Toyota Yaris ATIV อีโคซีดานที่ไม่ควรมองข้าม.. ลองแล้วรู้ "ทำไมมันดีจัง?"
กระแสมาดีตั้งแต่เปิดตัวสำหรับ "อีโคซีดาน" น้องใหม่
Toyota Yaris ATIV ที่ได้เพิ่มทางเลือกให้กับตลาดอีโคคาร์เมืองไทย ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ผสานกับมาตรฐานความปลอดภัยที่อัดแน่นมาเต็มพิกัด กับราคาในช่วงเปิดตัวที่น่าสนใจ ทำให้กระแสตอบรับนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เปิดตัว แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ยังไม่มั่นใจกับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร กับขนาดตัวถังที่ใกล้เคียงกับ Vios แบบนี้จะเป็นยังไง?
เพื่อไขข้อสงสัยว่าการทำงานของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร กับระบบต่างๆ ที่ติดตั้งมาของ
Toyota Yaris ATIV นั้นทำงานอย่างไร โตโยต้า ก็ได้จัดทริปพาสื่อมวลชนสายรถยนต์ร่วมเดินทางไปสัมผัส Yaris ATIV บนสภาวะการใช้งานจริง เส้นทาง กรุงเทพฯ-จันทบุรี ระยะทางประมาณ 235 กม. โดยเริ่มต้นกันที่ TDEXP (Toyota Driving Experience Park บางนา กม.3)
เพราะว่าหนี "รถติด" เลยทำให้มาถึง TDEXP แต่เช้า เลยมีเวลาเดินดู Yaris ATIV ทั้งภายนอก และภายใน กันแบบไม่รีบเร่ง โดยรถทดสอบที่ใช้ในครั้งนี้ทั้งหมดเป็น Yaris ATIV รุ่น S ซึ่งเป็นตัวท็อปทั้งหมด ดีไซน์ภายนอกออกแบบมาเน้นความสปอร์ต และโฉบเฉี่ยวเพื่อรองรับกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน และกว่า 80% จะเป็นผู้หญิง การออกแบบดีไซน์ก็ต้องรองรับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ให้ดีที่สุด
Toyota Yaris ATIV ดูจากด้านหน้าจะเจอกับกระจังหน้าโครเมียมรมดำพร้อมแถบสีแดงบริเวณกระจังหน้าด้านล่าง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ก็ได้ติดตั้งไฟส่องสว่าง Daytime Running Light แบบ LED กับไฟตัดหมอกหน้า ไฟส่องสว่างด้านหน้าเป็นแบบ Projector รมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดงพร้อม LED Light Guiding ด้านข้างกระจกมองข้างสีดำเปียโนแบล็คพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีแดงเสริมความสปอร์ต ปิดท้ายด้วยไฟท้ายรมดำแบบ Light Guiding พร้อมครีบรีดอากาศ สะกดทุกสายตา
Toyota Yaris ATIV ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์สปอร์ต ด้วยคอนโซลสไตล์โมเดิร์น แฝงไว้ด้วยความหรูหรา ด้วยการใช้โทนสีดำ ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีเงินเมทัลลิก เนืองจากเป็นตัวท็อป พวงมาลัยก็จะเป็นแบบหุ้มหนังเดินด้ายสีแดงพร้อมชุดควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอแสดงผล, มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optriton กับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่หน้าจอสีแบบ TFT ถ้าเป็นตัวท็อปก็จะได้เครื่องเสียงแบบ 7 นิ้วแบบทัชสกรีน
จากนั้นก็ได้เวลารับฟังบรีฟข้อมูลผลิตภัณฑ์และเส้นทางการเดินทางกันแล้ว โดยสรุปได้สั้นๆ ว่า
Toyota Yaris ATIV นั้น ได้รับการเพิ่มความแข็งแรงในหลายๆ จุด อาทิ คานคอนโซลด้านหน้า, โครงสร้างตัวถังที่บริเวณกลางตัวรถ และเหล็กเสริมความแข็งแรงใต้ท้องรถจาก 2 จุดเป็น 4 จุด ในส่วนช่วงล่างด้านหน้าได้รับการปรับการดูดซับแรงด้วยการเพิ่มการไหลของของเหลว ที่จะตอบสนองได้ดีทั้งในความเร็วต่ำ และความเร็วสูง และค่า K คอยล์สปริงใหม่ ส่วนด้านหลังก็ปรับค่า K สปริงใหม่ ช่วยให้ขับขี่สบายทุกย่านความเร็ว เบาะนั่งคู่หน้าได้รับการปรับโครงสร้างเพื่อลดแรงกระแทกจากด้านหลัง (ซึ่งเบาะนั่งคู่หน้าของ ATIV จะมีแอร์แบ็คด้านข้างติดตั้งมาด้วย เจ้าหน้าที่วิศวกรของโตโยต้า ก็ฝากข้อมูลมาถึงลูกค้าว่า "สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้วอยากจะนำไปหุ้มเบาะหนังนั้น ไม่แนะนำให้ทำเนื่องจากตัวเบาะมีถุงลมนิรภัยด้านข้างการหุ้มเบาะหนังอาจะทำให้การทำงานของระบบความปลอดภัยดังกล่าวลดประสิทธิภาพลงไปได้" หลังจากจบบรีฟก็เข้าสู่ช่วงแรกกันเลยกับการทดสอบในสนาม TDEXP
โดยการทดสอบในช่วงนี้จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยเริ่มจากการทดสอบการตอบสนองของพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำ ประมาณ 40 กม./ชม. จากนั้นก็เป็นการทดสอบการทำงานของ ระบบ ABS และ VSC บนพื้นที่เปียกลื่น ก่อนจะกลับไปทดลองอัตราเร่งที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ต่อเนื่องด้วยการเข้าโค้งที่ความเร็ว 40 กม./ชม. จากนั้นก็ลองระบบ HAC บริเวณสะพาน ปิดท้ายการทดสอบรอบแรกด้วยเรื่องระบบกันสะเทือน เข้าสู่รอบที่สองด้วยการการทดสอบอัตราเร่งอีกครั้งแล้วต่อด้วย สลาลอมที่ความเร็ว 60 กม./ชม. จากนั้นก็เลนเชนจ์ก่อนจะจบกิจกรรม Test Drive On Track
จากการได้สัมผัส Yaris ATIV เป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก็ทำให้สัมผัสได้ว่า สิ่งต่างๆ ที่โตโยต้าจัดมาให้ในรถอีโคซีดานคันนี้ ถือว่าเกินคุ้มกับราคาตัวท็อปที่ 619,000 บาท เลยทีเดียว
แต่ก็..อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลอง สำหรับใครที่ต้องการทดลองรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น โดยผู้ฝึกสอนรถยนต์มืออาชีพ ณ Toyota Driving Experience Park (TDEXP) ณ บางนา-ตราด กม. 3 มีให้ทดสอบทั้งแบบ On Road และ Off Road โดยเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. ลงทะเบียนทดสอบสมรรถนะรถยนต์โตโยต้าได้ทุกรุ่น ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่:
toyotadrivingexperiencepark.com หลังจากสัมผัส Yaris ATIV กันในสนาม TDEXP ก็ออกเดินทางสู่จังหวัดจันทบุรีกันต่อ ซึ่งช่วง On Road นี้ ทางโตโยต้า ก็ได้จัดกิจรรม Eco Run ให้พิสูจน์อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยการขับระยะทาง 92 กม. โดยที่ต้องใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งสมาชิกในทริปทั้งหมด ก็สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ที่ประมาณ 24 กม./ลิตร โดยมีสื่อมวลชนที่ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีที่สุดในทริปนี้อยู่ที่ 26.1 กม./ลิตร
หลังจากจบช่วง Eco Run ก็เป็นช่วงเดินทางรูปแบบคาราวานกันต่อเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของการเดินทางทดสอบในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากช่วง Eco Run แล้วก็ใช้ความเร็วเดินทางกันอย่างเต็มที่ ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองก็ยังอยู่ในช่วง 17-18 กม./ลิตร
จากการขับทดสอบในช่วง On Road ก็ทำให้ได้สัมผัสว่า การทำงานของเครื่องยนต์ 3NR-FE ขนาด 1.2 ลิตร กำลัง 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ที่ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ผ่านการปรับจูนระบบเกียร์มาใหม่นั้นตอบสนองได้อย่างไม่อึดอัด แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่ารถตัวนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ไม่ใช่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร การออกตัวก็จะมีช่วงที่ต้องรออยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับอืด แต่เมื่อความเร็วลอยตัวแล้วความเร็วก็จะไหลไปตามจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ ซึ่งในบางช่วงก็สามารถทำความเร็วไปได้ถึง 170-180 กม./ชม. เลยทีเดียว
จากการปรับช่วงล่าง และการเก็บเสียง ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อ Yaris ATIV นั้นอยู่ในขั้นประทับใจทีเดียว เพราะการตอบสนองของรถนั้นไม่แพ้รถรุ่นใหญ่ที่เหนือกว่า อีโคคาร์ เลย ส่วนความกว้างในห้องโดยสารพร้อมที่จะรองรับการเดินทางครบทุกตำแหน่งที่นั่ง ทำให้ระยะทางที่เหลือจนถึงที่พักนั้นดูสั้นไปเลย
หลังจากถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็เป็นช่วง Q&A ให้ทางสื่อมวลชนได้สอบถามข้อสงสัยกับทางเจ้าหน้าที่ของโตโยต้า ซึ่งทีมงานเช็คราคา.คอม ขอสรุปสั้นๆ ให้ฟังว่า "กลุ่มเป้าหมายของ Yaris ATIV นั้นกว่า 80% เป็นผู้หญิง การที่ทางโตโยต้าไม่ให้ยางอะไหล่มานั้นไม่ได้เป็นการลดต้นทุน แต่การให้ชุดซ่อมยางฉุกเฉินนั้นก็เพื่อให้กลุ่มลูกค้าผู้หญิงนั้นซ่อมบำรุงยางรถยนต์ได้เองแบบง่ายๆ ง่ายกว่าการเปลี่ยนยางอะไหล่ โดยที่ราคาของชุดซ่อมยางฉุกเฉินนั้นไม่ต่างจากยางอะไหล่ จึงไม่ได้เรียกว่าเป็นการลดต้นทุนของโตโยต้า, สำหรับยอดจองของ Yaris ATIV นั้น รุ่น S มียอดจองเยอะที่สุด และมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคต ย้ำว่า มีความเป็นไปได้ ที่จะมีรุ่น TRD Sportivo ในอนาคต"
สุดท้ายก็ขอฝากไว้ว่า Toyota Yaris ATIV นั้น ขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่านี่คือ อีโคคาร์ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรนะ อย่าเอาไปเทียบกับรถยนต์เครื่อง 1.5 ลิตร ให้เทียบกับรถในคลาสเดียวกันแล้วจะพบว่า กับราคา 4.69 - 6.19 แสนบาท (ในช่วงเปิดตัวจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้) แล้วได้ประสิทธิภาพ และสมรรถนะระดับนี้นั้นถือว่า ทางโตโยต้าก็ได้ให้มาเกินตัวแล้ว อีกทั้งยังมีให้เลือกทั้งหมดถึง 5 รุ่น 7 สี ฉะนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่า Yaris ATIV รุ่นไหนที่จะเหมาะกับคุณที่สุด แต่ถ้าชอบ Hatchback ก็ยังมี New Yaris เป็นอีกทางเลือก ซึ่งเร็วๆ นี้ ทางโตโยต้า ก็จะจัดให้มีกิจกรรมทดลองขับเช่นกัน ซึ่งทีมงานเช็คราคา.คอม ก็จะนำมารายงานให้ทราบกันในโอกาสต่อไป อย่าพลาดติดตามกันนะครับ