All New Lexus LS ยานยนต์สุดหรู.. เทคโนโลยีสุดล้ำ
All New Lexus LS 2018 ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 พัฒนาขึ้นโดยเน้นการผสมผสานรูปลักษณ์และเสน่ห์แห่งยนตกรรมแถวหน้าที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ผ่านมาตรฐานฝีมือการผลิตและความเอาใจใส่ขั้นสูงแบบญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อด้านความปราณีตและพิถีพิถัน (Takumi Craftsmanship) อันเป็นเอกลักษณ์ เลกซัส LS จึงสะท้อนถึงขนบธรรมเนียมในการต้อนรับและการบริการแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า "Omotenashi" เริ่มต้น LS350 รุ่น Luxury ราคา 11,530,000 บาท
ด้วยเส้นสายภายนอกที่พลิ้วไหวและห้องโดยสารภายในที่โอ่โถงสะดุดตา ความงามแห่งนวัตกรรมที่หลอมรวมทักษะฝีมือช่างญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้านความปราณีตและพิถีพิถันพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกันเพื่อที่จะกำหนดนิยามใหม่แห่งยนตกรรมหรูระดับโลก ทำให้ เลกซัส LS ใหม่มีรูปลักษณ์ความเป็นรถคูเป้ที่ดุดัน บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมการออกแบบรถหรูใหม่ล่าสุดของเลกซัส (Global Architecture for Luxury Vehicles: GA-L)
แนวคิดการออกแบบ "โฉบเฉี่ยวเร้าใจ" (Sensual Aggressive) ตัวรถได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่พลิ้วไหวสวยงามโดดเด่นสะกดทุกสายตาแต่แรกเห็นด้วยเอกลักษณ์ตัวถังรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ก่อให้เกิดสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เกิดอัตลักษณ์สะท้อนสไตล์และบุคลิกที่คู่ควรกับการเป็นสุดยอดยนตรกรรมระดับแนวหน้า
ชุดไฟหน้าและไฟส่องสว่าง Ultra-small 3-eye Bi-Beam ผสมผสานการออกแบบขั้นสูงที่กระจายความสว่างได้อย่างยอดเยี่ยม ไฟ LED 16 ดวงที่อยู่ในไฟเลี้ยวส่องประกายสว่างเรียงทีละดวงจากมุมด้านในจนถึงด้านนอกของตัวรถ
โคมไฟท้ายแบบ Combination โคมไฟท้ายรวมถึงไฟบนฝากระโปรงหลังเป็นไฟ LED ทั้งหมด นอกจากนี้ไฟเลี้ยวยังส่องสว่างคมชัด
ภายในผสานความหรูหราเข้ากับนวัตกรรมความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยการออกแบบตามแนวคิด "ความสบายเหนือระดับ" ห้องโดยสารจึงออกแบบให้มีพร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านความสะดวกสบายสูงสุด สมกับที่เป็นยนตรกรรมหรูระดับแนวหน้าที่มาเพื่อเสริมสร้างสุนทรียตลอดการเดินทางอย่างมีคุณภาพ พร้อมห้องโดยสารที่ปราณีตและไม่เหมือนใครเต็มไปด้วยกลิ่นอายศิลปกรรมที่พิถีพิถันตามแบบฉบับของความเป็นญี่ปุ่น ดึงดูดใจเมื่อได้เห็น
Hands-free power trunk lid แม้ว่าจะถือสัมภาระเต็มมือ เพียงแค่มีกุญแจไฟฟ้า ก็สามารถเปิดปิดฝากระโปรงท้ายได้อย่างอัตโนมัติ โดยแค่ขยับเท้าบริเวณใต้กันชนด้านหลังเท่านั้น
เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับ 22 ทิศทาง และพนักวางขาไฟฟ้า เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าใช้มอเตอร์ผสานกับระบบนิวเมติกที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยระบบสามารถสูบลมเข้าออกถุงลมเพื่อปรับองศาเก้าอี้ได้ในทุกมุม เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดเบาะนั่งหลังด้านซ้ายสามารถปรับพื้นที่วางขาสูงสุดได้ถึง 1,020 มม. มาพร้อมกับพนักวางขาไฟฟ้าที่ช่วยรองรับช่วงขาด้านล่างทำให้ผู้นั่งผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่
ระบบนวดผ่อนคลายพร้อมฟังก์ชั่นกดจุดแบบร้อน (เบาะที่นั่งด้านหลังซ้ายและขวา) ระบบถุงลมที่ติดตั้งภายในเบาะที่นั่งและพนักพิงจะพองลมเพื่อนวดหลังและต้นขาของผู้นั่ง นอกจากนั้นยังสามารถทำความร้อนเพื่อเพิ่มความสบายตัวผ่อนคลาย โดยสามารถเลือกโปรแกรมสำหรับการผ่อนคลายทั่วร่าง (Full Body Refresh, Full Body Stretch และ Full Body Simple) หรือผ่อนคลายเฉพาะส่วน (ร่างกายส่วนบน ร่างกายส่วนล่าง ไหล่และสะโพก) รวม 7 โปรแกรม
ระบบความบันเทิงของเบาะนั่งตอนหลัง ประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ ปรับตำแหน่งอัตโนมัติให้สอดคล้องกับตำแหน่งของเบาะนั่งเพื่อให้เห็นหน้าจอชัดเจน พร้อมด้วยเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ช่องใส่ SD card และสายต่อ HDMI ที่จะให้คุณเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับวิดีโอ ดนตรี และสื่อบันเทิงที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือได้โดยใช้ Miracast หรือ DLNA (Digital Living Network Alliance)
แผงควบคุมอเนกประสงค์ด้านหลังแบบสัมผัส จัดวางอยู่ในที่วางแขนตรงกลางเบาะหลังให้คุณควบคุมเสียงเพลง ระบบปรับอากาศ เก้าอี้และฟังก์ชั่นผ่อนคลาย ม่านกันแดดและไฟได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว
ระบบเสียงรอบทิศทาง Mark Levinson QLI ระบบเสียงสามมิติ 16 ช่องทาง พร้อม ลำโพง 23 และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง QLI (Quantum Logic Immersion) เติมเต็มห้องโดยสารด้วยเสียงคุณภาพคมชัด โอบล้อมผู้ฟังด้วยเสียงสมจริงเป็นธรรมชาติพร้อมตำแหน่งของเสียงที่แม่นยำ มีมิติชัดเจน
ปุ่มควบคุมการสั่งการแบบสัมผัส ออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายดายแบบสมาร์ทโฟนเพียงนิ้วสัมผัส โดยผู้ใช้สามารถลากนิ้วเข้าออกทำให้ขยายหรือย่อหน้าจอได้อย่างต่อเนื่องและเลื่อนอย่างง่ายดายเพื่อเลือกฟังก์ชั่นที่ต้องการ
ม่านบังแดดไฟฟ้า ม่านบังแดดไฟฟ้าบริเวณบานหน้าต่างหลังจะปิดกระจกทั้งสองด้านเต็มทั้งบาน อีกทั้งบริเวณหน้าต่างบานเล็กด้านหลังซึ่งมีม่านบังแดดไฟฟ้าจะเปิดปิดสอดคล้องกับม่านบังแดดหน้าต่างหลังเพื่อสร้างความเย็นสบายและเพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับเบาะโดยสารด้านหลัง
เบาะนั่งตอนหน้าไฟฟ้าปรับ 28 ทิศทาง ระบบนิวเมติกที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระทุกส่วนของร่างกายอย่างพอดี เบาะรองไหล่ช่วยเสริมการขับขี่ สร้างความรู้สึกให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถ นอกจากนั้นเบาะยังช่วยรองรับสะโพกช่วงหลังเป็นพิเศษ เพื่อรักษาสรีระระหว่างเบรกและเข้าโค้ง รวมถึงเบาะรองรับด้านข้างช่วยกระชับให้ร่างกายทรงตัวนิ่งในช่วงเข้าโค้ง
ระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะ สร้างความสบายเหนือระดับให้กับผู้นั่ง ระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะสามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้นั่งแต่ละคน ด้วยเซนเซอร์วัดแสงอินฟราเรด ปรับความสบายให้เหมาะสมกับผู้นั่งโดยทันที ทั้งนี้ยังตรวจจับแสงอาทิตย์ในช่วงเช้าและช่วงพลบค่ำเพื่อควบคุมอุณหภูมิในรถให้ความสบายอย่างต่อเนื่อง
ระบบถุงลมช่วงล่างควบคุมไฟฟ้า (พร้อม access mode) นอกจากฟังก์ชั่นปรับความสูงของรถที่ปรับเป็นแบบ Normal และ High ได้แล้ว โหมด access จะช่วยยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติเมื่อผู้โดยสารต้องการขึ้นหรือลง ทำให้การเข้าออกเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
ระบบเบาะยกตัวเลื่อนรองรับอัตโนมัติ (Power easy access system) ทำให้การเข้าออกจากรถเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นระบบยกเบาะอัตโนมัติจะยกตัวเบาะนั่งขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ออกจากรถ และจะคืนตำแหน่งเดิมเมื่อผู้ขับขี่ขึ้นรถ เบาะเสริมด้านข้างจะเปิดเบาะด้านนอกออกเพื่อลดการกดทับที่บริเวณต้นขาในขณะที่ขึ้นและลงรถ
เครื่องยนต์หลักได้รับการออกแบบใหม่พิเศษเฉพาะเลกซัส มาพร้อมเทคโนโลยีเผาไหม้ความเร็วสูง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูงสร้างขุมพลังชั้นยอดและใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า เครื่องยนต์สร้างแรงบิดสูงสุดโดยเริ่มจากรอบต่อนาทีต่ำสุด ได้อัตราเร่งที่ทรงพลังเมื่อเหยียบคันเร่ง จับคู่ร่วมกับเกียร์ Direct Shift-10AT ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นจังหวะและตอบสนองความสุขในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
LS 350 - เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (8GR-FKS) เครื่องยนต์ Dual VVT-i (ด้านไอดี VVT-iW) มาพร้อมสมรรถนะที่ทรงพลัง สร้างแรงบิดสูงในอัตราการเร่งความเร็ว กระเดื่องวาล์วน้ำหนักเบาและโซ่ราวลิ้นแรงเสียดทานต่ำเพิ่มสมรรถนะการเร่งเครื่องยนต์ ระบบ Stop & Start ช่วยเสริมให้ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบ D-4s ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
LS 500h - เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร (8GR-FXS) เครื่องยนต์ V6 ของระบบไฮบริดผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวมเครื่องยนต์ Dual VVT-i (ด้านไอดี VVT-iW) และระบบหัวฉีดเชื้อเพลิง D-4S เข้าไว้ด้วยกัน น้ำหนักเบาช่วยให้การขับขี่ทรงพลังและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น การลดการสูญเสียความฝืดในเครื่องยนต์ช่วยเร่งความเร็วสูงสุด จาก 6000 เป็น 6600 รอบต่อนาที
ระบบ Multi Stage Hybrid System การควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ 10 ระดับ ของระบบ Multi Stage Hybrid System ทำให้รู้สึกว่ารถเร่งเร็วขึ้นทันทีที่เร่งรอบเครื่องยนต์ ทั้งยังทำให้เปลี่ยนจังหวะเกียร์ได้ยอดเยี่ยม อุปกรณ์เปลี่ยนเกียร์ Multi Stage Shift Device สลับใช้อัตราเร่งระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์และเพิ่มแรงขับขี่อีก 24% โดยใช้ประโยชน์ความเร็วของเครื่องยนต์ที่หลากหลายจากความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง ควบคุมความแรงของเครื่องยนต์ถึงขีดสุดตั้งแต่ 50 กม./ชม. ทั้งยังขับขี่ได้รวดเร็วแม้จะใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำเพื่อการขับขี่ที่เงียบสงบ
ตัวถังรถทำจากวัสดุหลากหลาย เพื่อให้ตัวถังรถแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา และปลอดภัยเป็นเลิศ จึงใช้ประโยชน์จากโครงรถเหล็กกล้าทนแรงดึงสูงเพื่อสร้างองค์ประกอบตัวถังรถที่สำคัญ เช่น แผงบันได โครงเสาตัวกลางและหลังคา เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงรถและโมเมนต์ความเฉื่อยจึงใช้อลูมิเนียมทำเป็นโครงรถติดตั้งไว้ห่างจากจุดศูนย์ถ่วงรถ ฝากระโปรงรถ ฝากระโปรงท้าย บังโคลน ประตู แท่นรองรับทำให้ตัวถังรถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
รูปแบบการวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง เลกซัส LS ใช้ประโยชน์จากแพลทฟอร์ม FR ที่เลกซัสปรับปรุงใช้กับเลกซัส LC เพื่อกระจายน้ำหนักจากด้านหน้ามายังด้านหลังได้เต็มที่ ทำให้เกิดมิติการขับขี่ที่นิ่งและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการวางตำแหน่งผู้ขับให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และจัดวางให้สะโพกของผู้ขับขี่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของรถช่วยลดระยะห่างระหว่างผู้ขับขี่กับแกนแรงเหวี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมั่นใจตลอดการขับขี่
ระบบกันสะเทือน ระบบกันสะเทือนหน้าใช้น้ำมันที่มีความเสียดสีต่ำช่วยดูดซับแรงกระแทกเพื่อช่วยสร้างความสบายในการขับขี่ การใช้ลูกหมากแบบเพลายื่นในระบบกันสะเทือนด้านหลังทำให้การขับขี่มั่นคงและความสบายตัว
VDIM (การควบคุมการบังคับพวงมาลัยแบบผสมผสาน) VDIM เป็นระบบประมวณผลโดยรวมของการควบคุมเครื่องยนต์ เบรก การบังคับทิศทางและฟังก์ชั่นอื่น ๆ อาทิ EPS และ TRC ให้ทำงานพร้อมกันอย่างลงตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และเสริมสร้างความพึงพอใจในการขับขี่
