รถสปอร์ตเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการมีให้เลือก 2 รุ่น ราคา 3.59-4.79 ล้านบาท

ฟอร์ด ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว Ford Mustang เป็นครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีวางจำหน่ายสองรุ่น คือ รุ่น Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 5.0ลิตร วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) และ รุ่น Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 2.3ลิตร อีโคบูสท์ คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) มาพร้อมดีไซน์ที่ปราดเปรียวกว่าเดิม เครื่องยนต์อันทรงพลังและระบบกันสะเทือนที่เหนือกว่า ทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะและออปชั่นเสริมมากมาย สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทยที่หลงใหลในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถแห่งตำนานรุ่นนี้

Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 5.0ลิตร วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) และ Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 2.3ลิตร อีโคบูสท์ คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) จะเป็นแบบหลังลาด หรือ Fastback นอกจากรูปทรงภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์และเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว ยังมาพร้อมดีไซน์ที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีไฟ LED ที่เหนือชั้น สีภายนอกที่มีให้เลือกมากถึง 4 สี และล้ออัลลอยแบบใหม่

เครื่องยนต์ Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 5.0ลิตร วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) เป็นเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบพลังที่มากกว่าและรอบเครื่อง red line ที่สูงกว่าที่เคยมีมา ด้วยระบบหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) ที่ผสานระบบไดเร็คอินเจคชั่นแรงดันสูง (High-Pressure Direct Injection) และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection) ที่พร้อมมอบขุมพลังสูงสุดถึง 460 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เหมือนที่มีใน Ranger, Everest และ Raptor สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง7.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 297 กรัม/กิโลเมตร

เครื่องยนต์ Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 2.3ลิตร อีโคบูสท์ คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร ที่พร้อมมอบขุมพลัง 300 แรงม้า ที่ 5,400 รอบต่อนาที ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 5 วินาที ประหยัดน้ำมันได้ 10.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 217 กรัม/กิโลเมตร นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น Overboost ยังช่วยเพิ่มแรงดันอากาศจากเทอร์โบทุกครั้งที่ เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้สนุกสนานกับเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้รวดเร็วดั่งใจในทุกการเร่งเครื่อง

ด้วยการปรับแต่งเครื่องให้เข้ากับการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ Ford Mustang พร้อมมอบความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ (Drive Modes) มากมาย รวมถึงโหมดใหม่ My Mode ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้ตามต้องการ 

นอกจากนี้ ในรุ่น Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 5.0ลิตร วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) ยังมีชุดท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust ที่สามารถลดเสียงของเครื่องยนต์ ระหว่างขับขี่ในโหมดที่เป็นมิตรต่อเพื่อนบ้านซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ตอนเช้าตรู่และยามดึกและปรับให้เสียงกระหึ่มเร้าใจได้ตามต้องการ

เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะของ Ford ก็ได้รับการติดตั้งมาใน Mustang ด้วยเช่นกัน อาทิ ระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน อัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ซึ่งช่วยมอบความเพลิดเพลินให้กับการขับขี่ยิ่งขึ้น 

ภายในตัวห้องโดยสารตกแต่งอย่างหรูหราทันสมัยด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่มสบายมือ พร้อมแผงหน้าปัดแสดงผลดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว เพื่อประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือชั้นและความสะดวกสบายสูงสุดของผู้โดยสาร เมื่อปลดล็อคประตู ปุ่มสตาร์ทรถจะกระพริบไฟสีแดงทันทีจนกว่าจะสตาร์ทรถ โดยจะกระพริบด้วยความเร็ว 30 ครั้งต่อนาที เท่ากับอัตราการเต้นของหัวใจของม้าป่ามัสแตงขณะพัก

รูปลักษณ์ภายนอก Mustang ยังคงเอกลักษณ์ที่เป็นที่จดจำตลอด 50 ปีที่ผ่านมาไว้อย่างครบถ้วน ฝากระโปรงหน้าได้รับการปรับให้แบนราบลงพร้อมช่องระบายอากาศในตัวและดีไซน์กระจังหน้าที่ต่ำลง ส่งผลให้ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ ดูดุดัน โฉบเฉี่ยว และยังเหมาะกับการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น วิศวกรของ Ford ยังปรับลดความสูงของช่วงหน้าและเพิ่มขนาดของสปลิตเตอร์หรือลิ้นหน้า เพื่อเพิ่มแรงกด ในช่วงหน้าของตัวรถให้สามารถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น แผงกันชนด้านหลังล้อหน้ายังช่วยให้อากาศไหลผ่านใต้ตัวรถได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดแรงต้านได้มากถึง 3 % กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์แบบใหม่ช่วยเพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้กับด้านท้ายของ Ford Mustang

ไฟหน้าเดย์ไลท์ ไฟเลี้ยวและไฟท้าย 3 แถวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford Mustang ทุกคัน จะมาพร้อมเทคโนโลยีไฟ LED ในขณะที่ฝาไฟหน้าได้รับการออกแบบใหม่เพื่อสอดรับกับทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของกระจังหน้าชิ้นบน

Ford Mustang ที่จำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีส้ม ออเรนจ์ ฟิวรี่ เมทัลลิค ไตร-โค้ท (Orange Fury Metallic Tri-Coat) , สีดำชาโดว์ แบล็ค เมทัลลิค (Shadow Black Metallic), สีแดง เรซ เรด (Race Red) และ สีเทา แมคเนติค เมทัลลิค (Magnetic Metallic) 

