Ford Everest 2018 ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ใหม่ เริ่มต้น 1.29 ล้านบาท
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ 2018 (Ford Everest 2018) เครื่องยนต์ใหม่ไบเทอร์โบ พร้อมเกียร์ 10 สปีด ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท เพิ่มสมรรถนะ พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ และความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งทางเรียบและออฟโรด
เปิดรับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ และพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ภายนอกและภายใน
ภายนอก
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (Ford Everest 2018) ดีไซน์กระจังหน้าใหม่ และไฟหน้า HID ที่ส่องสว่างกว่าไฟหน้าทั่วไป พร้อมล้อแมกซ์อัลลอยแบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20 นิ้ว ที่ช่วยเสริมให้รถดูดุดันและหรูหรา
ไฟหน้า HID ที่ส่องสว่างกว่าไฟหน้าทั่วไป
ล้อแมกซ์อัลลอยแบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20"
ใน
รุ่น 2.0L Turbo Titanium+ และ
รุ่น 2.0L Bi-Turbo Titanium+ ล้ออัลลอยขนาด 17" ใน
รุ่น 2.0L Trend ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ มอบความหรูหราให้แก่ห้องโดยสาร และยังเสริมความโดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลของจุดสัมผัสต่างๆ ในห้องโดยสาร เพื่อความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในการใช้งาน
ข้อมูลด้านเทคนิค
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (Ford Everest 2018) มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ (Bi-turbo Diesel Engine) และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า (157 กิโลวัตต์) เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น พร้อมลดเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ไปในเวลาเดียวกัน
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ (Bi-turbo Diesel Engine)
ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุดถึง 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดถึง 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,500 รอบต่อนาที ทั้งหมดผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเช่นกัน
สัญลักษณ์ในรุ่นตัวท็อป สังเกตได้ง่ายๆ ข้างตัวรถ
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ไบเทอร์โบยังสามารถกระจายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,750 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลังและเร่งความเร็ว ช่วยให้การขับรถบนทางลาด เช่น การขับรถขึ้นภูเขาที่ลื่นและลาดชันง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนของฟอร์ด ซึ่งผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี กุญแจรีโมทอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
กุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่
ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) คอยแจ้งเตือนที่หน้าจอ
ซึ่งระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรก จะคอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่จะได้รับความสะดวกสบายจากระบบประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เพียงยื่นเท้าไปที่ใต้กันชนท้าย ประตูท้ายจะเปิดโดยอัตโนมัติ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ทุกรุ่น ได้รับการติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์อีกด้วย ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
และที่เพิ่มเติมเข้ามาในเรื่องของความปลอดภัยก็คือ ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) คือ ระบบ SYNC ที่ได้รับการพัฒนามาขึ้นอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน
นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ได้แก่
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS - Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert)
- กล้องมองหลังขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Rear View Camera and Sensors)
- ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation)
ราคา สี และบริการ Ford Everest 2018
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ใหม่ วางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น คือ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (Ford Everest 2018) มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี รวมถึงสีใหม่ Diffused Silver Metallic และสีมาตรฐาน ได้แก่ Aluminum Metallic, Absolute Black Metallic, Arctic White, Sunset Metallic และ Blue Reflex Metallic
นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี