McLaren เปิดตัวสปอร์ตซีรีส์ 570S Coupe ครั้งแรกในประเทศไทย
นิชคาร์กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายแมคลาเรนอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย นำโดย วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ จัดงานเผยโฉม
McLaren 570S Coupe รุ่นแรกในสปอร์ตซีรีส์ นวัตกรรมยานยนต์จากอังกฤษ ณ โชว์รูมแมคลาเรน กรุงเทพฯ มอเตอร์เวย์ หลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่ นิวยอร์ก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ โชว์ เมื่อเมษายนปี 2558 ที่ผ่านมา ชูไฮไลท์ 5 ลักษณะเด่น ตอบสนองความต้องการของหนุ่มสาวสมัยใหม่ อาทิ พละกำลังสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุดของสปอร์ตคาร์ทั้งหมด โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ เบากว่าคู่แข่งเกือบ 140 กก., สามารถขับได้ทุกวัน, การออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม, การตกแต่งที่ประณีตจากช่างฝีมือผู้ชำนาญการ, และให้ผู้ขับมีความรู้สึกร่วมและเร้าใจสูงสุด อัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนักอยู่ที่ 434 แรงม้าต่อตัน โดย 570S Coupe รุ่นแรกในสปอร์ตซีรีส์ เริ่มต้นที่ 21,800,000 บาท พร้อมส่งมอบไตรมาสแรก ปี 2559
แมคลาเรน สปอร์ตซีรีส์ คือ รุ่นที่ 3 และรุ่นสุดท้ายในครอบครัว แมคลาเรน ออโต้โมทีฟ โดยจะเปิดตัวสองโมเดลแรก 570S Coupe คือโมเดลแรก และมีพละกำลังมากที่สุด และ 540C Coupe จะมีราคาที่ย่อมเยากว่า เปิดตัวในไตรมาสที่สอง ปี พ.ศ. 2559
"ทุกคนทราบถึงชื่อเสียง แมคลาเรน ในฐานะรถแข่งฟอร์มูล่าวันระดับโลก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่เรามีโอกาสได้รับชม 570S Coupe รุ่นแรกของแมคลาเรนสปอร์ตซีรีส์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเรามั่นใจได้อย่างแน่นอนในความฉลาดหลักแหลมของเครื่องยนต์ โดยถือเป็นรุ่นที่มีนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด นอกจากนี้
แมคลาเรน 570S Coupe ยังมีการออกแบบที่ทันสมัย และสามารถขับได้ในทุกโอกาส พร้อมด้วยออปชั่นให้เลือกเยอะที่สุดกว่ารุ่นอื่นๆ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับหนุ่มสาวสมัยใหม่ผู้ชื่นชอบรถสปอร์ต"
รุ่นสปอร์ตซีรีส์สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากที่สุด แต่ยังคงใช้การออกแบบและเทคโนโลยีหลักของแมคลาเรน เพื่อให้คงมาตรฐานของแบรนด์รถแข่งแมคลาเรนสูงสุด โครงรถใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาแบบ MonoCell II ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเมื่อไม่เติมเชื้อเพลิงเพียง 1,313 กก. (2,895 ปอนด์) พร้อมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร ซึ่งใช้ส่วนประกอบใหม่กว่า 30% การตกแต่งภายในยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานในแต่ละวัน และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางมากยิ่งขึ้น รถแต่ละคันได้รับการบรรจงตกแต่งด้วยช่างฝีมือ ในศูนย์ผลิตแมคลาเรนที่มีความทันสมัย ตั้งอยู่ในเมืองโว้คกิ้ง ประเทศอังกฤษ
การออกแบบ และอากาศพลศาสตร์
แผงดักลมในกันชนหน้า แยกการถ่ายเทของอากาศสู่ 4 ทิศทาง ผ่านทั้งใต้รถและตลอดตัวถัง ตัวยึดประตูและครีบยันลอยประสานกันได้เป็นอย่างดี กับปีกหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์
- ดีไซน์แบบ "Shrinkwrapped" เอื้อให้ลมไหลเวียนได้สะดวกในทุกช่องทาง ตลอดตัวรถรุ่น 570S จะเกิดแรงต้านต่ำสุด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นและแรงกดต่อตัวเครื่องสูงสุด
- ปีกประตูปรับแต่งประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศบริสุทธิ์
- ครีบยันที่หรูหราเพิ่มแรงกดที่กระทำต่อตัวรถ และความเย็นของรถ
น้ำหนักเบา
ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ MonoCell II แข็งกว่าโครงอะลูมิเนียมถึง 25% และอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา แข็งแรงเป็นพิเศษ น้ำหนักตัวรถเปล่ามีน้ำหนักเบาอยู่ที่ 1,313 กิโลกรัม น้อยกว่าแบรนด์คู่แข่งถึง 140 กิโลกรัม และมีข้อดีในการซ่อมแซม
- มอบอัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในคลาสที่ 434 แรงม้าต่อตัน
- ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ MonoCell II กาบประตูที่ต่ำและบางลง เพื่อช่วยให้เข้าสู่ตัวรถได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น โดยมีน้ำหนักเพียง 75 กิโลกรัม
- ใช้ล้อน้ำหนักเบา ขนาด 19 นิ้ว ที่ล้อหน้า และ 20 นิ้ว ที่ล้อหลัง
- สปอร์ตซีรีส์ของแมคลาเรน คือ โมเดลแรกในรถสายพันธุ์สปอร์ตที่ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด
การขับขี่
เราใส่ใจในทุกจุดภายในห้องโดยสาร เพื่อให้สปอร์ตซีรีส์เป็นรถที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่เพียงแต่ในเรื่องราคา แต่ยังคงความเร้าใจในการขับสูงสุด
- 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.) ภายใน 3.2 วินาที และ 0-200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) ภายใน 9.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 328 กม./ชม. (204 ไมล์/ชม.)
- ซอฟต์แวร์ Performance Traction Control ของแมคลาเรน มอบการควบคุมที่แม่นยำมากขึ้น ในสถานการณ์ที่รุนแรง
- พวงมาลัยของแมคลาเรน 570S มาพร้อมระบบ Fast Steering Rack Ratio ที่เอื้อให้ผู้ขับสามารถบังคับพวงมาลัยได้ตามทิศทางที่ต้องการเมื่อใช้ความเร็วสูงสุด โดยใช้ระบบไฮดรอลิกร่วมกับไฟฟ้า (Electro-Hydraulic)
- ระบบกันสะเทือนที่พัฒนาขึ้นใหม่ใช้ Adaptive Damper และ Anti-Roll Bars เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการขับบนถนน และในการแข่งขัน
- 570S Coupe ติดตั้งยางพิเรลลิ รุ่น Pirelli P ZeroTM Corsa ขนาดยางล้อหน้า 225/35/R19 และ 285/35/R20 ที่ล้อหลัง ยาง Corsa ได้รับการพัฒนาพิเศษด้านความแข็งของผนังและหนังยาง ซึ่งจะช่วยเรื่องการเกาะติดพื้นผิวถนน
ระบบเบรก
McLaren 570S Coupe ติดตั้งเบรกดิสก์คาร์บอนเซรามิก ขนาด 394 มม.x 36 มม. ที่ล้อหน้า และขนาด 380 มม. x 34 มม. ที่ล้อหลัง พร้อมด้วยคาลิเปอร์ลูกสูบ 6 ลูก ที่ด้านหน้า และ 4 ลูกที่ด้านหลัง ระบบเบรก ABS ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เช่นกัน ลดการกระตุกที่คันเหยียบ
ระบบ Electronic Stability Control หรือ ESC ใหม่ ของ Bosch ประกอบด้วยโหมด Dynamic ใหม่ และโหมด Driftability ระบบ ESC ของแมคลาเรน 570S ยังประกอบด้วยสวิตช์ควบคุมใหม่ล่าสุด ซึ่งสามารถเลือกโหมดการควบคุมแบบเต็มรูปแบบ แบบไดนามิค หรือปิดระบบ ESC เมื่อขับในโหมด Sport หรือ Track พร้อมระบบปั๊มและวาล์วคู่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ
ระบบส่งกำลังรถยนต์
- ขนาด 3.8 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ M838TE ด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นพิเศษกว่า 30% ให้พละกำลัง 570 แรงม้า ที่ 7,400 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร จะอยู่ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที
- ระบบ Stop-Start System ติดตั้งในแมคลาเรนเป็นครั้งแรก ให้ประสิทธิภาพการขับที่ดีขึ้นสำหรับการขับขี่ในเมือง รวมถึงการปรับปรุงอัตราการกินน้ำมันและการปล่อย CO2
- การปรับเกียร์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยระบบเกียร์ 7 speed (SSG) มาพร้อมเทคโนโลยี "Cylinder Cut" แบบคลัตช์คู่ เหมือนกับ 650S และผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับได้ แบบ "ปกติ", "สปอร์ต" และ "แข่ง" ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น สำหรับทั้งการปรับเกียร์ ขึ้น-ลง และยังมีการควบคุมจานจ่ายเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์เร็วขึ้นกว่า 10 เท่า
งานฝีมือ
เราเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากโครงการที่ผ่านมา และโครงการปัจจุบัน เมื่อเราเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตสปอร์ตคาร์ ยิ่งสร้างความท้าทายให้แก่เรา และเพิ่มขีดระดับของคุณภาพและประสิทธิภาพ ในงานฝีมือของเราให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก
- บริการการตกแต่งภายใน โดยช่างออกแบบของแมคลาเรน ที่ผู้ขับสามารถเลือกได้ระหว่าง สปอร์ต หรือ หรูหรา
- ประกอบขึ้นด้วยมือ ในศูนย์แมคลาเรน ที่ทันสมัย ในเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ
- รถแต่ละคันใช้แรงคนถึง 188 ชั่วโมง โดยทีมช่างเทคนิค และช่างตกแต่ง กว่า 370 คน
- สปอร์ตซีรีส์ของแมคลาเรนสะท้อนนวัตกรรมล่าสุดของแมคลาเรน และมีออพชั่นให้เลือกเยอะที่สุด
- ระบบ IRIS แบบหน้าจอสัมผัส เช่นเดียวกับที่เห็นใน McLaren P1 ควบคุมระบบแอร์ ระบบวิทยุ DAB ระบบนำทาง บลูทูธ ระบบเชื่อมต่อสื่ออื่นๆ การสั่งงานด้วยเสียง ระบบเสียงเพลง และยังรวมถึงคู่มือการใช้งานอิเล็กทรอนิกส์ เช่นเดียวกับทุกรุ่นของแมคลาเรน หน้าจอสัมผัสเป็นแบบแนวตั้ง พร้อมกับลำโพงสี่ตัว ซึ่งมีน้ำหนักที่เบา ซับวูฟเฟอร์แบบวอยซ์คู่ สองตัว และลำโพงแบบ Tweeter สองตัว เพื่อให้เสียงมีความคมชัดยิ่งขึ้น พร้อมเครื่องขยายเสียงคลาส AB ขนาด 240 วัตต์
McLaren 570S Coupe เปิดรับจองแล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ นิชคาร์ กรุ๊ป โทร. 02-321-1111