BMW จัดทัพยนตรกรรมสายพันธุ์ M หลากรุ่นมาให้สัมผัสในงานมอเตอร์โชว์ 2021
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย หลังจากคว้าตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมในปีที่ผ่านมา ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในเป้าหมายสำคัญในปีนี้คือการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ลูกค้า เตรียมนำแฟนๆ ไปสัมผัสกับทัพยนตรกรรมใหม่ซึ่งสอดประสานความโดดเด่นด้านสมรรถนะ สไตล์ และนวัตกรรมล้ำสมัย ที่พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจในงาน
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2021 นำโดย
M4 Competition Coupe พร้อมเปิดตัวอีก 3 รุ่นใหม่ในสายพันธุ์
M Performance Edition ได้แก่
330e M Sport,
X3 xDrive20d M Sport และ
X4 xDrive20d M Sport X ยนตรกรรมระดับพรีเมียมเปรียบเสมือนกับความท้าทายในการตอบโจทย์ทั้งด้านความหรูหราและสมรรถนะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ใหม่ในครั้งนี้ คือการเปิดตัวแอปพลิเคชั่น My BMW เจเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัดระหว่างรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และสมาร์ทโฟนโดยแอปใหม่นี้ มาพร้อมการใช้งานที่ง่ายดายยิ่งขึ้น สามารถแสดงข้อมูลของรถยนต์รวมทั้งควบคุมการทำงานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของรถยนต์จากระยะไกล พร้อมนำสู่ประสบการณ์การเดินทางที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น เช่น การเปิดระบบปรับอากาศในรถยนต์จากระยะไกลเพื่อเตรียมอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ตั้งแต่วินาทีแรกของการเดินทาง, ด้านการหาเส้นทางทำได้อย่างง่ายดายขึ้นอีกขั้น หรือในกรณีที่รถยนต์อาจต้องรองรับผู้ขับขี่หลายคน ก็สามารถตั้งค่าตามความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคนได้ทันที ฯลฯ ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูสามารถทดลองใช้แอป My BMW ซึ่งจะเข้ามาแทนที่แอป BMW ได้ที่บูธบีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมอเตอร์โชว์ 2021 และสามารถดาวน์โหลดแอปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ Google Play Store และ Apple App Store ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2564 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
ราคาจำหน่าย: 9,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition Coupe หลอมรวมจิตวิญญาณแห่งความทรงพลัง ความคล่องตัว และความเร้าใจจากวิศวกรรมขั้นสูงของบีเอ็มดับเบิลยู M มาพร้อมสมรรถนะอันโดดเด่นตามแบบฉบับรถแข่งพันธุ์แท้ ถ่ายทอดสู่รูปแบบของการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่เปี่ยมล้นด้วยพละกำลังเหนือชั้น ตอบสนองความหลงใหลด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์และแชสซีชั้นเลิศ เอกลักษณ์การดีไซน์ที่ตรึงใจ และระบบการขับขี่ใหม่ต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถยนต์สายพันธุ์ M อย่างแท้จริง
ขุมพลังของ M4 Competition Coupe ผสานพลังจากเครื่องยนต์เบนซินรอบสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในตระกูล M เข้ากับสมรรถนะจากเทคโนโลยี M TwinPower Turbo รุ่นใหม่ล่าสุด ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง แรงบิด 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750-5,500 รอบต่อนาที ให้กำลัง 510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ M Steptronic Sport พร้อม Drivelogic ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดการสูญเสียกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมผ่านคันเกียร์ M หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย
องค์ประกอบสำคัญที่สร้างความปราดเปรียว คล่องตัว และการควบคุมที่เฉียบคมให้แก่รถยนต์ในตระกูล M คือโครงสร้างตัวถังและแชสซีอันแข็งแกร่ง เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบช่วงล่าง Adaptive M พร้อมโช้คอัพที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพลาหน้าและเพลาท้ายยืดหยุ่นด้วยการตั้งค่าตามหลักจลนศาสตร์ของรุ่น M และยังมาพร้อมระบบ M Servotronic ช่วยปรับกำลังพวงมาลัยให้เหมาะสมกับความเร็วแต่ละช่วงของการขับขี่ เพิ่มประสิทธิภาพการชะลอความเร็วด้วยระบบเบรก M compound ที่มอบการตอบสนองอย่างทันใจ สร้างประสบการณ์ขับขี่สไตล์สปอร์ตอย่างไร้ขีดจำกัดยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ M Dynamic Mode ช่วยให้ดริฟท์รถได้อย่างถึงใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ M4 Competition Coupe ยังได้รับการติดตั้งระบบ M Drive Professional ที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเสริมสัมผัสที่เร้าใจยิ่งขึ้นขณะขับขี่ในสนามแข่ง โดยมาพร้อมระบบ M Traction Control ที่ปรับระดับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีได้ถึง 10 ระดับตามความต้องการของผู้ขับขี่ก่อนสั่งการให้ DSC ทำงาน และยังครอบคลุมถึงระบบ M Drift Analyser ที่สามารถบันทึกและวิเคราะห์คะแนนความแม่นยำในการเข้าโค้งของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ M Laptimer ช่วยบอกเวลาการขับขี่ต่อรอบ รวมถึงข้อมูลการขับขี่อื่น ๆ ในสนามแข่ง และยังมาพร้อมระบบเฟืองท้าย M Sport และล้ออัลลอย M Forged ลาย Double-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว ในล้อหน้า และ 20 นิ้วในล้อหลัง
ดีไซน์โฉมใหม่ของ M4 Competition Coupe สะท้อนถึงความทรงพลังอันโดดเด่น และความหลงใหลในการขับขี่ยิ่งกว่าที่เคย สะกดสายตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งขนาดใหญ่ตัดกับซี่แนวนอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู M สอดรับกับซุ้มล้อที่มีเส้นสายหนักแน่นพร้อมช่องระบายอากาศด้านข้างสไตล์ M กาบข้างพร้อมชิ้นส่วนในสไตล์เดียวกันบริเวณกระโปรงหน้าและท้ายรถ เสริมการตกแต่งที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Carbon ซึ่งประกอบไปด้วยหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมครีบเสริมประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ฝาครอบกระจกข้าง กาบข้าง และสปอยเลอร์หลังในวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และยังมาพร้อมท่อไอเสียแบบคู่, ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบ BMW Laserlight
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยลวดลายเส้นสายที่เด่นชัด เข้ากันอย่างลงตัวกับการออกแบบที่ตอกย้ำถึงความเอาใจใส่ในความสะดวกสบายและสุนทรียภาพในการขับขี่ โดย M4 Competition Coupe มาพร้อมเบาะนั่่ง M carbon ทรง bucket เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมเอารูปแบบเบาะที่นั่งของรถแข่งเข้าไว้กับโครงสร้างคาร์บอนน้ำหนักเบา แต่ยังคงเน้นย้ำความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ระยะไกล รายละเอียดตะเข็บเย็บแสดงถึงประณีตบรรจงของช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ มาพร้อมพนักพิงศีรษะที่สามารถถอดเก็บได้สำหรับการขับขี่ในสนามแข่งและตราสัญลักษณ์ M เรืองแสง สามารถปรับไฟฟ้าได้ และยังมาพร้อมเข็มขัดนิรภัยที่รองรับการยึดแบบหลายจุด เสริมความปลอดภัยมั่นคงตามแบบฉบับรถแข่ง ปุ่ม M Mode บริเวณคอนโซลกลางใช้สำหรับตั้งค่าการตอบสนอง และรูปแบบของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ ส่วนมาตรวัดและจอ BMW Head-up Display แสดงข้อมูลระหว่างการขับขี่ในสภาวะต่าง ๆ ตามสไตล์ M นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ROAD, SPORT และ TRACK สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง
M4 Competition Coupe มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัยอย่างครบครัน ช่วยให้การขับขี่ในสภาวะต่าง ๆ ง่ายดายยิ่งขึ้น เช่น เซนเซอร์ควบคุุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ระบบเตือนออกนอกช่องทางเดินรถ ตลอดไปจนถึงระบบ Driving Assistant และ Parking Assistant รุ่น Plus สำหรับระบบบันเทิงและสื่อสาร ทำงานบนระบบ BMW Live Cockpit Professional จอแสดงผลแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมระบบนำทางที่ดึงข้อมูลจากระบบคลาวด์ BMW Maps และ BMW Intelligent Personal Assistant
