Nissan ชวนสื่อขับรถเที่ยวบุรีรัมย์ ชมดอกไม้และบ้านพลังแสงแดดไม่ง้อไฟฟ้า!
นิสสันพาสื่อมวลชนสัมผัสความชิคบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ "ไม่ง้อไฟฟ้า" สื่บสานศาสตร์พระราชาในการใช้ชีวิตที่ "เพียงพอ" น้อมนำคำสอนเรื่องพลังงานทดแทนของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงาน
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อร่วมทำกิจกรรมภายใต้โครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง" เพื่อพบกับ ช่างดำ หรือ นายพิชาญ ดัดตนรัมย์ เกษตรกรที่น้อมนำเอาหลักคำสอนเรื่องของพลังงานทดแทนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฎิบัติใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงาน
การเดินทางครั้งนี้มีด้วยรถยนต์นิสสัน ร่วมขบวนกว่า 20 คัน ทั้ง นาวารา ใหม่ ปี 2018 และ นิสสัน เอ็กซ์เทรล โดย นาวารา ปี 2018 ใหม่นี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และมีระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor หรือ AVM) และถุงลมนิรภัย 7 จุดที่สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
พร้อมด้วยกองทัพเอ็กซ์เทรลยังคงโดดเด่นด้วยที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ โดยในรุ่น 2.5V และ 2.0V จะเป็นที่นั่งแบบ 3 แถว หรือ 5+2 ที่นั่ง ขณะที่รุ่น ไฮบริด 2.0V จะเป็นแบบ 2 แถว เอ็กซ์เทรล ยังมาพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา นอกจากนี้ ยังมีระบบเครื่องเสียงพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อสามารถเล่น CD, MP3, AUX, USB และระบบนิสสัน คอนเน็กต์ (Nissan Connect) สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยผ่านแอปพลิเคชัน (Application) ที่ล้ำสมัย มี พาโนรามิค ซันรูฟ (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่
นายพิชาญ อดีตช่างและเจ้าของร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ได้หันมาเป็นเกษตรกรและนำหลักปรัชญาสำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในด้านเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้แนวคิด การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง รวมถึงแนวคิดของการแบ่งที่ดินออกมาเป็น 4 ส่วน ประกอบไปด้วย ที่พักอาศัย พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว นาข้าว และบ่อน้ำ ตามแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมถึงการจัดการบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ยังได้ปฏิบัติตามทฤษฎีบันได 9 ขั้นสู่ความพอเพียง และที่กระท่อมดินกินแดดของช่างดำยังมีโรงสีข้าว เครื่องสูบน้ำที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และอื่นๆ อีกมากมาย
"ผมเชื่อในแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามันได้ผลจริงๆ ผมเคยมีรายได้ถึงหกหลักจากธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ท้ายสุดผมได้ค้นพบว่าเงินไม่ใช่คำตอบที่จะนำไปสู่ความสุขที่แท้จริง บางคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของผมที่หันมาเป็นเกษตรกร แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมท้อ ผมยังคงมุ่งมั่นและสานต่อในสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าคำสอนที่พ่อหลวงได้ทิ้งไว้ให้กับพวกเราเป็นสิ่งที่ดีงาม ผมเชื่อจริงๆ ว่าการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและการช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้ตัวผมเองมีความสุขได้ในระยะยาว" นายพิชาญกล่าว
หลังจากที่นายพิชาญได้ค้นพบและเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของความสุข เขาได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายยิ่งขึ้นและลดความฟุ่มเฟือย เขาจึงส่งต่อความคิดนี้ให้กับชุมชนและสอนให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง โดยส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าให้น้อยลงและหันมาใช้พลังงานจากมนุษย์กันเอง พลังงานจากธรรมชาติ และทรัพยากรรอบตัวมากขึ้น
"เราได้ยินเรื่องของการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้นำมาใช้จริงๆ นิสสันภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความรู้รวมถึงมีกิจกรรมที่สนับสนุนคุณพิชาญ ผู้ที่เป็นตัวอย่างในด้านนี้ โดยการเผยแพร่ความรู้และความทุ่มเทเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน" นายชัยภัค ลายสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป สายงานสื่อสารผลิตภัณฑ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
"เรื่องของพลังงานสะอาดนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของนิสสันมาโดยตลอด เรามีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ที่เรามี เช่น เทคโนโลยี อี-เพาเวอร์ (e-POWER) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง นิสสัน ลีฟ เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้" นายชัยภัคกล่าวเสริมว่า "การทำงานอย่างหนักของคุณพิชาญ แสดงให้เห็นว่าการน้อมนำคำสอนและปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยความมุ่งมั่นสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตและการทำงาน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในวันนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนนึกถึงคำสอนของพ่อหลวง ให้เป็นแรงผลักดันในการดำเนินชีวิต และบางทีอาจจะหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในบ้านและชีวิตประจำวันอีกด้วย"
สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้พบกับนายพิชาญ เกษตรกรชาวบุรีรัมย์และผู้ก่อตั้งกระท่อมดินกินแดด ซึ่งจะมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทนเพื่อให้ทุกคนได้มีความเข้าใจแบบลึกซึ้ง อีกทั้งผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังมีส่วนร่วมในการสร้างแผงโซลาเซลล์ที่แปลงแสงแดดให้เป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อมอบให้กับชาวบ้านในตลาดบุรีรัมย์อินดี้ โดยคุณพิชาญหวังว่าสิ่งที่ทุกคนได้รับกลับไปจากการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้คือ คุณค่าของการพึ่งพาตนเองและการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
โครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง" เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 และจะดำเนินการไปจนถึงเดือนมีนาคม 2561 โครงการนี้ถูกจัดขึ้นมาเพื่อสานต่อคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้ยังคงอยู่คู่กับชาวไทยตลอดไป
ขอขอบคุณภาพประกอบสวยๆ ครั้งนี้ จากกล้องโกโปร โดยบริษัทเมนทาแกรมจำกัด และขอบคุณบริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัดที่เอื้อเฟื้อน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงตลอดการเดินทาง