Chang Super GT Race 2018 สุดมันส์กับเกมการแข่งขันระดับโลกอีกครั้งในเมืองไทย

การแข่งขันในรายการ Chang Super GT Race 2018 ถือเป็นปีที่ 5 ที่รายการ Super GT ได้ใช้  สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นสนามแข่งขันนอกประเทศญี่ปุ่น โดยในการแข่งขันครั้งนี้จะแข่งกันทั้งหมด 66 รอบสนาม (ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ) ซึ่งมีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 38 คัน แบ่งออกเป็น รุ่น GT 500 - 15 คัน และ รุ่น GT 300 - 23 คัน ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรต้องไปร่วมลุ้นกัน 

ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แถลงข่าวร่วมกับ Mr.Masaaki Bandoh ประธานบริษัท จีทีเอ จำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขัน Super GT ถึงทิศทางของ Super GT ในอนาคตหลังผ่านความร่วมมือกันมาเป็นอย่างดีถึง 5 ปี โดยทั้ง 2 ยังคงยืนยันว่า สนามช้างฯ จะยังเป็นหนึ่งสนามแข่งขันนอกประเทศญี่ปุ่นของรายการ Super GT ต่อไปในอนาคต

Mr.Masaaki Bandoh  ประธาน GTA (ซ้าย) และ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้างฯ (ขวา)

ก่อนหน้าจะทำการ Qualify มีฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้กรรมการต้องประกาศเป็น Wet Qualify เริ่มที่ รุ่น GT 300 มีทีมแข่งไทยลงแข่งขัน 2 ทีม นำโดย Arto-Panther Team Thailand ที่ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ด้วยการขับของคู่หูจอมเก๋าอย่าง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ ในรถ Lexus RC F GT3 และทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง Est Cola by AAS Motorsport ที่ขับโดย กันตธีร์ กุศิริ และทีมเมทชาวฝรั่งเศส Maxime Jousse ในรถ Bentley Continental GT3

Lexus RC F GT3 ของ Arto-Panther Team Thailand

 Bentley Continental GT3 ของ Est Cola by AAS Motorsport 

ในช่วงน็อคเอาท์ ควอลิฟาย 1 กันตธีร์ ทำผลงานยอดเยี่ยมลงไปกดเวลาให้กับ Est Cola by AAS Motorsport เป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.575 วินาที ทะลุเข้าสู่รอบ น็อคเอาท์ ควอลิฟายที่ 2 ได้สำเร็จ ส่วน ณัฐพงษ์ ที่ลงควอลิฟายเป็นไม้แรกให้กับ Arto-Panther Team Thailand จบอันดับ 19 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 44.544 วินาที ต้องหยุดเส้นทางการจัดอันดับสตาร์ทไว้เพียงรอบแรกเท่านั้น

หลังจากนั้นผิวแทร็กเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ทุกทีมเปลี่ยนกลับมาใช้ยางสลิค เพื่อกดเวลาต่อรอบอีกครั้ง โดย Maxime Jousse ที่รับหน้าที่เป็นนักขับในรอบ น็อคเอาท์ ควอลิฟาย 2 ของ Est Cola by AAS Motorsport กดเวลามาเป็นอันดับ 12 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 33.607 วินาที ส่วน Arto-Panther Team Thailand ได้ออกตัวจากกริดที่ 19

Mercedes-AMG GT3 สังกัดทีม K2 R&D Leon RACING

Lamborghini Huracan GT3  สังกัด JLOC 

Nissan GT-R NISMO GT3 ทีม Gainer

ตำแหน่งโพลโพสิชั่นในรุ่น GT 300 เป็นของ Naoya Gamou และ Haruki Kurosawa คู่หูชาวญี่ปุ่น สังกัดทีม K2 R&D Leon RCING ภายใต้รถแข่ง Mercedes-AMG GT3 หมายเลข 65 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 32.554 วินาที โดยเวลาเท่ากันกับอันดับ 2 อย่าง Andrea Caldarelli นักขับอิตาเลียนและ Kazuki Hiramine ทีมเมทชาวญี่ปุ่นสังกัด JLOC ในรถ Lamborghini Huracan GT3 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง Hiroki Yoshida และ Kazuki Hoshino จากทีม Gainer ในรถ Nissan GT-R NISMO GT3 ตามหลังหัวแถวเพียง 0.177 วินาที เท่านั้น

Honda NSX-GT สังกัด Team Kunimitsu ของ Jenson Button และ Naoki Yamamoto

รุ่น GT 500 เป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เมื่อปีนี้มี Jenson Button อดีตแชมป์โลก F1 ชาวอังกฤษร่วมดวลความเร็วในเมืองไทยเป็นครั้งแรกกับต้นสังกัด Team Kunimitsu กับทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง Naoki Yamamoto ในฐานะผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพหลังผ่านการแข่งขัน 3 สนาม

Honda NSX-GT สังกัด Team Mugen 

Honda NSX-GT สังกัด Keihin Real Racing 

Lexus LC500 สังกัด Lexus Team SARD  

จากการควอลิฟายตำแหน่งโพลโพสิชั่นเป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่น Hideki Mutoh และ Daisuke Nakjima สังกัด Team Mugen ด้วยรถแข่ง Honda NSX-GT ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 23.341 วินาที เฉือน Koudai Tsukakoshi และ Takashi Kogure สองนักขับญี่ปุ่นสังกัด Keihin Real Racing ในรถ Honda NSX-GT เพียง 0.117 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อดีตนักขับ F1 สองคนอย่าง Heikki Kovalainen ชาวฟินแลนด์ และ Kamui Kobayashi ชาวญี่ปุ่นสังกัด Lexus Team SARD ในรถ Lexus LC500 ตามหลัง 0.335 วินาที ด้าน Button และ Yamamoto ได้ออกตัวจากกริดที่ 5

ในช่วงการแข่งขันของรายการ Super GT 2018 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จะทำการแข่งขันกันทั้งหมด 66 รอบสนาม (ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ) ในรุ่นใหญ่อย่าง GT 500 Hideki Mutoh และ Daisuke Nakjima สังกัด Team Mugen ด้วยรถแข่ง Honda NSX-GT ได้ตำแหน่งโพลฯ ขนาบข้างด้วย Koudai Tsukakoshi และ Takashi Kogure สังกัด Kehin Real Racing ในรถ Honda NSX-GT ส่วนกริดที่ 3 เป็นคู่หูอดีตนักขับ F1 อย่าง Hekki Kovalainen และ Kamui Kobayashi สังกัด Lexus Team SARD ในรถ Lexus LC500

ส่วนรุ่น GT 300 ตำแหน่งโพลฯ เป็น Naoya Gamou และ Haruki Kurosawa คู่หูชาวญี่ปุ่น สังกัดทีม K2 R&D Leon RCING ภายใต้รถแข่ง Mercedes-AMG GT3 ขนาบข้างด้วย  Andrea Caldarelli และ Kazuki Hiramine สังกัด JLOC ในรถ Lamborghini Huracan GT3 ส่วนกริดที่  Hiroki Yoshida และ Kazuki Hoshino จากทีม Gainer ในรถ Nissan GT-R NISMO GT3 

ในปีนี้มีทีมแข่งไทยลงดวลความเร็วในบ้านเกิด 2 ทีม ในรุ่น GT 300 โดยทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง Est Cola by AAS Motorsport โดย กันตธีร์ กุศิริ และ Maxime Jousse ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 10 ส่วน Arto-Panther Team Thailand ซึ่งลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ ได้ออกตัวจากกริดที่ 17

Maxime Jousse ทำหน้าที่เป็นนักขับคนแรกของ Est Cola by AAS Motorsport และออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมทะยานจากกริดที่ 10 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ได้ตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขัน และขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ในรอบที่ 6 อย่างไรก็ดี จากจังหวะออกตัวที่เกิดการ "Jump Start" ส่งผลให้ทีม Est Cola by AAS Motorsport โดนกรรมการตัดสินลงโทษ Drive-through ทำให้ร่วงลงไปอยู่ในอันดับสุดท้าย ด้าน ณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นนักขับคนแรกของ Arto-Panther Team Thailand ขยับจากกริดที่ 17 ขึ้นมารั้งอันดับ 14 ในรอบที่ 18

