับรุ่น
e-tron GT quattro ส่วน
e-tron GT quattro Performance ราคาเพียง
6,790,000 บาท และตัวท็อปที่สุดคือ
RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง 9,490,000 บาท พร้อมออฟชั่นจัดเต็ม
ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับเปลี่ยนทิศทางของโลกยนตรกรรมในอนาคต โดยถือเป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 3 ที่ทาง อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่าย นายกฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด กล่าวว่า "จากเทรนด์การเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและประเทศไทยมีการพัฒนาขยายเติบโตด้านเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ส่งผลทำให้ยอดจำหน่าย e-tron ทั้ง 2 รุ่น คือ e-tron SUV และ e-tron Sportback ที่ทาง อาวดี้ ประเทศไทย ได้นำเข้ามาจำหน่าย ตั้งแต่ปี 2018 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ในปีนี้ อาวดี้ ประเทศไทย จึงไม่รอช้าที่จะนำ e-tron GT ยนตรกรรมพลังไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุด เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นปรากฏการณ์และเป็นความภาคภูมิใจของ อาวดี้ ประเทศไทย กับการนำ e-tron GT มาเปิดตัวเป็นประเทศแรกในเอเชีย และเราเป็น 1 ในกลุ่มแรกของโลกที่ได้นำรถเข้ามาเปิดตัวก่อนใครจึงเป็นความตื่นเต้นและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของตลาดในไทยที่ AUDI AG ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า แฟนๆ อาวดี้ในประเทศไทยที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับการมาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ของ e-tron GT ทั้งการออกแบบที่ผสมความหรูหรา สปอร์ต สมรรถนะสูง พร้อมเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ก้าวล้ำสมัย โดยผลิตจากโรงงาน Bollinger Hofe ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นโรงงาน Carbon-Neutral ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราจึงเชื่อมั่นว่าการมาของ e-tron GT ที่เราได้สิทธิ์นำมาเปิดตัวอย่างรวดเร็ว จะสร้างความคึกคักให้อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าพรีเมียมที่กลายเป็นฮอตไอเทมแห่งปี 2021"
e-tron GT quattro มาพร้อมกับระบบ electric quattro ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัวในลักษณะเร่งแซงมีประสิทธิภาพ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก้าวล้ำกับนวัตกรรมไฟหน้า Matrix LED with Laser light ลำแสงคมชัด ทัศนวิสัยกว้างไกล ซึ่งให้ระยะการส่องสว่างของไฟสูงได้ไกลกว่าไฟ LED ถึงสองเท่า สามารถลดการกระจายแสงรบกวนแก่เพื่อนร่วมทาง ทั้งรถที่สวนทางและรถคันที่อยู่ด้านหน้า ส่งผลทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน พร้อมเอฟเฟกต์ Light staging เมื่อปลดล็อครถ หลังคาพาโนรามิคช่วยให้แสงเข้าสู่ตัวรถได้มากขึ้น เสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดูสว่างและกว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งหลังคาพาโนรามิคได้ผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี โดยมาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีดำ
พลังงานของ e-tron GT มาจากจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ e-motors ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ใน Boost Mode สามารถทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 กิโลวัตต์ ทำให้ขับได้กว่า 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC) นอกจากนี้ยังไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกกันว่า e-sound เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพื่อเพิ่มความสุนทรียภาพในการขับขี่ทุกเส้นทาง ด้วยเสียงสังเคราะห์ สะท้อนความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีที่ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ e-tron GT ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกหลายรายการ นอกจากนี้ e-tron ได้รับการพัฒนาโดยระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ จากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัวและการถอนเท้าออกจากคันเร่ง เพื่อผู้ขับขี่สามารถเดินทางในระยะทางที่มากกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ โดยผ่านฟังก์ชั่น Predictive efficiency assist (PEA) ในระบบ MMI
ภายในตกแต่งแบบสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Optimized Progressive แบบมัลติฟังก์ชั่น สปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง หน้าจอ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง พร้อมติดตั้งระบบ Cruise control ระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งพร้อม ระบบ Audi smartphone interface และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ทางอาวดี้ติดตั้งช่อง USB-C สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และ USB สำหรับห้องโดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง เพื่อรับรองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่ จัดเต็มด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติ พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร 30 สี เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน ความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า 85 ลิตร ด้านหลัง 405 ลิตร เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน
e-tron GT quattro เปิดตัวในราคาเพียง
6,390,000 บาท e-tron GT quattro Performance ในรุ่นนี้ ได้รับการตกแต่งอุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่น e-tron GT quattro อีก 3 รายการ คือ ขนาดล้อที่ใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 21 นิ้ว เพิ่ม On board charger (AC) สามารถรองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้สูงสุดถึง 22 KW จากรุ่นปกติที่รองรับการชาร์จกำลังไฟ AC ได้ 11 KW ส่งผลใช้เวลาในการชาร์จแบบ AC สั้นลงเหลือเพียงประมาณ 5 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น ดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีส้ม ช่วยลดการเกิดสนิมและฝุ่นบนจานเบรก และยังช่วยระบายความร้อนของจานเบรกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานของเบรกได้ยาวนานกว่าระบบเบรกแบบสตีลถึง 30% ระยะทางขับเคลื่อนต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งอยู่ที่ 523 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ NEDC) โดย e-tron GT quattro Performance เปิดตัวในราคาสุดพิเศษเพียง
6,790,000 บาท สำหรับตัวท็อป
RS e-tron GT quattro เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ โดยมีความสมบูรณ์แบบ สวยงาม โฉบเฉี่ยว สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผสมผสานดีไซน์ ฟังก์ชั่น และความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มาพร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงถึง 646 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ใน Boost Mode ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. สามารถขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC) นอกจากนี้ RS e-tron GT quattro ยังติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ All-wheel steering เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและการทรงตัวขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว
พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง โดยด้านหน้าความจุ 85 ลิตร ด้านหลัง 350 ลิตร ล้อ 21 นิ้ว ลายพิเศษ ดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Black package พร้อมตกแต่งกระจกมองข้างด้วยสีดำ และตกแต่งกระจังหน้าด้วยสี Glossy black
RS e-tron GT quattro ได้รับการออกแบบภายในตามแบบฉบับของ Audi Sport ที่มีการจัดวางตำแหน่งที่นั่งภายในห้องโดยสารอันชาญฉลาด ส่งผลให้พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางและนั่งได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารตกแต่งด้วยลาย Matte Carbon Twill ด้านข้างของคอนโซลตรงกลางหุ้มหนัง Alcantara สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ทำให้ดูสวยดุดัน และสปอร์ตเพิ่มขึ้น ที่วางแขนข้างประตูหุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เอกลักษณ์โดดเด่นแสดงให้เห็นความสปอร์ตด้วยสายเข็มขัดนิรภัยสีแดงล้วน พรมในห้องโดยสารด้านหน้าสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports Pro ตกแต่งแบบ Honeycomb พร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ และนวดเพื่อการผ่อนคลาย สำหรับเบาะนั่งคู่หน้า พวงมาลัยไฟฟ้ามัลติฟังก์ชั่นทรงสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยระบบแสดงข้อมูล Head-up display ภายในที่กว้างขวางตามแบบฉบับของ Audi Sport เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง และสมรรถนะอันเร้าใจ พร้อมความสะดวกสบายตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเปิดตัวในราคาสุดเร้าใจเพียง 9,490,000 บาท
"ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่หลงใหลความเร็ว มองหาประสิทธิภาพ และกำลังตามหายนตรกรรมพรีเมียมพลังไฟฟ้าที่มีความชาญฉลาดทางเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ยืนยันว่า The new Audi e-tron GT สุดยอดนวัตกรรมของโลกยุคใหม่ ซึ่งมีความโดดเด่นและแตกต่างเป็น DNA ของ Audi เป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ" นายกฤษฎา กล่าว
e-tron GT มีให้เลือก 9 สี โดยเปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้ที่โชว์รูมอาวดี้ ทั่วประเทศ โดยอาวดี้ ประเทศไทย ยังมียนตรกรรม ไฟฟ้า e-tron อีก 2 รุ่น ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ พร้อมให้ลูกค้าได้เลือก คือ
e-tron Sportback 55 quattro S line และ
e-tron 55 quattro นอกจากนี้ลูกค้าที่สนใจยังสามารถไปยลโฉมคันจริงได้ที่บูธ Audi ในงาน Bangkok International Motor Show 2021 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานีด้วย