M4 Competition Coupe ใหม่มาให้เลือกใน 3 สีใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ สีเหลือง Sao Paulo Yellow non-metallic, สีแดง Toronto Red metallic และสีเขียว Isle of Man Green metallic
ราคาจำหน่าย: 3,859,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
X3 เจเนอเรชั่นที่ 3 เสริมความสปอร์ตเต็มพิกัดยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Performance โดยมาพร้อมล้ออัลลอย M Performance ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ ได้แก่ ฝาครอบกระจกข้าง และกาบบันไดพร้อมไฟส่องสว่าง สอดรับกับสปอยเลอร์หลังสีดำเงา เสริมความพิเศษสะดุดตาด้วย สติกเกอร์แต่งรถ M Performance บนกันชนหน้าและสติกเกอร์แต่งรถ BMW M แบบ tri-color ทั้ง 2 ข้างของตัวถัง ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ความสปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยู X3 กว่าที่เคย
นอกจากชุดแต่ง M Performance แล้ว
X3 xDrive20d M Sport (M Performance Edition) ยังมาพร้อมชุดตกแต่ง M Sport รอบคัน ประกอบด้วย ชุดแต่ง M Aerodynamics และขอบหน้าต่างและราวหลังคาสีดำเงา
ภายในรถตกแต่งด้วย Aluminium Rhombicle trim finishers ตัดกับ Pearl Chrome พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ M Sport พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ เสริมด้วยพรมปูรองพื้น M Performance และยังเสริมความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและแม่นยำในทุกเส้นทาง
X3 xDrive20d M Sport (M Performance Edition) ยังมาพร้อมช่วงล่าง M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 213 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.6 กิโลเมตร/ลิตร และระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ยที่ 150 กรัม/กิโลเมตร ขณะที่ระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง (Performance Control) ช่วยยกระดับการควบคุมพลังลงสู่แต่ละล้อให้เฉียบคมและมั่นคงยิ่งขึ้น
X3 xDrive20d M Sport (M Performance Edition) มาพร้อมปุ่มควบคุม iDrive และสั่งงานด้วยระบบสัมผัส จอแสดงผลภาพความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานอัจฉริยะ BMW Gesture Control ที่สามารถควบคุมระบบนำทางและระบบบันเทิงสื่อสาร ผ่านการเคลื่อนไหวของมือ และการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานโดยใช้ภาษาพูดในชีวิตประจำวันแทนที่การใช้ชุดคำสั่งที่กำหนดมา นอกจากนี้ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินกับระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon เพื่อการเดินทางที่สุนทรีย์ยิ่งขึ้น
ราคาจำหน่าย: 4,199,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
X4 หวนกลับมาอีกครั้งชุดแต่ง M Performance ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกมอเตอร์สปอร์ตกับ
X4 xDrive20d M Sport X (M Performance Edition) เสริมลุคด้วยฝาครอบกระจกข้างและกาบบันไดคาร์บอนไฟเบอร์ ครีบหางมาในสีดำเงา โฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอย M Performance ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke โดดเด่นด้วยกลิ่นอายรถแข่งบนทุกเส้นทางด้วยสติกเกอร์แต่งรถ BMW M แบบ tri-color ทั้งสองข้างของตัวรถ
นอกจากชุดแต่ง M Performance แล้วยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Sport X ที่หลอมรวมกลิ่นอายความสปอร์ตและสมรรถนะออฟโรดเข้าไว้ได้อย่างลงตัว สร้างความสะดุดตาด้วยสเกิร์ตและซุ้มล้อสี Frozen Grey ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant) หลังคาลาดต่ำสไตล์คูเป้โดดเด่นด้วยกระจกพาโนรามาที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ดีไซน์ภายนอกพิเศษยิ่งขึ้นด้วยองค์ประกอบสี Frozen Grey ตัดกันอย่างลงตัวกับวัสดุสีดำเงา BMW Individual high-gloss Shadow Line
ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำให้ X4 xDrive20d M Sport X (M Performance Edition) ให้พละกำลัง 190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กม./ชม. ให้สมรรถนะที่คล่องตัวในทุกสภาพท้องถนนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight จึงมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ซึ่งนับว่ายอดเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ภายในเซกเมนต์เดียวกัน
X4 xDrive20d M Sport X (M Performance Edition) เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมการขับขี่ล้ำสมัยอย่างเต็มเปี่ยมเพื่อเสริมสมรรถนะทั้งออนโรดและออฟโรด ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go (Active Cruise Control with Stop&Go), ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant), ระบบควบคุมการขับขี่่ขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control), ระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus) รวมทั้งระบบความปลอดภัยอีกมากมาย เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่่อยล้าขณะขับขี่่ (Attentiveness Assistant) และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง
ภายในห้องโดยสารยังคงผสานภาพลักษณ์ของความแข็งแกร่งเข้ากับความหรูหราสง่างามไว้ได้อย่างลงตัวมาพร้อมพรมปูรองพื้น M Performance, เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตหนังแท้ Vernasca พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น M Sport พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ แผงคอนโซลหุ้มหนัง Sensatec ตกแต่งภายในด้วย Aluminium Rhombicle Dark พร้อมแถบโครเมียม มอบความหรูหราด้วยชุุดไฟ Ambient Light สะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุถึง 525-1,430 ลิตร นอกจากนี้ X4 xDrive20d M Sport X (M Performance Edition) ยังมาพร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารต่าง ๆ อีกมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ โดยทั้งหมดควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการล่าสุด BMW Operating System 7.0 และครบครันด้วยคุณสมบัติมากมาย
ทั้งระบบ BMW Live Cockpit Professional เทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด BMW ConnectedDrive ระบบ iDrive ระบบการสั่งการด้วยเสียงและ BMW Gesture Control จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว และระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-up Display)
330e M Sport (M Performance Edition)
ราคาจำหน่าย: 2,999,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ปลั๊กอินไฮบริดใน รุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดเพียง 15 คันนี้ ไม่เพียงเป็นยนตรกรรมที่สื่อถึงวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังผสานความหลงใหลในความเร้าใจจากสนามแข่งไว้ได้อย่างลงตัวด้วยชุดแต่ง M Performance ด้านหน้าตัวรถประกาศถึงเอกลักษณ์ที่เหนือระดับด้วยกระจังหน้า Iconic Glow ที่เปล่งแสงสว่างตั้งแต่ปลดล็อกรถไปจนถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ และตั้งแต่ดับเครื่องไปจนล็อกรถ สร้างประสบการณ์เฉพาะตัวในการขึ้นรถและลงรถด้วย ไฟ LED โปรเจคเตอร์ฉายโลโก้บีเอ็มดับเบิลยูติดบริเวณประตูรถ เสริมความสปอร์ตด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ ได้แก่ ฝาครอบกระจกข้าง สปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์หลัง ร่วมกับลิ้นกันชนหน้าซ้ายและขวา เน้นย้ำถึงความหรูหราเหนือระดับควบคู่ไปกับการขับขี่สไตล์สปอร์ต
330e M Sport (M Performance Edition) สืบทอดรูปโฉมที่ทันสมัยและปราดเปรียวของซีรีส์ 3 ซีดาน ใหม่ ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่งและคมชัด ด้านหน้าของตัวรถคือกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ในกรอบที่เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาว ส่งเสริมรูปลักษณ์ความสง่าแบบรถสปอร์ตให้โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยกรอบหน้าต่างที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่เรียวยิ่งขึ้นในรูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม โดยในรุ่น M Performance Edition มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke
330e M Sport (M Performance Edition) ได้ยกระดับการขับเคลื่อนอันน่าประทับใจของซีรีส์ 3 ซีดาน ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วย XtraBoost ฟังก์ชั่นใหม่ที่จะเผยสมรรถนะสูงสุดของรถยนต์ออกมาด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 292 แรงม้า และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost และปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้ 330e M Sport มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
ในโหมดการขับขี่แบบ HYBRID ของ 330e M Sport (M Performance Edition) เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 30 กม./ชม. โดยใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นการใช้พลังงานเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันในโหมด ELECTRIC ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. มากกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้ 120 กม./ชม. บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ยังได้ปรับปรุงอัตราการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าปลอดมลพิษให้มากกว่ารุ่นก่อน 50 เปอร์เซ็นต์ ในระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 55-68 กิโลเมตร ในขณะเดียวกันยังลดการใช้อัตราการสิ้นเปลืองและการปล่อยมลพิษในโหมดขับขี่อื่น ๆ ได้มากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ระบบสร้างเสียงจำลองเพื่อให้ผู้ใช้ทางเท้าได้ยินจะถูกเปิดใช้ในขณะขับขี่ด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งเสียงเตือนผู้ใช้ทางเท้าผ่านระบบลำโพงติดตั้งภายนอก
การออกแบบสไตล์ M Sport ของ 330e M Sport (M Performance Edition) นี้ ยังเสริมความโดดเด่นคล่องแคล่วบนท้องถนนด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของรถยนต์ กระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษบริเวณซี่กระจังหน้าไตคู่สีดำเงาและขอบช่องดักอากาศแบบสี Chrome เพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่าง Adaptive M มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic และคาลิเปอร์เบรกแบบ M Sport เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยความสะดวกสะบายและความหรูหราในห้องโดยสารที่ประกอบด้วยพวงมาลัยหนังแท้ M กาบบันไดและชุดแป้นวางเท้า เพดานหลังคาภายในสี Anthracite และอีกมากมาย
ข้อเสนอพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์แนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 42
ลูกค้าที่จองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมอเตอร์ โชว์ 2021 และมีกำหนดรับมอบรถภายใน วันที่ 30 เมษายน 2564 จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ต่อไปนี้ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)
- สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นด้วยสินเชื่อกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย จะได้รับการยกระดับโปรแกรมบำรุงรักษาจาก BSI Standard เป็น BSI Ultimate ครอบคลุมระยะเวลาการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ว่าระยะใดถึงก่อน)
- ลูกค้าที่จองรถบีเอ็มดับเบิลยูด้วยสินเชื่อแบบมีบอลลูนกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของแต่ละรุ่น ดังนี้
- สำหรับลูกค้าเดิมของบีเอ็มดับเบิลยู สามารถสั่งจองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยสินเชื่อกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย พร้อมรับข้อเสนอดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี (ดาวน์ 25% ผ่อนชำระ 60 เดือน)
- สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SME ที่เป็นลูกค้าเดิมของบีเอ็มดับเบิลยู และสั่งจองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport, 530e Elite, 530e M Sport, X3 xDrive30e xLine, X3 xDrive30e M Sport (Pro) และ X5 xDrive45e M Sport จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังต่อไปนี้
- ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1% ของราคารถ
- สิทธิในการนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 36,000 บาทต่อเดือน