จากนั้นในรอบที่ 24 Maxime Jousse เข้าพิตเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับให้ กันตธีร์ ลงมาทำหน้าที่ต่อให้กับ Est Cola by AAS Motorsport ด้านทีม Arto-Panther Team Thailand ในช่วงกลางเรซก่อนเปลี่ยนตัวนักขับ ณัฐพงษ์ พาทีมไทยขึ้นไปอยู่สูงถึงอันดับ 5 ก่อนจะส่งหน้าที่ต่อให้ ณัฐวุฒิ ลงมาขับในช่วงครึ่งหลังของเรซ โดยผลงานของ 2 ทีมแข่งไทยหลังสู้แบบสุดใจตลอดทั้งเรซ ผลออกมาเป็น กันตธีร์ พารถแข่ง Bentley Continental GT3 หมายเลข 32 จาก Est Cola by AAS Motorsport จบการแข่งขันในอันดับ 14  ส่วนทีม Arto-Panther Team Thailand โดย ณัฐวุฒิ ในรถแข่ง Lexus RC F GT3 หมายเลข 35 จบการแข่งขันในอันดับ 15 

 Nissan GT-R NISMO GT3  สังกัด  Gainer

Toyota Prius สังกัด APR

Lexus RC F GT3  สังกัด LM Corsa

หลังผ่าน 66 รอบการแข่งขัน ในรุ่น GT 300 ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ รถหมายเลข 11 สังกัด Gainer ขับโดย Katsuyuki Hiranaka และ Hironobu Yasuda ในรถ Nissan GT-R NISMO GT3 ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที 1.838 วินาที ตามด้วยอันดับ 2 รถหมายเลข 31 สังกัด APR ขับโดย Koki Saga และ Kohei Hirata ในรถ Toyota Prius ตามหลัง 3.569 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถหมายเลข 60 สังกัด LM Corsa ขับโดย Hiroki Yoshimoto และ Ritomo Miysta ในรถ Lexus RC F GT3 ตามหลังแชมป์ 8.712  วินาที

Lexus LC500  สังกัด Lexus Team SARD

ทางด้านรุ่นใหญ่ GT 500 หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันตลอด 66 รอบสนาม กลายเป็น Lexus LC500 ที่พาเหรดขึ้นโพเดียมครบทั้ง 3 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ รถหมายเลข 39 สังกัด Lexus Team SARD ขับโดยคู่หูอดีตนักขับ F1 อย่าง Hekki kovalainen และ Kamui Kobayashi ในรถ Lesux LC500 ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ก่อนพลิกขึ้นในในช่วงกลางเรซและเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 36 นาที 42.825 วินาที

Lexus LC500 สังกัด Lexus Team LEMANS WAKO'S 

Lexus LC500 สังกัด LexusTeam Wedsport Bandoh

ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ รถหมายเลข 6 สังกัด Lexus Team LEMANS WAKO'S ขับโดย Kazuya Oshima และ Felix Rosenqvist ในรถ Lexus LC500 ตามหลังแชมป์เพียง 2.860 วินาที เท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ รถหมายเลข 19 สังกัด LexusTeam Wedsport Bandoh ขับโดย Yuji Kunimoto และ Kenta Yamashita ในรถ Lexus LC500 ตามหลังแชมป์ 12.969 วินาที 

ทั้งนี้ ตลอดทั้ง 3 วันของการแข่งขันมีแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้าชมเกมอย่างคับคั่งเป็นจำนวนหลายหมื่นคน สร้างความคึกคักให้กับสุดสัปดาห์แห่งมอเตอร์สปอร์ตที่ บุรีรัมย์ เป็นอย่างมากสำหรับการแข่งขัน Super GT 2018 สนามถัดไปจะโยกกลับไปดวลความเร็วที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้ ที่สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์

นอกจากเกมการแข่งขันสุดมันแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยของ ในช่วงกิจกรรม Bus Safari ที่ผู้ชมจะได้มีโอกาสเข้าไปอยุ่ใน สนามช้างฯ โดยมีรถแข่ง Super GT วิ่งอยู่ข้างๆ

ส่วนกิจกรรม Pit Walk ที่ผู้ชมจะได้เดินไปชมรถแข่ง และได้ใกล้ชิดนักแข่งรวมถึงสาวๆ Race Queen อย่างใกล้ชิด รวมถึงรับของที่ระลึกจากทีมแข่งต่างๆ อีกด้วย

ตัวอย่างของที่ระลึกที่บรรดาทีมแข่งนำมาแจกให้กับผู้ชม 

ทิ้งท้ายกันกับภาพสาวๆ Race Queen ก่อนจากกันไปกับงาน Chang Super GT Race 2018 ในครั้งนี้ ไว้พบกันใหม่กับ Chang Super GT Race 2019