Ford Mustang ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ให้การขับขี่ในโค้งสนุกสนานขึ้น ล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้วในทั้งสองรุ่น รวมถึงระบบเบรค Brembo ในรุ่น GT และฟีเจอร์เสริมอีกมากมายที่เข้ากับเอกลักษณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนาน และยังคงตำนานอันโดดเด่นกว่า 50 ปี ในแบบฉบับของฟอร์ด มัสแตง ได้เป็นอย่างดี

อีกจุดเด่นของ Mustang ก็คือระบบ Electronic Line Lock ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเบิร์นยางคู่หลังได้อย่างง่ายดาย และพร้อมกับการแข่งทางตรง (drag strip) ซึ่งระบบนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งในรุ่น Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 5.0ลิตร วี8 จีที คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค) และ Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack (ฟอร์ด มัสแตง 2.3ลิตร อีโคบูสท์ คูเป้ เพอร์ฟอมานซ์ แพค)

วิศวกรของ Ford ได้ทำการพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ของฟอร์ด มัสแตง ไปอีกขั้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา โช้คอัพที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นคง ในขณะที่ช่วงล่างได้รับการออกแบบให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยข้อต่อแบบ Cross-Axis ช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นในการเข้าโค้งที่สามารถนำไปสู่การบิดของตัวถังได้ เหล็กกันโคลงที่หนาขึ้นยังช่วยลดอาการโคลง (body-roll) และช่วยให้ควบคุมรถได้เฉียบคมยิ่งขึ้น

Ford Mustang มาพร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ 2 โหมด เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่ง รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัยและการทำงานโหมดปรับระดับความดังของชุดท่อไอเสีย  Active Valve Performance Exhaust ให้เหมาะกับการขับขี่แบบต่างๆ โดยมี 2 โหมดใหม่ นอกจากโหมดปกติ (Normal) โหมดสปอร์ต (Sport) โหมดแทร็ค (Track) และโหมดหิมะ/พื้นเปียก (Snow/Wet) คือ โหมดแข่งทางตรง (Drag Strip) เพื่อประสิทธิภาพอัตราเร่งสูงสุด และการแข่งขันแบบควอเตอร์ไมล์ในสนามแข่ง และ โหมด My Mode ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกตั้งค่าสมรรถนะการขับขี่และเสียงท่อไอเสียได้ตามต้องการ 

Mustang ยังคงเน้นเรื่องความปลอดภัยเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ของ Ford จึงติดตั้ง ระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน อัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรง และในบางกรณียังสามารถลดอัตราการชนยานพาหนะหรือคนเดินถนนจากด้านหน้ารถได้ ทั้งยังมี ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และระบบแจ้งเตือนระยะห่าง (Distance Alert) เป็นครั้งแรก ช่วยรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันหน้า นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อีกมากมาย เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง และแจ้งเตือนเมื่อออกนอกช่องทาง ซึ่งทำการเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเส้นทางโดยไม่ตั้งใจ และช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อนำรถกลับเข้าสู่ช่องทาง (Lane Keeping System)

แผงหน้าปัดของ Mustang เป็นหน้าจอ LCD ขนาด 12 นิ้ว จะแสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโหมดขับขี่แต่ละโหมด คล้ายกับที่มีในรถซุปเปอร์คาร์ อย่าง Ford GT เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกการขับขี่ โดยการแสดงผลจะเปลี่ยนตามโหมดขับขี่โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ เมื่อใช้งานฟีเจอร์ Electronic Line Lock ผู้ขับขี่ยังจะเห็นแอนนิเมชั่นแบบวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกบนหน้าจอ 12 นิ้วอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบสื่อสารและความบันเทิงภายใน SYNC 3 ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมสมาร์ทโฟน ระบบเสียง ระบบนำทางและระบบปรับอากาศด้วยการสั่งงานด้วยเสียงและการสั่งงานด้วยการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีนกลางขนาด 8 นิ้ว โดยระบบ SYNC 3 รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

นอกจากงานเปิดตัวแล้วยังได้จัดให้สื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานได้ทดลองขับในสนาม พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ด้วยสถานีทดสอบต่างๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ Ford Mustang โดยเริ่มจาก Acceleration Test เพื่อเปรียบเทียบอัตราเร่งของเครื่องยนต์ทั้งสองตัว จากนั้นไปต่อกันที่สถานี Slalom, Handling, Lane Change เพื่อดูการตอบสนองของตัวรถก่อนจะจบด้วยสถานีทดสอบ ฺBrake ถือเป็นการจบรอบการทดสอบภายในงานเปิดตัวครั้งนี้

ราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัว สำหรับ Ford Mustang ทั้งสองรุ่น

Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,799,000 บาท

Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,599,000 บาท

Ford Mustang พร้อมให้ลูกค้าจองแล้ว ณ ผู้จำหน่าย Ford Mustang อย่างเป็นทางการ 19 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ด้วยPackage Ford Premium Care ที่มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถนานสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ในการตรวจเช็คตามระยะ 5 ครั้ง ยาวนานถึง 60 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตร อีกทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี

สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้จำหน่าย Ford Mustang อย่างเป็นทางการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เบอร์ ฟอร์ด คอลเซ็นเตอร์ โทร 0-2686-5899 (กรุงเทพฯ) และต่างจังหวัดโทรฟรีที่ 1-800-225-449 หรือบนเว็บไซต์ www.ford.co.th

ดูราคา-สเปค และรายละเอียดโปรโมชั่นรถยนต์ Ford Mustang ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และรายละเอียดโปรโมชั่นรถยนต์ Ford ทุกรุ่น