Mazda เปิดศึกตลาดรถเก๋ง ส่ง Mazda 3 ใหม่ เติมออปชั่นอัดแน่นเทคโนโลยี แต่ขยับราคาเพิ่มนิดเดียว
Mazda ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการส่ง Mazda 2 รุ่นปี 2018 ลงตลาดมาสด้า2 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ลงตลาดช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ก็ถึงเวลาที่จะทำการเสริมทัพอีกครั้ง ด้วยการส่ง Mazda 3 รถยนต์ซับคอมแพคคาร์ระดับพรีเมียม ในกลุ่ม C-Segment สู้ศึกลุยตลาดก่อนถึงงานมอเตอร์โชว์ 2018 ภายใต้แนวคิดสุดหรู Vision Beyond Imagination หรือ มิติใหม่ของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง โดยยังคงใช้แนวคิดการออกแบบ "โคโดะ ดีไซน์" ผนวกกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control) ทั้งยังเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ แต่ปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 857,000 บาท
Mazda 3 รุ่นปี 2018 ให้ความแรงแต่ประหยัดน้ำมัน ผนวกกับรูปลักษณ์อันงดงาม ทรงพลัง รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วย MZD CONNECT พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุม Center Commander ที่สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่นเพื่อความเพลิดเพลินบนโลกโซเชียล และระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE ที่ครบครันยิ่งขึ้น ก้าวสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีในรถยนต์นั่งขนาดกลาง และสีใหม่ล่าสุด สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) ที่เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมให้กับ Mazda 3 มากยิ่งขึ้น
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "Mazda 3 ถือเป็นรถยนต์รุ่นหลักของมาสด้าทั้งในประเทศไทยและในระดับโลกมาโดยตลอด และยังได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงในด้านรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจและการควบคุมเป็นเลิศ นอกจากนี้ Mazda 3 ยังติดอันดับ Top 3 ของรถยนต์ที่ได้เข้าชิงรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก เมื่อปี 2557 และรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลก ปี 2557 การเปิดตัว Mazda 3 รุ่นปี 2018 เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเราชาวมาสด้าที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค เราได้เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยในปีนี้มาสด้าตั้งเป้ายอดขายเฉพาะมาสด้า3 ประมาณ 6,000 คัน และยอดขายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 60,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 17%"
Mazda 3 เป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ทำให้มาสด้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นแรกขึ้นไลน์การผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง เมื่อปี 2546 ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย และมียอดขายในประเทศไทยสูงถึง 30,000 คัน ถัดมารุ่นที่ 2 เริ่มผลิตขึ้นเมื่อปี 2554 มียอดขาย 13,000 คัน และรุ่นที่ 3 เมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มียอดขายสูงถึง 25,500 คัน รวมทั้ง 3 โมเดล มียอดขายกว่า 68,500 คัน เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในสายผลิตรถยนต์ของมาสด้า สิ่งสำคัญคือรถยนต์ Mazda 3 ได้ก้าวเข้ามาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า โดยมียอดขายสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดจำหน่ายมาสด้าทั่วโลก ด้วยยอดขายเกือบ 5 ล้านคันใน 142 ประเทศ ที่สำคัญยังได้รับรางวัลและประกาศเกียรติคุณต่างๆ กว่า 180 รางวัล
ทางด้านผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดของมาสด้า3 ว่า "Mazda 3 รุ่นปี 2018 มาพร้อมแนวคิด VISION BEYOND IMAGINATION หรือ มิติใหม่ของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง โดยจุดเด่นสำคัญของมาสด้า3 ใหม่นี้คือ เป็นรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม โดดเด่นพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยรอบคัน ทั้งระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ที่ทำให้การมองเห็นนั้นมีความชัดเจนรอบคันในมุมมองแบบ top view พร้อมกล้องทั้งสี่จุดบริเวณด้านหน้า ด้านหลังและกระจกมองข้าง มีการเพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light และเพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ i-ACTIVSENSE โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงานอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ที่มีความทันสมัย สมาร์ท มีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบในเทคโนโลยีและมีมุมมองแปลกใหม่ในแบบฉบับของตัวเองไม่เหมือนใคร
รถยนต์ Mazda 3 รุ่นปี 2018 เพิ่มออปชั่นล้ำสมัย ตอบสนองกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ประกอบด้วย
- รุ่น 2.0 E, 2.0 E Sports เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM), เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง(Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
- รุ่น 2.0 C, 2.0 C Sports เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light, เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา, เพิ่มเพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM), เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
- รุ่น 2.0 S, 2.0 S Sports เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา, เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM), เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง(Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
- รุ่น 2.0 SP, 2.0 SP Sports เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา, เพิ่มระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor), เพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด
Mazda 3 รุ่นปี 2018 มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ในรูปแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร โดยสีภายนอกมี มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุดคือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีเทาแมชชีน เกรย์, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีดำ เจ็ท แบล็กและสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู โดย Mazda 3 รุ่นปี 2018 เผยโฉมสู่สาธารณชนแล้ววันนี้ในทุกโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ และในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 8 เมษายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
ราคาจำหน่าย ทั้งรุ่นซีดาน และรุ่นแฮตช์แบ็ก 5 ประตู
- รุ่น 2.0 E ราคา 857,000 บาท
- รุ่น 2.0 C ราคา 951,000 บาท
- รุ่น 2.0 S ราคา 998,000 บาท
- รุ่น 2.0 SP ราคา 1,149,000 บาท