โหมดเลือกการขับขี่ ช่วยให้คุณควบคุมระบบต่าง ๆ ง่ายแค่ปลายนิ้ว คุณสามารถปรับแต่งสมรรถนะให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเอง โดยเลือกได้ห้าโหมด ได้แก่ โหมด Normal, Eco, Comfort, Sport S, และ Sport S+ นอกจากนี้โหมดปรับแต่งอิสระ (Customize) ยังทำให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระบบส่งกำลังรถยนต์ โครงสร้างตัวถังรถ และระบบปรับอากาศได้ตามที่ต้องการ
ระบบความปลอดภัยของเลกซัส Lexus Safety System+ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ล้ำหน้า ได้แก่
Pre-Collision System เมื่อสัญญาณเรดาร์และกล้องหน้าตรวจจับได้ว่ารถมีแนวโน้มที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับและสั่งการตัวช่วยเบรกก่อนชนเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรก ถ้าผู้ขับขี่ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ก็จะสั่งการใช้งานเบรกก่อนชนโดยอัตโนมัติ
Dynamic Radar Cruise Control นอกจากรักษาระดับความเร็วให้เสถียรแล้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะใช้เรดาร์และเซนเซอร์กล้องเพื่อตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถให้พอดีด้วยความเร็วคงที่
Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยสั่นที่พวงมาลัย และขึ้นที่หน้าจอแสดงผลถ้าระบบประเมินว่าตัวรถยนต์กำลังจะข้ามเส้นแบ่งช่องจราจรโดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว และช่วยประคองไม่ให้รถออกนอกเส้นแบ่งช่องจราจร
Two-Stage Adaptive High Beam System (AHS) เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์เข้ามาในรัศมีที่เปิดไฟสูง ระบบจะเปิดปิดไฟ LED ไฟสูง 8 ดวง และไฟต่ำ 16 ดวง ในแต่ละข้าง เพื่อกันไม่ให้ไฟสูงจากหน้ารถสาดไปยังรถที่วิ่งสวนมา วิธีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนโดยส่องไฟไปยังป้ายจราจรและวัตถุอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหน้ารถ โดยไม่ทำให้รถคันอื่นแสบตา
Panoramic View Monitor หน้าจอแสดงผลให้ผู้ขับขี่เห็นรถคันอื่นได้ชัดเจน โดยแสดงผ่านหน้าจอ EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบรถที่เห็นไม่ชัดในขณะนั้น
Automatic Rear Seat Reclining เมื่อไม่มีผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง ระบบจะปรับเอนเบาะสอดคล้องกับการเข้าเกียร์ ทั้งยังปรับเบาะให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองกระจกหลังได้ทัศนวิสัยกว้างขึ้น
All New Lexus LS ใหม่ มาพร้อม
- Sonic Quartz
- Sonic Silver
- Sonic Titanium
- Manganese Luster สีใหม่
- Black
- Graphite Black Glass Flake
- Red Mica Crystal Shine
- Sonic Agate สีใหม่
- Sleek Ecru Metallic
- Amber Crystal Shine
- Deep Blue Mica
LS500h รุ่น Executive Pleat
- Black with Kiriko (Cut Glass)
- Crimson & Black with Kiriko (Cut Glass)
LS500h รุ่น Executive
- Black with Art wood (Organic)
- Crimson & Black with Art wood (Herringbone)
LS350 รุ่น Luxury
- Black with Shimamoku
- Topaz Brown with Walnut (Open Pore)
วัสดุแผงข้างประตู
- Kiriko (Cut Glass)
- Art wood (Organic)
- Art wood (Herringbone)
- Shimamoku
- Walnut (Open Pore)
เป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบของ Lexus LS ใหม่ ได้ 4 รุ่น ได้แก่
- LS500h Executive Pleat ราคา 15,830,000 บาท
- LS500 Executive ราคา 14,500,000 บาท
- LS500 Executive ราคา 13,080,000 บาท
- LS350 Luxury ราคา 11,530,000 บาท
พิเศษสุด!! เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application "Lexus Elite Club" พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งปี
อุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย ด้วยการรับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และการบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