Mazda แถลงยอดขายรวมครึ่งปีแรกทะลุ 33,000 คัน โดย Mazda 2 ยังคงครองใจผู้บริโภค
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงความสำเร็จการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรกของปี 2561 ด้วยตัวเลขยอดขายสูงถึง 33,593 คัน ถือว่าเติบโตกว่า 41% ทำสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผลจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่กำลังเติบโต คาดการณ์ยอดรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้จะเกิน 1 ล้านคัน มาสด้าเลยประกาศปรับเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 27% ประมาณการตัวเลขยอดขายทะลุ 65,000 คัน
จากยอดขายรวมของ Mazda ในปี 2560 ที่มียอดขายอยู่ที่ 51,355 คัน เพิ่มขึ้น 21% ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.9% ถือว่าประสบความสำเร็จ เมื่อพิจารณาตัวเลข 6 เดือนแรกของปี 2560 ปรากฏว่ายอดขายรถมาสด้าอยู่ที่ 23,893 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.8% ในขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2561 ตัวเลขรวมของมาสด้าพุ่งสูงถึง 33,593 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 41% ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 6.9% โดยแบ่งตามรุ่นดังต่อไปนี้
Mazda 2 ยังคงครองอันดับหนึ่งของรถยนต์นั่งขนาดเล็กด้วยยอดขายสูงถึง 21,741 คัน เติบโต 52%
Mazda CX-5 จำนวน 4,399 คัน เพิ่มขึ้น 179%
Mazda BT-50 Pro จำนวน 3,254 คัน เพิ่มขึ้น 5% Mazda 3 จำนวน 2,621 คัน ลดลงเล็กน้อยเพียง 2% Mazda CX-3 จำนวน 1,562 คัน ลดลง 30% Mazda MX-5 จำนวน 16 คัน เพิ่มขึ้น 60%
นอกจากประสบความสำเร็จสูงสุดด้านยอดขายรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกแล้ว ในครึ่งปีหลังยังได้เตรียมรุกตลาดด้วยนโยบายก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยการทำงานเป็นทีมภายใต้การบริหารงานโดยคนไทยเพื่อลูกค้าชาวไทยครอบคลุมทุกฟังก์ชัน ด้วย 4 ยุทธศาสตร์ก้าวสู่การเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง
1. กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจความเป็นหนึ่งเดียว หรือ One Mazda ยึดมั่นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของแนวคิดในการทำงาน โดยทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด โดยนำเอากลยุทธ์ Mazda Building Block Strategy มาใช้ในการกำหนดทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตแบบเป็นขั้นเป็นตอน และเป็นการนำเอาเทคโนโลยีในอนาคตมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. กลยุทธ์ด้านการขาย คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ Mazda ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ด้วยการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ หรือการออกงานอีเว้นท์ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมบนสื่อออนไลน์ ประกอบด้วย
- การจัดกิจกรรมในโชว์รูมและการออกโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ แยกเป็นงานในโชว์รูมใช้ชื่อ "MAZDA NEXT EXPERIENCE" ส่วนงานตามห้างสรรพสินค้าใช้ชื่อ "MAZDA SKYACTIV FESTIVAL" ทั้งสองกิจกรรมจะจัดขึ้นเป็นประจำในทุกๆ เดือน และกระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
- นโยบายการสนับสนุนการขายในงานบิ๊กอีเวนท์ ได้แก่ Motor Show, Fast Auto Show, Auto Salon, Big Motor Sales และ Motor Expo และงานตามต่างจังหวัด ได้แก่ Local Motor Show, Mini Motor Show ที่ห้างสรรพสินค้า, งานประจำปีและงานกาชาด
- การขยายพื้นที่โชว์รูมตามมาตรฐานใหม่ หรือ Mazda Corporate Identity ปัจจุบันแล้วเสร็จประมาณ 50% หรือ 62 โชว์รูม เป้าหมายของมาสด้าในปีนี้คือ 90% และทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2562 ปัจจุบันมีโชว์รูมทั้งหมด 134 แห่ง เป้าหมายคือขยายเพิ่มเป็น 140 แห่ง ภายในปีนี้
3. กลยุทธ์ด้านการเอาใจใส่ดูแลลูกค้า นอกจากยอดขายที่เติบสูงสุดแล้ว สิ่งสำคัญที่ Mazda ยึดมั่นมาตลอดคือการสร้างมาตรฐานการบริการหลังการขายให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อเอาใจใส่ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถ โดยเฉพาะครึ่งปีหลังนี้มาสด้าเน้นในส่วนของการบริการหลังการขาย ด้วยการเร่งมือปฏิบัติตามโปรแกรม MAZDA ACTIV SERVICE อาทิ Mazda Premium Insurance โครงการประกันภัยรถยนต์ประเภท1 ด้วยเงื่อนไขความคุ้มครองและสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับลูกค้ามาสด้า, Mazda Care ลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพอะไหล่แท้ทุกชิ้น, Mazda Added Protection หรือโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์, Mazda Genuine Part หรืออะไหล่แท้จาก Mazda และ 24-Road Side Assistant บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกเส้นทาง
4. กลยุทธ์ด้านการตลาดโดยเฉพาะครึ่งปีหลังของ 2561 เดินหน้าบุกตลาดเต็มที่ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเดินสายออกโรดโชว์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กิจกรรมร่วมสนุกผ่านสื่อออนไลน์ เสริมทัพด้วยรถฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ New Mazda CX-3 Model Year 2018 ในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้ เพื่อสร้างแบรนด์มาสด้าให้เป็นที่จดจำและมีความใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างแน่นแฟ้น นอกจากนี้มาสด้าจะเน้นเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการบริการหลังการขาย เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ ที่อยู่ในใจของลูกค้าและเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเลือกและรักตลอดไป
ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก มีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้บริโภคคนไทยนิยมซื้อสินค้าทางระบบออนไลน์กันมากขึ้น สาเหตุอย่างแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องความสะดวกสบาย และยังมีในเรื่องของราคา ความหลากหลายของสินค้า รวมถึงความเป็นส่วนตัวแฝงอยู่ด้วย ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลของสินค้าและร้านค้าที่ต้องการซื้อจากทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย โดยสินค้าที่เราเห็นเป็นส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าขนาดเล็กถึงขนาดปานกลางที่จับต้องได้ แต่ในปัจจุบันการซื้อสินค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่นรถยนต์ก็เข้ามามีอิทธิพลในการซื้อขายแบบออนไลน์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ มาสด้าเตรียมจัดกิจกรรมเพื่อพิชิตดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่ไม่เคยมีใครกล้าพิสูจน์ ด้วยการนำรถยนต์จากประเทศไทยประกอบด้วยรุ่น Mazda 2, Mazda 3, Mazda CX-5 และ Mazda BT-50 Pro ไปทดสอบในเส้นทางที่ท้าทายด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายและอากาศหนาวจัด เพื่อร่วมพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ที่มีผลิตจากประเทศไทย ภายใต้ชื่องาน Mazda Passion Drive to the New Horizon "เปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า" เพื่อพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจากเขตภูมิอากาศร้อนชื้นไปขับในสภาพภูมิอากาศที่หนาวจัด ในแถบกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ประกอบด้วย สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ และฟินแลนด์ ด้วยระยะทางขับขี่กว่า 6,000 กิโลเมตร ในช่วงเดือนกันยายน นี้