New Ford Ranger 2018 ร้อนแรงด้วยขุมพลังใหม่ กับเทคโนโลยีที่เหนือชั้น ให้สมรรถนะได้เหนือกว่า
บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จํากัด เปิดตัว
New Ford Ranger 2018 อย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น สานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว
New Ford Ranger 2018 ที่จำหน่ายในประเทศไทย มีทั้งหมด 20 รุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่น Wildtrak, XLT, XLS, XL+, Xl, กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และรุ่นใหม่ Limited และยังรวมถึง Raptor รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
New Ford Ranger 2018 มีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 3 แบบ ที่ผลิตจากวัสดุและการออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพและมอบสมรรถนะสูงสุด โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมมอบแรงบิดที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าเดิม ให้กำลัง 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร, เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ล้ำหน้าของฟอร์ด มอบกำลังสูงถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตัน-เมตรพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
New Ford Ranger 2018 มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังคงมีอยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เช่นเดิม
ไม่เพียงเท่านี้ New Ford Ranger ยังติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ยังรวมถึงระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist - APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น
ในรุ่น Wildtrak และ Limited ยังได้ติดตั้งระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิด-ปิดฝากระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังได้เพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน
New Ford Ranger 2018 ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ เริ่มจากกระจังหน้าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ลงตัว ในรุ่น Wildtrak และ Limitedมาพร้อมไฟ Daylight LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น การตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในเรนเจอร์ XLT และ Limited รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นใน Wildtrak สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นได้เป็นอย่างดี Wildtrak ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสี 'Saber' (สีส้มประกายบลอนด์) สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ทั้งนี้ยังให้กุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Limited และรุ่น Wildtrak
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งในวันทำงานที่หนักหน่วง การเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์หรือการผจญภัยแบบออฟโรด ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางตกแต่งในโทนสีดำ พร้อมพื้นผิววัสดุตรงจุดสัมผัสที่ทนทานเพื่อคุณภาพการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน และเพื่อความบันเทิงสูงสุด New Ford Ranger ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่น Wildtrak 4x4 อีกด้วย
ระบบSYNC 3 ที่ติดตั้งมารองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบSYNC 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น ครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบSYNC 3
New Ford Ranger มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น ตามราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้
- Raptor Double Cab 2.0L Bi-Turbo 4x4 10 AT ราคา 1,699,000 บาท
- Wildtrak Double Cab 2.0L Bi-Turbo 4x4 10 AT ราคา 1,265,000 บาท
- Wildtrak Double Cab 2.0L Bi-Turbo Hi-Rider 10 AT ราคา 1,029,000 บาท
- Limited Double Cab 2.0L Turbo 4x4 10 AT ราคา 1,029,000 บาท
- Limited Double Cab 2.0L Turbo Hi-Rider 10 AT ราคา 949,000 บาท
- Limited Double Cab 2.0L Turbo Hi-Rider 6 MT ราคา 899,000 บาท
- Limited Open Cab 2.0L Turbo 4x4 6 MT ราคา 889,000 บาท
- XLT Double Cab 2.2L Hi-Rider 6 AT ราคา 869,000 บาท
- XLT Double Cab 2.2L Hi-Rider 6 MT ราคา 829,000 บาท
- XLT Open Cab 2.2L Hi-Rider 6 AT ราคา 789,000 บาท
- XLT Open Cab 2.2L Hi-Rider 6 MT ราคา 749,000 บาท
- XLS Double Cab 2.2L Hi-Rider 6 MT ราคา 789,000 บาท
- XLS Open Cab 2.2L Hi-Rider 6 AT ราคา 739,000 บาท
- XLS Open Cab 2.2L Hi-Rider 6 MT ราคา 699,000 บาท
- XLS Open Cab 2.2L 6 MT ราคา 659,000 บาท
- XL+ Open Cab 2.2L Hi-Rider 6 MT ราคา 649,000 บาท
- XL Open Cab 2.2L 6 MT ราคา 599,000 บาท
- XL Standard Cab 2.2L 6 MT ราคา 559,000 บาท
- Short Wheel Base 2.0L Bi-Turbo 4x4 10 AT ราคา 799,000 บาท
- Short Wheel Base 2.0L Turbo 4x2 6 MT ราคา 589,000 บาท
New Ford Ranger 2018 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีใหม่ 2 สี นั่นคือ สีส้ม Saber (เฉพาะรุ่นwildtrak) และสีฟ้า Lightning Blue (ยกเว้นรุ่น XL และ Wildtrak) และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงิน Aluminuim Metallic, สีดำ Absolute Black Metallic, สีเทา Meteor Grey Metallic, สีขาว Frozen White และสีแดง True Red
นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี