Mercedes-Benz GLE 500 e SUV สไตล์สปอร์ตพลัง Plug-in Hybrid
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Plug-in Hybrid รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมความทันสมัยทั้งเทคโนโลยีและความประหยัดหนึ่งในความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 2,996 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 333 แรงม้า และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 116 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร พร้อม 4 โหมดการขับขี่ให้เลือกเร้าใจ เริ่มต้นรุ่น Exclusive ราคา 4,490,000 บาท และ AMG Dynamic ราคา 4,990,000 บาท VIDEO Mercedes-benz GLE 500 e 4MATIC
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
ภายนอกโดดเด่นด้วยลายเส้นสวยคมสะดุดตา พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เส้นสายหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย โดยรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ GLE 500 e 4MATIC Exclusive และ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมแบบ 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง, กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม, ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, บันไดข้างสแตนเลสดีไซน์สปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
โดย
GLE 500 e 4MATIC Exclusive จะมาพร้อมกับล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว สี Himalayas grey ส่วน
GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic จะเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว สี titanium grey, ชุดแต่ง AMG bodystyling ที่บริเวณกันชนหน้า-หลัง, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า รวมถึงเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof)
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
ภายในเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่แฝงกลิ่นอายความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบผ่อนแรงและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ, ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push start), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic
สำหรับ GLE 500 e 4MATIC Exclusive ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง และมาพร้อมระบบมัลติมีเดีย อย่างวิทยุซีดี MB Audio 20 สำหรับ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ COMAND Online, ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon" Logic 7" และฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apply CarPlay) นอกจากนี้ห้องโดยสารภายใน ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มสุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC นวัตกรรมที่สอดคล้องกับเทคโนโลยี
รถยนต์ GLE 500 e 4MATIC ยังสามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบ Plug-In HYBRID ได้ถึง 4 แบบ คือ
HYBRID: การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระบบจะเน้นไปที่การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนให้มากที่สุด และใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเท่าที่จำเป็น หากกระแสไฟในแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำกว่า 20% ระบบจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเท่านั้น และถ้าผู้ขับขี่ปรับเกียร์อัตโนมัติเป็นโหมดสปอร์ต (S) รถยนต์จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว มอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงาน
E-MODE: สามารถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ (ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว)ได้จนถึงความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางสูงสุด 30 กิโลเมตรโดยไม่มีการคายไอเสีย (ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแบตเตอรี่และความเร็วที่ใช้) โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่การทำงานของระบบนี้ สามารถครอบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดี ผู้ขับขี่จะต้องไม่กดแป้นคันเร่งจนเกินแรงต้าน หากกดแป้นคันเร่งเกินแรงต้านเมื่อใด เครื่องยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนรถยนต์ทันที
E-SAVE: ในขณะที่เริ่มต้นใช้ E-SAVE ระดับกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ high-volt ในขณะนั้นจะถูกบันทึกค่าไว้ จากนั้นระบบจะใช้เครื่องยนต์เป็นหลักในการขับเคลื่อน ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้น้อยที่สุด เพื่อรักษาระดับกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ให้มีปริมาณเท่าเดิมกับตอนเริ่มต้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าว่ากำลังจะต้องเดินทางเข้าเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หลังจากชาร์จแบตเตอรี่ high-volt จนเต็มแล้ว ควรเลือก E-SAVE ในการเริ่มต้นเดินทางก่อนที่จะเข้าเมืองเมื่อขับถึงในเมืองก็จะมีปริมาณกระแสไฟสูงสุดที่จะใช้ E-MODE สำหรับการเดินทางในเมืองได้อย่างเต็มที่
CHARGE: การทำงานในรูปแบบนี้ รถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยแบตเตอรี่ high-volt จะรักษาระดับการชาร์จให้อยู่ในระดับปานกลางในขณะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และจะไม่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเลยเพื่อให้เกิดการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ high-volt อย่างต่อเนื่องแรงหมุนของเครื่องยนต์จะถูกนำมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าไปสะสมไว้ในแบตเตอรี่และจะมีการแปลงพลังงานจลน์ที่เกิดจากการชะลอความเร็วหรือการเบรกให้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรี่อีกด้วย เมื่อชาร์จไฟเต็ม ระบบจะปรับไปที่การทำงานในรูปแบบ E-SAVE โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport และ Sport+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัย ใหม่ที่ผสานความสะดวกสบายและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเรียกว่าระบบ "Mercedes-Benz Intelligent Drive" เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ได้แก่
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมฟังก์ชัน Electronic Traction System 4ETS ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program-ESP) ระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist ไฟเบรกกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system-ABS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Acceleration skid control-ASR) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST) ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) เป็นต้น ขุมพลัง GLE 500 e 4MATIC ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบวี 6 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 2,996 ซีซี กำลังสูงสุดที่ 333 แรงม้า และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 116 แรงม้า ที่ 5,250-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,000 รอบ/ นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พร้อมด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ขนาดความจุ 8.7 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 114 กิโลกรัม ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลัง ซึ่งมีระบบหล่อเย็นจากน้ำ และฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้ อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยสูงสุด โดยแบตเตอรี่นี้สามารถชาร์ตไฟให้เต็มได้ภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม.
*อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และอัตราการปล่อย CO2 อ้างอิงจากการทดสอบตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเพื่อจุดประสงค์ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงกับรถยนต์คันใดคันหนึ่งโดยเฉพาะและไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อผูกมัดในการเสนอขายสินค้าได้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ SUV พันธุ์แกร่ง พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ว
Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC Exclusive ราคา 4,490,000 บาท Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic ราคา 4,990,000 บาท